หนุ่มพัทยาโวยถูกตำรวจตรวจฉี่ที่ด่านตรวจซอยกอไผ่ 4 พัทยาใต้ พบฉี่สีม่วงสักพักเป็น 2 ขีด ถูกปล่อยตัว แต่เพื่อนควบคุมตัว เตรียมนำไปดำเนินคดี ต้องร้องความบริสุทธิ์ สุดท้ายตำรวจตรวจอีกครั้งพบ 2 ขีด ก่อนขอโทษอ้างผิดพลาดกันได้ ถามเสียเวลา เสียงาน เสียขวัญ ใครจะรับผิดชอบ
เรื่องวุ่นๆ ของการตรวจปัสสาวะในด่านตรวจในครั้งนี้ เกิดขึ้นผู้ใช้เฟซบุ๊ก Porqe Kylie โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2560 ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2560 เวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่ตนขับขี่จักรยานยนต์พร้อมกับเพื่อนถึงจุดตรวจ-จุดสกัดบริเวณซอยกอไผ่ 4 พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตนไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบปัสสาวะสีม่วง 1 ขีด ตำรวจจึงยึดโทรศัพท์มือถือ และให้ขึ้นไปนั่งรอที่ท้ายรถกระบะของตำรวจ จากนั้น 10 นาทีต่อมาพบว่าปัสสาวะสีม่วง 2 ขีด ตำรวจจึงปล่อยตัวและให้โทรศัพท์คืน แต่เพื่อนของตนถูกควบคุมตัวไว้ต่อ
กระทั่งเวลา 23.00 น. ตำรวจเก็บของพร้อมกับขับรถกระบะกลับ สภ.เมืองพัทยา โดยมีบุคคลที่พบปัสสาวะสีม่วง 4-5 คน รวมทั้งเพื่อนของตนนั่งท้ายรถกระบะของตำรวจ ตนได้เรียกเพื่อนตามไปที่โรงพักเพราะตำรวจยึดรถไว้ เมื่อถึง สภ.เมืองพัทยา ตำรวจได้พาเพื่อนของตนไปที่ห้องร้อยเวร โดยมีตำรวจจำนวนมากและบุคคลที่พบปัสสาวะสีม่วงรวมกัน โดยที่ตำรวจไม่ให้เพื่อนใช้โทรศัพท์มือถือ และไม่ให้คุยกับคนข้างนอก ตำรวจออกบันทึกการจับกุม เอากุญแจมือมาใส่ บอกว่าผลการแยกสารจากโรงพยาบาลออกมาแล้ว กำลังจะเอาตัวเพื่อนนำส่งร้อยเวร แต่ตนคัดค้านเพราะแม้ตำรวจตรวจปัสสาวะเบื้องต้นแล้วยังไม่สามารถส่งฟ้องได้ เพราะการส่งฟ้องต้องมีใบรับรองจากแพทย์ และเมื่อตำรวจบอกว่าผลการแยกสารจากโรงพยาบาลมาแล้ว แต่ตำรวจเป็นคนเอาปัสสาวะไปส่งเองโดยที่เราไม่ได้ไป และพอขอดูผลตรวจก็ไม่ให้ดู ถ่ายรูปก็ไม่ได้
เมื่อตนร้องขอตำรวจให้นำปัสสาวะไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ โดยให้เพื่อนและตนไปด้วย ทีแรกขอไปตรวจที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ตำรวจบอกไปได้ แต่ต้องจ่ายค่าตรวจเอง อีกสักพักบอกว่าผลตรวจโรงพยาบาลเอกชนใช้ไม่ได้ ต้องไปโรงพยาบาลของรัฐ ก็ตอบตกลง บอกขอไปตอนนี้เลย โรงพยาบาลรัฐก็ได้ ต่อมาตำรวจถอดกุญแจมือเพื่อน พาไปปัสสาวะใหม่ แล้วบอกว่าตำรวจไม่มีรถ ให้หารถไปเอง ก็ตอบตกลง หารถตอนที่รอตำรวจคุยกับเพื่อน ระหว่างนั้นตำรวจไปเอาที่ตรวจปัสสาวะมาตรวจอีกที ปรากฏว่าผลตรวจปัสสาวะขึ้นสีม่วงสองขีด แต่ไม่ได้ถ่ายรูปนั้นมาเพราะถ่ายไม่ทัน จึงไม่ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว
ต่อมาตำรวจบอกขอโทษ มีผิดพลาดกันได้ ต้องโทษโรงพยาบาลบางละมุงด้วยที่ตรวจผิดพลาด แล้วก็ปล่อยเพื่อนกลับง่ายๆ ประเด็นก็คือ เพื่อนของตนต้องลางานเพราะรอผลตรวจปัสสาวะ ตนเสียเวลา 4-5 ชั่วโมง ทำไมไม่พาไปโรงพยาบาลตั้งแต่แรก ถ้าไม่ตรวจใหม่เพื่อนของตนต้องถูกดำเนินคดีหรือ งานไม่ได้ทำใครรับผิดชอบ เอากุญแจมือมาใส่ ทั้งๆ ที่ตำรวจเอาผลปัสสาวะไปส่งเอง สุดท้ายผลจากโรงพยาบาลผิดพลาด ตำรวจพูดคำเดียวขอโทษที่ทำให้เสียเวลา ถ้าไม่แย้งต้องยอมนอนคุกหรือ กระบวนการทำงานคือยังไง สรุปเกือบโดนจับเพราะผลตรวจผิดพลาด แถมเป็นผลตรวจจากการแยกสารของโรงพยาบาลที่ตำรวจเอาปัสสาวะไปส่งเอง สุดท้ายก็ไม่ได้มีปัสสาวะสีม่วง ใครเจอด่านตรวจแบบนี้แล้วบริสุทธิ์ใจไม่ต้องกลัว ขอไปตรวจโรงพยาบาลก่อนเลย ถือปัสสาวะตัวเองไว้ตลอด ห้ามดื่มน้ำจากใครทั้งนั้น ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ
สำหรับผู้เสียหายที่ถูกจับกุม และผลตรวจปัสสาวะผิดพลาด ทราบชื่อภายหลังคือ นายทักษ์ดนัย หลวงนุช อายุ 19 ปี ชาว อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ทำงานที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี อยากถามตำรวจว่า กรณีที่เสียเวลา เสียงาน และเสียขวัญ ใครจะรับผิดชอบ ที่นำคลิปมาโพสต์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่า ถ้าตัวเองไม่เรียกร้องความบริสุทธิ์ใจให้ตัวเองก็อาจจะถูกดำเนินคดีได้ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว MGR Online โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงกับ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา แต่พบว่าไม่รับสาย