เพจดังแฉ! ขนส่งฯ ปล่อยชื่อคนแจ้งเบาะแสไฟซิ่งให้คนโดนจับ

สื่อโซเชียลมีเดียโวยหลังพบ “ขนส่ง” พลาด ปล่อยข้อมูลในใบแจ้งการทำผิดกฎจราจรเรื่องไฟนั้น มีทั้งชื่อผู้แจ้ง เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าระบบมีปัญหา ควรเลิกใช้ และผู้แจ้งเสี่ยงต่อการโดนทำร้ายได้

เมื่อวันที่ (24 ม.ค.) เพจเฟซบุ๊ก Red Skull Infinity ได้เผยแพร่ข้อมูลว่ามีผู้ถูกแจ้งต่อกรมการขนส่งทางบก โวยว่าในใบแจ้งนั้นมีทั้งชื่อผู้แจ้ง เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ปัญหาเรื่องการตกแต่งไฟท้ายรถ ไฟหน้ารถที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยใช้ไฟ LED ที่มีแสงสว่างเกินกฎหมายกำหนด แต่งไฟหรี่ด้วยการติดไฟสีฟ้า ไฟกะพริบ ทำให้รบกวนสายตาผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งก่อนหน้ากรมการขนส่งทางบกได้แจ้งว่า ผู้ใช้รถสามารถแจ้งจับโดยส่งข้อมูลทางช่องทางออนไลน์ได้ และจะเก็บข้อมูลการแจ้งเป็นความลับนั้น จึงเริ่มมีประชาชนแจ้งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งฯ จำนวนมากขึ้นโดยมีเนื้อหาโพสต์ว่า

“เตือนภัย!!! ผู้แจ้งไฟ LED หรือการกระทำผิดอื่นผ่านระบบออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News เนื่องจากล่าสุดมีรูปรายงานการกระทำผิด พร้อมชื่อและเบอร์โทร.ผู้แจ้งหลุดออกมา ซึ่งผิดกับสัญญาที่กรมการขนส่งทางบกบอกไว้ว่าจะเก็บข้อมูลผู้แจ้งเป็นความลับ จะเป็นเพราะคนในกรมการขนส่งทางบกแอบ Print ออกมา หรือคนกระทำผิดจะใช้วิชาภายในอะไรก็แล้วแต่ แต่เป็นที่แน่ชัดว่ากรมการขนส่งทางบกไม่สามารถเก็บข้อมูลผู้แจ้งได้ และไม่รู้ว่าหลุดมานานแค่ไหนแล้ว XX ว่า ถ้าหน่วยงานราชการยังไม่มีความปลอดภัยแบบนี้ XX ว่าปิดๆ ไป ระบบออนไลน์โคตรห่วย เกลือเป็นหนอน แชร์วนไป”

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายสุกรี จารุภู ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวนั้นทางศูนย์คุ้มครองผู้โดยสาร (1584) ขอเรียนชี้แจงว่า เอกสารที่ปรากฏตามสื่อดังกล่าวมิได้มาจากระบบการรับเรื่องร้องเรียนของศูนย์ 1584 แต่อย่างใด ข้อมูลผู้ร้องถือเป็นความลับและไม่เคยปรากฎเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ 1584 ได้เร่งตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารดังกล่าวมาจากศูนย์ GPS ชลบุรี ทั้งนี้ ได้ประสานผ่านศูนย์ GPS ส่วนกลางเพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่พร้อมรายงานเรียบร้อยแล้ว ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับกฎหมายเรื่องโคมไฟหน้ารถ มีกฎหมายและกฎกระทรวง ดังนี้ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 11 ในเวลามีแสงสว่างไม่เพียงพอที่จะมองเห็นคน รถ หรือสิ่งกีดขวางในทางได้โดยชัดแจ้งภายในระยะไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบเมตร ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหรือใช้แสงสว่างตามประเภท ลักษณะ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2522) ออกตามความใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 มาตรา 11 และมาตรา 61 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 รถทุกชนิดที่อยู่ในความควบคุมของกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกต้องมีโคมไฟตามประเภทและลักษณะที่กำหนดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก

ข้อ 2 รถยนต์ต้องมีโคมไฟหน้ารถและโคมไฟท้ายรถและมีรายการดังต่อไปนี้

(1) โคมไฟหน้ารถมี 3 ประเภท คือ (ก) โคมไฟแสงพุ่งไกล ให้ติดหน้ารถข้างละหนึ่งดวง สูงจากพื้นทางราบถึงจุดศูนย์กลางดวงโคมไฟไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร โคมไฟทั้งสองข้างอยู่ระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงสีขาวมีกำลังไฟเท่ากันไม่เกินดวงละ 50 วัตต์ มีแสงสว่างให้เห็นพื้นทางได้ชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 100 เมตร ศูนย์รวมแสงต้องไม่สูงกว่าแนวขนานพื้นทางราบ และไม่เฉไปทางขวา

(ข) โคมไฟแสงพุ่งต่ำ ให้ติดหน้ารถข้างข้างละหนึ่งดวง สูงจากพื้นราบถึงจุดศูนย์กลางดวงโคมไฟไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงสีขาวมีกำลังไฟเท่ากันไม่เกินดวงละ 50 วัตต์ มีแสงสว่างให้เห็นพื้นทางชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 30 เมตร ศูนย์รวมแสงต้องอยู่ต่ำกว่าแนวขนานกับพื้นทางราบไม่น้อยกว่า 2 องศา หรือ 0.20 เมตร ในระยะ 7.50 เมตร และไม่เฉไปทางขวา

(ค) โคมไฟเล็ก ให้ติดหน้ารถอย่างน้อยข้างละหนึ่งดวง โดยให้อยู่ทางริมสุด แต่จะล้ำเข้ามาได้ไม่เกิน 0.40 เมตร โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงขาวหรือแสงเหลืองมีกำลังไฟเท่ากันไม่เกินดวงละ 10 วัตต์ และต้องมีแสงสว่างสามารถมองเห็นได้จากระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร โคมไฟแสงพุ่งไกล โคมไฟแสงพุ่งต่ำและโคมไฟเล็กจะรวมอยู่ในดวงเดียวกันก็ได้

บทกำหนดโทษ มาตรา 148 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 11 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท