xs
xsm
sm
md
lg

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปลื้มพระราชหฤทัย พสกนิกรมาชมงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” มีความสุข

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว”  8 ก.พ.-10 มี.ค. 61 มีประชาชนเข้าร่วมงาน 1,145,530 คน  ด้านเจ้าหน้าที่กองงานในพระองค์เผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรการจัดงานตลอด โดยทรงปลื้มพระราชหฤทัยที่ทอดพระเนตรเห็นพสกนิกรของพระองค์มีความสุข และได้ซึมซับวิถีไทยย้อนยุคในอดีตตั้งแต่สมัยในหลวง รัชกาลที่ ๕ ถึงรัชกาลที่ ๙ โดยเฉพาะเรื่องความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน

ตามที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ขึ้นเพื่อสืบสานการจัดงานฤดูหนาวในสมัยรัชกาลที่ ๕ ตลอดจนแสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ อันเป็นการสะท้อนให้เห็นความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน และพระราชทานความสุขให้แก่ประชาชน การนี้จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึง 11 มีนาคม 2561 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า โดยจะทรงนำรายได้ในการจัดงานไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในทุกๆ ภูมิภาค กับเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยให้แก่ประชาชน ตลอดจนเป็นการให้ผู้มาร่วมงานได้ร่วมทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศลนั้น

วันนี้ (11 มี.ค.) บรรยากาศที่พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ซึ่งได้ดำเนินการจัดงานต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 32 อันเป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนเป็นจำนวนมากต่างพากันแต่งกายย้อนยุคในสมัยรัชกาลที่ ๕ มารอเข้างานตั้งแต่จุดคัดกรองทั้ง 4 จุดยังไม่เปิด เพื่อที่จะเข้าไปชมความงดงามของงาน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสนใจบันทึกภาพแห่งความทรงจำบริเวณเรือสุพรรณหงส์จำลองท่ามกลางแปลงดอกไม้เมืองหนาวขนาดใหญ่รอบพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕

ทั้งนี้ กอร.งานอุ่นไอรักฯ ได้สรุปจำนวนประชาชนที่มาเที่ยวชมงานระหว่างวันที่ 8 ก.พ. ถึง 10 มี.ค.61 รวม 31 วัน จำนวน 1,145,530 คน

ขณะเดียวกัน ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ เช่น จิตอาสา 904 มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ภูฟ้า มูลนิธิสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ มูลนิธิโครงการหลวง ดอยคำ เป็นต้น และร้านค้ารับเชิญทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมทั้งร้านค้าอาหารไทยโบราณ ผลิตภัณฑ์โบราณ ในแนวคิด “ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชนวิถีไทย” ซึ่งตั้งอยู่ในสนามเสือป่า ได้รับความสนใจจากประชาชนมาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างคึกคัก

เจ้าหน้าที่กองงานในพระองค์กล่าวถึงภาพรวมของการจัดงานตลอดระยะเวลา 32 วันที่ผ่านมาว่า ถือเป็นการบรรลุวัตถุประสงค์ของงานที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว เพื่อสืบสานการจัดงานฤดูหนาวในสมัยรัชกาลที่ ๕ ตลอดจนแสดงพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ อันเป็นการสะท้อนให้เห็นความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมามีประชาชนกว่า 1 ล้านคนที่มาเที่ยวชมงาน โดยเฉพาะเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมามีประชาชนมาชมงานมากถึง 107,170 คน และประชาชนทุกคนที่มาก็ล้วนมีความสุข โดยเฉพาะเยาวชนรุ่นใหม่ที่ได้มาเรียนรู้ขนบธรรมเนียมวิถีไทยในอดีตผ่านการมาเที่ยวชมงาน

เจ้าหน้าที่กองงานในพระองค์เปิดเผยต่อว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรการจัดงานตลอด โดยทรงปลื้มพระราชหฤทัยที่ทอดพระเนตรเห็นพสกนิกรของพระองค์มีความสุข และได้ซึมซับวิถีไทยย้อนยุคในอดีตตั้งแต่สมัยในหลวง รัชกาลที่ ๕ ถึงรัชกาลที่ ๙ โดยเฉพาะเรื่องความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน

สำหรับการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ในครั้งต่อไปนั้น ขณะนี้ กอร.กำลังประมวลผลว่าจะจัดขึ้นในเดือนใด แต่คงอยู่ในระหว่างช่วงเดือน พ.ย. ถึง ก.พ.ของทุกปี อันเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยพอดี

ส่วนความรู้สึกของประชาชนที่เข้ามาร่วมงานนั้น นายภัทรพงศ์ วงศ์สุวัฒน์ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่เศรษฐกร 7 การยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งใจมาเที่ยวชมงานนี้โดยเฉพาะ เพราะเกิดมายังไม่เคยเห็นคนไทยที่เข้าชมงานพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดไทยย้อนยุคมากมายเท่ากับงานนี้ แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของชาติไทย ถือเป็นการสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทยให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ อีกทั้งยังได้รับความรู้จากนิทรรศการต่างๆ ที่จัดแสดงในงาน แสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯ ในหลวง รัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงทำทุกอย่างเพื่อพสกนิกรของพระองค์ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี และประเทศชาติมีความร่มเย็นเป็นสุขมาจนถึงทุกวันนี้

ขณะที่ นายอนุชา มากเจริญ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.3 จากโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย เดินทางมากับชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ เขตปทุมวัน กล่าวว่า มาเที่ยวงาน 2 ครั้งแล้ว ประทับใจบูทการรถไฟ และนิทรรศการเสด็จประพาสยุโรป และจุดถ่ายภาพ ประทับใจตุ๊กตาชาววัง ก่อนหน้านี้ไม่เคยเที่ยวงานแบบนี้มาก่อนเลย เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสมัยก่อน รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ เป็นอย่างมาก ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานความสุขแก่ประชาชน






กำลังโหลดความคิดเห็น