รอง ผบ.ตร. แถลงจับกุมวินมอเตอร์ไซค์เถื่อน รับผู้โดยสารจากหมอชิต 2 ก่อนขูดรีดค่าโดยสารเกือบ 500 บาท พบประวัติโชกโชน ติดคุกมาแล้ว 5 รอบ แถมรถที่ใช้ก่อเหตุเป็นของเพื่อนที่ติดคุกในเรือนจำ “วิระชัย” ชี้ชัดกลายเป็นแก๊งกรรโชกทรัพย์ ทำมาแล้วหลายครั้ง แจ้ง 5 ข้อหาหนัก พร้อมล่าตัว “นายอ้อม” ดำเนินคดี
วันนี้ (3 ม.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เมื่อเวลา 19.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวจับกุม นายธรรมรัตน์ อ่ำน้อยวงษ์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาในคดีก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ-ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน 6 กค 8788 กรุงเทพมหานคร รับส่งผู้โดยสารจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 แล้วเรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคาเกือบ 500 บาท เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา และมีผู้เสียหาย 2 ราย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อเตือนภัย พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ จับกุมได้ที่ชุมชนวัดสุนทรธรรมทาน (วัดแค นางเลิ้ง) ถนนพะเนียง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ตนได้กำชับและมอบนโยบายให้ดูแลประชาชนในการเดินทาง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ตนได้ทราบว่ามีผู้เสียหายถูกกรรโชกทรัพย์เกิดขึ้น โดยทราบจากโซเชียลมีเดีย เรื่องนี้ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทราบเรื่องแล้ว ได้สั่งให้ดำเนินการตรวจสอบโดยด่วน ว่า คนร้ายที่อยู่ในคลิปเป็นใคร จากนั้นได้ตรวจสอบว่าผู้เสียหายเป็นใคร จึงทราบว่าได้มีผู้เสียหายมาแจ้งความในขณะนี้ 3 ราย โดย 2 รายแรก เป็นผู้เสียหายที่เดินทางมาจากภาคเหนือ ลงรถที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 พอลงรถเสร็จ กลุ่มคนร้ายมากัน 2 คน รับอาสาจะพาผู้เสียหายมาส่งในจุดหมายปลายทางที่ป้ายหยุดรถประจำทาง ถนนวิภาวดีรังสิต แต่ปรากฏว่าได้ใช้กลอุบายนำผู้เสียหายทั้ง 2 คน แยกไปคนละทาง เพื่อสะดวกในการกรรโชกทรัพย์ แล้วปรากฏว่า ได้เรียกค่าโดยสารรายละ 480 บาท กระทั่งกรรโชกทรัพย์ได้สำเร็จ ซึ่งจ่ายเป็นที่เรียบร้อย ถือว่าความผิดสำเร็จ
อีกรายหนึ่งก็ถูกกลุ่มผู้ต้องหารายนี้อาสาว่าจ้างให้ไปส่งจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ไปยังจุดที่อ้างว่ามีรถแท็กซี่ บนถนนวิภาวดีรังสิต ปรากฏว่า เรียกค่าโดยสาร 450 บาท แต่จ่ายเพียง 100 บาท และคนร้ายมีทีท่าว่าจะทำร้าย จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายมี 2 คน เป็นผู้ร่วมขบวนการเดียวกัน ส่วนรถคันที่ใช้ก่อเหตุ พบว่า เป็นรถของผู้ต้องหารายหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เป็นนักโทษในเรือนจำ ในข้อหาค้ายาเสพติด และจากการตรวจสอบประวัติ นายธรรมรัตน์ พบว่า เคยถูกจับกุมแล้ว 5 ครั้ง อาทิ ปี 2552 ถูกจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติด ปี 2553 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ปี 2554 ถูกจับกุม 2 ครั้ง ในข้อหาเสพยาเสพติด และปี 2555 ในข้อหาเสพยาเสพติด ทั้ง 5 ครั้ง ก่อเหตุในพื้นที่ สน.นางเลิ้ง และภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ สน.นางเลิ้ง ขณะนี้ตำรวจได้จับกุมไว้ได้แล้ว ส่วนผู้ต้องหาอีกราย คือ นายอ้อม (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการ ขณะนี้ได้ออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาหนักแก่ผู้ต้องหาทั้งสองคน 5 ข้อหา คือ กรรโชกทรัพย์โดยข่มขู่จะทำร้าย, พ.ร.บ. รถยนต์ ใช้รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมารับคนโดยสาร, ขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ, ใช้รถที่ยังไม่ได้เสียภาษีประจำปี และ ขับรถโดยไม่แสดงสำเนาภาพถ่าย ใบคู่มือทะเบียนรถ เรื่องนี้ต้องขอบคุณผู้เสียหายที่นำภาพขึ้นโซเชียลมีเดีย และทำให้ตำรวจรู้ว่ามีความเดือดร้อนเกิดขึ้น หากพบเหตุที่ไม่ชอบมาพากล ขอให้แจ้งความที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้ไปดำเนินการจับกุมต่อไป กรณีนี้เพียงแค่เรียกค่าโดยสารเกินกว่าที่กำหนด เมื่อจับกุมขยายผลกลายเป็นแก๊งกรรโชกทรัพย์ และกระทำความผิดหลายครั้ง ถ้าปล่อยบุคคลเหล่านี้ลอยนวลต่อไป จะไปกระทำความผิดต่อประชาชนจำนวนมาก
“โชคดีที่ตำรวจได้รู้ข้อมูลและจับกุมตัวได้ภายในไม่เกิน 1 วัน ต่อไปนี้เห็นใครทำไม่ถูกต้องรีบแจ้งตำรวจ รวมทั้งรถแท็กซี่เรียกค่าโดยสารเกินหรือข่มขู่ หรือผู้ที่ใช้รถส่วนตัวมารับจ้างรับผู้โดยสารแล้วกรรโชกทรัพย์ และแท็กซี่ที่ขับวนไปวนมา ไม่ส่งถึงจุดหมายปลายทางอย่างที่ควรจะเป็น ก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน ถ้าประชาชนเจอแบบนี้ขอให้แจ้งความ จะได้ขจัดบุคคลที่ทำให้ประชาชนดือดร้อนออกไป ขณะนี้กรุงเทพมหานคร มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เราต้องช่วยกันดูแล ไม่ให้ใครเอาเปรียบนักท่องเที่ยวและนักเดินทาง เพื่อไม่ให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหาย เพื่อความปลอดภัยและไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากรถโดยสารสาธารณะ” พล.ต.อ.วิระชัย กล่าว
ขณะที่ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ โดยระบุรูปพรรณสัณฐานคนร้ายตรงกัน คือ มีรอยสัก หนึ่งในผู้เสียหายระบุว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนและเพื่อนผู้เสียหายอีกคน นั่งรถประจำทางกลับจาก จ.เชียงใหม่ มาลงที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ถูกกลุ่มวินรถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน ชักชวนให้ใช้บริการ แต่ตนไม่สนใจ เพราะตั้งใจจะนั่งรถแท็กซี่ แต่วินดังกล่าวยังคงตามตื๊อ จึงเจรจาว่าจะจ่ายเงินค่าเสียเวลาให้โดยไม่ต้องไปส่ง แต่ชายคนดังกล่าวกลับไม่ยอม พร้อมบอกว่าจะพาไปเรียกรถแท็กซี่ ตนกับเพื่อนจึงตกลงนั่งรถรถจักรยานยนต์คนละคัน สุดท้ายกลับถูกเรียกเงินคนละ 480 บาท เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเสพยาเสพติดด้วย เพราะมีอาการคล้ายคนเมายา ส่วนผู้เสียหายอีกรายเป็นพนักงานโรงงานย่าน จ.สมุทรปราการ เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว
อ่านประกอบ : รวบแล้ว! วินเถื่อนหมอชิต 2 รีดค่าโดยสารเกือบ 500 ผู้เสียหายแจ้งความแล้ว
แจ้งความด่วน! แนะเหยื่อ “วินผี” ทะเบียน 8788 โขกค่าโดยสารหมอชิต 2 ไปที่ สน.บางซื่อ
มากกว่าผี! พบ “มอเตอร์ไซค์รับจ้าง” หมอชิต 2 โขกค่าโดยสาร สวมเสื้อ “วินอู่ทองใน” เบอร์ 18
เตือนภัยมอเตอร์ไซค์ทะเบียน 8788 อ้างเป็นวิน “หมอชิต 2” แยกกับเพื่อน-โขกค่าโดยสารเกือบ 500