ผู้โดยสารรถไฟโวย มีคนขึ้นรถไฟจากสถานีชุมทางบางซื่อไปลงรังสิต โดยไม่ได้ซื้อตั๋วที่สถานี เพราะรถใกล้จะออก พนักงานไล่ให้ไปซื้อข้างบน ถูกพนักงานรักษารถคิดค่าโดยสาร 105 บาท เป็นค่าปรับ ระบุ “คุณต้องมารอรถไฟ ไม่ใช่รถไฟรอ” ด้านชาวเน็ตเสียงแตก เปิดระเบียบการรถไฟ ชี้ไม่ซื้อตั๋วที่สถานีที่มีช่องขายตั๋ว ถือว่ามีเจตนาหลบซ่อน-หลีกเลี่ยง
เรื่องวุ่นๆ เกี่ยวกับโดยสารรถไฟ มาจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wat Jitaree โพสต์ภาพตั๋วบางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ระบุค่าโดยสาร 5 บาท และค่าอื่นๆ อีก 105 บาท พร้อมข้อความฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ตนได้โดยสารรถไฟชานเมือง ขบวนที่ 131 จากสถานีกรุงเทพถึงสถานีชุมทางบ้านภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งขึ้นมาจากสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อไปลงที่สถานีรถไฟรังสิต จ.ปทุมธานี แต่ไม่ได้ซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีเพราะมาใกล้เวลาที่ขบวนรถจะออกจากสถานี และผู้โดยสารหญิงเล่าว่าเจ้าหน้าที่ในช่องจำหน่ายตั๋วให้ไปซื้อบนรถ จึงมาซื้อด้านบนขบวนรถ
พอขบวนรถออกจากสถานี พนักงานรักษารถที่อยู่ตู้สุดท้ายของขบวณรถมาเช็กตั๋ว แล้วถามผู้โดยสารหญิงว่าลงที่ไหน ก็ตอบว่าลงสถานีรถไฟรังสิต พนักงานรักษารถก็คิดเงินเป็นจำนวน 105 บาท (แบ่งออกเป็น ค่าโดยสาร 5 บาท ค่าธรรมเนียมมาซื้อบนรถอีก 100 บาท) ไม่ได้มีคนเดียว มีคนโดนถึง 3 คน อีก 2 คนขึ้นจากสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อไปลงสถานีรถไฟบางเขน โดนไป 202 บาท (ค่าธรรมเนียม 200 บาท ค่าโดยสาร 2 บาท) ก็ทำหน้างงว่าทำไม่แพงจัง เขาก็ให้เหตุผลว่า มารถใกล้จะออกแล้ว และช่องขายตั๋วโดยสารข้างล่างก็ให้มาซื้อข้างบนรถ พนักงานรักษารถก็ตอบว่า “คุณต้องมารอรถไฟ ไม่ใช่รถไฟรอ”
“คุณต้องมารอรถไฟ ไม่ใช่รถไฟรอ ถูกที่คุณพูด ผมเข้าใจครับว่าใช่ แต่คุณลืมไปหรือว่านี่คือรถชานเมือง จอดทุกจุด ถ้าอย่างนั้นผมขอถามหน่อยว่า จุดจอดอุรุพงษ์ รพ.รามาO กม.11 กม.19 เคหะทุ่งสองห้อง หมู่บ้านแกรนด์คาแนล หลักหก และอีกต่างๆ ที่ไม่มีห้องขายตั๋วและมีคนขึ้นจะให้พวกเขาทำอย่างไร หรือคุณจะปรับเขาทุกๆ คน ถ้าทำได้คุณทำทุกๆ คนนะ อย่าละเว้น ถ้าอย่างนั้นรถไฟจะจอดทำไม คุณไม่มีน้ำใจให้กับเพื่อนมนุษย์เลยหรือ หรือจะเอาตามกฎระเบียบอย่างเดียว โดยไม่สนใจผู้มีรายได้น้อย หรือคนต้องใช้รถไฟเพื่อหลีกหนีการจราจรบ้างหรือ ถ้ารถไฟไม่อยากให้ประชาชนไปซื้อตั๋วและเสียค่าธรรมเนียมบนรถ ช่วยประกาศทุกสถานีได้ไหม ผมก็ไม่เคยได้ยินว่ามีสถานีไหนประกาศให้ผู้โดยสารรับรู้รับทราบสักสถานีเลย เฉพาะรถชานเมือง อยากให้ผู้ว่าการรถไฟฯ และรัฐมนตรีคมนาคมช่วยอนุเคราะห์ผู้ใช้รถไฟชานเมืองบ้าง” ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wat Jitaree ระบุ
อย่างไรก็ตาม ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊กรายอื่นๆ ต่างแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันไป มีทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง หนึ่งในนั้นคือสมาชิกรายหนึ่ง ยกสติกเกอร์ประกาศ ระบุว่า “ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2543 เป็นต้นไป ค่าธรรมเนียมขึ้นบนขบวนรถโดยไม่มีตั๋ว ขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน และรถเร็ว คนละ 250 บาท และขบวนรถอื่นๆ คนละ 100 บาท และเห็นว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำตามหน้าที่ ไม่ควรจะไปตำหนิ เพราะหากสถานีที่จอดมีช่องจำหน่ายตั๋วโดยสารแล้วกลับขึ้นรถไฟโดยไม่มีตั๋ว ถือว่ามีเจตนาไม่ชำระค่าโดยสาร แตกต่างจากคนที่ขึ้นรถไฟจากที่หยุดรถไฟโดยไม่มีช่องจำหน่ายตั๋วโดยสาร สามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ในราคาปกติ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กฎข้อบังคับว่าด้วยระเบียบการบรรทุกส่งผู้โดยสารและสัมภาระฯ เล่ม 2 พ.ศ. 2469 ข้อ 75 การโดยสารไม่มีตั๋ว ระบุว่า ผู้โดยสารที่โดยสารไปกับขบวนรถโดยไม่มีตั๋วโดยสาร หรือเอกสารคุ้มครองการโดยสาร เมื่อเจ้าหน้าที่รถไฟตรวจพบ นอกจากจะต้องชำระค่าโดยสารจากสถานีที่ขึ้นถึงสถานีที่ลง ตามอัตราที่การรถไฟกำหนดแล้วยังจะต้องชำระค่าธรรมเนียมซื้อตั๋วบนขบวนรถตามอัตราที่ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถจะเป็นผู้พิจารณากำหนด ผู้โดยสารที่มีเจตนาหลบซ่อนหรือหลีกเลี่ยง เพื่อโดยสารไปโดยไม่เสียค่าโดยสาร จะต้องถูกปรับฐานหลบเลี่ยงโดยสารไปกับขบวนรถโดยไม่เสียค่าโดยสารตามกฎหมายอีกโสดหนึ่ง นอกเหนือจากต้องชำระค่าต่างๆ และข้อ 77 หลีกเลี่ยงไม่ยอมเสียเงินค่าโดยสาร ระบุว่า ผู้ใดพยายามหลีกเลี่ยงไม่เสียเงินค่าโดยสาร หรือขัดขืนไม่ยอมเสียเงินค่าปรับ ซึ่งต้องถูกปรับตามกฎข้อบังคับก็ดี พนักงานรถไฟ คือ อาณาบาล นายสถานี พนักงานรักษารถหรือผู้หนึ่งผู้ใดที่ทำการแทน มีอำนาจที่จะจับกุมเพื่อนำส่งตัวต่อเจ้าหน้าที่ให้ชำระว่ากล่าวต่อไปตามกฎหมาย