xs
xsm
sm
md
lg

แสบมาก..จดหมายลับวิชเยนทร์! สมคบบาทหลวงจะยึดทัพบกทัพเรือ เชิดพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ไว้ในกำมือ!!

เผยแพร่:   โดย: โรม บุนนาค

คอนสแตนติน ฟอลคอน ในละคร กับในภาพเขียนครั้งอดีต
ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อ ๓๐๐ กว่าปีก่อน มีฝรั่งเร่ร่อนคนหนึ่งที่ออกเผชิญชีวิตตั้งแต่เด็ก เข้ามารับราชการกับพระเจ้ากรุงสยามในสถานการณ์ที่เหมาะสมกับเขาพอดี นอกจากนำประสบการณ์จากการตระเวนร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำมาทำความเจริญให้กรุงศรีอยุธยาแล้ว เขายังเป็นตัวเชื่อมที่สำคัญนำฝรั่งเศสเข้ามาคานอำนาจกับฮอลันดาที่คุกคามเข้ามา แล้วคอรัปชั่นเชิงนโยบายจนร่ำรวยมหาศาล แต่ทว่าเขาไม่ได้สำนึกถึงบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนตามธรรมเนียมไทย กลับหลงใหลเค็กก้อนโตจากพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส วางแผนที่จะยึดเมืองสยามด้วยการเชิดพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ไว้ในกำมือ แต่เมืองไทยเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ก็เป็นเพราะคนไทยไม่ยอมให้ใครหลอกได้ง่ายๆ เขาจึงต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน ให้อดอาหารถึง ๑๔ วันก่อนถูกประหารในวัยเพิ่ง ๔๐ ปี

ในพระราชพงศาวดารกรุงสยาม ฉบับบริติชมิวเซียม บันทึกไว้ว่า ใน พ.ศ.๒๒๐๐ สมเด็จพระนารายณ์ให้ต่อเรือกำปั่นใหญ่แล้วเสร็จ จึงทรงถามคอนสแตนติน ฟอลคอน ฝรั่งที่เข้ามาค้าขายอยู่กรุงศรีอยุธยาว่า ที่เมืองฝรั่งเอากำปั่นออกจากอู่ด้วยวิธีใดซึ่งเป็นวิธีง่ายที่สุด ฟอลคอนจึงรับอาสาจะเป็นผู้นำกำปั่นที่เพิ่งต่อเสร็จนั้นออกจากอู่เอง จากนั้นก็จัดการผูกรอกกว้านและจักร ชักกำปั่นออกจากอู่ลงสู่ท่าได้โดยง่าย สมเด็จพระนารายณ์ทรงทอดพระเนตรวิทยาการตะวันตกเช่นนั้นก็ทรงโสมนัส โปรดเกล้าฯให้ฟอลคอนเจ้ารับราชการ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น หลวงวิชเยนทร์ พร้อมบ้านเรือนและเครื่องยศ

ต่อมาเมื่อหลวงวิชเยนทร์ทำราชการเป็นที่พอพระราชหฤทัย ได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าพระวิชเยนทร์แล้ว สมเด็จพระนารายณ์มีพระราชดำรัสชมเชยสติปัญญาของเขาต่อมุขอำมาตย์เสนาบดีในท้องพระโรง แล้วมีพระราชโองการตรัสสั่งให้ข้าทูลละอองทั้งหลายคิดอ่านหาวิธีชั่งปืนพระพิรุณ ว่าปืนใหญ่กระบอกนี้จะหนักสักกี่หาบ ข้าทูลละอองเหล่านั้นก็ออกไปคบคิดกัน การจะทำตราชูชั่งขนาดใหญ่แล้วแขวนให้สูง เอาสายโซ่ผูกปืนขึ้นแขวนบนไม้คานคันชั่ง ก็เห็นว่าตราชูชั่งและสายโซ่นั้นจะทานไม่ไหว เพราะปืนพระพิรุณเป็นปืนที่ใหญ่มาก ครั้นคิดหาวิธีต่างๆแล้วก็สิ้นปัญญา จึงมากราบทูลว่าเหลือกำลังที่จะเอาปืนขึ้นชั่งได้

สมเด็จพระนารายณ์ได้ทรงฟังจึงแย้มพระโอษฐ์ ดำรัสสั่งให้เจ้าพระยาวิชเยนทร์ไปชั่งปืนพระพิรุณให้รู้ว่าหนักสักเท่าใด เจ้าพระยาวิชเยนทร์รับพระราชโองการแล้วจึงคิดหาวิธีชั่งปืน โดยเอาเรือนางเป็ดขนาดใหญ่หลายลำมาขนานเทียบติดกัน แล้วให้ลากปืนพระพิรุณลงไปในเรือนางเป็ดเหล่านั้น เมื่อเรือจมเพียบลงไปแค่ไหน ก็ทำเครื่องหมายระดับข้างเรือไว้ จากนั้นก็ลากปืนขึ้นฝั่ง ขนเอาอิฐหินมาใส่เรือทุกลำให้จมลงในระดับเดียวกัน เมื่อเอาอิฐหินทั้งหมดมาทยอยชั่ง น้ำหนักรวมกันก็จะเป็นน้ำหนักปืนพระพิรุณ สมเด็จพระนารายณ์ก็โสมนัสในปัญญาของฟอลคอนอีกครั้ง ตรัสแก่มุขมนตรีทั้งหลายว่า เมื่อเจ้าพระยาวิชเยนทร์เขามีสติปัญญายิ่งกว่าท่านทั้งปวงดังนี้ หรือจะมิให้เราเลี้ยงเขาเป็นใหญ่กว่าท่านทั้งปวงเล่า แล้วก็ทรงบำเหน็จพระราชทานเสลี่ยงงาให้เจ้าพระยาวิชเยนทร์ ทรงพระกรุณาโปรดให้นั่งเบาะสูงศอกหนึ่งเมื่อเข้าเฝ้า พร้อมทั้งพระราชทานเครื่องอุปโภคเป็นอันมาก

พระราชพงศาวดารกรุงสยามกล่าวว่า

“...แต่นั้นมา เจ้าพระยาวิชเยนทร์ว่าราชการอันใดก็ยิ่งสิทธิ์ขาดขึ้น และคิดอ่านเพ็ดทูลสิ่งใด ก็ว่ากล่าวพอพระทัยทุกประการ ท้าวพระยาข้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งหลายก็ยำเกรงยิ่งนัก”
พระเจ้าหลุยส์ ที่ ๑๔
บาทหลวงตาชาร์ด
แต่เจ้าพระยาฝรั่งอัครมหาเสนาบดีผู้นี้ จะซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระเจ้ากรุงสยามหรือพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสกันแน่ ก็ลองอ่านจดหมายฉบับนี้ ซึ่งเขาเขียนถึงบาทหลวงตาชาร์ด ผู้มีบทบาทสำคัญมากในความสัมพันธ์ของสยามกับฝรั่งเศสในยุคนั้น เข้าออกสยามหลายครั้ง และเป็นล่ามทั้งพี่เลี้ยงที่นำคณะราชทูตชุดโกษาปานไปเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ซึ่งปรากฏบันทึกไว้ในประชุมพงศาวดารภาคที่ ๓๕ มีข้อความว่า

“ท่านจะต้องรีบร้อนอย่างที่สุดที่จะจัดการพูดกับสันตปาปา พูดกับ แปร์เยเนราล (Pe’re Ge’ne’ral ) แลพูดกับ บาทหลวงเดอลาเชซ์ (De la Chaise) เพื่อขอรับของต่างๆจากพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสโดยเร็วที่สุด สำหรับเป็นการตั้งเค้าของศาสนาคริสเตียนในประเทศสยาม ของต่างๆที่ต้องการเหล่านี้จะได้บรรยายต่อไป แลเป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าได้พูดกับท่านไว้หลายคราวแล้ว ทั้งนี้ขอให้เป็นความลับในระหว่างเราสองคนเท่านั้น อย่าได้ ให้แพร่หลายออกไปเลยเป็นอันขาด

คือจะต้องจัดเรือของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสบรรทุกคน ๖๐ หรือ ๗๐ คน ซึ่งเป็นคนที่เฉลียวฉลาดไหวพริบในการงานทั้งปวง ทั้งต้องเป็นคนที่ซื่อตรงด้วย คนเหล่านี้จะต้องมีทุนติดตัวมาสำหรับหาเลี้ยงตัวเองได้ แลจะต้องเข้าทำราชการของพระเจ้ากรุงสยามโดยไม่คิดหาผลประโยชน์อย่างใด ข้อนี้สำหรับป้องกันคนพูดครหานินทาต่างๆเมื่อคนพวกนี้ได้ทำการดีเลื่อนตำแหน่งหรือหน้าที่ขึ้นจะได้ไม่มีคนขัดขวางต่างๆ ถ้าหากว่า แปร์เยเนราลจะต้องส่งบาทหลวงในคณะนั้นมาบ้างแล้ว เป็นการจำเป็นที่บาทหลวงเหล่านี้จะต้องแต่งตัวอย่างคนสามัญ แลไม่ควรจะให้พวกที่มาด้วยพร้อมกันรู้จักด้วยจึงจะดี ถ้าหากว่าพวกนี้จะขาดเหลืออย่างใด ข้าพเจ้ารับรองจะช่วยทุกอย่าง แลจะเอาอำนาจของข้าพเจ้าช่วยอุดหนุนพวกนี้ให้เขาได้รับตำแหน่งหน้าที่อย่างดีที่มีอยู่ในเมืองไทย เช่นตั้งให้เขาเป็นผู้ว่าราชการเมือง ผู้บังคับการป้อมเป็นต้น แลจะจัดการให้เขาได้บังคับบัญชากองทัพทั้งบกแลเรือ ทั้งข้าพเจ้าจะเป็นผู้หาหนทางให้พวกนี้ได้เข้าทำราชการในพระราชวัง แลทำการในหน้าที่ของรัฐบาลต่างๆ จนที่สุดหน้าที่อันสำคัญในส่วนเกี่ยวแต่เฉพาะในพระราชวังของพระเจ้ากรุงสยาม ก็จะให้ตกในหน้าที่ของคนเหล่านี้ กล่าวโดยสั้นๆก็คือ ข้าพเจ้าจะได้ใช้พวกนี้เหมือนอย่างเป็นที่ปรึกษาของข้าพเจ้าในงานการทั้งปวง ดังข้าพเจ้าได้อธิบายให้ท่านทราบหลายครั้งแล้ว แลเพื่อจะให้การนี้เป็นผลที่สุดโดยรวดเร็วแลแน่นอนนั้นจะต้องกราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสว่า เป็นการจำเป็นที่จะต้องยึดเมืองสงขลาไว้ก่อน แล้วให้ส่งคนแลทหารมาอยู่ ซึ่งเป็นการสำคัญมาก เพราะเหตุว่าถ้าได้จัดเมืองนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็หมดอันตรายไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไป เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว บันดาพ่อค้าก็จะตั้งการค้าขายได้ แลเป็นทางดีสำหรับป้องกันแลปกครองคณะฝรั่งเศสในเมืองเขมร เมืองจำปา เมืองญวน แลเมืองตังเกี๋ย แลถ้าจะจัดการให้สินค้าทั้งหลายได้โอนเข้าไปอยู่ในเมืองไทยเมื่อไร ก็จะไม่เป็นการยากอันใด

อีกประการ ๑ เป็นการจำเป็นที่จะต้องเลือกคัดคนที่จะส่งมายังเมืองไทยนี้ ให้เป็นคนที่มีเรือของตัวเองบ้าง แลให้คนเหล่านี้พาเรือของตัวมาด้วย เพราะนอกจากการที่เรือเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อเขาเอง ข้าพเจ้าก็เต็มใจจะใช้เรือของพวกนี้มากกว่าจะใช้เรืออื่นๆ แลข้าพเจ้าจะได้จัดการหาหนทางให้เจ้าของเรือพวกนี้ได้ทำการค้าขายให้เจริญ ซึ่งเขาจะทำไม่ได้ในเรือของบริษัท

เพื่อให้ความคิดอันนี้เป็นผลสำเร็จนั้น อะไรๆก็พร้อมหมดแล้วไม่มีขาดเหลือบกพร่องเลย ที่เมืองนี้เสบียงอาหารก็บริบูรณ์ทุกอย่าง ยังมีเหล็กดีบุกแลทองแดงสำหรับทำเครื่องมือต่างๆได้ทุกอย่าง จนที่สุดจะหล่อปืนใหญ่ก็ได้ เพราะเครื่องมือที่จะทำมีพร้อมอยู่แล้ว ยังขาดแต่คนที่จะทำเท่านั้น ซึ่งจะต้องรีบจัดการอย่างลับที่สุด ดังข้าพเจ้าได้อธิบายให้ท่านทราบไว้แล้ว

บางทีจะมีผู้คัดค้านว่า ถ้าพระเจ้ากรุงสยามสวรรคตเสียแล้วแลของต่างๆเหล่านี้ได้มาถึงสันดอนแล้ว การที่คิดไว้ก็จะต้องล้มละลายหมด แต่ข้าพเจ้ารับรองแลรับสัญญาว่า ผู้ที่จะเสวยราชสมบัติแทนพระเจ้ากรุงสยามต่อไปนั้น จะยอมการต่างๆทุกอย่างดีกว่าพระองค์ผู้ที่สวรรคต แลจะได้รับความสะดวกจากพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่มากขึ้น ทั้งการที่เกี่ยวด้วยศาสนาก็จะง่ายแลสะดวกขึ้นด้วย

ความเห็นแลความคิดต่างๆดังได้กล่าวมานี้ จะต้องจัดการโดยระมัดระวังแลโดยเร็วที่สุด ดังข้าพเจ้าได้อธิบายให้ท่านแลเชอวาเลียเดอโชมองเข้าใจอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอร้องต่อท่าน ขอให้จัดการในเรื่องนี้ต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสด้วย

ข้าพเจ้าหวังใจว่าท่านจะได้เดินทางโดยสวัสดิภาพ แลหวังใจว่าท่านคงจะได้กลับมาโดยเร็วด้วย"

เขียนในเรือของข้าพเจ้า ที่ปากน้ำเจ้าพระยาในเมืองไทย
ณ วันที่ เดือนธันวาคม ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๘)


นายแพทย์เอนเยลเบิร์ต แกมเฟอร์
เป็นที่ทราบกันว่ากษัตริย์พระองค์ใหม่ที่เจ้าพระยาวิชเยนทร์วางตัวจะให้ขึ้นครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระนารายณ์ก็คือ พระปีย์ โอรสบุญธรรม ซึ่งวิชเยนทร์ให้เปลี่ยนศาสนาไปเข้ารีตเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นความแค้นของขุนนางไทยกลุ่มหนึ่งซึ่งมีพระเพทราชาและเจ้าพระยาศรีสรศักดิ์เป็นหัวขบวน จึงไม่ยอมให้วิชเยนทร์ตายง่ายๆเมื่อขัดขวางแผนของเขาได้สำเร็จ นายแพทย์เอนเยลเบิร์ต แกมเฟอร์ ชาวเยอรมันที่เข้ามาเมืองไทยใน พ.ศ.๒๒๓๓ หลังวิชเยนทร์ตาย ๒ ปีได้บันทึกไว้ว่า วิชเยนทร์ถูกจับในวันเดียวกับพระปีย์เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๒๓๑ ต่อมาพระเพทราชาให้ตัดหัวพระปีย์ก่อน แล้วโยนลงแทบเท้าของวิชเยนทร์ขณะที่ถูกจำโซ่ตรวน แล้วกล่าวเย้ยหยันว่า

“นั่นแน่ะ พระเจ้าอยู่หัวของเจ้า”

วิชเยนทร์ถูกทรมานและอดอาหารอยู่ถึง ๑๔ วันจึงถูกนำไปประหารที่ตะแลงแกงในวันที่ ๕ มิถุนายน

นี่คือจุดจบของเจ้าพระยาฝรั่งหนึ่งเดียวของกรุงศรีอยุธยา ที่คิดจะเปลี่ยนศาสนาพระเจ้ากรุงสยาม และยึดทั้งการค้า การเมือง ไปทูลเกล้าถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น