xs
xsm
sm
md
lg

มาเป็นแพทย์เพราะอยากช่วยคน...เปิดใจ “หมอดาวพริตตี้” สวย ใส และใจงาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หมอดาวความรู้คู่ความงาม” “หมอดาวความรู้คู่ครอบครัว” “หมอดาวพารวยกระทั่ง “อกหักมารักกับผม” ชื่อเพจเหล่านี้การันตีทั้งความรู้และความน่ารักน่าไลค์ของเจ้าของเพจ “พญ. ฉัตรดาว จางวางกร” หรือ “หมอดาวพริตตี้”

Manager online ขอนำทุกท่านไปทำความรู้จักยอดคุณหมอสาวแสนสวยน้ำใจงาม ผู้ใช้ความรู้ที่มี ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มกำลังความสามารถ...

“ต้องย้อนไปจุดแรกเริ่มเลยที่ทำให้เรามีวันนี้คือ มีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากจะเป็นหมอ แต่ไม่ได้ชอบหมออย่างแท้จริง”
หมอดาวเริ่มต้นบทสนทนา ด้วยวัยแห่งการค้นหาตัวตน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นคนเรียนดี มีคุณแม่เป็นพยาบาล สภาพแวดล้อมทุกอย่างหนุนส่งหมดต่อการจะเดินเส้นทางสายนี้ กระนั้นก็ดี เธอสารภาพว่าตอนนั้นก็ยังไม่ได้เข้าใจหลักการเป็นแพทย์อย่างแท้จริง

“ช่วง ม.6 ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเป็นหมอได้จริงๆ เป็นช่วงที่สับสนเหมือนวัยรุ่นทั่วไป อยู่ห้องคิง แต่ไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง และเป็นคนที่แอบรั้น คุณแม่เป็นพยาบาล เราต้องเป็นหมอหรือ? แล้วเราเองจะเชื่อแม่หรือ? เรามีบางอย่างที่แย้งกับแม่ ทีนี้พอไม่ได้เตรียมการ ไม่ได้ทุ่มแรงกายใจทั้งหมดที่เรามีทางด้านการสอบเพื่อเรียนแพทย์ ผลสอบก็มาได้อันดับรองลงมา คือวิทยาศาสตร์

“แต่จุดนี้เองที่ทำให้เราค้นพบตัวตนจริงๆ เพราะหลังจากจบวิทยาศาสตรบัณฑิต เทคโนโลยีทางด้านอาหาร เราก็ไปทำงานบริษัทนมผง มีหน้าที่ให้ความรู้ด้านโภชนาการ ดูแลติดตามคนที่ใช้ วันหนึ่งโทรศัพท์ไปติดตามลูกค้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าตอนนั้นเรารู้หลักการว่านมอะไรยังไง การชงนม เสร็จแล้วการปฏิบัติตัว ทีนี้ไปเจอคุณแม่วัยรุ่น คุณแม่เขาก็กำลังแย่ เลี้ยงลูกแล้วลูกเป็นอย่างนี้ๆ เราก็แนะวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น น้ำเสียงตอนแรกคุยสายกับเรา กับตอนที่จะวางสาย บวกเข้ากับประโยคขอบคุณนะคะคุณหมอ เขาขอบคุณอย่างจริงใจ มันเป็นไปได้อย่างไร มันเปลี่ยนความคิดเราไปโดยสิ้นเชิง

“มันไม่น่าเชื่อว่า เราคนธรรมดา ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เขาทำตามองค์ความรู้เราแล้วดีขึ้น มันช่วยคนคนหนึ่ง ที่สำคัญกว่านั้น มันยังช่วยคนอีกหลายๆ คน คนข้างหลังของเขา”
คุณหมอเผยความรู้สึกพลางแซมยิ้ม ก่อนจะเล่าต่อ

“เสียงนั้นที่เราได้ยิน ก็เกิดเป็นประกายขึ้นในความคิดว่าเราอยากเป็นหมอ จากที่มันเคยแอบซ่อนอยู่ลึกๆ ทั้งจากการได้คลุกคลีกับคุณแม่ที่เป็นพยาบาลก็ดี ทั้งจากนิสัยส่วนตัวของเราเองก็ดี เราก็ได้รู้แล้วว่าเราชอบอะไรจริงๆ ก็ตัดสินใจสมัครเรียนต่อแพทย์ทันที เพราะที่ทำงานเราอยู่แถวถนนวิทยุ ใกล้ๆ กับคณะแพทย์จุฬาฯ แล้วคณะแพทย์จุฬาฯ ในช่วงนั้นเขามีโครงการรับแพทย์เพิ่ม เป็นหลักสูตรที่คนจบปริญญาตรีวิทยาศาสตร์สามารถมาสอบได้ เขาเรียกว่า “(new track: NT)”

“คุณแม่ก็แอบงง (ยิ้ม) ทำงานแล้วจะไปสอบ แต่ท่านก็แอบดีใจที่เราอยากจะเป็นดั่งที่ท่านคาดหวัง แต่คราวนี้ได้ดับเบิล เพราะเราตั้งใจเองจริงๆ ด้วย คือความตั้งใจตรงนี้มากถึงขั้นที่ว่า ต่อให้ไม่มีเงินเรียน ก็จะไปกู้มาเรียน เอาจริงเอาจังขนาดนั้นเลย”

และจากความตั้งมั่นที่จะเป็นแพทย์ที่ดี สุดท้ายก็สอบได้ทุนเรียนสมใจ จนจบปริญญาตรีแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และว่าที่แพทย์ประจำบ้าน สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่สำคัญนอกจากนี้ยังตั้งธงที่จะไม่ใช่เพียงการรักษาอย่างเดียว หากแต่คือการช่วยให้คนไข้เพื่อนร่วมโลกได้รับความรู้และสิ่งที่ดีอันเป็นแก่นแท้ของการรักษาอีกด้วย

“คือเราก็ตั้งธงของเราไว้เลยว่าอยากจะศึกษาเพื่อช่วยเหลือคนทุกระดับ ให้เขาได้เข้าถึงหลักที่แท้จริงของการรักษา นั่นก็คือการป้องกัน เรื่องนี้ก็เคยถามคุณแม่บ่อยๆ ตั้งแต่เด็กๆ ประโยคหนึ่งว่า “ทำไม ในเมื่อเรารู้ว่าเบาหวาน หรือความดัน เกิดจากการกินที่ไม่ดี ทำไมเราไม่คิดจะป้องกัน ทำไมไม่มีหมอคนไหนจะมาป้องกัน” ด้วยความที่คุณแม่เป็นพยาบาลแผนก ทำงานที่สถาบัน ท่านเห็นโลกอย่างนั้นก็จะบอกเราว่า “ไม่มีหรอก ถ้าหมอที่จะช่วยได้คือหมออายุรกรรม ดูหมอโรคไตช่วยคนรักษาเท่านั้นเท่านี้

“แต่มันมีคำถามกับเราว่าจริงหรือ คราวนี้ พอวันที่เรารู้เราเรียน เราได้ศึกษาว่าการป้องกันมันทำได้ อย่างพระเกจิ ความเก่งฉกาจของท่านไม่ได้วัดจากอายุพรรษา เราจะพบว่าท่านมักมรณภาพโดยอาพาธอย่างสงบๆ แม้ว่าเป็นโรคร้ายแรงที่ทรมาน หรือคนญี่ปุ่นที่ออกข่าวสุขภาพดี ที่เขาดูแลตัวเอง เขาอายุยืนแข็งแรงไร้โรคภัย ก็รู้สึกว่าเราก็คนมันก็ควรจะเกิดขึ้นได้ เราสุขภาพดีได้ เวรกรรมที่เราทำส่วนหนึ่งก็คือจากผลที่เรากระทำต่อร่างกายเรา

“ดังนั้น ระหว่างใช้ทุนก็เลยเริ่มเขียนบล็อกให้ความรู้ ต่อจากนั้นพอคนฮิตเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กก็มาเปิดเฟซบุ๊ก เพราะเราต้องทำอะไรสักอย่างให้เราได้ใช้ความรู้ของตัวเองมาสื่อในภาษาชาวบ้าน ให้ใครสักคนมาอ่านแล้วไปดูตัวเองและคนที่เขารัก เราได้วิชาบางส่วนมาใช้กับคนในครอบครัว ถึงแม่ว้าปัจจุบันคนในครอบครัวอย่างคุณแม่เสียชีวิตไปแล้วจากโรคพาร์กินสันเทียมหรือพี่สาวที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม แต่คุณพ่อที่ยังอยู่ก็ได้เอาความรู้ที่ตัวเองมีมาคุย มาแนะนำ เราก็เลยอยากจะให้ครอบครัวทุกครอบครัวได้องค์ความรู้ดีๆ ไป

“แต่คราวนี้บังเอิญว่าเรื่องที่คนส่วนใหญ่มักจะสนใจ เป็นเรื่องของความสวยความหล่อ เป็นความสนใจที่ง่ายกว่า เราก็เลยเริ่มจากความสนใจตรงนี้ กลายเป็น “หมอดาวความรู้คู่ความงาม” แต่เราจะแฝงองค์ความรู้ที่ว่าจะสวยงามได้ มันไม่ได้เกิดจากภายนอกอย่างเดียว มันเกิดจากภายในด้วย เรื่องของจิตใจ เราต้องการจะสื่ออย่างนั้น ก็ทำแบบที่เราดูแลคุณพ่อที่ต้องมีทั้งลูกอ้อนลูกหยอดเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและให้เขารับฟังและทำตาม”

กลายเป็น “คุณหมอพริตตี้” ชื่อฉายาที่เรียกขานแทนชื่อจริง จากการสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงง่ายและบรรลุเป้าหมายให้คนได้มีความรู้

“จริงๆ ตรงนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากนิสัยตัวตนเราด้วย เราชื่นชมพริตตี้ เวลาที่เขาโฟนให้ความรู้และรายละเอียดสินค้า คือไม่ว่าจะยามปกติหรืออยู่บนเวที เขาสามารถสื่อสารให้คนทราบในสิ่งนั้นได้ครบและเข้าถึง เรียกว่า over all เลย เราก็เป็นผู้หญิง เราก็ชื่นชอบความสวยความงาม ก็เป็นคาแรกเตอร์ที่เราหยิบนำมาใช้สื่อสารเพื่อให้เข้าถึงผู้คน เพราะเรามีคนเก่งๆ ดีๆ เยอะ แต่ว่ามันแยกชนชั้นกันเกินไป บางอย่างองค์ความรู้ไปอยู่ที่กลุ่มคนที่มีการศึกษา มีฐานะ ซึ่งเราเอง เราสำนึกว่าเป็นลูกหลานชาวนา เป็นลูกหลานพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ถ้าเราคืนกำไรให้พวกท่านเหล่านี้ ทำอย่างไรให้เขาสุขภาพดีจากประโยคที่เราพูดไป จากสื่อที่เราทำให้เข้าถึง ทุกครั้งเราจะดีใจมากที่ได้ยินว่าเขาทำตามแล้วดีขึ้น 6 เดือนผ่านไป เขาบอกว่ารู้ไหม ผมไม่กินข้าวขัดสี กินแต่ข้าวกล้อง แล้วร่างกายดีขึ้นมากตอนนี้

“แม้ว่าจะมีเสียงติติงบ้าง แต่ก็มีเสียงสนับสนุน เพราะธงเราชัดเจน”
หมอดาวเผยความรู้สึกและทิศทางในอนาคตที่จะยังคงมอบและสร้างความรู้คู่สุขภาพทั้งเรื่องของความงามจากภายนอกหรือภายใน กระทั่งความงามจากจิตใจและครอบครัว

“คือคนที่ดูแลตัวเองจากการที่เขาติดตามเรา แม้จะคนเดียว คนกดไลค์หนึ่งไลค์ มันก็โอเค ถ้าโชคดีมีคนกดไลค์เป็นหมื่นเป็นแสนหรือเป็นล้าน แสดงว่าสื่อนี้มันเข้าถึงเขา ช่วยให้เขาเข้าใจว่า คำว่า “สุขภาพที่แท้จริง” จากจิตสู่กาย จากกายสู่ผิวหนัง เราอยากจะสื่อให้เห็นมันเชื่อมโยงกัน ไม่ได้แยก ไม่ใช่ว่าหน้าตาผิวพรรณสวยดีแล้ว รูปร่างดีแล้ว ก็ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกนอกจากนั้น

“จริงๆ มันเรื่องเดียวกัน ทุกอย่างในตัวคนคนหนึ่งเชื่อมโยง ตัวอย่างการที่เราเป็นโรคหัวใจ เราไปหาคุณหมอหัวใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่ง เขาดูแลหัวใจ แต่อย่าลืมว่าต้นเหตุจริงๆ ก็คือคุณเป็นเส้นเลือดผิดปกติ มาจากอะไร มีไขมันมาเกาะ ไขมันต่างๆ เกิดจากการกินของคุณเอง ทำให้ตับอ่อนพัง หลั่งอินซูลินมาไม่ได้ ทำให้น้ำหนักเกิน อ้วน มันสัมพันธ์กันหมด เราแยกเพื่อจะจัดระบบระเบียบ แต่จริงๆ แล้วมันสัมพันธ์กัน

“กระทั่งจิตใจ สังเกตไหม ทำไมมันทำให้คนเป็นมะเร็ง ความเครียดมันทำให้ฮอร์โมนความเครียดขึ้น คราวนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ ก่อให้เกิดการอักเสบภายในร่างกาย ซ้ำๆ ก็ทำให้เกิดมะเร็ง การสร้างเซลล์เนื้อเยื่อผิดปกติ นั่นคือ มันเชื่อมโยงต่อกัน”

ณ วันนี้เพจของหมอดาวมีด้วยกันทั้งหมด 4 เพจ ที่ได้มอบความรู้และให้คำปรึกษาแก่ประชาชนทั่วไปฟรีๆ ได้แก่ “หมอดาวความรู้คู่ความงาม” “หมอดาวความรู้คู่ครอบครัว” “หมอดาวพารวย” และ “อกหักมารักกับผม”

“คือทั้ง 4 สื่อ ต่างสื่อความเป็นตัวเราแต่คนละมุมมอง และทั้งหมดยังเป็นไทม์ไลน์เชื่อมโยงต่อกัน หมอดาวความรู้คู่ความงามก็สุขภาพจากภายในสู่ภายนอก หมอดาวความรู้คู่ครอบครัวและอกหักมารักกับผมหรือหมอดาวพารวย เป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใจ จิตใจที่ดีที่สงบแท้จริงมันต้องมีคุณธรรม มีความสุขที่เกิดขึ้นในใจ

“นอกจากนี้ ในอนาคต เราจะแบ่งตัวเองไว้ 3 อย่าง เรารักที่จะตรวจคนไข้ ปวารณาตัวเองไว้ว่า ไม่ว่าวันไหนที่เรามีสมรรถภาพ เรายังเป็นหมอ สอง นักธุรกิจ เพราะอยากมีเงินกองทุนที่ให้โอกาสคน เราโชคดีพ่อแม่ส่งเรียน แต่เด็กบางคนที่เขาไม่มีพ่อแม่ส่งเรียนแต่เขารักดี แล้วบางอย่างมันไม่ถึง เราก็เลยคิดว่าอยากจะมีสิ่งนี้ให้คน ก็ต้องทำธุรกิจเพื่อสร้างทุนช่วยเหลือ สุดท้ายการเป็นครู คือการถ่ายทอดความรู้ อาจจะอยู่ในรูปอาจารย์หมอ วิทยากร อาจารย์สอน เพราะการที่เราถ่ายทอด วันหนึ่งที่เราไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่ความรู้ของเรายังอยู่ นั่นคือปณิธานของเรา ไม่ต่างไปจากเรื่องสุขภาพที่เชื่อมโยงต่อกันไม่ใช่เรื่องแยกแบ่งส่วน ชีวิต ไลฟ์สไตล์ความชอบหรือสุขภาพ เราสร้างได้ให้ดี ทำได้ให้ดีในทุกๆ เรื่อง และทุกๆ วัน ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง จิตใจไม่แข็งแรง เราก็ไม่มีกำลังที่จะดูแลคนอื่นรอบๆ ข้าง ตัวเองหรือคนที่เรารักได้อย่างไร”

เคล็ดลับการดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก

ย้อนกลับมาถามตัวเองก่อน ไม่ต้องดูใคร ถามว่าคุณคิดว่าเกิดมาเพื่ออะไร ถ้าคิดว่าเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจริงๆ คุณอยากมีความสุข ค้นว่ามันทำให้คุณสุขจริงไหม การกินอยู่มีความสุข การกินนอนมีความสุข แต่ปลายทางของมันอาจก่อให้เกิดทุกข์หรือเปล่า ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เกิดทุกข์กับคนที่คุณรักไหม คุณเป็นอะไรไปก่อนวัยอันควร คนเบื้องหลังเป็นอย่างไร หากคุณคิดได้ว่าเกิดมาเพื่อมีความสุขแท้จริงเพื่อทำประโยชน์ คุณก็ต้องทบทวนหน่อยว่าคุณจะทำอย่างไรให้แต่ละวันมีความสุขอย่างแท้จริง แล้วก็ให้คุณได้อยู่ในโลกใบนี้ ได้ทำประโยชน์ให้คนได้ทั้งที่อยู่และไม่อยู่

ดังนั้น การดูแลจริงๆ การดูแลสุขภาพคือเพื่อความสุขที่คุณต้องการ เพื่อคนรอบข้างของคุณ อย่าปล่อยให้ความสุขชั่วคราวมาทำลายอนาคตของตัวคุณเองและครอบครัวที่คุณรัก สุขภาพร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะวันหนึ่งที่ใจคุณป่วยร่างกายคุณแข็งแรงมันยังคุยกันได้ หรือว่ากายป่วยใจแข็งแรงก็เช่นเดียวกัน ทว่าจริงๆ เราบาลานซ์เราก็ได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีคุณค่าคุ้มค่าที่สุด มันจะทำให้มีแรงบันดาลใจที่จะอยู่เพื่อตัวเอง ทำเพื่อตัวเอง

ท้ายที่สุดเราก็จะเข้าใจคำแนะนำให้มานั่งคิดให้ลองจริงจังกับตัวเอง เรากินอะไร ชอบกินอะไร เขียนๆ ออกมา ชอบสิ่งนี้ ไม่ชอบสิ่งนี้ แล้วมาดูว่าสิ่งที่ชอบอันไหนดีหรือไม่ดี ถ้าไม่ดีตัดได้ไหม อย่างน้ำอัดลม มันไม่โหยมาก ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกิน ก็ตัด ก็จะตัดได้ทีละอย่าง หากสิ่งที่ไม่ดีเป็นสิ่งที่ชอบ ก็ได้เคล็ดลับมาจากอาจารย์หมอที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ท่านแนะให้กินครึ่งหนึ่ง คือกินได้ แต่ลดลงครึ่งหนึ่งและไม่เพิ่มปริมาณ ถ้าเราตั้งใจพอลดลงครึ่งหนึ่ง เริ่มรู้ความอยากของตนเองแล้ว มันก็ต่อๆ ไปทีละอย่าง ก็ค่อยๆ ลดควบคุมได้ แล้วก็ไปเพิ่มส่วนที่มันดีขึ้นโดยอัตโนมัติ เพราะเรากลับมารู้ใจ ชีวิตคือทำวันนี้ไม่มีคำว่าพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้มันก็มาจากวันนี้ที่มันขยับไป เราไม่ได้อยู่ๆ ตาย ส่วนใหญ่อัมพาต ป่วยนอนติดเตียง คนข้างหลังต้องมาป้อนข้าวป้อนน้ำ ใส่สายยาง คนเราพอไม่เห็น ไม่ได้สัมผัส ก็ประมาทกัน

เคล็ดลับการดูแลหัวใจและความรัก

เราต้องจับความรู้สึกเราก่อน ไม่ต้องความคิด เนื่องจากเราเป็นสิ่งมีชีวิตอยู่บนยอดสุดของห่วงโซ่อาหาร เราขึ้นมาได้เพราะสัญชาตญาณของมนุษย์คือ กลัว โกรธ มันทำให้เรารอดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ จับความรู้สึกตัวองก่อน เช่น สมมติอยากจะกินสิ่งนี้ จับว่าหิวหรืออยาก เราทดสอบได้จากการลองเดินไปที่อื่นก่อน บางคนลืมแล้วว่าอยากกิน นั้นคือการจับความรู้สึก การใช้เงินการซื้อของก็เช่นกัน ถ้ามันหายไป มันไม่มีเหตุผลตอบโจทย์มากมาย เราก็จะกลับมาที่แก่นของเรา เรารู้สึกอย่างไรอย่างแท้จริง ต้องทบทวนตัวเอง ประเมินตัวเอง กลับมาดู ณ จุดที่ตัวเองอยู่ ณ ปัจจุบัน ถ้านึกขึ้นได้ ก็ระลึกสติ เราทำอะไรอยู่ กินอะไรอยู่

จากนั้นมันก็จะเชื่อมมายังครอบครัว มาความรัก เราก็ไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่แฮปปี้ผาสุกในทุกๆ วัน ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาต่างทำงานหนักไม่มีเวลา แต่วิกฤตคือช่วงที่คุณแม่ท่านป่วยเสียจากพาร์กินสันเทียม มีภาวะพฤติกรรมวุ่นวาย นอนติดเตียงเราลำดับอาการตลอด เรารู้แล้วว่าภาวะที่มันเกิดขึ้นเป็นอย่างไร แต่เราไม่สามารถชะลอย้อนมันกลับคืนมาได้แล้ว เราทำได้แค่ทำอย่างไรจัดการให้มันโอเคขึ้น วินาทีนั้นเราได้มาดูแลร่างกายจิตใจท่านแล้ว ทำให้รู้ถึงความรักครอบครัวจริงๆ

มันคือความรักที่เราอยากดูแลกันและกันให้สิ่งดีๆ แล้วก็รู้สึกเสียดาย แม้ว่าเราจะโชคดีได้ดูแลเขาในวาระสุดท้ายกัน แต่ถ้าเราได้เข้าใจองค์ความรู้เหล่านี้ ทุกๆ คนต่างได้เข้าใจ มันอาจจะทำให้โรคเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นก็ได้ หรือเวลาความสุขของคอรบครัวมันน่าจะแฮปปี้กว่านี้ก็ได้ ณ วันนี้ครอบครัวของคุณอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูก คุณได้กลับไปดูแลกันและกันไม่ว่าทางร่างกาย จิตใจ คำพูด ความอบอุ่นแล้วหรือ แม้ไลฟ์สไตล์ชีวิตเร่งรีบ เทคโนโลยีตอนนี้สื่อถึงกันหมดมันอยู่ที่เราจะทำ มันมีหลายหลากวิธี

เช่นเดียวกับเรื่องของความรัก ณ จุดที่เรามีครอบครัว เราต่างทำงานยุ่ง เราก็ไม่ได้ดูแลกันในฐานะหน้าที่กันและกัน ถึงแม้เป็นคนสมัยใหม่ไม่ว่าชายหรือหญิง มีหลายมิติบทบาท เป็นพ่อแม่ เราควรจะต้องจัดอันดับความสำคัญให้ดีๆ ให้ลงตัว บทบาทที่เราทั้งสองต้องมาช่วยเหลือกันและกัน เราได้ดูแลกันให้สมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ จิตวิญญาณของกันและกันความรู้สึกดีๆ แล้วหรือยัง สุดท้ายทุกอย่างกลับมาที่ตัวเองก่อน ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง จิตใจไม่แข็งแรง เราก็ไม่มีกำลังที่จะดูแลคนอื่นรอบข้าง ตัวเองหรือคนที่เรารักได้




เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : เพจเฟซบุ๊กหมอดาวความรู้คู่ความงาม



กำลังโหลดความคิดเห็น