จุฬาราชมนตรี ชี้แจงกรณีนักร้องชื่อดังวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงศาสนาอื่น ฝากถึงชาวมุสลิมระมัดระวัง เพราะอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคม เน้นรอบคอบ สุขุม เคารพคนและศาสนาอื่น
กรณีที่อดีตนักร้องชื่อดังรายหนึ่งที่นับถือศาสนาอิสลาม วิพากษ์วิจารณ์พาดพิงศาสนาอื่น โดยเฉพาะกรณีรูปปั้น นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊ก “จุฬาราชมนตรี” ถึงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า
“วันนี้มีเรื่องไม่ค่อยสบายใจ เนื่องจากว่ามีผู้ที่ตั้งตัวเป็นรู้ศาสนานั้น ได้พูดในเชิงวิพากษ์และบริภาษศาสนาอื่น มันไม่สบายใจว่าทำไมอิสลามถึงกล่าวร้ายอย่างนั้นหรือ แต่ความจริงอิสลามห้าม ห้ามการบริภาษหรือการวิจารณ์คนศาสนาอื่นหรือคนที่นับถือศาสนาอื่น สูเจ้าอย่าได้บริภาษกลุ่มผู้คนที่เรียกร้องสิ่งอื่นนอกจากอัลเลาะฮ์
เพราะเขาจะกลับมาบริภาษอัลเลาะฮ์ จึงอยากจะขอเตือนผู้รู้ หรือผู้ที่ทำตัวเป็นผู้รู้ศาสนา นักบรรยายนักเผยแผ่นั้น ให้ระมัดระวังในสิ่งเหล่านี้ อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งทั้งสังคม และที่สำคัญ ไม่ขัดแย้งในหลักคำสอนอัลกุรอาน ห้ามการบริภาษหรือการวิจารณ์คนศาสนาอื่น การเผยแผ่อิสลามในสังคมไทยนั้น ควรจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังและด้วยความเคารพและให้เกียรติคนอื่น จึงจะขอทำความเข้าใจกับพี่น้องคนไทยในสิ่งที่เกิดขึ้นว่า คนทำไปนั้นไม่ใช่เป็นหลักคำสอนของอิสลาม แต่เป็นหลักที่ปฏิบัติฝ่าฝืนของอิสลาม
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็ขอฝากเตือนนักวิจารณ์ที่พูดผ่านทางสื่อต่างๆ ในขณะนี้ จงระมัดระวัง จงปฏิบัติตามหลักคำสอนของอัลกุรอาน เพราะคำพูดของท่านไม่กี่ประโยคนั้นอาจจะนำไปสู่ความสูญเสียแค่อิสลาม มุสลิม ในประเทศไทย จะนำไปสู่ความแตกแยก อิสลามห้ามไม่ให้บริภาษหรือการวิจารณ์ศาสนาอื่น อิสลามคำสอนของอัลกุรอาน บอกอยู่แล้วว่า ด้วยปัญญา ด้วยคำสอนอันดีงาม การเผยแผ่ศาสนาอิสลามในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสังคมไทยนั้นจะต้องมีความรอบคอบ สุขุม เคารพต่อคนอื่นและศาสนาอื่น
หวังว่าจะเป็นข้อเสนอ คำเตือน และคำแนะนำที่จะเป็นประโยชน์ต่อท่านทั้งหลายเพื่อให้เก็บไปคิดให้เดินตามแนวทาวที่อิสลามสอน ต้องเชิญชวนด้วยวิทยปัญญาและคำสอนอันดีงาม ไม่ใช่การบริภาษ ไม่ใช่ไปกล่าวร้าย อันจะนำไปสู่การตอบโต้ และมีความแตกแยกอย่างใหญ่หลวงทางสังคม จึงขอให้ตระหนักในความสำคัญความร้ายแรงของเรื่องนี้ด้วย”