จับกระแสยกเลิกคอนเสิร์ตใหญ่ “มันยกแกะ” เสียชื่อชาวเชียงใหม่ ตั้งข้อสังเกตโปรดักชันคงรู้วีรกรรม เลยเรียกเงินล่วงหน้า 2 แสน ชี้ต่อให้งานใหญ่เนรมิต 1 วันได้ถ้าเงินถึง ด้านเพจดัง “คนเชียงใหม่ปลอม” ตั้งข้อสังเกตไม่มีทุนสำรองเลยหรือ แฉคอมเมนต์วีรกรรมเคยเบี้ยวค่าโปรดักชันไปทั่ว ส่วนเจ้าของค่ายเพลงชี้ชัดต้นทุนและกำไรคอนเสิร์ตมาจากสปอนเซอร์เท่านั้น ที่ขายบัตรได้คือกำไร
กลายเป็นเรื่องที่ทำเอาปั่นป่วนไปทั้งจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับคอนเสิร์ต “มัน ยก แกะ” ที่กำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 18 ก.พ. ที่ลานเนินนุ่ม สนามขี่ม้า หน้าปากทางห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จู่ๆ ได้มีประกาศยกเลิกการจัดงานกะทันหัน อ้างว่าทางโปรดักชันแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ เรียกร้องเงิน 200,000 บาท หากไม่จ่ายจะรื้อถอนเวที และเมื่อผู้จัดไม่สามารถหาทีมโปรดักชันอื่นมาแทนได้ทันเวลาจึงยกเลิกงาน เดือดร้อนไม่ใช่เพียงแค่ผู้ที่ซื้อบัตรเท่านั้น ศิลปินบางคนยังถูกผู้จัดยกเลิกงาน ยกเลิกที่พัก เงินค่าจ้างก็ไม่ได้สักบาท รวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าที่จะออกร้านภายในงาน ต่างลงทุนซื้ออาหารสดเตรียมไว้ก็ขายไม่ได้
สำหรับผู้จัดงานคอนเสิร์ต “มันยกแกะ” ได้แก่ นายวัฒนา วัฒนพานิช หรือวิน อายุ 26 ปี ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมด้วย น.ส.อัญมณี ภักดี อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 และนายสมปราชญ์ ภิราษร
“นายวิน” ยอมรับว่าขายบัตรไปได้ทั้งสิ้นประมาณ 2,200 ใบ ได้เงินมาทั้งสิ้นประมาณ 6-7 แสนบาท ซึ่งก็ได้นำไปใช้จ่ายในการเตรียมจัดงาน เช่น จ่ายค่านักร้องศิลปิน ค่าจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์งาน ฯลฯ จนเวลานี้เหลือเงินอยู่ไม่กี่พันบาท ทำให้ยังไม่สามารถจ่ายคืนให้ทางผู้ซื้อบัตรได้
นายวินยอมรับว่า ที่ผ่านมาเคยจัดงานและมีปัญหาลักษณะเดียวกันนี้จริง แต่ยืนยันว่ามีเหตุผลที่อธิบายได้และไม่ได้หลอกลวง ส่วนผู้ที่ซื้อบัตรไปแล้วคืนเงินค่าบัตรทั้งหมดภายใน 31 พ.ค.นี้
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ค้า ผู้จัดตกลงที่จะชดใช้เงินคืนให้กลุ่มผู้ค้าที่ได้รับความเสียหายประมาณ 50 ราย เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 60,000-70,000 บาท ในวันที่ 5 มี.ค. โดยได้ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.แม่ริม เป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม ผลของงานคอนเสิร์ตเจ๊งไม่เป็นท่า ได้มีความเห็นออกมาที่หลากหลาย เช่น ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Warapong” ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ผู้จัดงานคอนเสิร์ตงานหนึ่งพาดพิงไปถึงทีมโปรดักชันนั้น แม้โดยปกติการจ่ายเงินมัดจำก้อนแรก และจ่ายอีก 2 แสนบาทหลังจบงาน จะเป็นเรื่องปกติ แต่การที่โปรดักชั่นแห่งนั้นเรียกเงินทีเหลือ 2 แสนบาททั้งหมดก่อนงานเริ่ม แสดงว่าโปรดักชันนั้นเห็นว่าไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะส่อว่าจะถูกเบี้ยวเงิน และเมื่อผู้จัดเสียเครดิต เลยต้องทำแบบนี้กัน
นอกจากนี้ คอนเสิร์ตกลางแจ้งที่รองรับผู้ชม 5,000-10,000 คน หากต้องการเพิ่มเวทีให้เป็นขนาดใหญ่ แต่ไม่เพิ่มไฟ เพิ่มจอ และเพิ่มลำโพงให้ใหญ่ตามขนาดเวที ถือว่าเพียงพอหรือไม่
“ถึงซัปพลายเออร์เจ้านี้เขาไม่ทำให้ คิดว่าจะไปหาเจ้าอื่น ก็คงไม่มีใครมาทำให้เช่นกัน เพราะเจ้าใหญ่ๆ ในเชียงใหม่ มันมีไม่กี่เจ้า ซัปพลายเออร์มืออาชีพสามารถเนรมิตทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดได้ภายในคืนเดียว อย่ามาอ้างว่าหาไม่ทัน อย่าคิดว่าไม่มีคนทำได้ มันมีคนทำได้เสมอแหละ ขอแค่เงินถึง จะจัดคอนเสิร์ตทั้งที ค่าศิลปินรับ 1 ล้านถึง 2 ล้านบาท จ้างโปรดักชันแค่ 2 แสนกว่าบาท ลูกค้าจะได้เสพอะไร” ความเห็นของ Warapong ระบุ
เฟซบุ๊กเพจ “คนเชียงใหม่ปลอม” ซึ่งเผยแพร่ความคืบหน้าการยกเลิกจัดคอนเสิร์ต “มันยกแกะ” ระบุว่า รถแห่เครื่องเสียง 2 คัน ป้าย 100 ชุดพร้อมติดตั้ง รวม 54,000 บาท ก็ยังไม่ได้รับเงินจากผู้จัด
ขณะเดียวกันยังได้เผยแพร่ข้อความคอมเมนต์จากผู้ที่เคยถูก “นายวิน” ว่าจ้างให้จัดโปรดักชัน ระบุว่า ตนได้จัดงานอีเวนต์งานหนึ่ง เหมาราคา 9 หมื่นบาท ที่โชว์รูมรถแห่งหนึ่ง จนวันนี้ไม่ได้เงินสักบาท อ้างว่าขาดทุน
บางคนบอกว่า เขามักจะอ้างว่า “ขาดทุน” ทุกงาน ศิลปินยังบอกว่าเงินไม่ได้ก็มาให้ ถือว่าช่วยน้อง แต่รอบนี้ศิลปินบอกว่าถ้าไม่จ่ายหมดไม่ต้องมา และเห็นว่าเขาไม่กล้าพูดความจริง อ้างโปรดักชัน
หลังจากที่เพจ “คนเชียงใหม่ปลอม” ได้เผยแพร่บทสนทนาดังกล่าว พบว่ามีผู้เสียหายนามว่า “Chanatip” คอมเมนต์ ระบุว่า เคยถูกเบี้ยวเงินในการจัดงานพืชสวนโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
พบว่า เขาใช้วิธีจัดการโดยหาคนที่ผู้เสียหายเชื่อใจ หรือน่าเชื่อถือ เป็นผู้ประสานงานอีกที อ้างว่ามีกำลังจ่ายสูง รู้จักบุคคลที่มีชื่อเสียง จึงเชื่อใจทำงานให้ก่อน พอต้องทวงเงินจึงต้องเกรงใจคนที่ประสานงานให้เราอีก
“เป็นการเสียเครดิตหลายทอด ทำให้เขาลอยนวลได้ตลอด เหมือนอารมณ์แบบกู้เงินหาคนค้ำ แต่คนค้ำสนิทกับคนปล่อยกู้ คนปล่อยกู้จะฟ้องไหมล่ะ” คอมเมนต์จาก Chanatip กล่าวเปรียบเทียบ
อีกบทสนทนาหนึ่ง ระบุถึงคำชี้แจงจากผู้จัด ระบุถึงงการคืนเงินที่ต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน ว่า “เราขายบัตรได้ 2,000 ใบ เป็นเงิน 5 แสนบาทโดยประมาณ แต่งบการจัดงานอยู่ที่กว่า 1 ล้านบาท ค่าตั๋วเครื่องบินแพงขึ้น โดนยกเลิกการสนับสนุนสายการบิน”
“เราต้องจัดการทุกอย่างใหม่ซึ่งกะทันหันมาก ยอดบัตรไม่พอต่อการดำเนินการต่อ เราไม่ได้อยากยกเลิกงานเลย จะรีบจัดการทางกฎหมายแล้วหาเงินมาเคลียร์”
เพจ “คนเชียงใหม่ปลอม” ตั้งข้อสงสัยว่า งานนี้ไม่ได้มีเงินทุนสำรองสำหรับจัดการก่อนเลยหรือ?
ในส่วนของตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ปกติแล้วงานระดับนี้จองกันล่วงหน้าหลายอาทิตย์ เป็นเดือน เพื่อให้ได้ตั๋วที่แน่นอน และราคาถูกกว่าจองใกล้งาน รวมถึงเงินมัดจำศิลปินต่างๆ อีก เท่าที่ทราบและได้พูดคุยกับศิลปินหลายวง ไม่ได้มีการมัดจำเงินค่าตัว รวมถึงแจ้งรายละเอียดการคอนเฟิร์มการเดินทาง ที่พัก ต่างๆ ให้ผู้จัดการวงทราบ ขณะที่ผู้จัดการบางวงยกเลิกงานเพื่อป้องกันความเสี่ยงความเสียหายที่จะเกิดกับทางบริษัทค่ายเพลง ค่าเสียโอกาสของตัวศิลปินเอง พูดตามเนื้อผ้า ตอบปัญหาแบบนี้โยนความผิดให้สปอนเซอร์อีก ถือว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ
นอกจากนี้ ในส่วนของการขายบัตร เมื่อผู้จัดระบุว่าจะคืนเงินค่าบัตรทั้งหมดภายใน 31 พ.ค.นี้ ก็มีคนออกมาเตือนว่า หากในวันดังกล่าวยังไม่ได้รับเงินคืนจะฟ้องในข้อหาฉ้อโกงก็ไม่ได้ เพราะขาดอายุความ
ขณะที่เฟซบุ๊ก “Thep Pilan Phongparnich” ของ ท็อป-เทพ ปิลันธน์ พงษ์พานิช เจ้าของค่าย Summer Disc ระบุว่า จากประสบการณ์ที่เคยทำงานคอนเสิร์ตมา การจัดงานมันยกแกะ พบว่ามีการประชาสัมพันธ์อย่างยิ่งใหญ่ เขาตั้งข้อสังเกตว่า โปสเตอร์หรือสื่อประชาสัมพันธ์ ไม่มีผู้สนับสนุนหลัก (Main Sponsor) ทั้งที่การแสดงดนตรีในระดับเทศกาล ยิ่งศิลปินใหญ่หรือค่ายใหญ่ ต้องมีผู้สนับสนุนหลักตั้งแต่วันแรกประกาศไลน์อัพ หรือการเริ่มงาน
นอกจากนี้ บัตรคอนเสิร์ตกลับขายโดยไม่ผ่านตัวแทนออนไลน์อะไรเลย ทั้งที่เชียงใหม่ก็มีไทยทิคเก็ตเมเจอร์ และเคาน์เตอร์เซอร์วิสบริการ ก็จะมีความไม่น่าไว้วางใจ ไม่น่าเชื่อถือมาอยู่บ้างแล้ว
เขาระบุว่า หลักการจัดคอนเสิร์ตที่สำคัญ คือ ต้นทุนทั้งหมดและกำไร ต้องได้มาจากการขายสปอนเซอร์เท่านั้น รายได้จากการขายบัตรถือเป็นผลพลอยได้ และโดยส่วนใหญ่ ครึ่งหนึ่งของจำนวนบัตรจะเป็นของสปอนเซอร์ และผู้มีอุปการคุณอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงาน โปรโมเตอร์ (ผู้จัด) มืออาชีพ และรู้งานเท่านั้นที่รู้กฎเกณฑ์ข้อนี้เป็นอย่างดี