xs
xsm
sm
md
lg

บทเรียนทรงคุณค่าจากคุณ “อาคม” ผู้เลี้ยงดูหลานออทิสติกด้วยดนตรี จนเก่ง!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครูสอนดนตรีวัย 57 ปีที่อบรมสั่งสอนเด็กมามากมายนับไม่ถ้วน สู่การเป็นคุณปู่สอนดนตรีเพื่อบำบัดหลานชายที่ป่วยเป็นออทิสติก กระทั่งวันนี้หลานเต็มไปด้วยความสามารถทางด้านดนตรี แถมยังหารายได้จากการเปิดหมวกตามสถานที่ต่างๆ เพื่อนำเงินไปต่อยอดเป็นทุนการศึกษาและเป็นจิตอาสาสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนอื่นได้ “อาคม วชิรโรจน์ประภา” และ “เบญจพล แก้วงามลอย” หรือน้องมิคกี้ คือบุคคลที่เรากำลังจะเอ่ยถึง

  • ทราบมาว่าคุณอาคมเลี้ยงดูหลานที่ป่วยเป็นออทิสติกด้วยตัวเอง

ใช่ครับ ผมเอาเขามาเลี้ยงตั้งแต่ตอนสองขวบเพราะพ่อแม่เขาแยกทางกัน น้องเขาก็อาศัยอยู่กับยาย พอตอนเขาอายุได้แปดขวบ ยายเขาเสียชีวิต พ่อเขาก็เลยพามาฝากให้ย่าทวดที่เป็นแม่ของยายเขาเลี้ยง ซึ่งย่าทวดเขาก็อาศัยอยู่ที่บ้านผมพอดี ผมเลยรับดูแลเขา พอเขาเรียนอยู่ชั้น ป.5 ย่าทวดเขาก็เสียชีวิต ผมเลยเป็นผู้ดูแลเขาทุกอย่างตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน และการพาไปรักษาอาการออทิสติกและเรื่องการกินยาต่างๆ ครับ

  • หลังจากทราบว่าหลานเป็นออทิสติก แบบนี้เราต้องเรียนรู้หรือปรับตัวยังไงบ้างคะ

ตอนแรกที่พ่อเขาเอามาฝากเลี้ยง น้องเขาก็มีบัตรพิการ เป็นผู้พิการออทิสติก ด้านสื่อความหมาย พอยิ่งเลี้ยงไปเรื่อยๆ ผมก็สังเกตเห็นว่าน้องมิคกี้แปลกๆ อยู่ไม่นิ่ง สมาธิสั้น ไม่คุย ไม่สบตา ไม่รู้จักรอคอย เวลาเราพูดเขาจะพูดแทรก หงุดหงิดง่าย ถ้าเราพูดสิ่งที่สนใจเขาจะจำแต่ถ้าไม่สนใจเขาก็จะไม่สนใจเลย

หลักๆ แล้วเขาต้องกินยาระงับเผื่อเวลาที่เขาโมโหหรือไม่นิ่งขึ้นมา แต่อย่างอื่นผมจะดูก่อนว่า เขาชอบอะไร แนวไหน ชอบกินอะไร ซึ่งเราเห็นว่าเขาจะเล่นเกมอย่างเดียวเลย ผมเห็นว่าน้องติดเกมมาก เราก็เลยใช้วิธีที่ว่าก่อนจะเล่นเกมเราจะให้เขาร้องเพลงให้ฟังก่อน หรือว่าลองเล่นดนตรีให้ฟัง แรกๆ เขาก็ไม่เห็นด้วย เขาหาว่ามันยาก ไม่เอาๆ แต่ผมจะบอกว่าถ้ามันยากก็ไม่ต้องเล่นเกมนะ เขาก็เลยยอม เขาเริ่มจากทำตามโจทย์ที่เราสั่งก่อนแต่ก็ยังเป็นแบบทำให้มันเสร็จๆ ไป เพื่อที่จะเล่นเกม

ก่อนหน้านี้ผมยังไม่ได้ใช้ดนตรีบำบัดน้องมิคกี้นะครับ เราก็ยังค้นหาว่าน้องชอบอะไรก่อน ผมก็ให้น้องไปวาดภาพ ต่อจิ๊กซอว์ ซึ่งสิ่งที่ให้น้องทำ น้องสามารถทำได้หมดเลย แต่มันเร็วเกินไป มันไม่ต่อเนื่อง เพราะเขาห่วงเล่นเกม พอทำเสร็จเขาก็จะเล่นเกมต่อเขาติดเกมมาก ซึ่งเราก็ยอมเขาไปก่อน หลังๆ มาผมเลยลองใช้ดนตรีสอนเขาด้วยครับ

  • นำดนตรีมาบำบัดรักษาหลานที่ป่วยเป็นออทิสติก?

ส่วนตัวผมจบเอกดนตรีมา รับราชการครูอยู่ที่โรงเรียนมีนบุรี แต่ไม่ใช่นักดนตรีบำบัดนะครับ ซึ่งตั้งแต่ที่ผมรับน้องมาเลี้ยง ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนก็ให้ผมไปสอนห้องเด็กพิเศษพอดีเพราะที่โรงเรียนจะมีห้องเด็กพิเศษเรียนร่วมอยู่ห้องนึง เราก็เลยได้คลุกคลีกับเด็กพิเศษหลายรูปแบบ

ผมก็เลยต้องอาศัยศึกษาดูจากตัวอย่างในหนังสือหรือว่าในอินเทอร์เน็ตที่เขาเคยทำกันมา ซึ่งส่วนตัวผมรู้อยู่แล้วว่าดนตรีทำให้คนเศร้ามีอารมณ์ดีได้ ให้คนที่ไม่กล้าเกิดความฮึกเหิม ทำให้คนที่สมาธิสั้นเขามีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่จะทำได้ ดังนั้นเราก็เลยลองให้เขาฟังเพลงดู ซึ่งจุดมุ่งหมายของเราก็คือเอาดนตรีมาบำบัด

  • แรกๆ สอนยากไหมคะ

ตอนแรกๆ ก็ยากครับ ผมจะฝึกเขาทุกวันแต่ไม่นาน ทุกเช้าเขาจะต้องตื่นมานมัสการพระ เสร็จแล้วจะต้องออกกำลังกายด้วย ผมจะให้เขาแกว่งแขนวิ่งอยู่กับที่ หลังจากนั้นก็ซ้อมเพลงแต่ซ้อมไม่นานนะครับ เพลงละรอบสองรอบไม่เกินสิบนาที

ผมเริ่มจากฝึกเปียโนให้ก่อน ดนตรีจะมีโน้ต 7 ตัว เราก็สอนโน้ต 2 - 3 ตัวก่อน เพิ่มมาทีละหน่อย จาก 1 บรรทัด เป็น 2 บรรทัด เป็น 1 เพลง 2 เพลง 3 เพลง ใส่เสียงเยอะแยะเข้าไปแล้วกระตุ้นให้เขา

เพลงแรกที่ฝึกคือเพลง Your Cheatin' Heart ของ Hank Williams ซึ่งตอนหลังเพลงนี้ก็เป็นเพลงแรกที่เขาเอาไปโชว์ เราก็พาเขาออกไปแสดงตามที่ต่างๆ ก็มีคนชื่นชอบ มีคนชมเขา เราก็คิดว่าเอาล่ะเรามาถูกทางแล้วนะ ซึ่งปัจจุบันเขาก็เริ่มชอบขึ้นมาเอง คือถ้าหากว่าให้เขาทำในสิ่งที่เขาชอบ เขาก็จะทำตาม พอได้ออกสื่อ ได้ออกทีวี มีคนขอถ่ายรูป มีคนชม เขาก็บ้ายอเหมือนกัน (หัวเราะ)

นอกจากเปียโนแล้วเขาก็เล่นกีตาร์ด้วย อย่างกีตาร์ก็เหมือนกัน ในคอมพิวเตอร์มันมีโปรแกรมกีตาร์โปร อย่างเพลงยากๆ เราก็เริ่มจากให้เขาพิมพ์ไปในคอมพิวเตอร์ก่อน ทำเป็นโน้ตตัวขาว ตัวดำ ตัวทรัมเป็ต แล้วก็ใส่จังหวะเข้าไป ก็สามารถแปลงเป็นเสียงกีตาร์ เสียงเปียโน เสียงเครื่องเป่าได้ น้องเขาก็จะจำตรงนั้น เขาเลยจำอินโทรได้หมดเลยทั้งเพลง

หรือไวโอลินปัจจุบันนี้เขาก็เล่นได้ครับ ก็มีไปแข่งมาบ้างครับ อย่างตอน ป.5 ป.6 เขาก็ได้ไปแข่ง ตอนนั้นเขตเขาจัดงาน “111 ปีมีนบุรี” ก็มีประกวดหนูน้อยคาวบอย อันนี้ทางผู้บริหารเห็นเราเล่นดนตรีก็เลยให้ส่งมิคกี้ลงแข่ง เราก็จับเขาแต่งตัวคาวบอย ทีนี้เขาดูความสามารถด้วยเขาก็เลยเล่นไวโอลิน ชนะมาก็เพราะไวโอลินนี้แหละ แล้วก็มีประกวดพวกโฟล์กซองในงานเดียวกันเขาก็ได้ที่ 3 มา แต่ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ค่อยประกวดเท่าไหร่ครับ

ก่อนหน้านี้ที่เรียนเปียโน พัฒนาการเขาค่อนข้างช้าเพราะว่ามันเคลื่อนย้ายไม่ได้ ผมก็เลยให้เรียนไวโอลิน พอเรียนปุ๊บเราก็เอาไปด้วยเลย อยู่โรงเรียนว่างปุ๊บก็ให้มาเล่นให้ฟังก่อน ถ้าดื้อถ้าหงุดหงิดก็มาเล่น ตอนนี้ก็ส่งเขาไปเรียนไวโอลินที่อื่นด้วย ให้ลองไปเรียนกับคนอื่นดูบ้างเพราะคนอื่นเขาสอนไม่เหมือนเรา เราจะสอนให้เล่นเป็นเพลงเลย แต่ครูคนอื่นจะสอนทฤษฎีอะไรด้วย ล่าสุดเขาก็ยังสนใจอูคูเลเล่ด้วยครับ

  • มีไปแสดงตามที่ต่างๆ ด้วยเหรอคะ

ผมเคยเปิดร้านสอนดนตรีอยู่ที่จตุจักร 2 มีนบุรี ผมก็สอนนักเรียนด้วย มีนักเรียนมาเรียนกับผม มาบ้างขาดบ้าง ผมเลยให้หลานมาซ้อมแทนไป ทีนี้มีอาจารย์ที่เป็นคนนวดแผนโบราณเขาเดินผ่านมา เขาก็บอกว่ามิคกี้เล่นดีกว่าเด็กที่มาเรียนกับอาจารย์อีกนะ เพราะเขาจำได้หมด ดูโน้ตครั้งแรกก็จะจำได้เลย แล้วพอดีว่าตลาดหนองจอกเปิดตลาดใหม่ เขาก็บอกว่าอาจารย์อาคมช่วยไปเล่นเปิดหมวกให้หน่อยได้ไหม ไปเปิดตลาดใหม่หน่อย ตอนนั้นผมก็ไม่เข้าใจว่าเปิดหมวกคืออะไร เขาเลยบอกมีเวที มีเครื่องเสียงอะไรให้เรียบร้อย เราแค่เอาเครื่องดนตรีไปอย่างเดียว ผมก็ไปกับหลานเล่น 1 ชั่วโมงได้เงินมาประมาณ 600 กว่าบาท ซึ่งที่แรกที่มิคกี้เล่นก็ที่นี่แหละครับ หลังจากนั้นก็มีคนติดต่อเราไปเล่นดนตรีโชว์ เราก็เลยเปิดหมวกมาเรื่อยๆ เลยครับ ก็เล่นตามตลาดนัด ตามโรงพยาบาลต่างๆ แทน

อย่างตอนนี้เขาก็เป็นจิตอาสาอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และมูลนิธิยุวพัฒน์ ซึ่งผมอยากให้เขาแสดงความสามารถและมีจิตใจที่ดีในการช่วยเหลือสังคมด้วยครับ

  • แบบนี้ดนตรีมีส่วนช่วยให้น้องมิคกี้ดีขึ้นยังไงบ้างคะ

อันดับแรกคือ เรื่องสมาธิ อย่างดนตรีสมัยก่อนปกติเขาจะเล่นได้แค่ 3-4 นาที แต่ตอนนี้เล่นเป็นชั่วโมงก็ยังได้ เขาสามารถอยู่นิ่งได้ สมาธิดีขึ้น และก็สามารถคุยกับผู้อื่นได้ ซึ่งจริงๆ แต่ก่อนเขาเรียกว่าทางคุณครูเอือมระอามาก เขาชอบเถียง คุณครูสอนเขาก็เถียง กระฟัดกระเฟียด ประชดประชัน ซึ่งถ้าเราอยากให้คนอื่นเขายอมรับในตัวมิคกี้ได้ เราก็ต้องพยายามสร้างจุดเด่นให้เขา

ตอนนี้เขาก็เรียนต่อเนื่องได้ประมาณ 3 - 4 ปี แล้วครับ เขาจะเล่นแนวโฟล์กคันทรี คลาสสิก และเพลงคำเมืองได้ครับ

  • จะว่าไปแล้ว “ดนตรีบำบัด” คืออะไรเหรอคะ ช่วยอธิบายเผื่อใครยังไม่เข้าใจหน่อยค่ะ

ดนตรีบำบัดก็คือกิจกรรมหนึ่งที่เสริมให้ผู้เล่นหรือผู้ฟังเกิดการกระตุ้นเร้าใจ หรือสนใจที่จะมีสมาธิหยุดเพื่อจะฟังเสียง ซึ่งส่วนมากเขาจะนำดนตรีบำบัดไปใช้กับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โรคเกี่ยวกับสมาธิสั้น เด็กพิเศษ เช่น เด็กดาวน์ซินโดรม เด็กที่เคลื่อนไหวช้า เป็นต้น

ยกตัวอย่างจากที่ผมสอนมานะครับ อย่างเด็กพิเศษที่ผมเคยสอนที่โรงเรียน เราจะเน้นให้เด็กทุกคนได้ร่วมกิจกรรม รู้ว่าคนนี้ชอบเต้นก็ให้มาเต้น คนนี้ชอบเคาะก็ให้ตีกลองไป เขาจะแตกต่างกัน แต่ส่วนมากไม่ว่าจะเป็นเด็กออทิสติกหรืออะไรก็แล้วแต่ เราต้องเสริมแรง เช่น ให้เพื่อนปรบมือให้ ชมเขาว่าเก่งจังเลยอะไรประมาณนี้ครับ เราต้องคุมเด็กให้ทำกิจกรรมร่วมกับเราได้แต่ต้องไม่หวังผลเพราะเด็กพวกนี้พฤติกรรมเขาจะไม่นิ่ง แล้วค่อนข้างก้าวร้าว ผมก็จะใช้ดนตรีบำบัดช่วยให้เขาปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนได้

  • นอกจากนำดนตรีมาบำบัดแล้ว ในเรื่องการเรียน การเข้าสังคมและการใช้ชีวิตต่างๆ เป็นยังไงบ้าง ต้องสอนอะไรน้องมิคกี้บ้างคะ

เราต้องสอนให้เขาเสียสละ ฟังเหตุผลผู้อื่น รู้จักเป็นผู้นำ ผู้ตาม บางครั้งอย่าพูดแทรก คิดอะไรอย่าทำเลยให้รู้จักรอคอย แต่ข้อเสียคือเด็กพวกนี้ค่อนข้างตรง ฉลาดแกมโกง ถ้าเรื่องที่มีผลประโยชน์กับตัวเองเขาจะทำให้ทุกอย่าง แต่ถ้าไม่มีคือไม่เอา ไม่อยากทำเลย ซึ่งเราก็ต้องเริ่มจากใส่ใจทุกรายละเอียดของเขาก่อนว่าชอบอะไรเป็นยังไงบ้าง บางครั้งทำกิริยาไม่เหมาะสมเราก็ต้องดุเขาว่า “อย่านะ” เราจะมีข้อต่อรองในบางสิ่งที่เขาทำไม่ถูก เช่น เล่นเกมมากเกินไป ถ้าไม่เล่นดนตรีปู่ก็ไม่ให้เล่นเกมนะ บางครั้งดื้อมากๆ ปู่ก็จะแกล้งไม่คุยด้วย แกล้งโกรธ แกล้งงอน ก็มีบ้างเหมือนกันครับ ซึ่งถ้าเขาเห็นเขาก็จะรู้แล้ว

ส่วนเรื่องการเรียนเขาไอคิวดีครับ ผมเคยพาน้องมิคกี้ไปตรวจวัดไอคิวที่โรงพยาบาล ผลปรากฏว่าเขาวัดไอคิวได้ 113 ซึ่งคุณหมอก็ตกใจเพราะน้องเขาไอคิวค่อนข้างดี คุณหมอเลยบอกว่าอย่าทิ้งเขานะส่งให้เขาเรียนนะ อย่างสอบ O-NET ทั่วประเทศ วิชาคณิตศาสตร์เขาได้ 85 คะแนน ภาษาอังกฤษได้ 72 คะแนน เทคโนโลยีได้ 60 คะแนนขึ้น แต่วิชาภาษาไทย วิทยาศาสตร์ สังคมอาจจะน้อยหน่อยแต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ก็ยังได้ 50 กว่าคะแนน ไม่ตก จนคุณครูเขายังบอกว่าเด็กสมองดียังสอบตกเลยแต่มิคกี้สอบได้ แต่ข้อเสียคือเวลาเพื่อนล้อ คือเพื่อนชอบล้อว่ามิคกี้สอบไม่ได้หรอก ไม่เห็นจะฟังอะไรเลยจะสอบได้เหรอ เขาก็จะโมโห กระฟัดกระเฟียด อาการออกเลยนะ แล้วยิ่งคนล้อกันบ่อยๆ แค่เห็นหน้าอาการขึ้นแล้ว ผมก็เลยตัดสินใจให้เขาเรียนกศน. ถ้าเรียนปกตินี่ผมดูแลไม่ไหวแน่

  • วางอนาคตหลานชายคนนี้ไว้ยังไง น้องมิคกี้โตขึ้นอยากเป็นอะไรคะ

ตอนนี้อีก 3 เดือนเขาก็จะจบ ม.6 แล้วครับ เขาก็อยากจะไปต่อมหาวิทยาลัย
เรียนต่อเกี่ยวกับ E-Sport ที่เกี่ยวกับการแข่งขันเกม เกมพวกคอมพิวเตอร์ กีฬาอิเล็กทรอนิกส์ อะไรประมาณนี้ ส่วนดนตรีอนาคตถ้าเขาไม่อยากเรียนเราก็ไม่ว่าอะไรเพราะถ้าเราไปบังคับก็ไม่ดี

น้องมิคกี้ : ผมอยากเป็นทั้งสองอย่างครับ อยากจะเป็นนักกีฬา E-Sport กับนักดนตรีครับ แต่เป้าหมายผมอยากไปเรียน E-Sport เพราะผมจะชอบเล่นเกมมาก จะชอบเกมแบบ open world เกมเปิดสำรวจโลกได้ครับ

  • ในฐานะที่ดูแลหลานชายที่เป็นออทิสติกมานาน อยากให้คุณอาคมฝากถึงครอบครัวหรือผู้ปกครองที่มีเด็กพิเศษในความดูแลหน่อยค่ะ มีคำแนะนำไหมว่าต้องทำอย่างไร

ส่วนมากผู้ปกครองที่มีลูกหลานเป็นเด็กออทิสติก 80 เปอร์เซ็นต์ เขาจะลาออกมาดูแลลูกหลานกันหมด ส่วนตัวผมปัจจุบันก็ตัดสินใจลาจากครูออกมาดูเขาเพราะไม่มีใครดูแลเขา

การที่เราจะดูแลเด็กพิเศษได้ เราจะต้องใจเย็นมากกว่าสิบเท่า มีหลายคนบอกว่าทำไมคุณปู่น้องมิคกี้ใจเย็นจัง ทำไมเลี้ยงได้ ตรงนี้คุณหมอก็เคยบอกเหมือนกันนะครับว่าโรคนี้เป็นแล้วไม่หายนะ เด็กพิเศษทุกคนจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย อย่างข้อเสียเราก็ต้องแก้ไข เช่น พาไปหาหมอ ปรับพฤติกรรม แต่ข้อดีเราก็ต้องส่งเสริม คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งท้อที่จะเลี้ยงเขา เพียงแต่เราจะต้องปรับพฤติกรรมให้เขาเข้ากับสังคมได้ จะทำยังไงก็อยู่ที่เราจะดูแลและสอนเขา

ผมอยากบอกว่าถ้าครอบครัวไหนมีเด็กออทิสติกหรือเด็กพิเศษ อย่ามองว่าเด็กหรือลูกของเราจะทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาทำได้ทุกอย่างเหมือนเด็กปกติเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน กิจกรรมหรืออะไร แต่อาจจะต้องใช้เวลามากกว่าคนอื่นหน่อย อยากให้ลองค้นหาความสามารถของเขาก่อนว่าเขาชอบอะไร อย่าไปบังคับ บางครั้งเขาอาจจะทำได้ดีกว่าเด็กปกติด้วยซ้ำ เราอาจจะต้องสอนเขาเป็นสิบรอบ แต่พอเขาทำได้เราก็จะได้เห็นผลงานของเขา

ส่วนตัวผมภูมิใจและมั่นใจเกิน100 เปอร์เซ็นต์นะครับว่าหลานผมจะทำได้ ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่ได้หวังว่าเราจะโด่งดังอะไร เราแค่อยากให้น้องมิคกี้เข้ากับสังคมได้ รู้จักมีสมาธิ รู้จักปรับปรุงตัวเอง แต่ปรากฏว่าพอมีคนรู้ว่ามิคกี้เป็นเด็กออทิสติก คนเขาก็ชื่นชม ชื่นชอบ เหมือนกับว่าตอนนี้เรากลายเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้คนอื่นมีความสุขไปแล้ว ซึ่งผมก็มีความสุขที่ได้เห็นพัฒนาการของเขาด้วยครับ





เรื่อง : วรัญญา งามขำ, พุทธิตา ลามคำ
ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช



กำลังโหลดความคิดเห็น