อธิบดีกรมทางหลวง ชี้แจงการเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ จากกรุงเทพฯ ถึงพัทยา สูงสุด 105 บาท ไม่ใช่การขึ้นค่าธรรมเนียม แต่เป็นระยะทางการให้บริการเพิ่มขึ้น พร้อมขยายถนนสายอื่นทดแทน และทำทางขนานโดยไม่เสียเงิน
วันนี้ (5 ม.ค.) นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงกรณีที่มีสื่อออนไลน์ วิจารณ์การขึ้นค่าบริการค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) กรุงเทพฯ - เมืองพัทยา อัตราใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ ที่เพิ่มขึ้นจาก 60 บาท เป็น 105 บาท ว่า กรมทางหลวงได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2532 ที่กำหนดให้ทางหลวงสายกรุงเทพฯ - ชลบุรี - พัทยา ระยะทาง 126 กิโลเมตร เป็นทางหลวงพิเศษที่ควบคุมทางเข้า - ออกแบบสมบูรณ์ โดยกั้นรั้วถาวรตลอดแนวเขตทาง และให้เป็นทางหลวงที่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางในระบบปิด (Closed System) เก็บค่าธรรมเนียมตามระยะทางที่ใช้
ต่อมากรมทางหลวงได้ดำเนินการให้มอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วงกรุงเทพฯ - ชลบุรี ระยะทาง 78 กิโลเมตร เก็บค่าธรรมเนียมในระบบปิด ตามระยะทางที่ใช้ โดยคิดในอัตรา 1 บาทต่อกิโลเมตร ตลอดจนพัฒนาระบบควบคุมการจราจรและอำนวยความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ทางแล้ว ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2559 โดยรถยนต์ 4 ล้อจะเสียค่าธรรมเนียมฯ 10 - 60 บาท ตามระยะทางที่ใช้ ส่วนช่วงชลบุรี - พัทยา ระยะทาง 48 กิโลเมตร แต่เดิมการควบคุมทางเข้า - ออก ยังไม่สมบูรณ์ อีกทั้งไม่มีระบบควบคุมการจราจรและอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวงได้ก่อสร้างด่านเก็บเงิน และระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมในระบบปิด รวมทั้งพัฒนาระบบควบคุมการจราจรและอำนวยความปลอดภัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ได้ทดลองให้บริการในวันนี้ ด้วยอัตราค่าธรรมเนียมเดิม และจะเก็บค่าธรรมเนียมตามระยะทางที่ใช้ในอัตรา 1 บาทต่อกิโลเมตร ภายหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยรถยนต์ 4 ล้อที่เดินทางจากกรุงเทพฯ - พัทยา ระยะทาง 126 กิโลเมตร จะเสียค่าธรรมเนียม 105 บาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ใช่การขึ้นค่าธรรมเนียม แต่เป็นระยะทางการให้บริการของโครงข่ายมอเตอร์เวย์ที่เพิ่มขึ้น การปรับปรุงและพัฒนาสำหรับช่วงชลบุรี - พัทยา เพื่อให้เป็นมอเตอร์เวย์ในระบบปิดนั้น กรมทางหลวงได้ดำเนินการปรับปรุงสภาพผิวทาง ระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง, ติดตั้งรั้วเพื่อควบคุมทางเข้า - ออก ลดการตัดกระแสจราจร เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง, จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการจราจร (CCB พัทยา) พร้อมระบบอำนวยความปลอดภัยบนสายทางและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่ โทรศัพท์ฉุกเฉิน ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบป้ายปรับเปลี่ยนข้อความ (VMS) และป้ายข้อความ (MS) นอกจากนี้ ยังได้จัดหน่วยกู้ภัยเพิ่มเติมด้วย เพื่อเพิ่มความอุ่นใจตลอดเส้นทาง และเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ใช้ทางตลอด 24 ชั่วโมง
การปรับปรุงและพัฒนามอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วงชลบุรี - พัทยา นั้น กรมทางหลวงได้พัฒนาโครงข่ายทางหลวงแผ่นดินโดยรอบเพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการประชาชนด้วย เช่น ขยายทางหลวงหมายเลข 344 สายชลบุรี - แกลง บริเวณทางแยกต่างระดับบ้านบึง เป็น 6 ช่องจราจร, ขยายทางหลวงหมายเลข 331 บริเวณทางแยกต่างระดับหนองขาม - มาบเอียง เป็น 8 ช่องจราจร ตลอดจนก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3701 และทางหลวงหมายเลข 3702 ซึ่งเป็นทางหลวงแผ่นดินคู่ขนานกับมอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วงชลบุรี - พัทยา ที่ผู้ใช้ทางสามารถเลือกเดินทางได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ตอนกรุงเทพมหานคร - เมืองพัทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ตอนกรุงเทพมหานคร – เมืองพัทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เป็นการปรับปรุงบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ตอนกรุงเทพมหานคร - เมืองพัทยา พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี 13 พ.ค. 2532 ที่เห็นชอบให้ทางหลวงพิเศษสายดังกล่าว เป็นทางหลวงที่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางในระบบปิด
เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้ก่อสร้างปรับปรุงทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ช่วงชลบุรี - พัทยา เสร็จแล้ว โดยขยายเพิ่มช่องจราจร ควบคุมทางเข้าออกสมบูรณ์ และก่อสร้างด่านเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเพื่อเก็บค่าธรรมเนียมในระบบปิดทั้งหมด 9 ด่าน ได้แก่ ด่านลาดกระบัง ด่านบางบ่อ ด่านบางปะกง ด่านพนัสนิคม ด่านบ้านบึง ด่านบางพระ ด่านหนองขาม ด่านโป่ง และ ด่านพัทยา จึงสมควรปรับปรุงบัญชีท้ายกฎกระทรวงดังกล่าวให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ตอนกรุงเทพมหานคร - เมืองพัทยาใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2561 เป็นต้นไป