xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแผนดำเนินงาน TMB ปี 61 ตั้งเป้า “ลูกค้าชื่นชอบ-บอกต่อ” มากที่สุดในปี 65

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ธนาคารทหารไทย หรือทีเอ็มบี เผยทิศทางดำเนินงานในปี 2561 ด้วยกลยุทธ์ “Get MORE” ได้มากกว่าที่ทีเอ็มบี หวังลูกค้าบุคคล-ธุรกิจเลือกเป็นธนาคารหลัก ตั้งเป้าเป็นธนาคารที่ลูกค้าชื่นชอบและบอกต่อมากที่สุดในในไทย อีก 4 ปีข้างหน้า

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2561 ว่า ทีเอ็มบีได้ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ที่เรียกว่า Get MORE with TMB ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ใช้ง่ายและสะดวก สร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้บริการธนาคารที่ตรงกับรูปแบบการประกอบธุรกิจ และใช้ชีวิตในยุคดิจิตอลแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม โดยตั้งเป้าหมายขึ้นชั้นเป็นธนาคารที่ลูกค้าชื่นชอบและบอกต่อมากที่สุดในประเทศไทย (The Most Advocated Bank in Thailand) ภายในปี 2565

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพบว่ามีคนต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมธนาคาร คิดเป็นเงินเกือบ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ถือว่าไม่จำเป็น จึงตอบโจทย์ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ลูกค้าที่ไม่เคยได้รับมาก่อน เช่น บัญชีทีเอ็มบี ออล ฟรี (TMB All Free) สำหรับทำธุรกรรมที่ไม่มีค่าธรรมเนียม พร้อมกับบัญชีเพื่อออม ทีเอ็มบี โน ฟิกซ์ (TMB No Fixed) ที่ให้ดอกสูง มีความยืดหยุ่น ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ไม่กำหนดยอดคงเหลือขั้นต่ำในบัญชี และระยะเวลาการฝาก จึงออมเงินและลงทุนให้บรรลุเป้าหมายด้วยความง่ายและสะดวก

ส่วนลูกค้าธุรกิจ ต้องการดำเนินธุรกิจได้ราบรื่นและเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ หมดความกังวลด้านธุรกรรมธนาคาร จึงมีบริการ Supply Chain Financing Solutions เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของลูกค้าธุรกิจ, บัญชี ทีเอ็มบี เอสเอ็มอี วัน แบงก์ (TMB SME One Bank) ที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งทีเอ็มบีจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำการเป็นธนาคารที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด ง่ายและสะดวก และเมื่อลูกค้ามาใช้บริการทีเอ็มบีเป็นธนาคารหลักเป็นประจำ จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า มีเวลาใช้ชีวิตมากขึ้นสำหรับเรื่องอื่นที่สำคัญ และมีโอกาสที่ดีเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรในหลายส่วนเพื่อลดความซับซ้อนให้เป็นองค์กรแบบราบ มีระดับชั้นการบังคับบัญชาสั้นลงเหลือเพียง 5 ชั้น พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน และพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อให้มีความคล่องตัวฉับไวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า รวมทั้งการบริหารจัดการข้อมูล (Big Data) และนำข้อมูลที่มีอยู่มากมายให้สามารถนำมาใช้อย่างเป็นระบบและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะทำให้เราสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงใจลูกค้าอย่างแท้จริงได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับจำนวนสาขานั้น นายปิติกล่าวว่า ปัจจุบันทีเอ็มบีมีสาขาอยู่ประมาณ 430 แห่ง จากเมื่อ 10 ปีที่แล้วมีอยู่ 500 สาขา หากจะนับว่าแต่ละปีมีการยุบสาขาเท่าไหร่อาจจะไม่สอดคล้องกัน เพราะทุกปีมีการเปิดสาขาใหม่ควบคู่กับการปิดสาขา แต่ไม่เคยตั้งเป้าที่จะลดจำนวนสาขา ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของจำนวนฐานลูกค้า โดยรวมแล้วจะเห็นตัวเลขสาขาลดลง แต่ไม่ได้ลดลงแบบก้าวกระโดด เชื่อว่าจำนวนสาขา ลูกค้าที่โตและช่องทางดิจิทัลที่คุ้นชินมากขึ้นก็จะทำให้รูปแบบสาขาเปลี่ยนไป ลูกค้าจะเข้าสาขาเพื่อทำธุรกรรมในเรื่องยากๆ เช่น สินเชื่อเอสเอ็มอี หรือการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งจะมีระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์จากสำนักงานใหญ่รองรับ

ด้าน นายรูว์ ไฮซแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลูกค้ารายย่อย กล่าวว่า ในปีนี้จะให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า ผ่านโปรแกรมสะสมคะแนนที่เรียกว่า ทีเอ็มบี ว้าว (TMB WOW) จากการทำธุรกรรม เพื่อแลกรับของรางวัลที่หลากหลาย ยกระดับการทำธุรกรรมทางธนาคารให้มีสีสันมากขึ้น ควบคู่ไปกับแอปพลิเคชัน TMB Touch โดยเป้าหมายระยะยาวคือ ขยายฐานลูกค้าที่ใช้ทีเอ็มบีเป็นธนาคารหลักเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านคน และเพิ่มสัดส่วนผู้ใช้แอปพลิเคชันจาก 35% เป็น 75% ของจำนวนลูกค้าที่แอคทีฟทั้งหมด นอกจากนี้ยังยกระดับบริการ ทีเอ็มบี แอดไวเซอรี (TMB Advisory) แก่ลูกค้าที่ลงทุนในกองทุนรวม ด้วยกองทุนตัวท็อปจาก 8 บลจ.ชั้นนำ พร้อมบริการให้คำแนะนำจัดสรรสัดส่วนการลงทุน กับบริษัท Amundi ที่ปรึกษาการลงทุนระดับโลก

ส่วน น.ส.เทียนทิพย์ นาราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลูกค้าเอสเอ็มอี กล่าวว่า จะมีสิทธิประโยชน์ที่เรียกว่า ทีเอ็มบี เอสเอ็มอี ว้าว (TMB SME WOW) มอบคะแนนสะสมให้ลูกค้าเอสเอ็มอีในทุกธุรกรรมการเงิน พร้อมกับผลิตภัณฑ์แอปพลิเคชัน TMB Business Touch และบัญชี ทีเอ็มบี เอสเอ็มอี วัน แบงก์ ซึ่งตอบโจทย์ด้านธุรกิจ เช่น สิทธิ์ในการเข้ารับอบรมสัมมนาเพื่อนำความรู้มาใช้ในการพัฒนากิจการ สิทธิประโยชน์พิเศษในด้านการใช้บริการด้านโลจิสติกส์ การทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ยังมีบริการ ทีเอ็มบี เอสเอ็มอี แอดไวเซอรี (TMB SME Advisory) ให้ลูกค้าเอสเอ็มอีสามารถนัดหมายกับสาขา เพื่อขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เริ่มต้นที่ 15 สาขาอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น