กลุ่มอิสระล้อการเมืองแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผย 5 หุ่นล้อการเมือง ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 72 เด่นสุด “ยักษ์นนทก” แขนซ้ายคืนเพื่อนแล้ว สักยันต์ด้านหลัง “แต่ผมไม่ตาย!” ส่วนสี่หุ่นที่เหลือเจ็บจี๊ด ทั้งตาชั่งเอียง นายทุนกินรวบ รถไฟไม่เชื่อมโยง และ รัฐธรรมนูญแฝงนายกฯ คนนอก
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อเวลา 14.30 น. กลุ่มอิสระล้อการเมืองแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เผยโฉมหุ่นล้อการเมืองในการแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 72
ขบวนแรก “นนทก” ยักษ์ทวารบาลในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ จุดเด่นตรงที่แขนซ้ายเขียนคำว่า “คืนเพื่อนแล้ว” ด้านหลังเป็นรูปสักยันต์ พร้อมระบุคำว่า “แต่ผมไม่ตาย!” กล่าวว่า เป็นยักษ์ล้างตีนที่มีอำนาจพิเศษ แต่ใช้อำนาจไปในทางฉ้อฉล จนอำนาจกลับมาทำลายตัวเองและพวกพ้อง
ขบวนที่ 2 “ตาชั่ง” เปรียบเทียบการบริหารจัดการงบประมาณของรัฐ ที่มาจากภาษีประชาชนแต่กลับนำไปทุ่มเทให้กับงานด้านความมั่นคง ทั้งการจัดซื้อรถถัง เครื่องบิน และ เรือดำน้ำ มากกว่าสวัสดิภาพของประชาชน โดยเฉพาะสวัสดิการด้านสุขภาพ อย่างโรงพยาบาลและยารักษาโรค จนมีการรณรงค์โครงการก้าวคนละก้าวขึ้นมา
ขบวนที่ 3 ชื่อ “ม้วนแผ่นดิน” เปรียบได้กับการรุกคืบยึดที่ดินของกลุ่มนายทุนไทย จนมีสัดส่วนเป็นเจ้าของที่ดินถึงร้อยละ 80 ในประเทศ ขณะที่คนจนที่สุดส่วนใหญ่ต้องเบียดเสียดในที่ดินจำนวนจำกัด ที่สำคัญ ยังร่วมมือกับรัฐบาลในการตั้งกติกาที่เอื้อประโยชน์อย่างการออกกฎหมายภาษีที่ดิน
ขบวนที่ 4 “รถไฟ” เปรียบเสมือนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของรัฐบาล ที่จนถึงขณะนี้ระบบขนส่งสาธารณะก็ยังไม่มีความเชื่อมโยงกันทั้งระบบ และไม่มีความสะดวกสบาย นั่งรถไฟความเร็วปานกลาง 35 กิโลเมตร ต้องมาเปลี่ยนนั่งรถด่วนธรรมดา
รถไฟฟ้าความเร็วสูงที่คนไทยตั้งตารอมาตั้งแต่ปี 2553 ถูกลดสเปกเหลือรถไฟรางคู่ความเร็วปานกลาง และไม่มีสร้างไปยังพื้นที่ภาคใต้ เท่ากับว่า รถไฟที่ใช้อำนาจพิเศษของรัฐบาลกำลังจะกลายเป็นกับของโครงการรัฐในหลายๆ โครงการ เท่ากับว่า อำนาจรัฐกำลังเริ่มเสื่อมความขลัง จนอะไรที่ดูแย่ๆ เริ่มปรากฏออกมาให้เห็น
และขบวนที่ 5 “รัฐธรรมนูญ” เป็นการสะท้อนแนวคิดร่วมกันของล้อจุฬาฯ และล้อธรรมศาสตร์ ที่มีลักษณะยักษ์ 3 ตนแบกพานรัฐธรรมนูญ โดยสะท้อนถึงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่บอกว่าไม่ยึดโยงอยู่กับประชาชน แม้จะบอกว่าผู้ร่างศึกษาและร่างขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชน และอยากเห็นความสงบสุขตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ล่วงหน้าถึง 20 ปี
ในช่วงแรกประชาชนดีใจและชื่นชม แต่กลับเห็นสิ่งที่สอดแทรกมา และเข้าไปตรวจสอบ เพราะกลัวพญายักษ์ที่สัญญาว่าขอเวลาไม่นาน ในการแก้ไขปัญหาจะแฝงตัวเข้าอยู่ในรัฐธรรมนูญโดยการเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก