xs
xsm
sm
md
lg

รอนนี่ยังต้องไหว้... “ซันนี่ สายล่อฟ้า” อนาคตใหม่แห่งสนุกเกอร์ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เขาคนนี้เป็นนักสนุกเกอร์ความหวังใหม่ของไทย ที่ รอนนี่ โอ ซุลลิแวน นักสอยคิวระดับโลก ยังต้องยกมือไหว้ให้หลังจากจบเกมที่ทั้งสองได้ประลองฝีมือกันในโต๊ะสักหลาด ซึ่งภายใต้ความสำเร็จเล็กๆนี้ ก็มีเบื้องหลังอุปสรรคต่างๆ มากมาย นับตั้งแต่ที่เขาเริ่มหัดเล่นสนุกเกอร์มาตอน 8 ขวบ ซึ่ง ซันนี่ สายล่อฟ้า หรือ อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ คือผู้ชายคนนั้น

‘โฮมสคูล’
คือชีวิตที่เริ่มต้น

ด้วยความที่บิดา สรายุทธ ส่งเสริมสวัสดิ์ เล็งเห็นปฏิกิริยาของลูกชายตัวน้อยกับการศึกษาในระบบที่ไม่ตอบโจทย์ทั้งตัวของซันนี่และบิดา ซึ่งเมื่อ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่ระบุว่า ให้มีการศึกษาที่บ้าน หรือ โฮมสคูล ได้ นั่นจึงทำให้ทั้งเขาและบิดา เลือกที่จะมาเรียนในลักษณะนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

สรายุทธ : “จริงๆ แล้วผมไม่ได้เล็งเห็นอะไรหรอก เพียงแต่ว่า อย่างสมัยที่ผมเรียนอยู่ ผมรู้สึกง่วง เหนื่อย ซึ่งเราก็ไม่ใช่เรียนไม่เก่งหรือสอบได้ที่หนึ่งที่สองหรอกนะ แต่เราเห็นอะไรบางอย่างในการเรียนแบบนี้ แล้วเราที่มีความรู้ขนาดนี้ ก็มีความรู้สึกว่า ทำไม่เราถึงจะสอนลูกเองไม่ได้นะ เพราะเราก็เห็นจุดบกพร่องในตอนที่เราเรียน อย่างบางเรื่องที่เขาให้กับเด็กไม่ได้ เราเชื่อว่าเราสอนได้เจ๋งกว่าครูที่โรงเรียนอีก ผมบอกกับลูกว่า เลขมันมีทศนิยม เศษส่วน และเปอร์เซ็นต์ ซึ่งมันมีราคาเท่ากัน แต่เขียนคนละรูปแบบแค่นั้นเอง เคยคิดกันเล่นๆ มั้ยว่า ที่เขาสอนแยกในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องทศนิยมแล้วเรียนเรื่องนี้จนจบ จากนั้นก็มาขึ้นเรื่องใหม่ เผลอๆ คนละชั้นปีด้วยซ้ำ แล้วพอขึ้นไปแต่ละชั้น ก็เรียนจำพวกเรื่องต่างๆ ซึ่งจริงๆ ตัวเลขตัวนี้ มีมูลค่าเท่ากัน เพียงแต่เขียนคนละรูปแบบ แค่นั้นพอ ซึ่งถ้าเข้าใจตรงนี้ได้ เด็กก็มองภาพออกว่ามันไม่ยากสิ ทำได้ แล้วตัวซันนี่เก่งเลขจะตาย ซึ่งถ้าให้ไปเปิดสอนคณิตศาสตร์ก็น่าจะรวยนะ (หัวเราะ) แล้วมันมีเหตุการณ์หนึ่ง คือ ตอนนั้นผมไปประชุมเรื่องการศึกษา ครูเต็มในห้อง แล้วเราเอาลูกไปด้วย ซึ่งเขาก็นั่งนิ่งเลย ทำการบ้านเลขปกติไป เพราะเขาเป็นคนที่นิ่งๆ อยู่แล้ว ก็เป็นไปตามอุปนิสัยทั่วไปของคน แต่ก็ต้องรู้ว่าประชุมอยู่ รู้ว่าไม่ควรไปทำให้เสียสมาธิ

ซันนี่ : “ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่เข้าเรียนชั้น ป.1 น่าจะอายุประมาณ 4-5 ขวบได้ ผมเข้าไปเรียนแค่อาทิตย์หนึ่ง แล้วเรารู้สึกว่า เราไปเรียนซ้ำๆ เหมือนเดิม จำได้ว่า ต้องท่อง ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก ทุกวัน คือบวกลบเลขอย่างงี้ตลอด แล้วผมรู้สึกว่ามันทำได้ตลอดเลย

สรายุทธ : “ลูกบวกลบเลขได้ตลอด 7 หลัก ห้าแถวทีเดียว แล้ว ก.ไก่ ฮ.นกฮูก นี่ก็ท่องได้ตั้งนานแล้ว แล้วต้องมาท่องทุกวัน มันน่าเบื่อ ถามว่านี่คืออะไร มันคืออาการทางประสาทนะครับ ที่เรียนรู้ไม่ปกติ พูดง่ายๆ เด็กจำแนกได้สามส่วน คือ หนึ่ง ประเภทปกติ ส่วนที่สองคือออทิสติก และส่วนที่สามคือ ประเภท Gifted ถ้าให้เห็นภาพ เหมือนปลาชนิดหนึ่งที่กินความรู้ได้เก่งมาก เอาอะไรมาป้อนก็ไม่ทันหรอก นอกจากมันป้อนตัวมันเอง แล้วเด็กพวกนี้ ถ้าให้ไปเรียนกับเด็กปกติ จะทำให้เด็กรู้สึกเบื่อ แล้วบ้านเราจะเป็นแบบว่าสอนหมู่มากไง แล้วจะสามารถสอนตามความต้องการของเด็กได้มั้ย ไม่ได้ เพราะครูมีคนเดียว ฉะนั้นทำไง ก็ต้องหาวิธีการสอนที่ใช้ได้กับคนหมู่มาก สอง โรงเรียนถนัด สาม มันต้องวัดผลกับคนหมู่มาก ฉะนั้นมันเลยเป็นโรงเรียนไง แล้วพวกอย่างงี้ มันก็ต้องเรียนตามที่เขาต้องการอยู่แล้ว เพราะว่ามันขัดใจไม่ได้ พอโดนขัดปุ๊บมันจะไม่เอาเลย นั่นคือที่มาว่าเรียนตามใจปรารถนา ทางการเลยระบุว่า ศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่ง พ.ร.บ. การศึกษา พ.ศ. 2542 มันมีข้อนี้ด้วย แล้วนอกจากนี้มันมีอาชีพอื่นที่ไม่ cover ในการสอนต่างหาก ซึ่งเราต้องการคนที่ไปอยู่ตรงนั้น แล้วการศึกษาในระบบไม่สามารถตอบสนองกับตรงนั้นได้ มันเลยมีการศึกษาด้วยตัวเองไง

กิจกรรมแห่งการเรียนรู้
‘สนุกเกอร์’ คือสะพาน

เมื่อหลักสูตรของการศึกษาเองที่บ้าน ให้ข้อกำหนดไว้ว่า จะต้องมีกิจกรรมกีฬาอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้เด็กมีกิจกรรมนี้ไว้เป็นสะพานในการเรียนรู้ สรายุทธได้เล็งเห็นแล้วว่า ควรจะเป็นกีฬาที่ไม่ใช้แรงปะทะเพื่อถนอมร่างกายไว้ใช้ได้นานๆ ซึ่งตัวซันนี่ก็ได้เลือกกีฬาสนุกเกอร์เป็นคำตอบนั้น

สรายุทธ : “เพราะฉะนั้นผมก็เอาระบบโฮมสคูลที่ทำ ให้ไปเจอของจริงเลย ตอนแรกพาซันนี่ไปทุกโต๊ะ ทุกแห่งในกรุงเทพฯ เลย เพราะว่าด้วยความขี้เบื่อ ตัวซันนี่ก็ไปซ้อม เราก็นั่งดูเขาซ้อมไป อยู่แถวนั้น ให้คุ้นชินกับสถานที่จริง อย่างจะมีเหตุการณ์หนึ่ง คือ การเสียพนัน จะมีแบบว่า ทั้งคนที่ได้และคนที่เสีย ซึ่งคนประเภทแรกกำลังกึ่งเยาะเย้ยว่า ไม่สู้นี่หว่า จนฝ่ายหลังไปกดเงินมาสู้ สุดท้ายก็โดนอีก ผมบอกลูกให้ดู

ซันนี่ : คือพ่อบอกให้ผมดูว่า ดูหน้าคนที่เสียแล้วจ๋อยใช่มั้ย เพราะฉะนั้น ก็อย่าเล่นการพนันเลย มันไม่ดี คือให้เจอประสบการณ์จริง พ่อก็ถามว่า สงสารมั้ย เราก็ตอบว่าสงสารครับ ซึ่งถ้าเราโดนบ้าง ก็ไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นอย่าเล่น

สรายุทธ : “นอกจากนี้มันมีเรื่องอื่น ทั้งขายยา ทั้งบ่อนในโต๊ะ ที่นี่คือครบมากๆเลย ซึ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นวัคซีนให้เขาเลย พอเขาเห็นว่ามันไม่ดีแล้ว ใครจะไปทำ ซึ่งทั่วไปที่ไปทำ เพราะว่าเห็นเป็นเรื่องสนุก ซึ่งพอเล่นไปแล้ว ก็เป็นไปตามนั้นเลย นี่คือสิ่งที่เราทำส่วนหนึ่ง อย่างเรื่องทศนิยม ผมก็สอนที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เขาก็ตั้งหน้าร้าน ก็ไปตั้ง ซันนี่ก็มองไปเรื่อย จนไปเจอราคาว่า 42.75 บาท แต่เด็กมันเรียนรู้จำนวนเต็ม ผมก็ถามว่ามันเป็นยังไง จนก๋วยเตี๋ยวหมดชาม ก็จบ เรียนรู้แล้ว แต่การบ้าน ก็เอาหนังสือต่างๆ มาให้ทำ ทำมันไป

สรายุทธ : เอาจริงๆ เราคาดหวังว่า ลูกจะเข้าวงการตามอาเขาไง (ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์ : นักร้อง/น้องสาวของสรายุทธ) แล้วซันนี่ก็ไปเหมือนทางอาเขา แล้วจะเหมือนทางปู่เขา แต่ผมจะเหมือนทางย่า หุ่นจะอย่างเงี้ย แต่ศรัณย่า ตามที่บอก เรากับแม่เขาก็บอกว่า เดี๋ยวพยายามปั้นซันนี่ให้ลูกเป็นดารา ซึ่งแม่เขาก็บอกว่า จะให้เล่นกอล์ฟไม่ได้ หมดอนาคตในวงการแน่ แล้วลูกอยากเล่นสนุ้กก็ให้เล่นไป อยู่ในห้องแอร์ไม่ดำแน่ จุดเริ่มมันอยู่ตรงนี้ เพราะว่าบ้านเราในสมัยก่อนทำหนังสือไง ก็มีสื่อในมือ เราก็คิดว่าจะดันเขา แล้วศรัณย่าก็พยายามสอนซันนี่ร้องเพลง แต่พอเขาร้องไปนี่คือ จบเลย (หัวเราะ) ซึ่งเขาก็สอนมาตลอด แต่ก็เข้าใจว่าเป็นอาการของคนหูเพี้ยน คือสิ่งที่เขากับเราได้ยินมันไม่เหมือนกัน เขาจะได้ยินเสียงอีกโทนหนึ่ง ประมาณนั้น แล้วความสามารถในการเปล่งเสียงเขาก็ไม่ครบ อย่างโน้ตนี้ หรือคีย์นี้ ก็พยายามจะออกให้เหมือนๆ กันนะ แต่มันไม่ได้ มันเหมือนพวกตาบอดสี ซึ่งก็พยายามดันไปทางละครนะ แต่เขาก็ยังเด็กเกินไป เคยพยายามคัดพวกที่เอาเด็กไปเล่นละคร แต่ก็ไม่ติด แต่สุดท้ายก็อยู่กับสนุกเกอร์ เพราะว่า พอ 9 ขวบ เขาก็ติดตัว กทม. แล้ว รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี

ต่อยอดทางสนุกเกอร์
เพิ่มพูนทางประสบการณ์

ด้วยการเริ่มต้นการเล่นสนุกเกอร์ของซันนี่ในวัยแค่ 8 ขวบ นั่นจึงทำให้สถานที่ฝึกซ้อมของเขาอาจจะไม่อำนวยมากนัก แต่จิตใจที่แน่วแน่ของเขาบวกกับการที่มีพ่อเป็นเฮดโค้ชประจำตัว นั่นจึงทำให้ซันนี่ได้ทั้งประสบการณ์จากการฝึกซ้อมและสิ่งรอบข้างของจริง จนสองสิ่งมารวมกันก็ได้เพิ่มพูนไปในคราวเดียวกัน

ซันนี่ : “พ่อก็พาไปฝึกซ้อม วันละ 1-2 ชั่วโมง หลังจากที่ขายของเสร็จ ก็ไปเล่นที่โต๊ะแถวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเฉพาะหน้าไป อะไรขาดอะไรเหลือก็ปรับปรุงกันไป ซึ่งพ่อก็คอยบอกหลายคนเหมือนกันนะว่า ให้เขาได้เรียนรู้ไปก่อน ยังไม่ได้เอาจริง ซึ่งจำได้ว่า วันแรกที่จับไม้แล้วเล่น เล่น 3 ลูก พอแทงลูกที่ 3 ก็ลงเลย แล้วเซียนในโต๊ะแถวนั้นก็บอกว่า เด็กคนนี้มีแววมากเลย เราก็เล่นกับพ่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง 9 ขวบครึ่ง ก็แข่งรายการกีฬาเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย เพราะว่าแข่งหาประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ให้รู้ว่าการมีกติกาในสังคม การเข้าสังคมเป็นยังไง ไปเรียนรู้ว่าในการแข่งขันก็มีกติกาอย่างนี้ แล้วก็ทำตามหลักสูตรกิจกรรมอย่างที่พ่อบอก เราก็ลงแข่งมาเรื่อยๆ จนกระทั่งต่อมา ผมก็มีน้องสาว พ่อก็ถามผมว่าจะเล่นจริงๆหรือเปล่า ถ้าเล่นก็ซื้อโต๊ะมา จากนั้นมาก็เล่น เราก็เล่น ก็หัดเองมาเรื่อยๆ แล้วก็ไปแข่ง

สรายุทธ : “ในแง่ผมคือ ให้เขาได้เรียนรู้สังคมไป ส่วนแง่หนึ่ง ในเรื่องสถิติ ถ้าได้ยินครั้งแรก มันก็รู้สึกว่ายากแล้ว ผมเลยบอกลูกว่า เห็นลูกสีน้ำเงินมั้ย แล้วเห็นลูกขาวแล้วก็แทง สมมติว่าไปออกทางซ้าย ก็แทงไป อาจจะได้ผลลัพธ์ว่า ลงบ้าง ออกซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ผมก็บอกเขาว่า มันคือการเก็บสถิติข้อมูล แล้วก็ต้องมาวิเคราะห์ อย่างเช่นว่า มันออกซ้ายเยอะไป เราก็มาวิเคราะห์ว่า ทำไมถึงออกซ้าย เราก็ต้องแก้ไข จากนั้นก็มาแทงแบบเมื่อกี้ใหม่ แล้วคุณก็ทำสถิติเก็บบันทึกข้อมูล แล้วก็บันทึกปรับปรุง ทำแบบนี้เป็นประจำ ซึ่งมันก็มีโอกาสปรับปรุงได้ แต่สิ่งที่เราทำมันหมายความว่า เอาความสนใจในสนุกเกอร์ของลูก เป็นสะพานสู่การเรียนรู้ในสถิติ ซึ่งถ้าให้มาเรียนแบบปกตินี่คือไม่รู้เรื่องอ่ะ แถมสูตรก็ยึกยือ ซึ่งพอเด็กมันรู้ว่าเป็นอย่างงี้ เขาก็จะเอาข้อมูลที่ทำไปวิเคราะห์ได้ในหลายรูปแบบ ถ้าเขาสนใจจริงๆ ก็ไปหาอ่านเองได้ แค่นี้ก็ทะลุ อารมณ์ประมาณว่า อาจารย์คนนี้ให้แค่ C ก็อย่าไปเรียนมัน (หัวเราะ) ผมเอาการสอนแบบ text group และความสนใจของลูก พอจับมาแป๊บเดียวรู้เรื่องเลย

สรายุทธ : “อย่างเหลี่ยมของสนุกเกอร์ ทำยังไงให้ลูกน้ำเงินลง คุณต้องเล็งตรงไหนหรือยังไง อย่างของคนอื่นก็มีวิธีของเขา แต่ของเราก็มีวิธีของเรา ยกตัวอย่างเช่น เหลี่ยมคำนวณ อย่างเวลาที่ซันนี่จะแทงในแต่ละครั้ง กรรมการก็มีแอบโกรธนะ เพราะว่าในระหว่างก่อนแทง เขาจะมีการคิดวิเคราะห์คำนวณ บวกลบคูณหาร เล็งก่อน ก่อนที่จะแทง แล้วด้วยความเป็นเด็ก ก็คิดได้แค่ทางเดียวด้วย แต่กรรมการเขาไม่เข้าใจว่า ยืนคิดอะไรอยู่ตั้งนาน ไม่เข้าใจวิธีการของเราไง (หัวเราะ)

ตัวตนของตัวเอง
มิติใหม่ของการเล่น

จุดที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของซันนี่ นั่นคือ การวางแผนในการทำแต้มซึ่งใช้แนวคิดที่ดูซีเรียสจริงจังมาเพิ่มเติมจากปกติ อีกทั้งมีการจดสถิติประกอบไปด้วย รวมถึงท่าทางในจังหวะการทำแต้มที่เรียกได้ว่ามีความแตกต่างออกไปจากนักสนุกเกอร์ปกติทั่วไป ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ซันนี่มีแฟนคลับจำนวนมาก ได้เริ่มติดตามการเล่นของเขาที่มาจากสิ่งนี้

ซันนี่ : ในการวางแผนการทำแต้มของผม มันก็เหมือนวิธีการคำนวณอย่างหนึ่งน่ะครับ ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นอาจจะใช้สัญชาตญาณเอา หรือสมมติฐานจากการฝึกซ้อม แต่ของเราจะใช้วิธีการคำนวณว่า ถ้าลูกตั้งองศาเท่านี้ จะต้องคิดว่าทำยังไงให้แทงลูกนั้นได้พอดีและลง ก็คือเหมือนคิดไตร่ตรองเลย แล้วหาเป็นตัวเลข เพราะว่าการคำนวณยังไงก็อยู่กับเรา สมมติว่า ในการซ้อม จะมีลูกสมมติวางไว้ แล้วทำยังไงถึงจะทำให้ลูกขาวมากระทบได้แล้วถึงจะลง ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่มีลูกสมมติ แล้วเราต้องจินตนาการขึ้นมาเอง แต่วิธีการที่พ่อคิดมา เราจะรู้เลยว่า ถ้าเรายืนในจุดนี้ มุมนี้ ก็สามารถที่จะคำนวณคร่าวๆ ว่า จะแทงลูกประมาณนี้ คือดูในเฟรมมันว่างเปล่า แต่เราจินตนาการไปก่อนว่ามันจะเป็นในลักษณะนี้นะ แล้วด้วยตัวผมเป็นคนไม่เป๊ะด้วย มันต้องใช้หลักนี้มาช่วย

สรายุทธ : “เรื่องของเรื่อง คือ จะให้มองยังไง เพราะว่ามันว่างเปล่า ซึ่งวิธีผมมันคือคำนวณเลย แล้ววิธีการที่เรานอกกรอบเองโดยไม่เอาวิธีคนอื่น ก็ทำให้เราต้องคิดวิธีหลากหลายให้ลูกเรา ซึ่งถ้ามีความแน่นอนแล้วมีหลายอย่าง ซึ่งการที่จะทำอะไรสักอย่าง มันต้องเจาะลึกให้ลึกลงไปอีก ไม่ใช่แค่ว่าจะมีแค่ความพอใจอย่างเดียว ซึ่งผมเคยเป็นประธานกีฬามาก่อน เราก็ต้องชอบในระดับหนึ่ง ซึ่งถามว่าซีเรียสมั้ย มันก็ไม่เชิงหรอก แต่ไหนๆ ที่จะให้ลูกเล่นไปแล้ว ถ้าเขาได้เป็นโปรในวันข้างหน้า เขาควรจะได้รับการอบรมให้เป็นโปร ไม่ใช่ว่าเป็นโปรแค่ตอนแข่ง แต่ในระหว่างนั้น คุณไม่รู้จักให้มีการเช็ดลูก ปัดโต๊ะ ไม่รู้จักอะไรทั้งนั้น เพราะถ้าไปถึงตอนนั้น ทำยังไงก็ไม่ฟังหรอก เพราะถ้าโต๊ะมันยังเหนียว มันก็ไม่ได้มาตรฐานในการแทงแต่ละลูกนะ แล้วซ้อมแบบไม่ได้มาตรฐาน พอไปเจอโต๊ะจริงก็เรียบร้อย ซึ่งพอเราบอกลูกไปครั้งเดียว แล้วเขายังจงรักภักดีกับสนุกเกอร์ เขาก็จะเอาดีด้วย เพราะว่าวิถีชีวิตเขาจะต้องเป็นอย่างงี้ในวันข้างหน้าอย่างที่บอก แล้วเขาจะได้ไม่ต้องไปเสียดายเวลาอย่างอื่น

ซันนี่ : “อย่างแฟนคลับที่เขาเริ่มมาติดตามเรา เขามาบอกว่า ชอบอะไรที่มันแตกต่าง แต่คนที่มาด่า อาจจะเป็นเพราะว่า เขาปกป้องสิ่งที่เป็นรูปแบบเดิมๆ อย่างมีคนกลุ่มหนึ่งที่เขาโจมตีเรา เพราะเขาคิดว่า การที่เราเล่นแบบนี้ มันไปขัดกับตำราเดิมๆ ซึ่งผมจะรู้ทั้งส่วนของเขาและคนอื่นด้วยไงครับ วิธีการเป็นยังไง แตกต่างจากข้อดีและข้อเสียยังไง แล้วสิ่งที่เราทำมันเกิดผลขึ้นมา คนนอกที่เห็น เขาก็สงสัยว่า มันมีแบบนี้ด้วยเหรอ วิธีการใหม่มันก็ใช้ได้นี่ แต่คนเก่าๆ ก็ยังสงสัยอยู่ว่า วิธีการเก่าๆ มันโอเคมั้ย ซึ่งวิธีการใหม่ๆ มันก็สามารถดึงคนดูใหม่ๆ ได้ด้วย แต่ทุกคนก็มีสิทธิ์เลือกว่าจะไปทางไหนได้ ซึ่งฝรั่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ เพราะว่ามันเป็นสไตล์ใหม่ เลยทำให้คนชอบ แล้วอีกอย่าง ถ้ามีการสร้างแบบอคาเดมี่ รูปแบบการสร้างเหมือนกันหมดเลย คู่แข่งอาจจะจับทางได้ แต่ถ้าเป็นแนวทางใหม่ๆ ก็จะสร้างความเร้าใจให้คนดูได้นะ

สรายุทธ : “ตอนนี้เขา 22 ย่าง 23 ถ้าเทียบกับวัยตอนนี้คือเด็กมหาลัย ปี 3 หรือ ปี 4 ซึ่งเด็กไทยส่วนใหญ่ยังไล่ตามจีบสาวกันอยู่เลย ซึ่งซันนี่เขาก้าวข้ามคนอื่นๆ ไปหลายปีเลย ปีนี้ทำเงิน 51,000 ปอนด์แล้วนะ ซึ่งจะไปโทษเด็กวัยรุ่นไทยก็ไม่ได้นะ คือผู้ใหญ่ทำให้เขาเป็นอย่างงี้ เพราะมันมีชุดความคิดที่ว่า ลูกไม่ต้องไปสนใจอะไร กิน เรียน นอน เล่น แค่นั้นก็จบแล้ว ซึ่งชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นอย่างงั้นไง เพราะว่าคุณไม่ได้ฉีดวัคซีนในชีวิตจริงเลย คุณอยู่ในชีวิตจำลองในชีวิตไปวันๆ ซึ่งฝรั่งมันยังมีรับเด็กนักศึกษาพาร์ตไทม์ไปทำตามร้านอาหารต่างๆ คือช่วยฝึกเด็กนะ นักสนุกเกอร์ก็เช่นกัน คุณก็ควรเทรนเด็กว่า จะต้องเจออะไรยังไง ให้เป็นเหมือนวิถีชีวิตเขา เพราะมันเป็นตัวกำหนดด้วยว่า อนาคตของเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน ไม่ใช่อาศัยแค่พรสวรรค์อย่างเดียว ถามว่ามีมั้ย มันก็มี แต่มันก็ไม่ใช่ทุกคนไง จะเป็นแบบว่าซ้อมบ้าง ไม่ซ้อมบ้าง ซึ่งสุดท้ายก็จบชีวิตนักกีฬาแบบไม่สวยทั้งนั้น เพราะสุดท้ายมันซ้อมไม่ถึง เนื่องจากคำว่าไม่เป็นไร ซึ่งตัวเจ๋งจริงๆ เขาทราย แกแล็กซี่ ตอนที่ชนะ 5-6 ไฟต์แรก คนก็ยังด่าว่าเขาควายอยู่เลย คือเชิงมวยในตอนนั้นไม่มีเลย ดีแค่หมัดซ้ายอย่างเดียว แต่ระเบียบวินัยเขายังมีไง ต่อยจนอายุ 30 กว่า ได้แชมป์ 19 สมัย แล้วได้ลงใน Hall of Fame ด้วย ซึ่งนี่คือตัวอย่าง แต่น้อย ไม่ค่อยมีคนพูดถึงมากเท่าไหร่ ไม่เหมือนนักกีฬาแนวเพลย์บอย คนไทยชอบ ประเภทที่ผ่านมาแบบลำบาก คนไทยไม่ค่อยชอบ ไม่เข้าใจ

รอนนี่ โอ ซุลลิแวน
ประสบการณ์อันล้ำค่า

ในส่วนของการแข่งขันกับ รอนนี่ โอ ซุลลิแวน นักสนุกเกอร์ชาวอังกฤษ มือวางอันดับต้นๆ ในการแข่งขันรอบ 16 คนสุดท้าย ศึก UK Championship เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อนเกม ซันนี่ก็ถูกมองว่า อาจจะโดนนักสอยคิวเจ้าถิ่นชนะไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก อย่างที่ผ่านๆ มา แต่เมื่อมาถึงการแข่งขันจริงๆ กลายเป็นการเล่นของซันนี่เองถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก จนเกือบจะพลิกล็อกเอาชนะได้ แต่ท้ายที่สุด รอนนี่ก็อาศัยความเก๋าเกมของเขา เอาชนะซันนี่ไปอย่างหวุดหวิดด้วยสกอร์ 6-5 เฟรม...

ซันนี่ : “ก่อนแข่งก็มีตื่นเต้น เพราะว่า ถ้าพูดถึง รอนนี่ โอ ซุลลิแวน เขาเป็นมือระดับท็อปของวงการสนุกเกอร์โลก เขาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ คือทุกคนบนโลก ก็ใฝ่ฝันว่าอยากจะเล่นกับคนนี้ หรือแค่ได้อยู่ใกล้ๆ หรือขอลายเซ็นก็ถือว่ามากแล้ว ซึ่งเขาก็ถือว่าเป็นหนึ่งในไอดอลของผมด้วย ก็เลยมีความรู้สึกตื่นเต้น ซึ่งปกติในรายการที่ผ่านๆ มา ไม่เคยเจอกับรอนนี่เลย จะได้แต่แข่งโต๊ะข้างๆ ซึ่งบรรยากาศกองเชียร์ก็แตกต่างกันแล้ว แล้วรายการที่ผมไปแข่ง ก็เป็นรายการ UK Championship ซึ่งเป็นรายการใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจาก world championship คือพอมาถึงรอบ 16 คน จะต้องคัดมา 3 รอบ ซึ่งตอนแรกจะมีโต๊ะ 8 ตัวอยู่ในการแข่งขัน แล้วพอมาถึงรอบนี้ ก็เหลือแค่ 2 ตัว เนื่องจากจะมีการถ่ายทอดสดด้วย ซึ่งทางเขาให้ความสำคัญตรงนี้คือ เป็นรอบที่ถ้ามีฝีมือจริงๆ ถึงจะสามารถเข้ามาสู่รอบนี้ได้

ซันนี่ : “ซึ่งก่อนแข่ง ผมกับพ่อก็วางแผนกันว่าจะเล่นประมาณไหน ถึงจะมีโอกาสชนะ พอเข้าสู่การแข่งขัน เราก็ทำตามแผนครับ นำมาเรื่อยๆ 2-0 เขาตีเสมอมาที่ 2-2 เราก็นำไปอีก 4-2 แล้วเขาก็ไล่มา 4-4 จนมาถึงตอน 5-4 ซึ่งน่าจะจบที่ 6-4 แล้วช็อตนั้นคือ ลูกเขียวอยู่ตรงนี้ แล้วลูกขาวอยู่ใกล้ๆ ลูกน้ำเงินก็อยู่ข้างๆ ซึ่งผมต้องการแค่ลูกสีชมพูเท่านั้น เพราะว่าแต้มจะขาดทันที ทีนี้ลูกน้ำเงินที่อยู่ข้างๆ ถ้าแทงแรงๆ มันจะไม่ลง เพราะว่าหลุมมันเล็ก ก็เลยแทงแบบเบาๆ แต่ปรากฏว่าดันลงไปด้วย ซึ่งจากที่เราฝึกซ้อมมา โอกาสที่ลงมีแค่ 10 ลูก ลง 1 ลูก มันเลยกลายเป็น 5-5 เฟรมเลย เฟรมสุดท้ายเราก็แพ้

ซันนี่ : “คือตั้งแต่ผมนำ 2-0 เฟรม เขาก็ไล่มา 2-2 เฟรม ณ จุดจุดนั้น ทั้งผู้บรรยาย เขาบอกว่า ปกติถ้าใครเล่นกับรอนนี่เกมแรก โดนตบเละ 5-0 6-0 เพราะว่าเขามีทั้งบรรยากาศกองเชียร์และดีกรีของเขามันข่มคู่ต่อสู้ได้อยู่แล้ว แล้วพอช่วงพักระหว่างเบรก มันจะมีช่วงพัก 15 นาที ผมก็ออกมาข้างนอก คนดูก็ออกมาด้วย ในจุดนั้นก็คือ คนดูมาแสดงความยินดีกับผมหมดเลย มาชมว่า เล่นดีมากเลย แล้วก็ขึ้นนำ 4-2 ซึ่งก่อนหน้านั้น ก็ยังไม่มีคนเชียร์ผมเท่าไหร่นะ เพราะว่ามีแต่คนมาดูรอนนี่ คือถ้าไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้า ต้องไปยืนรอหลายชั่วโมงเลยนะ พอหลังจากกลับมาแข่งต่อ กองเชียร์นี่คือเชียร์ทั้งสองฝั่งเลย บรรยากาศเลยครึกครื้น แล้วช็อตนั้นคือรอนนี่ไม่ลุกขึ้นมาแทงเลย ทั้งๆ ที่เขาก็ทำได้นะ

แจ้งเกิดในวงกว้าง
แต่ชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อ

แม้ว่าการแข่งขันกับรอนนี่จะพบกับความปราชัยไปในตอนท้าย แต่ในมุมหนึ่งก็ถือได้ว่าเป็นการแจ้งเกิดให้กับ ‘ซันนี่ สายล่อฟ้า’ ไปในคราวเดียวกัน ซึ่งจากความสำเร็จนี้ทำให้ซันนี่กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น แต่นั่นก็ถือได้ว่าเป็นแค่จุดเริ่มต้นจริงๆ เท่านั้น เพราะผู้เป็นบิดาได้กล่าวโดยสรุปคร่าวๆ ว่า ยังมีอุปสรรคที่ต้องก้าวผ่านอีกมาก ถึงแม้จะเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างแล้วก็ตาม

สรายุทธ : “คือหลายคนก็ไม่ได้เห็นที่เราเล่นด้วย แล้ววิธีคิดก็ต่างออกไป ส่วนการรับมือก็ปกติครับ ตั้งหน้าตั้งตาซ้อมในส่วนของตัวเองแบบปกติไป เราไม่ได้ไปไหนเลย แต่เขารู้ว่าเราทำอะไร แต่ตอนนี้เราคิดจนไม่คิดแล้ว เพราะว่าพอหลังแมตช์ที่เจอรอนนี่ แฟนคลับเรามีเพิ่มขึ้นมากๆ เพราะว่าช็อตบางส่วนที่เล่นกับรอนนี่ ถูกนำมาฉายทางโลกออนไลน์ ผ่านทางทวิตเตอร์ของช่องกีฬาต่างๆ ทั้ง Euro Sport กับ BBC แล้วคลิปที่ซันนี่เบรก 128 คะแนนใส่รอนนี่ คนดู 2 ล้านกว่า กดไลค์อยู่ 6 หมื่น อันนี้คือของไทย แต่ตอนนี้คลิปนั้นถูกลบไปแล้ว ซึ่งผมคิดว่าถ้าไม่มีเพจนี้ ก็ไม่มีใครรู้จักผมหรอกครับ ซึ่งแค่ให้ทางเมืองนอกเขาชื่นชมเราได้ ผมว่าก็โอเคแล้วครับ เขาบอกว่าชอบตรงคาแรกเตอร์ แนวคิด ซึ่งปกติเกมทั่วไปจะเป็นแบบว่า แพ้แล้วมองหน้ากันไม่ติด เพราะอารมณ์เกมยังค้าง แต่ของเรานี่คือ คู่แข่งยังมายินดีกับเรา คนอังกฤษเขาชื่นชมเราตรงนี้

สรายุทธ : “นักสนุกเกอร์ระดับโลก ต่างยกย่องซันนี่ แล้วที่สำคัญ ช็อตของซันนี่ที่เล่นกับรอนนี่ ถูกรับเลือกเป็น Best Shot ประจำทัวร์นาเมนต์ และติด 3 ช็อต ใน 30 ช็อต ของ UK Championship ซึ่งเกิดขึ้นในเกมที่เจอรอนนี่ทั้งหมด เพราะว่าคนที่จะได้รับเกียรตินี้ จะต้องมาจากในเกมถ่ายทอดสด แล้วเราก็ได้ทั้ง 3 ช็อตเลย แล้วตอนสัมภาษณ์หลังเกม รอนนี่ยังมาไหว้เลย ทั้งๆ ที่ปกติแล้ว รอนนี่แทบไม่เคยทำอะไรมาก่อนเลยนะ จะเป็นแบบว่าคนไหนฝีมือไม่ดีเขาว่าต่อหน้าเลย เขาเคยสัมภาษณ์เลยว่า คนในโปรทัวร์เกินครึ่ง ฝีมือไม่ได้เรื่องเลย แต่รอนนี่เขาชมซันนี่ว่าเล่นได้ดี แล้วก็ยังบอกว่า ยังมีเวลาอีกเยอะที่จะพัฒนา และก้าวมาเป็นนักสนุกเกอร์ที่เก่งในอนาคต เขาพูดอย่างงี้เลย

สรายุทธ : “จิมมี่ ไวท์ แซวรอนนี่เลยว่า ควรรับซันนี่ เป็นลูกบุญธรรม (หัวเราะเบาๆ) บอกว่าถ้ารอนนี่เลิกก็ให้ซันนี่แทงสนุกเกอร์ต่อเลย เขาตั้งความคาดหวังต่อซันนี่ไว้สูงมาก แล้วเราก็แอบกดดันอยู่ เพราะว่าเรามีแค่ศักยภาพแต่มีแรงไม่เท่าไหร่ เนื่องจากเรามีเวลาน้อยมาก เราไม่สามารถสู้เป็น 5-10 ปี เราต้องการความสำเร็จที่ค่อนข้างเร็ว ไม่งั้นเราไม่รอด เพราะว่าเรามีเงินทุนจำกัด ซึ่งมันก็บีบบังคับให้เราต้องพัฒนาฝีมือให้เร็ว แล้วถามว่า ในเกมที่กดดันอย่างงี้ คุณจะมาช่วยอะไรเรา

สรายุทธ : “เอาเป็นว่า ผมกับซันนี่ขึ้นเครื่องบินไปอินเดีย คนอื่นบินตรงไป แต่ของเราต้องใช้เวลา 12 ชั่วโมง บวกกับ 6 ชั่วโมงที่สนามบิน เพราะเครื่องมันดีเลย์ อันเนื่องมาจากเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งก็ส่งผลต่อร่างกายด้วย แล้วคุณจะให้เราเป็นแชมป์โลกยังไง คือสามารถฝันได้ แต่คุณอย่าด่า ด่าได้แต่อย่าแรง เพราะเราเผชิญมาหลายรูปแบบ ทั้งนอนค้างสนามบิน หรือเดินฝ่าหิมะไปสนามแข่งขัน หรือบางทีก็ขึ้นรถเมล์ไปแข่ง เราใส่เสื้อผ้าไปในสภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับชุดขนาดนั้น และมันหลายอย่างมากๆ ที่บั่นทอนเราด้วย แล้วสภาพอย่างงี้ คุณยังหวังให้เราทำให้ได้อย่างที่คุณพอใจเหรอ พูดตรงๆ นอกจากคำว่าคนไทยด้วยกันแล้ว คุณไม่มีอะไรอย่างอื่นเลยที่จะไปคาดหวังจากเรา เพราะว่าเราออกเงินเองหมด คุณจะยังเอาความหวังจากพวกคุณมาทับถมเราได้ยังไง อย่างบางส่วนที่ทำ ก็เข้าใจได้ว่าหวังดี แต่กับอีกพวกนั้น ผมถามหน่อยว่า ในระหว่างที่เราทำชื่อเสียงให้ประเทศในท่ามกลางความลำบากที่เล่ามา คนที่ด่าต่างๆ เขาทำอะไรบ้าง เพราะเราอยู่ตรงนี้มาพอสมควร แล้วก็มีคนไม่ชอบเราไง เนื่องจากเราพูดไปมันจริงทั้งนั้น
เรื่อง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ : พลภัทร วรรณดี



กำลังโหลดความคิดเห็น