นักข่าวสาวลุยเอง พาชาวบ้านเตรียมดำเนินคดีเหยื่อนายทุนหลอกลวงชาวบ้านให้ลงทุนปุ๋ยผลิตภัณฑ์เคมี เสียหายกว่า 10-40 ล้าน ที่สถานีตำรวจภูธรพบพระ จังหวัดตาก แต่ไปถึงไม่มีตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่เลย
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. เฟซบุ๊ก “Pukpang TA” หรือ ธิดารัตน์ อนันตรกิตติ ตำแหน่งนักข่าวภาคสนามของสำนักข่าวไทยพีบีเอส ได้ลงพื้นที่ไปทำข่าวที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งเธอได้ทำการไลฟ์สดคดีเหยื่อนายทุนและบริษัทยักษ์ใหญ่หลอกลวงให้ลงทุนต้องซื้อทั้งปุ๋ย ผลิตภัณฑ์เคมีทุกอย่างปลูกไร่อ้อย กำไรเอาไป แต่พอขาดทุนโยนให้เป็นภาระชาวบ้าน หนี้สินรุงรังรายละ 10-40 ล้าน โดยขณะที่เตรียมนำชาวบ้านไปโรงพักเพื่อดำเนินคดีนั้น พบว่าที่โรงพักสถานีตำรวจภูธรพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก กลับไม่มีตำรวจสักคนอยู่บนโรงพักเลย เป็นที่น่าสงสัยว่าเหตุใดถึงไม่มีตำรวจสักคน และขณะที่ชาวบ้านไปถึงนั้นเป็นเวลา 11.08 น.ก็อยู่ในช่วงเวลาราชการ โดยนักข่าวสาวยังได้พาไปดูตารางการปฏิบัติหน้าที่ก็ยังเป็นวันที่ 22 มกราคม 2561 ขณะที่วันนั้นคือ 27 มกราคม 2561 แล้ว
ทั้งนี้ เพจดัง “บิ๊กเกรียน” ได้ออกมาชื่นชมความกล้าหาญของนักข่าวสาวรายนี้ โดยมีเนื้อหาโพสต์ว่า “ทำหน้าที่กล้าหาญ สมเกียรติสื่อมวลชน นำเกษตรกร 53 ราย อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เหยื่อนายทุนและบริษัทยักษ์ใหญ่หลอกลวงให้ลงทุนต้องซื้อทั้งปุ๋ย ผลิตภัณฑ์เคมีทุกอย่างปลูกไร่อ้อย กำไรเอาไปแต่พอขาดทุนโยนให้เป็นภาระชาวบ้าน หนี้สินรุงรังรายละ 10-40 ล้าน ต่างรวมตัวเพื่ออาศัยช่องทางกฎหมายให้บรรเทาทุกข์ แต่กลายเป็นว่าพอขึ้นโรงพักหาหัวใครไม่เจอ เกิดอะไรขึ้น เกรงใจบริษัทยักษ์ใหญ่หรือใครมีคำสั่งมา พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐ์ฏากุล ผบก.จว.ตาก
นักข่าวสาวยังทิ้งวลีเด็ด คำขวัญดูแลประชาชนเพราะเงินเดือนมาจากภาษีของประชาชน ท่านเขียนโก้ๆ หรือคิดอย่างนั้นจริงๆ”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คลิปไลฟ์สดของนักข่าวสาวถูกแชร์ลงสู่โลกออนไลน์ ได้มีชาวโซเชียลฯ วิจารณ์ในด้านลบมากมาย และส่วนหนึ่งก็ชื่นชมในความกล้าหาญกล้าต่อสู้กับความไม่ถูกต้องของนักข่าวสาว โดยคลิปนี้มีผู้รับชมถึง 49,000 ครั้ง แชร์กว่า 1,300 ครั้ง
