MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
หมายเหตุ : เนื่องจากเว็บไซต์ MGR Online กำลังปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ ต้องการชมเนื้อหาย้อนหลัง คลิก https://bit.ly/mgrtop7 ขออภัยในความไม่สะดวก
(สรุปข่าวประจำวันที่ 3 - 9 มี.ค. 2561)
อันดับ 1 : ชาวเน็ต #ไม่เอาศรีวราห์ หวั่นเอื้อ "เปรมชัย" หลุดคดีล่าเสือดำ
จากกรณีที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับพวกล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมากระแสสังคมโจมตีการทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในการลงมาทำคดีนายเปรมชัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแฮชแทก #ไม่เอาศรีวราห์ ด้านนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคเสถียร แถลงเมื่อ 5 มี.ค. ระบุว่า หากสำนวนฟ้องออกมาไม่มีข้อหาล่าสัตว์ป่า ประชาชนจะออกมาเดินถนนอีกครั้ง พร้อมขอเปลี่ยนคนทำคดีใหม่และให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาช่วย ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่พบพิรุธในการทำงาน แต่หากพบก็ต้องปรับหน้าที่และลงไปแก้ไข พล.ต.อ.ศรีวราห์แค่มีหน้าที่ดูแลกำกับการทำงานสอบสวนของตำรวจ บช.ก.เท่านั้น ถ้ามีพิรุธ หรือไม่ชอบมาพากล ก็ต้องเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่ผ่านมาได้ตอบโต้ว่า ตนทำงานตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ตามกฎหมายและระเบียบตามปกติ ไม่ใช่ไม่แคร์โซเชียล แต่โซเชียลจะมาบังคับอะไรที่นอกเหนือกฎหมายคงไม่ได้ ถ้าอะไรที่เข้าหลักกฎหมายจะดำเนินการให้ แต่ถ้าไม่เข้าข่ายก็ไม่รู้จะดำเนินการอย่างไร ส่วนกรณีที่ร้องเรียนถึงผู้บังคับบัญชาเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณา ส่วนจะฟ้องกลับบุคคลที่ละเมิดหรือไม่ต้องดูที่เจตนา กำลังดูอยู่หลายราย ส่วนความคืบหน้าคดีนั้น นายเปรมชัยได้ขออนุญาตกับทาง สตม. ว่าจะไปประเทศบังคลาเทศระหว่างวันที่ 10-11 มี.ค. ซึ่งนายเปรมชัยจะต้องมารับทราบข้อกล่าวหาครอบครองอาวุธปืนและงาช้างในวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งจะส่งสำนวนคดีไปยังอัยการในวันที่ 26 มี.ค. ส่วนสำนวนคดีล่าสัตว์ป่า เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการภายในวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 95%
อันดับ 2 : เหมือนโดนสะกดจิตหมู่! คดีหวย 30 ล้าน "สุทธิ พวงพิกุล" วุฒิภาวะต่ำ-ทำเพราะความเชื่อ
คดีแย่งการครอบครองสิทธิสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 จากสลากรวมชุด รวมมูลค่า 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และ นายปรีชา ใคร่ครวญ ข้าราชการครู เมื่อวันที่ 9 มี.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และคณะแถลงข่าวข้อพิพาทดังกล่าว โดย พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ระบุว่า ฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ ให้การน่าสงสัยจำอะไรไม่ได้เลย แต่ฝ่ายครูปรีชามีพยานรองรับ ให้การสอดคล้องน่าเชื่อถือ แต่ตำรวจจะทำงานด้วยความเชื่อไม่ได้ เมื่อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์พบว่าทั้งหมดเป็นเท็จ แต่สำหรับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เริ่มต้นจากความเชื่อ เริ่มแรกไม่ได้ทุจริต แต่อาจทำงานด้วยวุฒิภาวะต่ำ ขาดประสบการณ์ เมื่อทนายความเคลื่อนไหว ก็กอดคอครูปรีชาให้เรื่องนี้ไปจบที่ศาล ถือเป็นเรื่องบกพร่อง เหมือนโดนสะกดจิตหมู่ ช่วงต้นมีการเสนอผลตอบแทนกัน แต่ไม่ได้รับในส่วนนั้น
ส่วนการดำเนินคดี หลังจากที่กองปราบปรามแจ้งความกับ บก.ปปป. เอาผิด พล.ต.ต.สุทธิ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 หลังพบการสอบาวนคดีหวย 30 ล้านไม่ชอบด้วยกฎหมาย พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. ชี้แจงว่า พนักงานสอบสวนมีความเห็นต้องกันนายตำรวจ 2 นายที่ทำคดีนี้ คือ พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี และ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รอง สว. (สอบสวน) ไว้เป็นพยาน ซึ่งพบว่ามีพฤติกรรมสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย เปลี่ยนแปลงแก้ไขคำให้การที่เป็นประเด็นสาระสำคัญในคดี มีเรื่องวัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งยืนยันว่าว่าลอตเตอรี่อยู่กับครูปรีชา มีการแก้คำให้การให้สอดคล้องต้องกัน โดยจะส่งสำนวนไปที่ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน
ล่าสุด พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ออกหมายเรียกนายปรีชา, นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช แม่ค้าลอตเตอรี่ ให้ไปรับทราบข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในสัปดาห์ที่จะถึงนี้
อันดับ 3 : "น้องแบม" ฟ้องโกงเงินคนจนแฉถูกว่าเด็กเลี้ยงแกะ-ทุบหลัง อาจารย์อ้างแค่ "หมั่นเขี้ยว"
กรณีที่ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร้องเรียนการทุจริตเงินงบประมาณช่วยเหลือคนจนของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ระหว่างฝึกงาน กระทั่ง ป.ป.ท. ตรวจพบขบวนการทุจริตลามไปถึง 24 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกว่าจะถึงจุดนี้เธอต้องรับแรงกดดันจากอาจารย์หลายทาง เมื่อวันที่ 4 มี.ค. น้องแบมแถลงว่า เรื่องนี้ให้ข้อมูลกับอาจารย์ที่ปรึกษา และรับรู้กันทั้งภาควิชาและคณะ แต่อาจารย์กลับไม่สนใจ บอกว่านิสิตเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ไม่รับฟังและสั่งให้กราบเท้าเจ้าหน้าที่ที่ทำผิดเพื่อขอโทษและให้เรื่องจบไป หลังจากนั้นมีการเรียกตนไปพบและทุบหลัง 2 ครั้ง และต่อว่าทำไมต้องทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย ถ้าจะร้องเรียนทำไมไม่เรียนให้จบก่อน
ด้านนางสายไหม ไชยศิรินทร์ หัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา อาจารย์ที่ปรึกษาน้องแบม กล่าวตอบโต้เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ระบุว่า อาจารย์ไม่สามารถก้าวล่วงได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่เพื่อให้บรรยากาศการฝึกงานต่อเป็นไปด้วยความราบรื่น จึงให้นิสิตกราบขอโทษเจ้าหน้าที่ซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ให้กราบขอโทษคนโกง ส่วนกรณีทุบหลังเพราะเห็นว่าน้องแบมปิดบังข้อมูลบางอย่าง รู้สึกหมั่นเขี้ยวจึงทุบหลังไป ไม่ได้ทำร้ายหรือข่มขู่คุกคาม ที่ผ่านมาเกิดกระแสโจมตีตนและคณะ ถูกละเมิดสิทธิ ข่มขู่คุกคาม จากนั้นได้แจ้งความเอาผิดกับเฟซบุ๊ก 3 ราย กับ สภ.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย ในข้อหาหมิ่นประมาทก่อให้เกิดความรำคาญ แต่ไม่รับแจ้งความ ด้านการตรวจสอบจาก ป.ป.ท. พบการทุจริตแล้ว 29 จังหวัด จากเป้าหมาย 37 จังหวัด
อันดับ 4 : แตกตื่น! ไทยนำเข้าปลาดิบ "ฟุกุชิมะ" เป็นชาติแรก อย.มั่นใจไร้กัมมันตภาพรังสี
กลายเป็นที่แตกตื่นสำหรับคนไทยสายเจแปนที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น เมื่อสำนักข่าวเจแปนไทมส์ ประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า ผู้ส่งออกปลาจากจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เมืองที่เกิดแผ่นดินไหวแล้วสึนามิถล่มเมื่อปี 2554 จนทำให้กัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์รั่วไหล เริ่มส่งออกปลาไปยังต่างประเทศอีกครั้ง โดยได้ส่งออกมายังประเทศไทยเป็นประเทศแรก โดยเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้ส่งออกจากจังหวัดฟุกุชิมะ ได้ส่งปลาจำนวน 110 กิโลกรัม จากท่าเรือเมืองโซมะ มายังประเทศไทย โดยปลาปริมาณดังกล่าวจะถูกนำไปเสิร์ฟในร้านอาหารญี่ปุ่น 12 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ทำให้ผู้บริโภคหลายคนวิตกกังวลว่าจะปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีหรือไม่
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา แถลงข่าวยืนยันว่า เมื่อปี 2554 ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยได้มีมาตรการคุมเข้ม ไม่ให้นำเข้าปลาจากประเทศญี่ปุ่น โดยให้สำแดงใบยืนยันการนำเข้า สำแดงผลตรวจกัมมันตภาพรังสี ที่ผ่านมาได้ประสานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น ผ่านสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งแจ้งให้ทราบว่าญี่ปุ่นมีมาตรการจัดการกับสินค้าที่ตรวจพบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีอย่างเข้มงวด หากตรวจพบอาหารปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเกินมาตรฐาน อาหารจากพื้นที่นั้นจะถูกควบคุมและทำลายทันที เพื่อป้องกันไม่ให้กระจายสินค้าไปสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ และจากการสุ่มตรวจพบว่า ผลิตภัณฑ์ประมงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2554 ไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเกินมาตรฐานแต่อย่างใด
อันดับ 5 : ศึกโซเชียลแดนใต้ "จิมมี่ ชวาลา" ปะทะ "เสนอ แดรี่ฮัท" เจ้าของร้านอาหารดัง
ตกเป็นข่าวอีกครั้งสำหรับเศรษฐีใจบุญ เจ้าของห้างค้าผ้าจิมมี่ กลางเมืองนครศรีธรรมราช นายจิมมี่ ชวาลา ที่เคยมีชื่อเสียงจากการบริจาคเงิน 16 ล้านบาทให้ตูน บอดี้สแลม ในโครงการก้าวคนละก้าว เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ในเฟซบุ๊กนายเสนอ ผันแปรจิตร นักธุรกิจและเจ้าของกิจการร้านอาหารแดรี่ฮัท ได้โพสต์ภาพและข้อความพาดพิงไปถึงนายจิมมี่หลายครั้ง โดยที่นายจิมมี่โพสต์ข้อความตอบโต้ และนายเสนอก็คอมเมนต์ตอบกลับอย่างรุนแรง ต้นตอมาจากเมื่อวันที่ 3 มี.ค. เบียร์ยี่ห้อดังได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ โดยให้นายจิมมี่ไปอยู่โซนวีไอพี เนื่องจากเคยบริจาคเงินให้ตูน แต่นายเสนอกลับเมาสุราเข้ามาหานายจิมมี่พร้อมขอถ่ายรูปเซลฟี่ ซึ่งนายจิมมี่ได้ห้ามปรามเพราะไม่เหมาะสม หลังจากนั้นนายเสนอได้โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหานายจิมมี่อย่างไม่เหมาะสม แถมยังถ่ายติดกระป๋องเบียร์ไปด้วย นายจิมมี่จึงโทรศัพท์ไปตำหนินายเสนอ พร้อมขอให้มาพบที่ร้าน
ต่อมานายเสนอมาที่ร้านจิมมี่ ซึ่งนายจิมมี่กล่าวว่า แทนที่นายเสนอจะฟังตนกลับโต้เถียงในเชิงสั่งสอน จึงไม่พอใจและโต้เถียงกลับ ก่อนเรียกพนักงาน 2 คนสั่งให้นายเสนอขอโทษ จากนั้นนายเสนอจึงไปร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายจิมมี่กล่าวว่า ที่ผ่านมานายเสนอมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งที่ตนเคยให้คำแนะนำในช่วงที่นายเสนอมีปัญหาธุรกิจล้มเหลว และยังมาขอความช่วยเหลือด้านการเงิน อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 มี.ค. นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เรียกทั้งสองฝ่ายมาคุย นายเสนอเข้าไปนั่งคุกเข่าไหว้ขอโทษนายจิมมี่ทันที โดยที่นายจิมมี่โอบกอดนายเสนอพร้อมให้อภัย สรุปก็คือเรื่องนี้จบลงด้วยดี ชาวนครศรีธรรมราชในโลกโซเชียลพากันดีใจที่ทั้งสองฝ่ายสามารถยุติปัญหาขัดแย้งลงได้
อันดับ 6 : ผ่านกฎหมายลูก ส.ส. - ส.ว. - คสช. จับตา "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ตั้งพรรคใหม่
เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ด้วยคะแนน 211 ต่อ 0 เสียง และ พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง ส.ว. ด้วยคะแนน 202 ต่อ 1 เสียง สาระสำคัญคือ กรณีข้าราชการการเมือง และรองผู้บริหารท้องถิ่น ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จะถูกตัดสิทธิการดำรงตำแหน่งทันที การแก้ไขบทเฉพาะเรื่องการลดจำนวนกลุ่มอาชีพผู้สมัคร ส.ว.จาก 20 กลุ่มเหลือ 10 กลุ่ม การแบ่งผู้สมัครออกเป็น 2 ประเภทคือ ผู้สมัครอิสระและการเสนอชื่อโดยองค์กร การเปลี่ยนวิธีเลือก ส.ว.จากการเลือกไขว้ระหว่างกลุ่มอาชีพเป็นเลือกกันเองในกลุ่มวิชาชีพเดียวกัน โดยให้มีผลบังคับใช้เฉพาะ 5 ปีแรก หลังจากพ้น 5 ปีแล้ว ให้กลับไปยึดเนื้อหาตามร่างเดิมที่ กรธ.เสนอมา หลังจากนี้จะเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือ เอก รองประธานบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ประกาศจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ ร่วมกับนายปิยะบุตร แสงกนกกุล แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยใช้แฮชแทก #ช่วยธนาธรตั้งชื่อพรรค นั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุว่า นายธนาธรยังไม่ถึงขนาดจัดตั้งหรือประชุมพรรค อย่าเพิ่งอะไรมาก เอาแค่พอประมาณ ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ทราบว่ากฎหมายสามารถทำได้แค่ไหน แต่เชื่อว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คงจับตาดูอยู่ หากมีการล้ำเส้นคงเชิญมาเตือนหรือห้ามปราม
อันดับ 7 : เจ้าของ "อะเมซอน" รวยอันดับ 1 โลก - "เจ้าสัวเจริญ" เบอร์ 1 เศรษฐีไทย
เป็นประจำทุกปีที่นิตยสารด้านการเงินและเศรษฐกิจ "ฟอร์บส์" จะจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกโดยวัดจากมูลค่าหุ้น ในปีนี้ (2561) ได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา พบว่า นายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซระดับโลก อะเมซอน (Amazon) คว้าอันดับ 1 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วน นายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ลงมาอยู่อันดับ 2 ด้วยทรัพย์สิน 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมี นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ พ่อมดการลงทุนโลก, นายแบร์นาร์ด อาร์โนลต์ เจ้าของธุรกิจแฟชั่นแบรนด์ “หลุยส์ วิตตอง” ชาวฝรั่งเศส และนายมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เป็นต้น
ส่วนมหาเศรษฐีไทย พบว่า นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของเบียร์ช้างและอสังหาริมทรัพย์ ทีซีซี กรุ๊ป อยู่ในอันดับ 65 ของโลก ถือว่าเป็นเศรษฐีอันดับ 1 ในไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 17,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองลงมาคือ นายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) อันดับที่ 95 ของโลก ด้วยทรัพย์สิน 14,900 เหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมี นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี คิงเพาเวอร์ ส่วนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ อยู่อันดับที่ 1,339 ของโลก และอันดับที่ 16 ของไทย ด้วยทรัพย์สิน 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ