xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : "ประวิตร" เมื่อเธอไม่ต้องการ...ฉันก็จะไป | คดีพลิก "หวยอลเวง" | พ่อพิมพ์เสื่อมทราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

หมายเหตุ : เนื่องจากเว็บไซต์ MGR Online กำลังปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ ต้องการชมเนื้อหาย้อนหลัง คลิก https://bit.ly/mgrtop7 ขออภัยในความไม่สะดวก

(สรุปข่าวประจำวันที่ 27 ม.ค. - 2 ก.พ. 2561)

อันดับ 1 : ประวิตร : ถ้าประชาชนไม่ต้องการ พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้

กลายเป็นประเด็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ สำหรับการเปิดใจแบบยืดยาวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ที่กำลังมีเรื่องนาฬิกาหรูและแหวนเพชร เมื่อวันที่ 31 ม.ค. กล่าวในงานเลี้ยงหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม รวมถึงสื่อมวลชนสายทหาร ว่า กระทรวงกลาโหมได้สนับสนุนรัฐบาลมาตลอดเวลา 3 ปี 8 เดือน ยอมรับว่าทำงานด้วยความยากลำบาก แต่ได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากสื่อ แม้มีคนจำพวกหนึ่งพยายามกล่าวหารัฐบาลทำงานไม่ได้ผลก็ตาม ตนรับราชการมาตั้งแต่ปี 2511 จนถึงขณะนี้ผ่านมา 50 ปีแล้ว ได้ทำอะไรที่เสียหายกับประเทศชาติบ้านเมืองหรือไม่ ตนเข้ามาเพราะอยากจะช่วยเหลือบ้านเมือง อยากทำงานให้บ้านเมือง ถ้าประชาชนไม่ต้องการ ก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้ เพราะฉะนั้นอยากจะฝากกับสื่อว่าอยากให้ดูว่า ตนทำงานมาตลอด 50 ปีได้ทำอะไรไว้บ้าง

อย่างไรก็ตาม ผลจากคำพูดของ "พล.อ.ประวิตร" ทำให้ประชาชนบนโลกโซเชียลจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ โดยผลสำรวจแต่ละเฟซบุ๊กเพจพบว่า ประชาชนสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตร ลาออกจากตำแหน่งมากกว่าร้อยละ 90 ขณะที่ นางทิชา ณ นคร อดีตสมาชิก สปช. ได้ออกแคมเปญรณรงค์ "อยากให้รองนายกประวิตรฯ ลาออก ตามที่ท่านได้กล่าวไว้เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 61 ที่กระทรวงกลาโหม" ผ่านเว็บไซต์ Change.org พบว่าประชาชนกว่า 5 หมื่นคนร่วมลงรายชื่อต่อแคมเปญดังกล่าว แต่อีกด้านหนึ่ง ได้มีกลุ่มประชาชนจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร ที่กระทรวงกลาโหม แต่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เตรียมเอาผิดในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมทางการเมืองปี 2558 สั่งการให้ตำรวจ สน.พระราชวัง ร้องทุกข์กล่าวโทษและดำเนินการตามกฎหมาย

อันดับ 2 : คดีพลิก! ตำรวจยัน "ครูปรีชา" เจ้าของหวย 30 ล้าน ฟัน "ร.ต.ท.จรูญ" เมินผลนิติวิทยาศาสตร์

คดีพิพาทสลากกินแบ่งรัฐบาลระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ กับ นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี หลังต่างฝ่ายต่างอ้างเป็นเจ้าของหวยชุด รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. มูลค่า 30 ล้านบาท แม้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจดีเอ็นเอบนสลาก พบเพียงรอยนิ้วมือของ ร.ต.ท.จรูญ แต่นายปรีชาก็อ้างว่าลอตเตอรี่ถูกใส่อยู่ในซองพลาสติก ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 31 ม.ค. พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 ระบุว่า จากการสอบปากคำพยานกว่า 40 ปาก ยืนยันว่านายปรีชาเป็นเจ้าของลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เพราะมีพยานยืนยันว่าขายให้นายปรีชาจริง แต่ ร.ต.ท.จรูญ เป็นผู้เก็บสลากได้ ซึ่งจะแจ้งข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์ และรับของโจร ส่วนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในตลาด ไม่มีภาพบันทึก เนื่องจากถูกลบไปหมดแล้ว



หลังสังคมทราบข่าวต่างเคลือบแคลงสงสัยถึงการทำคดีแบบคลุมเครือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า ถ้าแจ้งข้อหา คงไปสู้กันต้องหาพยานหลักฐานไปสู้กันในชั้นอัยการ และที่ทางตำรวจชี้ผิด ร.ต.ท.จรูญ ตนก็คิดว่าตำรวจไม่ให้ความเป็นธรรมเพราะเชื่อแต่พยานบุคคล ส่วน ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า ยืนยันว่าซื้อสลากมาก็เก็บใส่กระเป๋าอย่างดี ไม่ได้ทำหล่นจนต้องก้มเก็บ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนเห็น เตรียมนำครอบครัวไปศาลหลักเมืองกาญจนบุรี เพื่อสาบานว่าที่ผ่านมาพูดความจริง ไม่ได้โกหก และขอท้าครูปรีชาและพยานทุกคน รวมถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งไปร่วมสาบานด้วย แต่นายปรีชากล่าวว่า เลยเวลาที่จะมาสาบานต่อศาลหลักเมืองแล้ว คงต้องไปสาบานต่อศาลยุติธรรม ไม่อยากตอบโต้อะไร ขอพักผ่อนอยู่บ้าน

อันดับ 3 : พ่อพิมพ์เสื่อมทราม! ผอ.จับนักเรียนทำเมีย มาถึงครูข่มขืนนักเรียน

เรื่องเสื่อมทรามเกี่ยวกับบุคลากรทางการศึกษายังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่นายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ถูกร้องเรียนว่ามีสัมพันธ์ชู้สาวกับนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเดียวกัน จนถูก สพป.นครราชสีมาเขต 6 สั่งพักราชการ จากนั้นเข้ามอบตัวต่อตำรวจ สภ.บัวใหญ่ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ก่อนถูกแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์และหมิ่นประมาท และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ต่อมาผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.2 กลับคำให้การจากเดิมบอกว่าไม่มีอะไรกัน กลายเป็นว่าก่อนหน้านี้ถูกรุ่นพี่ชาย ม.3 ข่มขืน พาไปอยู่ด้วยกัน จากนั้นนายณฐาภพมาเป็น ผอ. ถูกกระทำชำเราในรีสอร์ตหลายที่หลายครั้ง นายกว่า 5 เดือน จนแชตไลน์หลุดดังกล่าว

อีกคดีหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน จับกุม นายเฉลิมชัย พรหมประภัศร อายุ 52 ปี อาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนวัดนางสาว หลังข่มขืนนักเรียนชั้น ม. 1 วัย 13 ปีในห้องปกครองของโรงเรียนตั้งแต่ปี 2559 ขู่ว่าถ้าไปบอกใครจะนำคลิปตอนที่นักเรียนหญิงโป๊ลงในเฟซบุ๊กเพื่อประจาน ต่อมาได้พาไปที่โรงแรมม่านรูดย่านถนนเพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน อีก 2 ครั้ง ก่อนที่ผู้ปกครองทราบเรื่อง และมีพลเมืองดีแจ้งมายังมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ระหว่างไปที่บ้านเพื่อจับกุม นายเฉลิมชัยพยายามฆ่าตัวตาย แต่ก็จับกุมได้ในที่สุด สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพ ก่อนนำตัวฝากขังศาลจังหวัดสมุทรสาคร โดยคัดค้านการประกันตัว

อันดับ 4 : คุก 20 ปี "ยิ่งยง ยอดบัวงาม" พรีเซ็นเตอร์ขายปุ๋ย โดนข้อหาฉ้อโกงประชาชน

นักร้องลูกทุ่งชื่อดังถูกจำคุกคดีฉ้อโกงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ศาลจังหวัดมีนบุรีสั่งจำคุก นายประยงค์ บัวงาม หรือยิ่งยง ยอดบัวงาม คนละ 13 กระทง กระทงละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 39 ปี ทางนำสืบของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา อยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุกคนรวมจำคุกคนละ 26 ปี แต่ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี ดังนั้นเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกทั้งสิ้น กำหนดคนละ 20 ปี หลังตกเป็นจำเลยร่วมกับพวกอีก 15 คน ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน จากการขายสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตร ในนาม บริษัท แทนคุณแผ่นดินสยาม จำกัด บริษัท เกษตรสบาย จำกัด บริษัท สุดยอดไอเดีย (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท พสิษฐ์ ปุ๋ยไทยอินเตอร์ จำกัด มูลค่าความเสียหายที่ถูกฟ้องประมาณ 11 ล้านบาท

ต่อมาศาลให้ประกันตัว ยิ่งยง ด้วยหลักทรัพย์ 5 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล เจ้าตัวกล่าวว่า มูลเหตุที่เกิดขึ้นจนทำให้ต้องเป็นคดีฟ้องร้องครั้งนี้ เกี่ยวกับเรื่องของการโปรโมตสินค้าแต่ไม่ขอพูดถึงในรายละเอียด ภายหลัง นางมลฑาทิพย์ บัวงาม ภรรยาของยิ่งยง เปิดเผยว่า ยิ่งยงไม่ได้มีส่วนบริหารงานหรือลงนามเอกสารใดๆ แต่ให้หุ้นบริษัท 10% เป็นค่าพรีเซ็นเตอร์ และภรรยาอีก 5% โดยแต่งตั้งยิ่งยงเป็นประธานบริษัทในนามเท่านั้น ทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ไปร้องเพลง ไปพูดว่าปุ๋ย ดีอย่างไร ส่วนเจ้าของตัวจริงคือ นายปริญญา นิลรัตน์คุณ ปัญหาคือคนที่มาซื้อปุ๋ยขายฝากที่บริษัทเกษตรสบายเพราะขี้เกียจเอาไป แต่ไม่คืนเงินให้กับผู้ที่ฝาก ผู้เสียหายเลยรวมตัวกันฟ้องบริษัทดังกล่าว

อันดับ 5 : คืนพระจันทร์สีเลือด แฟนเก่ายิงอดีตนักข่าวทำเนียบดับ เหตุง้อขอคืนดีไม่สำเร็จ

เหตุสะเทือนขวัญคืนวันพระจันทร์สีเลือดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 1 ก.พ. พบศพ น.ส.เหมือนแพร ศรีสุวรรณ หรือ ทราย อายุ 33 ปี พนักงานบริษัทเอกชนรายหนึ่ง อดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ประจำทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่โหนกแก้มซ้าย 1 นัด หน้าอก 3 นัด และหน้าท้อง 2 นัด รวม 6 นัด ที่บ้านพักในย่านถนนศรีวารีน้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ต่อมาเวลา 06.00 น. นายยงยันย์ จันทะสะเร อายุ 38 ปี ติดต่อขอมอบตัวกับทาง สน.ทุ่งสองห้อง สารภาพว่าเป็นคนลงมือยิง เนื่องจากมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้แต่งงานกับ น.ส.เหมือนแพร ภายหลังหย่าร้างกันไปแล้ว ช่วงเกิดเหตุตนดื่มสุราจนเมาแล้วไปหาผู้ตายที่บ้านพยายามง้อขอคืนดี แต่ผู้ตายปฏิเสธ ทำให้เกิดความโมโหชักปืนยิงหลายนัด ก่อนโบกรถแท็กซี่เข้ากรุงเทพฯ พอสร่างเมาตั้งสติได้เกิดสำนึกผิดตัดสินใจเดินทางมามอบตัวทันที สำหรับอาวุธปืนได้มาจากเพื่อน ต่อมาตำรวจควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ โดยแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร



อันดับ 6 : จับ "เน โฮฟาทูร่า" เจ้าสำนักดาบ กระทำอนาจารเด็กหญิง

กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ตำรวจชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม จับกุม นายเวฒสุวรรณลักษณา เมฆาจันนัฒกาจ อายุ 31 ปี เจ้าของฉายา “เน โฮฟาทูร่า” ในข้อหากระทำอนาจารแก่เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ หลังผู้ปกครองเด็กหญิงอายุ 10 ปี แจ้งความกับตำรวจ สน.ท่าข้าม สืบเนื่องจากกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา เด็กหญิงวัย 10 ปี ได้ไปเรียนฟันดาบ ซึ่งได้ลงเรียนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จู่ๆ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ได้เล่าให้ผู้ปกครองฟังว่า ถูกหลอกให้เข้าไปห้อง อ้างว่า เป็นการทำพิธีก่อนที่จะไปฝึกวิชาฟันดาบ แล้วให้ถอดเสื้อผ้าออก ใช้ผ้าปิดตา ใช้สีเขียนตามร่างกาย และให้จูบปาก แต่เด็กหญิงไม่ทำตาม นายเวฒสุวรรณลักษณา จึงจูบปากและคอ ด้านเจ้าตัวอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาลวนลาม แต่ทำไปตามพิธีของสำนักดาบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีผู้เสียหายเป็นนักเรียนหญิงอีก 2 คน ได้แจ้งความดำเนินคดีเช่นกัน



สำหรับ นายเวฒสุวรรณลักษณา หรือ “เน โฮฟาทูร่า” แต่งกายคอสเพลย์แบบญี่ปุ่น เปิดสำนักสอนวิชาดาบ “ทาบูราชิ” เมื่อปี 2540 เพื่อหวังปราบปรามแก๊งอันธพาลและยาเสพติดในชุมชนย่านฝั่งธน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มีเด็กในพื้นที่หลายคนสนใจเข้ามาเรียนวิชาดาบและการต่อสู้ นอกจากนี้ ยังมีชื่อเสียงจากการท้าประลองฝีมือกับนักมวยชื่อดังอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” “สมรักษ์ คำสิงห์” และ “เน วัดดาว” รวมทั้งยังเคยขึ้นชกกับ “เสี่ยโป้” อภิรักษ์ ชัยอานนท์ อีกด้วย เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” และได้นำตัวผู้ต้องหาไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญาธนบุรีให้ออกหมายควบคุมตัว ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวเนื่องจากก่อเหตุ 2 ครั้งติดกันและเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง

อันดับ 7 : ไม่ใช่ด่านลอยแต่เป็นยุทธวิธี 2 ตำรวจทางหลวงดักสิบล้อ เจอชนท้ายรถเก๋งบาดเจ็บ

กลายเป็นคลิปที่วิจารณ์บนโลกโซเชียลถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อ เฟซบุ๊ก “Hawa Hawax” ของ น.ส.อรวี ชูชื่น หรือฮาวา ดิเอ็กซ์แฟกเตอร์ นักร้องเวทีประกวดรายการหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความและคลิประบุว่าประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกชนจนได้รับบาดเจ็บ และเครื่องดนตรีได้รับความเสียหาย หลังตำรวจทางหลวงพระนครศรีอยุธยา 2 นาย ทราบชื่อภายหลังคือ ด.ต.ดนัย ซ่อนกลิ่น และ ด.ต.ประจักษ์ แป้นสุวรรณ์ โบกรถยนต์บนถนนให้หยุดกะทันหัน เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา บนถนนสาย 347 (ปทุมธานี-บางปะหัน) กม.26 ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าตัวต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาวดี สังคมเกิดความกังขาถึงการตั้งด่านลอยว่าเหมาะสมหรือไม่

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทำตามยุทธวิธี แต่อาจเป็นอุบัติเหตุทำให้รถชนกัน ซึ่งการตั้งด่านของตำรวจทางหลวงและท้องที่ลักษณะคนละแบบ แล้วแต่พื้นที่และความเหมาะสมในตอนนั้น เชื่อว่าด่านลอยแทบไม่มีแล้ว แต่ถ้าไม่ตั้งด่านเลยอาชญากรรมก็อาจจะโผล่ขึ้นมาเยอะ ทั้งนี้ ได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายแล้ว อีกด้านหนึ่ง อาการบาดเจ็บของ น.ส.อรวี สแกนสมองพบว่าปกติ แต่ยังมีอาการเจ็บช้ำตามร่างกาย แต่ตำรวจทางหลวงทั้ง 2 นายยังไม่ได้เยี่ยม ตอนนี้ต้องการคนรับผิดชอบเรื่องค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลมากกว่า ส่วนแฟนหนุ่มยังเคลือบแคลงสงสัยร้อยเวร สภ.บางปะอิน กลับลงบันทึกประจำวันโดยไม่สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเรียกร้องความยุติธรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น