เปิดสาเหตุการขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนเซนต์คาเบรียล มาจากงานเลี้ยงวันเกิดช่วงตรุษจีน มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งที่เป็นเงินจากระดมทุนปผู้ปกครอง อีกทั้งจัดเลี้ยงอาหารกลางวันไม่มีคุณภาพ พบปีที่แล้วมีผู้ร้องเรียนเพราะอนุมัติจ่ายเงินค่าจ้างพนักงาน นักการภารโรงล่าช้า แต่เจ้าตัวอ้างว่าเพราะไม่พอใจที่จ้างคนนอกตรวจสอบค่าโอที
วันนี้ (19 ก.พ.) จากกรณีที่ครู ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และนักเรียนปัจจุบัน โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ชุมนุมเพื่อร้องเรียนปัญหาธรรมาภิบาล การใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ และเรื่องสวัสดิการของครู โดยเฉพาะการบริหารงานที่ไม่โปร่งใสของ ภราดา ผศ.ดร.วินัย วิริยวิทยาวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
แหล่งข่าวจากผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบรียลรายหนึ่ง เปิดเผยกับ MGR Online ว่า สืบเนื่องจากในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ภราดา ผศ.ดร.วินัย ได้แต่งกายจัดงานวันตรุษจีน เลี้ยงวันเกิดภราดา ผศ.ดร.วินัย และมีการจัดเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีภาพแพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย ซึ่งผู้ปกครองมองว่าเป็นการใช้งบที่ระดมทุนไปในกิจกรรมไม่เหมาะสม
ส่วนเรื่องการจัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นักเรียน พบว่า อาหารกลางวันที่โรงเรียนจัดให้ ไม่มีคุณภาพ เป็นเพียงต้มจืดที่มีเนื้อหมูเพียงน้อยนิด พร้อมข้าวสวย และของทอดเพียงเล็กน้อย ทั้งๆ ที่ค่าเล่าเรียนไม่ใช่ถูกๆ แต่เมื่อวันนี้มีการประท้วง จึงได้เปลี่ยนมาเป็นกับข้าวอย่างดี 2 อย่าง ข้าวสวยเพิ่มขึ้น และผลไม้
อนึ่ง เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว (2560) มีกลุ่มบุคคลในโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ได้ยื่นหนังสือถึง ภราดาสุรสิทธิ์ สุขชัย อธิการเจ้าคณะภราดาเซนต์คาเบรียล แขวงประเทศไทย เพื่อให้ดำเนินการย้ายผู้อำนวยการโรงเรียน โดยระบุว่า มีพฤติกรรมไม่ใส่ใจการบริหารงานโรงเรียน ทำให้งานของโรงเรียนชะลอตัว ไม่ก้าวหน้า การอนุมัติจ่ายเงินค่าจ้างพนักงาน นักการภารโรงเป็นไปอย่างล่าช้า นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งบุคคลภายนอกโรงเรียน เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาพิเศษ ซึ่งขัดต่อธรรมนูญโรงเรียนที่นำคนนอกมาเป็นหัวหน้างานโดยข้ามขั้นตอน เนื่องจากการแต่งตั้งหัวหน้างานต้องมาจากครู พนักงานที่มีอายุงานตามกำหนด
แต่ภายหลัง ภราดา ผศ.ดร.วินัย ชี้แจงว่า การร้องเรียนไปยังอธิการเจ้าคณะภราดาเซนต์คาเบรียล แขวงประเทศไทย มาจากบุคคลบางกลุ่ม ไม่พอใจที่ตนเข้ามาตรวจสอบเรื่องของค่าล่วงเวลา (ค่าโอที) ส่วนการแต่งตั้งบุคคลภายนอก เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของการเบิกค่าล่วงเวลาในส่วนของงานโภชนาการ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทุกองค์กรก็ดำเนินการ