ช้างน้ำ คือสัตว์ลึกลับที่ยังถกเถียงกันตลอดมาว่ามีจริงหรือไม่ เช่นเดียวกับเหล็กไหลที่ยังหาข้อยุติไม่ได้เช่นกัน แต่ก็มีข่าวอยู่เป็นระยะว่าผู้ครอบครองท้าการพิสูจน์ ซึ่งทุกครั้งข่าวก็จบลงด้วยการหายไปเฉยๆโดยไม่มีผลสรุป
ในหนังสือ “ช้างต้น” ซึ่งเรียบเรียงขึ้นเนื่องในโอกาสที่กรมศิลปากรได้ดำเนินจัดทำพิพิธภัณฑ์โรงช้างต้น นอกจากได้กล่าวถึงการคล้องช้างไว้อย่างน่าศึกษาแล้ว ยังได้กล่าวถึงช้างน้ำไว้เพียงเล็กน้อยว่า ช้างน้ำเป็นสัตว์ขนาดเล็ก ตัวยาวเพียง ๖ นิ้ว สูง ๓ นิ้ว มีรูปร่างเช่นเดียวกับช้างบก คือมีสี่ขา มีงวง มีงายาวประมาณ ๓ นิ้ว แต่หางมีรูปร่างอย่างหางปลา เพราะเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำ
กล่าวกันว่าช้างน้ำมีพิษร้ายแรงมาก เมื่อช้างบกลงไปอาบน้ำและถูกช้างน้ำแทงด้วยงา ก็จะตายด้วยพิษของช้างน้ำในไม่ช้า
เรื่องของช้างน้ำปรากฏอยู่ในวรรณคดีหลายเรื่อง เช่น “พระอภัยมณี” ของ สุนทรภู่ “นิราศตังเกี๋ย” ของ หลวงนรเนติบัญชากิจ ชาดกในพระพุทธศาสนาเรื่อง “เวสสันดร” กล่าวถึงช้างน้ำในกัณฑ์หิมพานต์ คัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ ในเทวปาง กล่าวถึงกำเนิดของช้างน้ำที่ชื่อ “อสุรภังคี”
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคลทรงยืนยันว่า ได้เคยทอดพระเนตรช้างน้ำตัวจริงครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จนครศรีธรรมราช และมีชาวบ้านนำช้างน้ำใส่ขวดโหลมาทูลเกล้าฯถวาย ลักษณะเหมือนช้างใหญ่ทุกอย่าง เพียงแต่ต่างขนาดกันมากเท่านั้น
ในปี ๒๔๘๓ มีข่าวว่าพบช้างน้ำในภาคเหนือ และว่ามีชุมอยู่ในแม่น้ำโขง แม่น้ำสาละวิน และแม่น้ำปิง มีส่วนสูง ๖ นิ้ว ไม่มีขน หนังสีดำมอๆเหี่ยวย่น
เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๔๖ ช้างน้ำขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ “คมชัดลึก” อีกครั้งพร้อมรูป โดยนายดิเรก เสียงแทน อายุ ๒๘ ปี เจ้าของร้านอาหารพาราไดซ์ ถนนแม่สอด-แม่ระมาด ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้นำซากช้างน้ำมาให้ผู้สื่อข่าวดู อ้างว่าได้มาจากชาวพม่าที่จับได้จากสระน้ำบนภูเขา แต่เลี้ยงไว้ ๗ วันก็ตาย ตอนมีชีวิตอยู่ร้องเหมือนช้างด้วย
นายดิเรกกล่าวว่าได้นำซากช้างตัวนี้ไปเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลพะวอแล้ว พบว่ามีกระดูกสันหลังและมีโครงสร้างเหมือนช้างทุกประการ ส่วนแพทย์ผู้เอ็กซเรย์บอกว่าให้บริการแต่เรื่องเอ็กซเรย์เท่านั้น ไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะไม่มีความรู้เรื่องสัตว์
ส่วนนายสละ ฉ่วยหนู อายุ ๕๐ ปี ควาญช้างบ้านปูเต้อ อำเภอแม่กุ อำเภอแม่สอด ให้สัมภาษณ์ “คมชัดลึก” เรื่องนี้ว่า ในชีวิตยังไม่เคยเห็นช้างน้ำ แต่เชื่อว่ามีจริง พ่อเคยบอกว่าช้างตกมันก็ยังไม่กล้าทำร้ายคนถืองาช้างน้ำ เพราะกลัว แม้แต่เอางาช้างน้ำไปซ่อนไว้ในโพรงไม้ ช้างตัวใหญ่ยังไม่กล้าข้าม
มีความเชื่อทางไสยศาสตร์กันว่า ใครที่พกงาช้างน้ำจะแล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง จึงมีช้างน้ำออกมาเป็นข่าวปั่นราคากันหลายราย บ้างก็จบแบบถูกจับได้ว่าเอาสัตว์ประเภทหนูมาเสียบงาปลอมเข้าไป
ช้างน้ำจึงเป็นเรื่องลึกลับเช่นเดียวกับเหล็กไหล ที่ยังไม่มีการพิสูจน์ และเป็นความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์กันต่อไป