เปิดใจเชฟไทย ผู้สร้างชื่อให้แกงมัสมั่นเป็นที่รู้จักถึงความอร่อยไม่แพ้ชาติใดในโลก ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศ ในโครงการเชฟไทยสู่ครัวโลกด้วย “เมนูมัสมั่นไก่ฟรุตตี้” พร้อมเดินทางไปโรดโชว์ในประเทศต่างๆ เป็นเรื่องน่าภูมิใจของวงการอาหารไทย
เชฟอุทัย ตันตระกูล เชฟไทยมากฝีมือเลื่องชื่อในระดับโลก หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม “มิสเตอร์มัสมั่น” เจ้าของธุรกิจร้านอาหารชื่อดัง “ร้านปุ้ม 3” จ.น่าน ซึ่งเปิดมานานกว่า 30 ปี เปิดเผยเรื่องราวชีวิตและที่มาของความเป็นเชฟมัสมั่นบันลือโลกที่พื้นเพเดิมเป็นคนจังหวัดน่านเกิดและเติบโตในจังน่าน จึงเห็นความเปลี่ยนแปลงของจังหวัดน่านมาตลอด หากมีใครมาถามเกี่ยวกับจังหวัดน่านก็จะสามารถตอบได้หมดหรือถ้าไม่ทราบจริงๆ ก็จะช่วยค้นหาข้อมูลมาตอบให้
ดังนั้น นอกจากจะเป็นเชฟทำอาหารแล้วก็มีหน้าที่และตำแหน่งสำคัญอีกหนึ่งตำแหน่งคือ “นายกสมาคมท่องเที่ยวน่าน” ซึ่งเชฟอุทัยถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวน่านไปด้วย อีกทั้งชีวิตก็ผูกพันกับการทำอาหารและแวดวงอาหารมาตั้งแต่เด็กจึงเป็นคนที่ชอบและรักในการทำอาหารเป็นพิเศษ
“ร้านอาหารปุ้ม 3 เปิดให้บริการเมื่อปี พ.ศ.2526 กว่า 30 ปีที่แล้ว เป็นตึกแถว 2 คูหาด้านล่างโรงแรมสุขเกษมเริ่มด้วยเตี่ย ซิวใช้ แซ่ตั้ง และคุณแม่กิต แซ่โอ๊ว ซึ่งเมื่อ 50 ปีที่แล้วเป็นเถ้าชิ้วที่โรงแรมน่านฟ้า (ปัจจุบันโรงแรมภูคาน่านฟ้า) ต่อมาทำธุรกิจโรงภาพยนตร์ แต่เมื่อกิจการโรงภาพยนตร์ซบเซา ประกอบกับพี่สะใภ้คุณปุ้มได้เปิดร้านขายบะหมี่ปุ้ม 1 และ ปุ้ม 2 (ปัจจุบันนี้ปิดกิจการแล้ว) แม่อยากเปิดร้านข้าวต้มใช้ชื่อ “ร้านอาหารปุ้ม 3” ข้าวต้มรอบดึกและอาหารจานเดียว 2 คูหาทำกันเองในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก และเด็ก ๆ อีก 2-3 คน คุณแม่เป็นคนขยันเปิดร้านตั้งแต่ 11 โมงและปิดดึกมาก ต่อมาผมได้เข้ามาช่วยปิดประมาณตีสี่
“จังหวัดน่านในอดีต ตอนกลางคืนค่อนข้างเงียบ และผู้คนก็นิยมทำกับข้าวทานกันเองที่บ้าน แม่ได้ร้านที่มีทำเลดีติดกับโรงแรมสุขเกษมได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นเซลแมนขายของและตอนดึกจะมีทหารและตำรวจที่มาประจำการจำนวนมากเนื่องจากเป็นพื้นที่สีชมพู ผู้คนมักจะออกมาทานตอนดึกๆ
“ต่อมา ผมได้สมรสกับ คุณดรุณี สิงหะเนติ สาวสวยจากกรุงเทพ ซึ่งต้นกระกูลเป็นตระกูลทำอาหารระดับชาววังตั้งแต่รุ่นคุณทวด “คุณหญิงแม้นศรี ศรีธรรมราช” อาจารย์สอนอาหารที่การเรือนพระนคร วิทยาลัยสวนดุสิตปัจจุบัน “คุณยายประเสริฐ รักษา” กุ๊กร้านศรแดง และ Bangkok Number one ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณแม่จารุณี สิงหะเนติ (แม่ยาย) ข้าราชการกรุงเทพมหานครเจ้าของร้านอาหารไทยในซอยรางน้ำได้มาช่วยดูแลธุรกิจ ต่อมาปี 2532 คุณแม่สุขภาพไม่ค่อยดีจึงได้วางมือและให้ผมเข้ามาดำเนินการต่อ และในปี 2535 ผมได้ซื้อตึกที่ติดกันอีกห้องครึ่งเป็น 5 คูหาทำธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องปี 2540 จึงได้ขยายด้านหลังออกไปอีก 4 คูหา
“ทีนี้ ในเวลาต่อมา ผมได้ไปงานเลี้ยง วปอ. ที่มาจังหวัดน่าน ผมได้เป็นตัวแทนของสภาอุตสาหกรรมน่านเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย ซึ่งมีคุณหรีด ระพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์ ร่วมคณะมาด้วย จึงได้เข้าไปแนะนำตัว อย่างน้อยที่สุดเราเป็น “นายกสมาคมท่องเที่ยวน่าน” เผื่อมีโอกาสที่จะได้ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวน่าน หรือคุณหรีดพูดถึงน่านออกทีวีสักคำ เราก็กำไร หรือโชคดี คุณหรีดแวะมาทานที่ร้านและแนะนำอะไรบ้าง
“คุณหรีดมาตามคำเชิญ ได้ชิมอาหารหลายชนิด แต่ที่ประทับใจที่สุดคือแกงมัสมั่นไก่ฝีมือของคุณแม่จารุณี ไม่ว่าจะเป็นสีสันหรือรสชาติอาหาร โดยเฉพาะรสชาติอาหารเป็นที่ประทับใจมาก คุณหรีดทานเนื้อจนหมดแล้ว เอาน้ำแกงใส่ถุงกลับไปทานที่กรุงเทพอีก และเชิญชวนให้เข้าไปประกวดโครงการเชฟไทยสู่ครัวโลก ตามโครงการของกรมส่งออก กระทรวงพาณิชย์ จากทั่วประเทศจากผู้สมัคร 800 คน เหลือเข้ารอบเพียง 200 คน
“ผมได้สมัครเข้าประกวดประเภทอาหารคาว แน่นอนว่า เมนูที่ผมจะทำต้องเป็นเมนูมัสมั่นไก่ ผมได้รับการอบรมและโครงการต้องการอาหารเมนูทางเลือกใหม่ของอาหารไทยในระดับนานาชาติ จึงได้มีการปรับแกงมัสมั่นธรรมดาที่ใส่ถ้วยเป็นการเสริมแบบซอส เป็นเมนูมัสมั่นไก่ฟรุตตี้ที่มีผลไม้ไทยใส่ลงไปแก้เลี่ยนและยังสามารถทานกับอาหารหลักนานาชาติอื่นๆ ได้ เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวญี่ปุ่น ขนมปัง โรตี สปาเกตตี้ จนชนะใจกรรมการด้วยรสชาติอร่อยกลมกล่อมและมีความคิดสร้างสรรค์”
นั่นทำให้เขาได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดอาหารคาว “เมนูมัสมั่นไก่ฟรุตตี้” โครงการเชฟไทยสู่ครัวโลก ก่อนเดินทางไปโรดโชว์ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
“หลังจากได้รับรางวัล ผมก็ได้เดินทางไปหลายแห่ง เช่น รายการผู้หญิงถึงผู้หญิง วันที่ 26 พฤษภาคม 2553 งานอาหารแห่งเอเซีย Thaifex 2010 ณ เมืองทองธานี 30 มิถุนายน 2553 วันที่ 9 - 30 ตุลาคมในปีเดียวกันได้เดินทางไปยัง นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อไปเผยแพร่การสอนทำอาหาร ณ ไทยแลนด์พลาซ่า และเผยแพร่ในเทศกาลอาหารไทยที่ Fourseason Hotel in Beverly Hills ประเทศสหรัฐอเมริกา วันที่ 6 - 8 เดือนธันวา 2553 เดินทางไปเผยแพร่ที่ร้านอาหาร Thai Express Franchiser อาหารไทย ที่ใหญ่ที่สุดใน อาเซียน ณ ประเทศสิงคโปร์และมีสาขาหลายประเทศในอาเซียน”
เมื่อวันที่ 22 - 24 กรกฎาคม 2554 เข้าร่วมงานเทศกาลอาหารนานาชาติที่ลาน น้ำพุ สยามพารากอน และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ทาง CNN ได้จัดให้นักเขียนทั่วโลกโหวตอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกและแกงมัสมั่นไทยเป็นราชาอาหารโลกซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจอย่างยิ่งของวงการอาหารไทยในประเทศนี้
“เราเป็นเชฟมัสมั่นคนเดียวที่ไปเผยแพร่ระดับนานาชาติและสอนทำแกงมัสมั่นฟรุตตี้ในระดับนานาชาติ - ก่อนที่จะมีการโหวต 1 ปี ได้ลงหนังสือ Food Of Life 6 หน้า ฉบับเดือนกรกฎาคม ในเดือนธันวาคมก็เปิดขายมัสมั่นไก่ฟรุตตี้ที่สยามพารากอน และเดือนกุมภาพันธ์ 2555 จำหน่ายบูทโปรโมชั่น ชั้น G สยามพารากอน ในงาน Best of Thai Town และในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555 ได้มีโอกาสถวายสมเด็จพระเทพรัตนสุดา สยามบรมราชกุมารี ในงานพระราชทานเลี้ยงที่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน จังหวัดน่าน ซึ่งอาหารบนโต๊ะมี 8 อย่าง แต่พระองค์ท่านเสวยแค่แกงมัสมั่นหนึ่งน่องกับโรตีหนึ่งแผ่น ที่ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้ทำแกงมัสมั่นถวายพระองค์ท่าน”
ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตน่าน ได้เล็งเห็นว่าเป็นบุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดน่านและระดับนานาชาติ จึงให้เกียรติรับปริญญา มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ระดับปริญญาโท สาขาวิชาเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การอาหาร สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในชีวิตนี้จะเกิดขึ้นได้ ขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกภาคส่วนด้วยความจริงใจ
“เคล็ดลับความอร่อยของแกงมัสมั่น ผมกล้าพูดได้เลยว่าแกงมัสมั่นของผมอร่อยไม่เหมือนใคร ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศและความพิถีพิถันในการทำ ใช้มันฝรั่งชิ้นโต เนื้อสะโพกไก่คุณภาพดี ถั่วลิสงเมล็ดโต ซึ่งล้วนเป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ด้วยรสชาติกลมกล่อม หวาน อมเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หอมเครื่องเทศการคัดสรรวัถถุดิบชั้นดี จากตำรับไทยโบราณ สู่อุตสากรรมอาหารสำเร็จรูป เพื่อนำความอร่อย เหมือนทำใหม่สด ที่เก็บได้นาน 2 ปี ปราศจากสารกันบูด มุ่งมั่นตั้งใจ นำอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมเผยแพร่ไปทั่วโลก ทั้งแบบสำเร็จรูป แฟรนไชส์แกงไทย ไปทั่วโลก”
จากแกงมัสมั่นตำรับชาววัง สู่แชมป์เชฟไทยสู่ครัวโลก เชฟอุทัย ตันตระกูล นำความอร่อยลงสู่กระป๋อง ภายใต้แบรนด์ “Chef Uthai” เพื่อให้นักชิมจากทั่วโลกได้ลิ้มลองมัสมั่นอร่อยที่สุดในโลก สำหรับผู้ที่สนใจ ในเขตกรุงเทพนั้น เชฟอุทัยไม่มีหน้าร้านเหมือนที่อื่น แต่มีครัวกลางผลิต เมนูแกงมัสมั่นไก่ในรูปแบบทั้งทำสดใหม่ และแบบกระป๋อง เมนูแกงเขียวหวานไก่ผัดแห้ง (รองแชมป์แกงไทย CP) สามารถมารับเอง ที่พิกัด พระราม 3 และแบบเดลิเวอรี่ ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล (สั่งล่วงหน้า) ส่วนมัสมั่นกระป๋องขนาด 190 กรัม ราคาจำหน่ายกระป๋องละ 65 บาท เมื่อสั่งจำนวน 2 โหลขึ้นไป ค่าส่งฟรีทั่วประเทศ แต่ถ้าสั่งต่ำกว่า 2 โหล คิดค่าส่งตามระยะทาง ติดต่อได้ที่ โทร. 09-0317-1308 , 088-824-8585 line : @chefuthai , FB : มัสมั่นไก่ chef uthai-derivery
เรื่อง/ภาพ : อรวรรณ เหม่นแหลม
(ขอบคุณภาพบางส่วนจากเชฟอุทัย ตันตระกูล)