xs
xsm
sm
md
lg

รพ.วชิระ แจงอาสาฯ โพสต์คลิปด่าเจ้าหน้าที่ ยืนยันคนไข้ได้รับการรักษา-ปฏิบัติตามขั้นตอนเคร่งครัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


MGR Online – ผอ.วชิรพยาบาล ชี้แจงกรณีอาสากู้ภัยโวยโพสต์คลิปด่ากราดหลังพาคนจรจัดย่านบางลำภู ส่งโรงพยาบาล โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทำการรักษา ไล่ไปหาบัตรประชาชน อัดไร้จรรยาบรรณ ฝั่ง รพ. โดยยกข้อมูลยันรักษาคนไข้ไม่เลือกปฏิบัติ - ไม่ได้คิดค่ารักษา แต่ตามขั้นตอนต้องมีระบุตัวผู้ป่วยให้ถูกต้อง มิฉะนั้น อาจเกิดความเสียหายร้ายแรง เรียกคนโพสต์มาพูดคุยทำความเข้าใจเรียบร้อยแล้ว

จากกรณีเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี Sakonkorn Pimthon โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 4.42 นาที เป็นเหตุการณ์ที่บริเวณหน้าฉุกเฉิน รพ.วชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยชายในคลิปซึ่งระบุตนเองเป็นอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ดังกล่าว ระบุว่า ทีมอาสาสมัครได้นำชายจรจัดเก็บของเก่าในย่านบางลำภูมีอาการชักเกร็งเข้ารักษาในโรงพยาบาลวชิรพยาบาล แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกลับไม่ให้การรักษา ทั้งยังพยายามให้หาญาติหรือบัตรประชาชนมายืนยันว่าเป็นคนไทยจริง พร้อมทั้งขู่ว่าถ้าไม่มีค่ารักษาอาจจะแพงมาก โดยชายคนดังกล่าวได้ต่อว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอย่างรุนแรงว่าไร้จรรยาบรรณ ไร้มนุษยธรรม ตนเป็นอาสาฯ มา 20 ปีไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ทำให้มีผู้เข้าไปต่อว่า รพ.วชิรพยาบาล จำนวนมาก

วานนี้ (8 ม.ค.) รพ.วชิรพยาบาล โดย นพ.สุวุฒิ ลีฬหะกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้ออกจดหมายชี้แจงในกรณีดังกล่าวโดยบอกเล่าถึงเหตุการณ์อย่างละเอียด พร้อมกับยืนยันว่า ชายคนดังกล่าวที่ทราบชื่อว่า “นายดำ” ได้รับการรักษา ตามนโยบายในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทุกรายไม่เลือกปฏิบัติ และไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่าย ส่วนการที่จะต้องระบุตัวผู้ป่วยให้ถูกต้องนั้นเป็นนโยบายและมาตรฐานในการปฏิบัติงานที่ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด

“กรณีนี้เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้จึงต้องใช้ชื่อว่าชายไทยไม่ทราบชื่อไปก่อน แต่เจ้าหน้าที่ทั้งแพทย์ พยาบาล ได้ให้การรักษาตามมาตรฐานไม่ได้มีความล่าช้าในการดูแลรักษาพยาบาลหรือทำการดูแลรักษาต่ำกว่ามาตรฐานเป็นแค่อย่างใด ส่วน ด้านค่ารักษาพยาบาล เจ้าหน้าที่ของ รพ. ไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด และได้แจ้งว่า หากผู้ป่วยหรือญาติไม่สามารถชำระค่าใช้จ่าย ได้ทาง รพ. มีงานบริการสังคม (สังคมสงเคราะห์) ที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้” ผอ.รพ.วชิรพยาบาลระบุ และยืนยันว่า ได้เชิญผู้โพสต์คลิปดังกล่าวและผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุยและทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว



ข้อชี้แจง กรณีมีผู้โพสต์ facebook ตำหนิการปฏิบัติงานของ รพ.วชิรพยาบาล


ด้วยปรากฏว่า เมื่อคืนวันที่ 6 มกราคม 2561 มีผู้ใช้ชื่อ Sakonkorn Pimthon ได้โพสต์ Cilp ใน Facebook โดยกล่าวหาและตำหนิบุคลากรของ รพ.วชิรพยาบาล ว่า ปฏิบัติต่อผู้ป่วยซึ่งถูกนำส่งโดยรถพยาบาลของอาสาสมัครของมูลนิธิแห่งหนึ่ง อย่างไม่เหมาะสม ไม่มีจรรยาบรรณ ทาง รพ.วชิรพยาบาล ได้ตรวจสอบข้อมูลและมีข้อเท็จจริง ดังนี้

1. เมื่อวันที่6 มกราคม 2561 เวลาประมาณ 20.10 น. รถของอาสาสมัครมูลนิธิแห่งหนึ่งซึ่งมีบุคคลที่ใส่ชุดอาสาสมัครกู้ชีพ อย่างน้อย 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ได้นำผู้ป่วยชาย ลักษณะมึนงงคล้ายคนเมา มีบาดแผลที่คิ้ว มาส่งที่ห้องฉุกเฉินวชิรพยาบาล พยาบาลที่หน่วยคัดกรองได้สอบถามชื่อผู้ป่วย ผู้ป่วยแจ้งชื่อตนเอง ชื่อ ดำแต่ไม่แจ้งชื่อ - สกุลจริง ระหว่างนั้นอาสาสมัครผู้หญิง ที่พาผู้ป่วยมา ได้นำถุงยาพร้อมเอกสารใบนัดระบุชื่อผู้ป่วยรายหนึ่ง (มีชื่อในใบนัด) ไปที่โต๊ะเวชระเบียน เพื่อขอลงทะเบียนให้ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่เวชทะเบียนขอดูบัตรประชาชนผู้ป่วยเพื่อการระบุตัวที่ถูกต้อง อาสาสมัครแจ้งว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ที่เวชระเบียนจึงตรวจสอบในระบบคอมพิวเตอร์ พบว่า มีชื่อผู้ป่วยตามใบนัดดังกล่าวจริงแต่ไม่มีรูปถ่ายหรือสำเนาบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่เวชระเบียนจึงแจ้งอาสาสมัครว่าขณะนี้ ไม่สามารถยืนยันและรับรองสิทธิ์ให้ได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ในการรักษาครั้งนี้ขอใช้ชื่อชายไทยไม่ทราบชื่อไปก่อนและให้แจ้งพยาบาลที่หน่อยคัดกรองทราบ พยาบาลได้สอบถามชื่อและบัตรประชาชนกับผู้ป่วยอีกครั้ง ผู้ป่วยบอกได้เพียงชื่อดำ ไม่พูดชื่อ นามสกุลจริง รวมทั้งไม่มีหลักฐานอื่นๆ จึงเห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เวชระเบียน ให้ลงว่าเป็นชายไทยไม่ทราบชื่อไปก่อน เมื่อมีหลักฐานค่อยมาแก้ไข้ภายหลัง และได้สอบถามอาสาสมัคร ว่ามีญาติหรือไม่ ถ้ามีให้ช่วยหาหลักฐานมายืนยัน

2. ในขณะที่มีการดำเนินการเพื่อลงทะเบียน พยาบาลได้ตรวจคัดกรองอาการผู้ป่วยแนะนำผู้ป่วยเข้ารับการตรวจรักษาที่ห้องตรวจและมีแพทย์มาดูแลทันที

3. ต่อมาสักครู่ มีอาสาสมัครหญิง พาชายผู้หนึ่งมาแจ้งตัวว่าเป็นญาติ ชายผู้นี้แจ้งว่าเป็นสามีของแม่ ทราบแค่ชื่อเล่นว่าดำ ไม่ทราบชื่อจริงของผู้ป่วยและไม่มีหลักฐานยืนยันเจ้าหน้าที่เวชระเบียนจึงแจ้งอีกครั้งว่ายังใช้ชื่อชายไทยไม่ทราบชื่อไปก่อน ทั้งญาติและอาสาสมัคร เดินกลับไป

4. ด้านการตรวจรักษา แพทย์ได้ตรวจประเมินและทำการรักษา โดยทำแผล เจาะเลือดและให้น้ำเกลือระหว่างนั้นผู้ป่วยชักเกร็ง แพทย์ใด้ให้ยาแก้ชัก จนหายชัก แล้วส่งไปตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์หลังกลับมา พบว่าผู้ป่วยมีอาการชักช้ำ แพทย์จึงให้ยาเพิ่มและปรึกษาแพทย์ที่เกี่ยวข้องและรับผู้ป่วยเข้ารักษาในหอผู้ป่วยใน

5. ระหว่างการตรวจรักษาที่ห้องฉุกเฉินมีอาสาสมัครได้เปิดประตูเข้ามาดูผู้ป่วยเป็นระยะๆ ทีมแพทย์พยาบาลได้ขอให้อาสาสมัคร รอด้านนอก และผู้ที่แจ้งว่าเป็นญาติได้สอบถามเรื่องค่าใช้จ่าย ทางพยาบาลจึงบอกว่าไม่ทราบค่าใช้จ่ายเนื่องจากยังอยู่ระหว่างการรักษา ให้หาหลักฐานมาดำเนินการภายหลัง ระหว่างนั้น ญาติพูดว่าไม่มีเงินถ้าค่าใช่จ่ายสูง ไม่อยากให้ใส่ท่อช่วยหายใจ และขอเอาคนไข้กลับ แต่พยาบาลแจ้งว่ายังไงก็ต้องรักษาและสามารถปรึกษาสังคมสงเคราะห์ภายหลังได้

6. ระหว่างการรักษามีอาสาสมัคร คนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องตรวจและค้นตัวผู้ป่วยโดยไม่ขออนุญาตพยาบาลได้แจ้งว่าทำไม่ได้ ต้องขออนุญาตจากทีมแพทย์พยาบาลก่อน อาสาสมัครคนนั้นจึงเดินออกไป

7. หลังจากนั้นมีชายที่ใช้ชื่อ Sakonkorn Pimthon ได้โพสต์ live สดผ่าน Facebook ตำหนิเจ้าหน้าที่วชิรพยาบาลอย่างรุงแรง ซึ่งได้มีผู้เข้าไป Comment ตำหนิวชิรพยาบาลและสนับสนุนการกระทำของผู้โพสต์ และมีการนำ Clip ไปแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ผู้โพสต์ Clip ไม่ได้เป็นผู้นำส่งผู้ป่วยแต่ตามมาที่รพ.ภายหลัง

ข้อสรุป
จากข้อเท็จจริงดังกล่าว ทางโรงพยาบาลวชิรพยาบาลขอชี้แจงว่า
1. โรงพยาบาลวชิรพยาบาล มีนโยบายที่ชัดเจนในการผู้ป่วยฉุกเฉินทุกรายโดยไม่เลือกปฏิบัติ และไม่คำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่าย
2. การระบุตัวผู้ป่วยให้ถูกต้อง เป็นนโยบายและมาตรฐานในการปฏิบัติงาน ที่ผู้บริหารให้บุคลากรต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยเอง อีกทั้งโรงพยาบาลมีประสบการณ์กรณีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งสวมชื่อผู้อื่นเข้าทำการรักษา และตรวจสอบพบภายหลัง ทำให้เกิดปัญหาและความเสียหายอย่างรุนแรงตามมาจำนวนมาก
3. กรณีนี้เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้จึงต้องใช้ชื่อว่าชายไทยไม่ทราบชื่อไปก่อน แต่เจ้าหน้าที่ทั้งแพทย์ พยาบาล ได้ให้การรักษาตามมาตรฐานไม่ได้มีความล่าช้าในการดูแลรักษาพยาบาลหรือทำการดูแลรักษาต่ำกว่ามาตรฐานเป็นแค่อย่างใด
4. ด้านค่ารักษาพยาบาล เจ้าหน้าที่ของ รพ. ไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด และได้แจ้งว่า หากผู้ป่วยหรือญาติไม่สามารถชำระค่าใช้จ่าย ได้ทาง รพ.มีงานบริการสังคม (สังคมสงเคราะห์)ที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้
5. วันนี้ (8 ม.ค. 2561) เวลา 11.00 น. โดยมีผู้อำนวยการได้เชิญคุณ Sakonkorn Pimthon ผู้โพสต์คลิปดังกล่าวและผู้เกี่ยวข้อง มาพูดคุยและทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จึงเรียนมาเพื่อให้สื่อมวลชน สาธารณชน และผู้เกี่ยวข้องทราบโดยทั่วกัน




กำลังโหลดความคิดเห็น