รายการ "พระอาทิตย์LIVE" ร่วมพูดคุยกับ นายดำรง พุฒตาล ผู้ก่อตั้งนิตยสาร คู่สร้างคู่สม ถึงสาเหตุประกาศปิดนิตยสารที่ครองใจคนไทยมายาวนาน 38 ปี ออกอากาศในวันพฤหัสบดี ทางช่อง NEWS1 เวลา 10.00 - 11.00 น.
คำต่อคำ สัมภาษณ์เปิดใจปิดตำนาน 38 ปี "คู่สร้างคู่สม"
ศุภัคญาฎาร -สวัสดีค่ะ คุณผู้ชมค่ะต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการ พระอาทิตย์ ไลฟ์ ค่ะ วันนี้นะค่ะมีเรื่องราวของนิตยสารชื่อดังค่ะ ต้องบอกว่านิตยสารเล่มนี้เป็นเล่มที่ขายดิบขายดีที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ แต่วันนี้ก็ปิดตัวลง แล้วก็เป็นเรื่องที่ทอล์คออฟเดอะทาวน์ ตลอดทั้งสัปหาห์นี้ แน่นอนที่สุดค่ะว่าบุคคลที่จะมาพูดคุยกับเรา ถึงเรื่องของการปิดตัวลงนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก แขกรับเชิญของเราในวันนี้ นั้นก็คือคุณอา ดำรง พุฒตาล ค่ะ สวัสดีค่ะ
ดำรง - สวัสดีครับ
พชร - สวัสดีครับ
ศุภัคญาฎาร - ต้อนรับพี่เพชรด้วย นะค่ะ
พชร - ยังอยู่เหมือนเดิม
ศุภัคญาฎาร - ออกจะตื่นเต้นนิดๆ นะค่ะ
พชร - ส่วนตัวต้องบอก คุณอาว่า เพชรนี้ตื่นเต้นมากเละเพราะว่า ไม่เคยคิดเลยว่าคุณอาจะมาเอง
ดำรง - ผมรอว่าเมื่อไหร่รายการ พระอาทิตย์นี้จะชวนมาสักที ชวนมาก็ดีใจแล้วก็กับคุณเพชรก็คุ้นเคยกัน กับคุณพ่อเขาด้วย
ศุภัคญาฎาร - คุ้นเคยไปยังรุ่นนู้นเลย
ดำรง - ท่านเป็นคนสำคัญของบ้านเมืองนะ เป็นสื่อเขียนหนังสือก็ดีมากเลยคุณพ่อคุณเพชรเนี่ย แล้วคุณเพชรก็รับเชื้อมา
ศุภัคญาฎาร - ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเนอะ
พชร - ในฐานะความเป็นสื่อเนี่ยนะ ก็สารภาพเลยว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาผมลุ้นมาโดยตลอด เพราะว่าพอมีข่าวผมเนี่ยคาดการณ์ล่วงหน้าว่ามันไม่น่าเป็นไปได้
ศุภัคญาฎาร - เออ มีแต่คนคิดแบบนั้นแหละ
พชร - แต่ว่าพอเสร็จแล้วเนี่ย ก็ได้มีคำตอบของคุณอาซึ่งในฐาระคนทำสื่อเนี่ยค่อนข้างประทับใจมากกับคำตอบที่ได้รับอยู 2 ประเด็น ซึ่งเดียวคุณอาก็คงขยายความต่อไป แต่สิ่งแรกที่ผมสนใจมาก ก็คือบอกว่าความต้องการของสื่อคนทำสื่อกระดาษเนี่ย มันไม่ได้ต้องการตอบโจทย์ที่ว่า สื่อกระดาษมันขยับไม่ได้ คนไม่อ่านแล้ว ก็ต้องไปดิจิตอลสิ ในเมื่ออยากทำนิตยสารที่มันเป็นกระดาษแบบเนี้ย พอคนไม่อ่านแล้ว คุณอาก็บอก ก็เลิกกัน ผมจะไปดิจิตอลทำไม ในเมื่อผมไม่อยากทำดิจิตอล อันนี้เนี่ยผมเชื่อว่าโดนใจผมและคนทำอื่นๆอีกหลายคน
ศุภัคญาฎาร - มันคิดไปถึงขั้นไหนรู้ไหม เหมือนกับว่าคบกับแฟนคนนี้อะไรประมาณนั้นเหมือนกับเป็นคู่รักอะไรสักอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าจะเปลี่ยนเป็นอีกคนก็ไม่ได้
พชร - อย่างนี้ต้องให้คุณอา ลองเล่าว่าอะไรถึงได้
ดำรง - เดี๋ยว เอาสิ่งที่เพิ่งประสบมา สดๆ ร้อนๆ ก่อนที่จะเข้ามาในห้องส่ง ท่านผู้ชมทราบหรือเปล่าไม่รู้ ว่าห้องส่งของเราเนี่ยอยู่ถนนพระอาทิตย์ ใช่ไหมครับ เป็นชุมชนที่ทั้งคนไทย คนต่างประเทศ ชาวต่างประเทศเดินอยู่ ผมมาก่อนเวลา แล้วก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่นักก็เลยเดินเล่น เพราะว่าที่นี้เป็นเกาะรัตนโกสินทร์ ถนนเมืองเก่า ก็เดินเล่นปรากฏว่า แฟรี่เอ้ย เดินนี้นะ เจอแฟนคู่สร้างคู่สม เต็มถนน แล้วผมมานั่งนึกในใจว่า คืออย่างนี้ คนที่เจอเนี่ยก็ถามคำถามเหมือนกันเลยว่า ทำไมถึงเลย แล้วทำไมถึงทราบว่าเลิก ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือพิมพ์ เราก็ไม่อยากจะย้อนว่าคำตอบมันอยู่ในนั้น เหมือนอย่างคุณเพชรเนี่ย อ่าน ฟัง แล้วรู้เลยว่าทำไมผมถึงเลิก แต่ว่าแฟนผมเนี่ยผู้อ่านไม่ยอมรับรู้ ทำไมถึงเลิก อันหนึ่ง อ้าว อธิบาย แล้วต่อไปที่ผมตอบไม่ได้คือ แล้วหนูหรือดิฉัน จะไปอ่านที่ไหน มันกินใจเหมือนกันเหมือนเราทำให้เขาผิดหวัง แล้วที่เจอแล้วแบบ ทางโทรศัพท์ก็คือ โทรมาแล้วก็ร้องไห้ มีจริงๆเลยครับ พนักงานรับโทรศัพท์ของผมเองก็แทบจะไม่อยากรับโทรศัพท์ นี้ผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าไอ้หนังสือ ผลิตผล ที่เราทำมันจะออกมาเป็นอย่างนี้ แต่มันเป็นอย่างนี้จริงๆ อีกนิดหนึ่งรออยู่ที่ห้องส่ง รอที่จะมาห้องส่ง มันมีร้านกาแฟก็นั่งดื่มคุยไป เจ้าหน้าที่ ที่นี้เห็นผมมาซื้อขนมเค้ก ซื้อกาแฟมาเลี้ยงแล้วก็จะมาคนเข้ามาขอถ่ายรูปตลอด อันนั้นไม่สำคัญ คนไทย แต่คนต่างชาติมาขอถ่ายรูป เล่าให้แฟรี่ฟัง เขางง ว่าฝรั่งอ่านคู่สร้างคู่สม ด้วย ไม่ใช่ สามาเขาเป็นฝรั่ง คู่แรกเลยเข้ามา คู่แรกอยู่เมืองควิเบก ประเทศ แคนาดา ภรรยาเป็นคนไทย ก็ดีอกดีใจ มาขอถ่ายรูป สามาพูดภาษาอังกฤษ ก็บอกว่า ภรรยา อ่านคู่สร้างคู่สมตลอด ไม่รู้ซื้ออ่านอะไรผมก็บอกว่าเขาอ่านทั้งเล่มแหละ ก็สนุกสนาน ถ่ายรูป อีกสักครู่มาอีกแล้วแม่กับลูก แม่เป็นคนไทยสามีเป็นชาวไอซ์แลนด์ อยู่เกือบขั่วโลกเหนือ ไม่น่าเชื่อว่าที่ไอซ์แลนด์บินไปต้องไปต่อเครื่องที่สวีเดนไปอีกมันอยู่เกือบขั่วโลกเหนืออะครับก็มีคู่สร้างคู่สมอ่านแล้วเขาก็คร่ำคราญ ผมก็ไม่นึกเลยว่ามันจะส่งผลกระบทถึงขั้นนี้ นี้ไม่เคยเล่าให้ที่ไหนฟังเลยทำไมเล่าที่นี่เพราะเวลามันผ่านมาแล้ว 7 วันเนี่ยมันได้เจออะไรอย่างนี้
ศุภัคญาฎาร - หลังจากที่ข่าวออกไป ก็นี้แหละฟีดแบคของคนที่รู้สึก
พชร - เข้าใจเลยนะเพราะว่าคู่สร้างคู่สม เนี่ยเป็นที่พึ่งของคนอยู่ต่างประเทศเลย พออ่านแล้วมันได้ชีวิต มันหายคิดถึง มันหลายๆอย่างแล้วก็เมื่อกี้ผมพูดไปแล้วสิ่งที่ผมจะบอกให้มันเป็นความรู้สึกจริงๆ คู่สร้างคู่สม มันไม่ใช่เป็นแค่นิตยสากแต่ว่ามันเป็นเหมือนเพื่อนเป็นเหมือนญาติคนไทยไปแล้ว อยู่มานานมากคุณอา 38 ปี ซึ่งมันกลายเป็นญาติสนิทมิตรสหายของคนทั่วประเทศแล้วก็คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ
ดำรง - ซึ่งก็ตอบคุณเพชรได้ทำไมเขาถึงคิดเป็นญาติสนิทมิตรสหายเพราะว่าอะไรที่คนไทยในต่างประเทศเขาเดือดร้อนเนี่ยเขาก็ผ่านทางผมมาและคุณเพชรก็คงทราบ ยุคหนึ่งที่ผมเป็นสมาชิกวุฒิสภา 2 สมัย 11 ปีเนี่ย พอมีเรื่องเดือดร้อนอะไรมาคนไทยที่อยู่ต่างประเทศเนี่ย เราเป็น ส.ว. เราเป็นรองประธานกรรมาธิการต่างประเทศ เรากระโดดเข้าช่วยเลย วิธีช่วยของเราแน่นอนเราเป็นรองประธานกรรมาธิการต่างประเทศ ถ้าเรื่องมันเกิดจากคนไทยในต่างประเทศเดือดร้อนเนี่ย เราส่งไปที่กระทรวงต่างประเทศในนามของ กรรมาธิการต่างประเทศ และกระทรวงการต่างประเทศก็รับไปแก้ไขช่วยเหลือได้อย่างดี ผมขออนุญาติเล่าสั้นๆ ที่คูเวต มีผู้หญิงเขียนจดหมายมาว่าสามีอยู่บริษัทเกาหลี แล้วเสียชีวิตแต่ว่าไม่ได้เงินชดเชยเขาก็มีหลักฐานอะไรส่งมาที่ผม
ศุภัคญาฎาร - ส่งมาที่คู่สร้างคู่สม
ดำรง - ส่งมาที่คู่สร้างคู่สม คู่สร้างคู่สม ส.ว. ดำรง เอาเข้ากรรมาธฺการการต่างประเทศ กรรมาธฺการการต่างประเทศ ส่งเรื่องไปที่กรมการกงศุล กระทรวงต่างประเทศ ทางนั้นก็จัดการช่วยเหลืออย่างดี ผมจำไม่ได้ว่ากี่เดือนผ่านไปเจ้าของจดหมายภรรยาผู้ตายเขียนจดหมายมาหาผมอีก คราวนี้ถ่ายบัญชีเงินฝากมาให้ว่าเธอได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว 200,000 กว่าบาท นี้คือสิ่งที่เราช่วยไงครับ
ศุภัคญาฎาร - นี้แหละเหมือนญาติสนิทจริงๆ เป็นสื่อที่พึ่งพาได้
พชร - สมัยที่คุณอาเป็น ส.ว.ผมจำได้ เป็น 2 สมัย ถ้าผมจำไม่ผิดช่วงนั้นเนี่ยคู่สร้างคู่สมเหมือนเป็นกองบัญชาการที่ทำหน้าที่ 1 คือประชาสัมพันธ์ 2 คือรับเรื่องราวร้องทุกข์เป็นศูนย์กลาง 3 ก็คือช่วงนั้นคุณอาเดินทางบ่อย ผมจำได้ว่าช่วงนั้นก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวกับไปเจอที่ต่างประเทศเขาเอามาแลกเปลี่ยนกันฟัง ช่วงนั้นกลายเป็นว่าคู่สร้างคู่สมได้กลายเป็นกองบัญชาสำหรับเป็นมูลนิธิพึ่งพิงของคนไทย
ดำรง - ผมไม่เคยได้ยินใครพูดอย่างคุณเพชรเลยนะพูดแล้วเราภูมิใจ
ศุภัคญาฎาร - จริงๆขอบคุณพี่เพชรมาก เพราะว่า แฟรี่เอง เติมโตมาก็แอบเหมือนทันสมัย อยากจะเรียนรู้เรื่องของคู่สร้างคู่สมในสมัยนั้นที่แบบโอโห้ เป็นกองบัญชาการแบบนี้จริงๆ ซึ่งคุณอาเองมีเรื่องอะไรที่ประทับใจ เกี่ยวกับการที่ทำอะไรเพื่อสังคมเป็นที่พึ่งพาของเขา
ดำรง - 38 ปี มันสุดที่จะเล่านะ เอาใหญ่ๆ ก็คือมูลนิธิเมาไม่ขับ ถ้าไม่มีหนังสือคู่สร้างคู่สม ไม่เติมโตมา เท่าที่มูลนิธิเมาไม่ขับโด่งดังมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ที่พูดโดยไม่เกรงใจมูลนิธิเมาไม่ขับ ก็เพราะว่าผมเป็นผู้ก่อตั้งและผมก็เป็นประธานอยู่จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ชื่อเมาไม่ขับชาวบ้านได้ยินก็หัวร่อ ขำ อะไรเมาไม่ขับ แต่เราใช้หนังสือคู่สร้างคู่สนเนี่ยนะคุณเพชร ลงเรื่องราวของคนที่ลูกไปโดนคนเมาขับรถชนตาย สามีลูกตายพร้อมกันเดือดร้อน สูญเสียมหาศาล ซึ่งคนไทยไม่ค่อยได้รับรู้ คนไทยเหรอ โดนรถชนตายก็มันเป็นกรรม ผมไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องกรรม มันเป็นเรื่องที่มีสาเหตุ มันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย บ้านเมืองต้องจัดการ ก็เลยทำให้การเติมโตของเมาไม่ขับจากชมรมเนี่ยเป็นมูลนิธิขึ้นมาถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็จนกระทั่งวันนี้เราก็ยังทำงานนี้อยู่ แต่บอกเลยถ้าไม่มีหนังสือคู่สร้างคู่สมไม่มีความก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบันนี้
พชร - ช่วงเปิดตัวใช้คู่สร้างคู่สม
ดำรง - ใช้เลยครับ ก็เพราะว่าเปิดตัวมันมี 2 คน ที่ก่อตั้ง คุณหมอ แท้จริง ศิริพานิช คุณ ดำรง พุดตาล 2 คน กับมีคู่สร้างคู่สมเป็นฐาน
พชร - ไม่อยากพูดเลยว่า มองเนี่ย ถ้าแฟรี่นึกภาพออก มันเป็นแอดเวอร์ทอเรียล เลยในยุคนั้น คือแต่ว่าแอดเวอร์ทอเรียลในเชิงเอาเรื่องสังคมดีๆ ที่เอาไปช่วยเหลือ เพราะว่ายกตัวอย่างง่ายๆ มันอิน เล่าให้ฟังว่ามีเคสที่เกิดถูกคนเมาขับรถชนตาย ลงเป็น story เรื่องราวช่วงนั้นใช่ไหมครับ ต่อเนื่องจนมีความรู้สึกว่า การที่คนถูกรถชนตาย มันไม่ใช่อยู่ดีๆแล้วรถมาชนคน แต่ว่าสาเหตุมันเป็นอย่างไร คุณดำรงก็สรุป ผมจำได้คือ สาเหตุหลักเลย เรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนคือคนเมา
ดำรง - คนเมา มันมีเรื่องกินใจ อย่างเช่น เมาลากคนตายไป 30 เมตรแล้ว ยังไม่รู้ว่าเขาขับรถชนคนตาย ยังเปิดประตูมา คนขับ แบบนี้ ใช่ไหมครับ เราฟังแล้วก็โอโห้ หนังสือคู่สร้างคู่สมก็ลงไปๆ กลายเป็นมูลนิธิที่มีพลัง กลายเป็นมูลนิธิที่มีเครือข่ายภาคีมากมาย โดยที่คนเข้าใจว่ามูลนิธินี้คงมีเงินเป็นพันๆล้านบาท ผมไม่มีเงินเลย ผมมีคู่สร้างคู่สม ผมมีรายการทีวีอยู่เท่านั้น คนก็มาช่วย อันที่ 2 คนเขาเห็นว่าเราทำงานจริงๆจังๆกับหมอแท้จริง เพราะฉะนั้นคนเข้ามาอย่างเต็มที่เลยครับ
ศุภัคญาฎาร์ - ถ้าเปลี่ยนเป็นยุคสมัยนี้ สมมุตินะคะว่าเปลี่ยนกลับเป็นยุคสมัยนี้ ถ้ามีเหตุการณ์อะไรแบบนี้ เราไปหาข้อมูลหรือไปหาเรื่องราว ผ่านหน้าเฟซบุ๊กมีเยอะเลย เหตุการณ์โพสต์ อัพ ไปหยิบมาก็พูดได้ แต่ของคุณอา ไปหามาจากไหนค่ะเรื่องราวพวกนี้
ดำรง - เราเป็นประธานมูลนิธิ ความเดือดร้อนคือใคร คือผู้เสียหาย เขาส่งเรื่องมาๆ ให้มูลนิธิช่วย ซึ่งมูลนิธิจะช่วยได้อย่างไร เราไม่มีกฎหมาย เราช่วยคือประสาน ประสานตำรวจ ประสานอัยการ ประสานโรงพยาบาล เป็นหมาเฝ้าถนน คอยเห่าหอนเรื่องที่มันเกิดอุบัติเหตุนี้ครับ ทำมาจนปัจจุบัน คืองานหลัก สังคมที่ช่วยบ้านเมือง อีกอันสั้นๆ ผมเป็นกรรมการมูลนิธิรามาธิบดี หน้าที่คือหาเงิน เห็นได้ว่าเราสร้างศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ มาเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว เราในที่นี้คือโรงพยาบาลรามาฯ สร้าง อาคารสมเด็จพระเทพฯ เปิดไปไม่นานก็หลายพันล้าน 6-7 พันล้าน และวันที่ 25 ธันวาคมนี้จะเปิดอีกโรงพยาบาลจักรีนฤบดินทร์ ที่สมุทรปราการ เป็นความสุขที่มูลนิธิ มูลนิธิเขียนเรื่องเล่า เรื่องคนไข้ เรื่องอะไรต่อมิอะไร และโฆษณาประชาสัมพันธ์ เชิญชวนให้คนบริจาค ขายเสื้อของมูลนิธิ ดำรงเป็นนายแบบเอง
ศุภัคญาฎาร์ - ขายได้ตรงนี้แหล่ะคุณอา
ดำรง - เป็นนายแบบเองยังไม่พอ ยังลงโฆษณา บางทีปกหลังมูลค่าโฆษณา 200,000 กว่าบาท มันมีบางทีว่าง ปกหลังว่าง
ศุภัคญาฎาร์ - ใส่เข้าไปให้เต็ม
ดำรง - ดำรงได้ลงปกหลัง คืองานคร่าวๆที่มีเยอะมาก
ศุภัคญาฎาร์ - คุณอาค่ะ ไหนๆพูดมาแล้ว ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกว่า นอกจากจะยิ่งคิดถึงตัวนิตยสารคู่สร้างคู่สมแล้ว ยิ่งคิดถึงการทำงานของคุณอามาก มีอยู่อันหนึ่ง มูลนิธิมีหลายอันมาก มีอยู่อันหนึ่งคือมูลนิธิดำรง พุฒตาล อนุรักษ์และพัฒนาภาษาไทย อันนี้คืออะไรค่ะ
ดำรง - อันนี้คือถ้าตอนนี้รู้สึกเหนื่อยแล้ว ผมเองนะครับ คุณพชรและท่านผู้ชม คุณหนู ผมเติบโตมา เรียกว่ามีฐานะ มีชีวิตที่สบาย มีเงินทองด้วยการใช้ภาษาไทยใช่ไหม ใช้ภาษาไทยเป็นโฆษก ใช้ภาษาไทยเป็นหนังสือ คู่สร้างคู่สม เพราะฉะนั้นผมมีความรู้สึกว่า ผมตกเป็นหนี้บุญคุณของภาษาไทย และผมเดินทางต่างประเทศมาก ได้เห็นว่ามีไม่กี่ประเทศในโลกนี้ ที่มีภาษาเป็นของตัวเอง ภาษาไทยมีอักษรไทย มีภาษาพูด มีภาษาเขียน เลยไปที่สิงคโปร์ สิงคโปร์ไม่มีภาษาเป็นของตัวเอง สิงคโปร์ประกอบด้วยคนจีน อินเดีย คนมาเลเซีย สิงคโปร์ 3 คนนี้เจอกันต้องพูดภาษาอังกฤษ ทั้งๆที่ในพาสปอร์ต บัตรประชาชน บอกเป็นสิงคโปร์ใช่ไหมครับ แต่คนไทย สมมุติว่าหนูอยู่ภาคอะไรครับ
ศุภัคญาฎาร์ - อยู่ภาคกลางค่ะ
ดำรง - สมมุติเราเจอคนเหนือ คนใต้ เหนือมีอู้กำเมือง ใต้เขาพูดแหลงใต้ พูดยาวี อีสานเว้าอีสาน แต่พอมาเจอกัน เราพูดไทย ใช่ไหมครับ ไม่มีกี่ประเทศนะ มาเลเซียไม่มีอักษร อักษรที่เขียนในมาเลเซียเป็นภาษา เรียกว่ายาวี เอามาจากภาษาอาหรับ เวลาเขียนถนนก็ใช้ตัว Tanon ถนน แต่ประเทศไทยเรามีภาษาไทยของเราเอง ผมเลยคิดว่า ในเมื่อผมเป็นหนี้บุญคุณภาษาไทย ผมอยากรักษา อยากอนุรักษ์ แต่ตอนนี้ไปไม่รอด เพราะตอนนี้ภาษาอะไร ต่อมิอะไรเต็มไปหมดเลย ความเปลี่ยนแปลงของโลก ภาษาคอมพิวเตอร์เข้ามา ภาษาอังกฤษ แต่ก่อนนี้ผมไม่ได้เลยนะครับคุณเพชร ถ้าเห็นป้ายภาษาจีนจะโกรธ ในฐานะประธานมูลนิธิภาษาไทย โกรธมาก ทำไมต้องมีภาษาจีน เรามีภาษาไทย แต่เดี๋ยวนี้ ทางการทางรัฐบาล สนามบินไปก็มีภาษาจีน
พชร - เพื่อช่วยนักท่องเที่ยว
ดำรง - เพื่อช่วยนักท่องเที่ยว อันนี้ตำหนิไม่ได้นะ ในเมื่อโลกมันเปลี่ยนไป เห็นง่ายๆเลยที่เชียงรายจะมีภาษาจีนอยู่ ต่อไปอาจจะมีภาษาพม่าก็ได้ เราเลยท้อ บทบาทของมูลนิธิต่อไปจะเชย เรื่องอะไรดำรงยังมารักษาภาษาไทยอยู่
พชร - ยิ่งต้องรักษาภาษาเรา ในเมื่อมีการใช้ภาษาไทยเยอะขึ้น ยิ่งต้องรักษาเอาไว้ให้ได้
ดำรง - ถูกต้องครับ ภาษาบอกความเป็นชาติ ผมเล่าย่อๆ ผมไปรายงานข่าวนานแล้ว โอลิมปิกที่โซลเกาหลีใต้ เวลาที่สนามกีฬาเลิกแล้ว มันจะพรั้งพรูออกมาจากสเตเดียม เราอยู่ในโรงแรมลอตเต้ ถ้าเรานั่งรถแท็กซี่ไปโรงแรมลอตเต้มันแพง เราต้องหาแชร์ คนนี้อยู่ช่อง 5 ช่อง 3 ไทยรัฐ เดลินิวส์ ไปด้วยกันและแชร์ค่าแท็กซี่กัน พอเราเดินออกมาจากสนามกีฬาโอลิมปิก คนหน้าคล้ายกัน มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ดูเหมือนไทยหมด ลาว พอเราไปพูดกับเขา เขาไม่ใช่คนไทย เราเดิน ได้ยินแว่วมาบอก แม่งไม่น่าแพ้เขาเลย เท่านั้นแหล่ะครับ เจ็บใจ แม่งไม่น่าแพ้เขาเลย มีด่าต่อนิดหน่อย เราก็วิ่ง อ่าว พักอยู่โรงแรมอะไร เห็นไหมครับ ภาษาบอกความเป็นชาติ
ศุภัคญาฎาร์ - เหตุการณ์แบบนี้หนูเคยเจอเหมือนกัน เรื่องจริง
ดำรง - ใช่ไหมครับ ทำให้เราประหยัดค่าแท็กซี่ด้วย และเราต้องรักษา
พชร - ดูจากที่ผ่านมา ดูท่าทางคุณดำรงทำงานด้วยตัวเองมาตลอด นี้สงสัย ถามแทนหลายคนที่ผ่านมาเกือบ 40 ปีของคู่สร้างคู่สม ตั้งแต่เริ่มต้นเลย คุณอาอยู่กอง บก.มาตลอด ตอนนี้ถอยห่างมา ดูลูกน้องมาทำงานยังไปคลุกคลีอยู่
ดำรง - จนเล่มสุดท้ายคลุกคลีชนิดเอาตัวเองเป็นปกเลยครับ
ศุภัคญาฎาร์ - เป็นปกดูไลฟ์ลี่ เป็นปกแบบว่าน่ารัก
ดำรง - ต้องเรียนแบบนี้ครับ คุณพชร ผมไม่ได้พูดเอาความดีความงามใส่ตัวนะ ผมทำคู่สร้างคู่สม เพราะผมอยากทำหนังสือเหตุที่อยากทำหนังสือ เพราะผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ
ดำรง - เวลาออกรายการคนชอบ คนสนุก ถามว่าแปรงสีฟันของสามีคุณ สีอะไร สีของแปรงเนี่ย เพราะเราต้องเชื่อผัวเมียก็ต้องรู้
ศุภัคญาฎาร์ - ต้องรู้ๆ
ดำรง - แต่เวลาเขาตอบสีไม่ตรงกัน
พชร - จริงๆ ไม่รู้
ดำรง - มันไม่ตรงกันเนี่ย
พชร - ซึ่งในชีวิตจริงเราก็รู้สึก ดูตามแล้วก็เคย
ศุภัคญาฎาร์ - พี่จำได้รึเปล่า ของภรรยาพี่
พชร - ผมจำได้ เพราะผมเป็นคนซื้อของเข้าบ้าน เป็นคนเลือกให้เขาผมจำได้
ศุภัคญาฎาร์ - เนี่ยสนุกแล้ว
ดำรง - อย่างนี้แหล่ะ มาออกรายการผม ก็จะโดนผมจี้ โดนผมพูด ถ้าบอกผิด อ้าวไปแปรงที่้บ้านอื่นรึเปล่า คนก็ชอบ
พชร - ซึ่งมันไม่มีจุดสิ้นสุดจริงๆ นะ ของคู่ชีวิต
ดำรง - ใช่ครับ มีอีกอันหนึ่งนะ แล้วมันจะซ้อมกันไม่ได้เลยนะ มาซ้อมว่าผมถามเรื่องนี้ ตอบเรื่องนี้ ไม่ได้เลย เคยมีแบบรายการมันสนุกถึงขั้น อัดเทปถึงขั้นเจ้าหน้าที่เทปมั่วแต่มาดูรายการ เทปหมด ม้วนหลุด เขาก็เรียกพี่เราะ เทปหมดม้วนแล้ว หมดไปตั้งเกือบ 20 นาทีแล้ว เอาใหม่ๆ เฮ้ย เอาใหม่ไม่ได้ เพราะว่าไอ้ที่มันเฮๆ เมื่อกี้นี้พอมาทำใหม่ก็
ศุภัคญาฎาร์ - ไม่เหมือนเดิม
ดำรง - มันไม่เหมือนเดิม อย่างนี้เป็นต้น
ศุภัคญาฎาร์ - ก็รายการมันก็ดีอยู่แล้ว แต่หนังสือก็เลยอยากทำ ไม่ทำพร้อมๆ กันหรอค่า
ดำรง - ไม่ทำพร้อมกันครับ รายการเริ่มปีแรก 2519 ออกอากาศอยู่ 11 ปี รายการโทรทัศน์สมัยนี้ไม่มีนะ ที่จะออกอากาศยาวถึง 11 ปี
พชร - ยาวนานมาก
ดำรง - ออกอากาศปี 19 แต่คู่สร้างคู่สมเมื่อปี 2523
ศุภัคญาฎาร์ - ปี 2523 ห่างกันประมาณ 4 ปี วึ่งเริ่มแรกเลยที่เคยอ่านๆ มา หรือรายการอื่นๆ เขาก็บอกว่ามีคนที่เป็น บก. อยู่ที่ทีมงานก็คุณอา 9 คนหรอค่ะ ประมาณนั้น
ดำรง - คนเห็นว่าหนังสือพิมพ์มาก นึกว่าต้องใช้คนมาก มันไม่ใช่พิมพ์มาก มันอยู่ที่โรงพิมพ์ เราจ้างเขาพิมพ์ แต่คนที่อยู่กับเรานี้ ฝ่ายศิลปกรรม 2 คน กองบก. คนพิมพ์ พนักงานรับโทรศัพท์ พนักงานบัญชี 2 คน มันจะไปมีมากอะไร เพราะเจ้าของหนังสือเก่ง
ศุภัคญาฎาร์ - มันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
พชร - ทีมงานใจหายกันไหม
ศุภัคญาฎาร์ - แต่อยากรู้ว่า กลุ่มแรกที่เลือกมานี้ยังคงอยู่เป็นกลุ่มเดิม เป็นกลุ่มเดิมกันหมดเลย
ดำรง - อยู่หมดเลยครับ เกือบจะกลุ่มเดิมหมดเลย ส่วนใหญ่จะมาจากการฝึกงาน แล้วคู่สร้างคู่สมจะเป็นแหล่งที่ หนูก็ราชภัฏบ้านสมเด็จ เราดำรงจบจากราชภัฏ ไม่ใช่ราชภัฏ วิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยาและวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา แล้วผมผูกพันความเป็น เราไม่เรียกราชภัฏ
พชร - สมัยก่อนวิทยาลัยครู
ดำรง - วิทยาลัยครูถูกต้องครับ เพราะฉะนั้นเราเห็น เรามาจากต่างจังหวัด เขาขอมาฝึกงานที่เราเนี่ย อยากให้โอกาสเขา เขามาฝึกงานให้เงินเดือนด้วยนะ ฝึกงานให้เงินเดือน และไม่ได้ฝึกแค่หนังสืออย่างเดียว ช่วงนั้นผมมีรายการทีวีเยอะ ก็จะพาเข้าไป ดูเวลาผมเป็นโฆษกทีวี ตอนผมเป็นสว. ผมดูแลสถานีวิทยุโทรทัศน์ของรัฐสภา ผมเอาเขาไปฝึกงาน ผมมีประชุมอะไร เช่น ผมเป็นกรรมการกระทรวงอะไรไม่รู้ อย่างภาษาไทยเนี่ย ผมให้เขาเข้าไปนั่งในที่ประชุม เพราะฉะนั้นการฝึกงานของคู่สร้างคู่สมไม่ใช่มานั่งฉีกซองๆ ไม่ใช่ ฝึกงานจริงๆ เลย คนหลังสุดก็ได้ไปต่างประเทศ ได้ไปเมืองจีน ไปกฐินพระราชทานที่เมืองจีน ถ้าเกิดศักยภาพเขาไปได้ และพวกเหล่านี้ เราได้เห็นเขามา 3-4 เดือน เราก็เลยให้เขาทำงานกับเรา
ศุภัคญาฎาร์ - แล้วก็อยู่ยาวเลย
พชร - ส่วนใหญ่ก็ผูกพันแล้วอยู่ยาว
ดำรง - ผูกพันครับ ผูกพันอยู่ยาวเลย
พชร - ถึงบอกว่าทุกคนน่าจะใจหายเท่าๆ กับคุณอาเลย
ดำรง - ก็มีบอกล่วงนะคุณเพชร วิธีบอกก็คือชี้ให้เขาเห็น แล้วเขาก็ต้องเห็นว่าสถานะภาพของโลกมันเปลี่ยนไป คนไม่อ่านหนังสือที่ในกระดาษ และก็มีข้อมูลที่ผมอยากจะเรียน เพิ่งไปค้นเจอมาว่าสารานุกรมบริตานิกา ปี 2311 250 ปีที่แล้ว เราเสียกรุง 2310 เพราะฉะนั้นบริตานิกาคือสารานุกรมภาษาอังกฤษพิมพ์ครั้งแรกเมื่อต้นกรุงธนบุรี ก็เป็นสารานุกรมที่รวมมาหลงหลังสุดท้ายมีคำอยู่ประมาณ 40 ล้านคำ ในนั้นนะครับ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เลิกพิมพ์ แล้วมาทำเป็นสารานุกรม Encyclop?dia ออนไลน์ของบริตานิกา เห็นไหมครับของตั้ง 250 ปี โอเคเขาเลิกเมื่อ 5 ปีที่แล้วเนี่ย ก็ยังต้องมา ต้องหยุดพิมพ์
ศุภัคญาฎาร์ - แต่หยุดพิมพ์เขามีทางไปต่อนะคะ แต่ของคุณอาไม่ไปออนไลน์ด้วย คุณอาบอกขี้เกียจตอบแล้วเรื่องนี้ ฉันตอบไปหลายรายการ
ดำรง - ท่าทางคุณเพชรจะประทับใจพอใจผม คือกลับไปเรียนหนังสือคู่สร้างคู่สมทำด้วยใจรัก อย่าทำ ไม่ได้คิดเรื่องธุรกิจ คิดซะว่าขอให้หนังสืออยู่ได้ ทุกครั้งที่หนังสือออกวางตลาดเนี่ย ผมจะนั่งเปิด ทั้งๆ ที่ผมดูตั้งแต่ต้นฉบับ แล้วก็มีความสุข คอลัมน์นี้ เรื่องนี้อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตรวจเจอเปิดพบผิดพลาดอะไร ไปเช่งกันในกองบก. มันเป็นความสุข แต่ตอนนี้มันขายได้ดี เมื่อขายได้ดีธรรมชาติของนักโฆษณาสินค้า ก็เอามาลงโฆษณา เราก็มีรายได้ดี การมีรายได้ดีจากการโฆษณากับการมีรายได้จากการขาย วงเล็บคู่สร้างคู่สม 1 เล่มได้นิดเดียวเพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะเราขายถูก เราทำด้วยกระดาษที่ห่วยที่สุด เพื่ออะไร เพื่อจะได้ขายเล่มละ 30 บาท
ศุภัคญาฎาร์ - ไปถูกทุกแผง
ดำรง - ถูกต้องๆ ถ้าใช้กระดาษดีกว่านี้ และเจ้าของหวังทำเงินเมคมันนี่ เราขายเล่มละ 50 เป็นหนังสืมเล่มเดียว คุณเพชรจะไม่เชื่อ ผมไม่ได้เก็บไว้ที่มีผู้อ่านเขียนมาบอกให้ขึ้นราคา ขายได้ไงเล่มละ 30 บาท จริงๆ ครับคุณเพชร
พชร - เขาเห็นเพราะมันถูกเกินไป
ดำรง - ถูก เขาดันมาเห็นใจผม
ศุภัคญาฎาร์ - 38 ปี คือเกิด 40 ปี ฉบับแรก 8 บาท ขึ้นมาเป็น 30 บาท ขึ้นมานิดเดียวเอง เพราะระยะเวลามันนาน
ดำรง - จริงๆ ตอบสักทีทำไมไม่ทำออนไลน์ ก็มันต้องย้อนไปอีกว่าที่เลิกมันมี 2 เหตุ เหตุที่ 1 เลิกเพราะมันขายไม่ได้ ก็คนไม่ซื้อ ถ้าทำต่อไปอีก 2 ปี ผมเจ๊ง แต่ผมไม่ทำ เพราะผมรู้ว่าทางตกเหวมันมีอยู่ข้างหน้า
พชร - รู้ตัวก่อนดีกว่า
ดำรง - ทำไมหยุดก่อน เพราะเราอายุมากแล้ว เราใช้ร่างกายมามากแล้ว ผู้ชมครับท่านต้องให้ของขวัญกับตัวท่านบ้าง ผมเพิ่งมาคิดได้ แล้วก็มีคนชอบใจที่ผมพูด ส่งไลน์มาเยอะ พวกนี้ก็อายุเท่าผม ที่ผมพูดว่าแหมเคยรู้สึกว่าเท่มากเลย ชีวิตผมคืองาน งานของผมคือชีวิต โง่ที่พูดอย่างนี้
พชร - ผมก็ชอบ
ดำรง - ผมโง่ที่พูดอย่างนี้ ไม่ใช่ ทำไมต้องทำงานตลอดชีวิต ชีวิตมันมีอย่างอื่นอีก มันมีพักผ่อน มันมีมองหาสุนทรียศาสตร์ อยู่กับครอบครัว เพื่อนฝูง มันไม่จำเป็นว่าต้องอยู่กับลูกกับเมียตลอด เพื่อนฝูงเรานี้ก็ขาดทิ้งเขาไปหมด พอประกาศเลิกหนังสือเนี่ยนะ เพื่อนจากสมุยมาแล้ว เฮ้ย มาเที่ยวสมุย และขอโทษนะพูดมึงกู แล้วมึงอยู่นานหน่อนนะ มันจะอดไปล่ะ ไม่ได้แหล่ะกูต้องรีบกลับ
ศุภัคญาฎาร์ - กลับมาทำงาน
ดำรง - กลับมาทำงาน ตอนเพื่อนฟังสายสัมภาษณ์เริ่มชวนมา คิวยาวเลย ที่จะไปพักผ่อน
พชร - เห็นบอกอีกเรื่องก็คือเหมือนกับออนไลน์มันเข้ามาแล้ว โดนออนไลน์ที่ไม่ดีมาขโมย
ศุภัคญาฎาร์ - ความคิดไป ก๊อปปี้อ่ะค่ะ
พชร - ก๊็อปปี้ส่วนที่มันเป็น CONTENT เราไปด้วย
ดำรง - ครับคุณเพชร อันนี้เหมือนจะเป็นจุดสุดท้ายที่ตัดสินใจ
พชร - มันทำให้หงุดหงิดจริงๆ นะ
ดำรง - มันทำให้หงุดหงิด แล้วมันกระเทือน คุณเพชรไม่ได้หงุดหงิดอย่างเดียว ส่วนหนึ่งที่ยอดหนังสือมันตก เพราะหนังสือคู่สร้างคู่สมมันมีอยู่คอลัมน์หนึ่ง คอลัมน์ดูดวง
ศุภัคญาฎาร์ - อุตตราษาฒ
ดำรง - อุตตราษาฒ ตอนนี้คนก็ถามกันหมดเนี่ย เดินมาที่บางลำพูเนี่ย แล้วหนูจะไปอ่านอุตตราษาฒที่ไหน ดูดวงที่ไหน ตอนนี้เขาเองก็ถูกคนจองตัวกันหัวกระไดไม่แห้ง คนก็ซื้ออ่าน เพราะว่าจะอ่านดวง แต่ว่าพอไอ้ดิจิทัลเข้ามา ระบบเทคโนโลยีใหม่เข้ามา หนังสือวางเช้านี้ พอสายมันก็ไปอยู่ในระบบออนไลน์หมดแล้ว
พชร - ขโทยกันหน้าด้านมาก
ดำรง - ขโมยกันไม่ได้เอ่ยกันเลยว่าเอามาจากคู่สร้างคู่สม
ศุภัคญาฎาร์ - ไม่มีเครดิตให้เลย
ดำรง - ไม่มีเครดิตให้ ขาดจริยธรรม ขาดจรรยาบรรณ แล้วก็มันเป็นเรื่องที่น่าละอายและผิดกฎหมาย แล้วถามผมว่าผมทำไง อดีตสว. 2 สมัย ยังหมดปัญญา
พชร - มันบั่นทอนด้วยนะ
ดำรง - มันบั่นทอนครับ จุดนี้มันแรงแค้น เพราะฉะนั้นต้องเรียนท่านผู้ชม จุดหนึ่งที่ผมเลิก ท่านต้องไปโกรธคนที่เอาหนังสือผมไปก๊อปปี้ลงในออนไลน์ ต้องโกรธนะ อย่ามาโกรธผม
ศุภัคญาฎาร์ - วันนี้หนูเขียนโพสต์เลยดีกว่า
พชร - ผลกระทบจากออนไลน์มันเริ่มเรื่องนี้เนี่ย โดนกันทั่วหน้า
ดำรง - โดนกันทั่วหน้า
พชร - ทั้งเพลง หนัง โดนกันหมดเลย ที่เป็น CONTENT ดีๆ ที่คนไทย
ศุภัคญาฎาร์ - ขณะเป็นข้อความที่เราโพสต์ เรายังโดนเอาไปโพสต์แล้วลงชื่อตัวเอง มันมีนะคะ ไอ้เรื่องแบบนี้เนี่ย
ดำรง - นี่คุณเพชรเมื่อวานนี้มีหนังสือ จะเอ่ยชื่อดีไหมนะ เป็นหนังสือพิมพ์ แต่มันเป็นเรื่องดี ภาษาอังกฤษล่ะกัน ขณะนี้ฝรั่งมาสัมภาษณ์ สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษนะครับ เขาก็เล่าให้ผมฟังว่า คือเขาเป็นนักข่าวอาวุโส เวลาสมมุติมาสัมภาษณ์ดำรง สมมุตินะครับ เขาก็จะถามคำถามลึกๆ แบบที่พวกเขาอาวุโสไง ไม่ใช่ถามแบบนักข่าวไม่ตกผลึกนะครับ ถามๆ เขาบอกว่าพี่ หนูกลับไปยังไม่ก้าวเข้าไปในโรงพิมพ์เลย ไอ้คำถามที่เขาถาม เขาไปอยู่ในออนไลน์หมดแล้ว เขาคิดว่าเขาเก๋แล้วที่ถามๆ ต้องลงไปในหนังสือพิมพ์ของเขา
ศุภัคญาฎาร์ - ไม่เหมือนใครแล้วแหล่ะ
ดำรง - ไม่เหมือนใครแล้ว แล้วก็วิธีคิดของเขาอคนที่มันตกผลึก มันจะถามอื่นๆ ที่คนรุ่นใหม่ๆ จะไม่ถาม เขาบอกหนังสือพิมพ์นำไปออกหมดแล้ว
พชร - รอหนังสือพิมพ์ออกตอนเช้านี้ไม่ทันแล้ว เพราะหัวขโมยออนไลน์เอาหมดเอาก่อนเลย
ศุภัคญาฎาร์ - อันนี้ก็เลยเป็นสาเหตุที่ไม่ลงออนไลน์
ดำรง - สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมคิด ตัดสินใจเร็วขึ้น รู้สึกว่ามันเสียเปรียบ เราไม่ได้อะไรจากการที่เขาเอาของเราไปก๊อปปี้ ก็ไม่เป็นไร แต่นึกถึงหัวอกคนเขียน นึกถึงดร.อัมพร นึกถึงอุตตราษาฒที่เขาต้องเขียน เขาไม่ได้นั่งเทียนเขียน ก็ต้องเปิดตำราดู แล้วก็เอาของเขาไปลงหน้าตาเฉย
พชร - ก่อนหน้านี้มีสักเสี้ยวหนึ่งในความคิดไหมครับ ที่คิดว่าจะคู่สร้างคู่สมออนไลน์
ดำรง - ไม่เคยคิดเลยครับ ไม่เคยคิดเลยคุณพชร ตั้งแต่ยังไม่มีอุปสรรคแล้ว ลูกเต้าก็มาพ่อทำไหม บอกอยากทำทำไปเลยแต่พ่อไม่ทำพ่อไม่ยุ่งนะคุณพชร เพราะเนื่องมาจากเราทำอะไรเราทำจริง เราเหนื่อยเราทุ่มเท เราใส่ใจพอไปทำงานอื่นเราต้องทุ่มเทใส่ใจอีกแล้วจะหยุดเมื่อไหร่ ผมคิดแค่นี้ เพราะบัดนี้ก็จะมีคนมาพูด อย่าพักเลยครับ ตอนนี้ก็จะมีคนมาพูดนั้น ทำไมไม่ทำนี้ ถ้าเป็นลูกมาถามพ่อทำไม ทำไปเลย แต่ผิดดพลาดพ่อไม่รู้นะ พ่อปฏิเสธว่าพ่อไม่ได้ทำ ใช่ไหมครับ
พชร - เป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะคู่สร้างคู่สมกับคุณดำรงมันเป็นของคู่กันถ้าไม่ใช่คุณดำรงต่อให้เป็นทายาทหรือใครทำคนก็จะมีความรู้สึกว่ามันไม่ใช่
ดำรง - คือเราไม่ได้ไปว่าเขาไม่ได้หลงตัวเองนะคุณพชรหนังสือคู่สร้างคู่สมถ้าผมไม่ทำไปไม่รอดทำไมผมถึงพูดแบบนี้เพราะผมรู้ผมทำกับมือเอาประสบการณ์ก่อนอยู่ในสภา 11 ปี และก็มีประสบการณ์เรื่องการเมืองเรื่องอะไรพอสมควรเดินทางมา 120 กว่าประเทศทำอะไรต่อมิอะไรมากมายก่ายกองเพราะฉะนั้นมุมมองวิศัยทัศน์มันจะต้องต่างการทำหนังสือเราต้องมองรายละเอียดมองหลายด้านบางคนมองด้านเดียว ถ้ามองด้านเดียวคือเสี่ยงต่อการทำอะไรประสบการณ์เราเยอะ ประสบการณ์ความเป็นเด็กบ้านนอกความเป็นเด็กอยุธยา ความเห็นวิถีชีวิตคนเขาปลูกข้าวทำนากันอย่างไรเพื่อนฝูงเป็นคนต่างจังหวัดนี่คือประสบการณ์ นี่คือวัตถุดิบในตัวเรา
ศุภัคญาฎาร์ - คู่สร้างคู่สมวัตถุดิบที่แท้จริงคือมาจากคุณอานี่แหละใช่ไหมค่ะ เอาละคะ กว่า 50 ปีแล้วที่คุณอาทำงานมา
ดำรง - 52 ถึง 53 ปี
ศุภัคญาฎาร์ - คือทำงานมาแทบทั้งชีวิตแหละในวันที่หยุดแล้วคุณอาทำอะไรเป็นสิ่งแรกยังไม่ให้ตอบตอนนี้ไปพักสักครู่หนึ่งแล้วกลับมาต่อกันค่ะ
ศุภัคญาฎาร์ - กลับมาพูดคุยกันต่อนะค่ะ ในรายการพระอาทิตย์ไลฟ์ ยังคงอยู่กับนับว่าเป็นผู้ใหญ่มากๆในวงการสื่อ
ดำรง - ไม่เอาผู้ใหญ่มากๆสิ
ศุภัคญาฎาร์ - เอาอะไรดีค่ะ
ดำรง - ขอแก้ข่าวก่อนพูดผิดคนสูงอายุเนี่ย คนสูงอายุมี 3 ประการ ประการแรกคือขี้ลืม
ศุภัคญาฎาร์ - ตะกี้ที่หนูเรียกผู้ใหญ่มากๆก็ไม่ให้ แต่เป็นผู้สูงอายุได้ 2 คือ
ดำรง - ลืมแล้วว่า 2 อะไร
ศุภัคญาฎาร์ - อันนี้เป็นมุขนะคะ คุยกันต่อดีกว่า ตะกี้ที่ทิ้งท้ายเอาไว้ทำงานมาตั้งนานพอหยุดปุ๊บสิ่งแรกที่คุณอาทำเลยคืออะไรคะ
ดำรง - ไม่ทำอะไรเลยนั่นแหละคือสิ่งที่ดีที่สุดนะ ก็เอาอย่างนี้ตลอดชีวิตตั้งแต่ทำงานมาตื่นเช้าขึ้นมาแค่ลืมตามันก็คิดแล้ว ผมคิดว่าทั้งคุณพชรและคุณแฟรี่ถ้าคุณทำงานสื่อเป็นไปไม่ได้เลยอย่างเช่น ถ้าวันนี้คุณต้องสัมภาษณ์คุณดำรงคุณก็ต้องคิดแล้วว่าเขาจะกวนหรือไม่ จะดุหรือเปล่าเขาก็แก่แล้วจะถามอะไรเขาดีต้องคิดไว้แล้วใช่ไหม ตื่นแล้วต้องคิดเลย หรือไม่ก่อนนอนคุณต้องคิดแล้วเพราะฉะนั้นงานที่หนักที่สุดของคนทำสื่อคือความคิดครีเอทีฟไอเดีย ไม่ใช่คิดอย่างเดียวนะต้องคิดสร้างสรรค์ด้วยเขาบอกว่าเราคิดอะไรมันหนักและเหนื่อยกว่าถางหญ้า ตักดินขุดดินไม่รู้ต่อกี่เท่า ตักดินขุดดินมันได้แต่เหนื่อยร่างกายกล้าเนื้อ แต่สมองมันไม่เหนื่อยแต่ทำงานแบบนี้สมองมันล้าจริงๆครับ ใช่ไหมละ
พชร - จะรู้สึกเลยว่าเราเหนื่อยวันไหนที่เรามีเรื่องให้ต้องคิดเยอะงันนั้นแทบจะสลบเหมือนวิ่งมาไม่รู้กี่กิโล
ดำรง - ใช่ครับพวกเราจะเข้าใจเพราะพวกเราทำงานนี้อยู่ เพราะฉะนั้นพอเราหยุดแล้วเนี่ยความสุขง่ายๆคือตื่นมาไม่คิดอะไรสบายไม่ต้องมีภาระจะต้องทำนู่นทำนี่โอเค งานอะไรเราก็จะทิ้งไม่ได้เราจะแก่เร็วเพียงแต่ว่าไม่ต้องมาคิดแล้วว่าจะทำหนังสืออะไรยังไง โทรทัศน์ก็ยังออกอยู่คืออย่างนี้ ชวนมาคุยแต่ว่าไม่เครียด จะไม่ทำรายการโทรทัศน์ อยู่ๆสถานีไหนมาบอกว่าคุณดำรงผมให้รายการคุณวันละครึ่งชั่วโมงจันทร์ถึงศุกร์ให้ฟรีๆเลยแต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องมาจัดทุกวัน ไม่ขอบคุณไม่เอาแล้ว อาจจะบอกว่าคุณไปบอกคุณพชรกับคุณแฟรี่เขาให้เขาจัดแล้วอาทิตย์หนึ่งผมไปสักครั้งหนึ่งเอา แต่จะให้ผมมาทุกวันพอแล้ว
ศุภัคญาฎาร์ - งั้นเซ็นสัญญากันเลยดีกว่าค่ะ
ดำรง - บอกแล้วไม่เอาแล้วไม่ทำแต่ว่างานที่ยังมีอยู่ งานที่มูลนิธิเมาไม่ขับ มูลนิธิภาษาไทย งานของกระทรวงวัฒนธรรมผมเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมซึ่งเราชอบงานอย่างนี้นะครับ จัดแล้ววันนี้เริ่มแล้ว 250 ปี กรุงธนบุรีฉลองเราก็ชอบเราก็จัดอย่างนี้เราไม่ปฎิเสธ
พชร - ผมก็เชื่อนะว่าคุณอายังน่าจะทำงานต่อไป ทำงานโดยไม่มีแรงกดดันในฐานะที่ว่าเมื่อก่อนต้องแบกอะไรไปช่วยเหลืองานตามบ้านคนอื่นเขาไม่ได้เปิดบ้านตัวเองสำหรับจัดงานเลี้ยงอะไรแบบนี้ เขาเรียกเหมือนกันไปปาร์ตี้บ้านคนอื่น เพราะยังช่วยเหลือสังคมอยู่
ดำรง - ถ้าปาร์ตี้เองเราเหนื่อยในเรื่องอาหาร ต้องล้างถ้วยล้างชาม
พชร - กดดันคนละอย่างนะผมเชื่อว่าคุณอาเองก็คงไม่ทิ้งที่จะไปให้ความรู้
ดำรง - มันเหงานะคุณพชรทำงานมาทั้งชีวิตอีกนิดหนึ่งเราไปต่างประเทศมา 120 ประเทศ แล้วก็คงมากกว่าและขี้เกียจนับแล้ว
ศุภัคญาฎาร์ - และเริ่มนับตั้งแต่ 120
ดำรง - แต่ทุกครั้งที่ไปคือไปทำงานมันไปทำงานแต่จะได้เที่ยวแฝงๆผมต้องกราบขอบพระคุณกระทรวงการต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตไทยอีกครั้ง ซึ่งท่านทราบดีว่าหนังสือ หนังสือคู่สร้างคู่สมเนี่ยมันถึงประชาชนทั่วโลกเพราะฉะนั้นมีข่าวสารอะไรที่กระทรวงอยากจะบอกไปยังคนไทยก็มักจะเชิญเราไป และก็บอกอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศคุณกษิต ภิรมย์ สมัยท่านเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว สมัยผมเป็นสมาชิกวุฒิสภาท่านขอมาพบผมพร้อมด้วยคณะที่สภามาขออะไรครับ มาขอเขียนเรื่องลงคู่สร้างคู่สม นี่คือผู้เขียนคู่สร้างคู่สมเขียนเพราะอะไรท่านรู้ว่าคนไทยอ่านมากและเขียนทำไมท่านต้องการจะสื่อให้คนไทยที่อ่านคู่สร้างคู่สมที่อยู่ในประเทศอย่างไปคิดว่าญี่ปุ่นเป็นสวรรค์จะไปทำงานเพราะว่าเดี๋ยวก็ไปติดคุกเดี๋ยวก็ไปทำผิดเดี๋ยวก็ต้องเจ้าหน้าที่ทูตต้องไปเอาศพเอากระดูกออกจากคุกในต่างประเทศและเพราะฉะนั้นท่านอยากบอกและรู้อีกว่าคู่สร้างคู่สมขายในญี่ปุ่นเยอะก็จะอยากคนไทยในญี่ปุ่นว่าควรจะปฎิบัติตัวยังไงอะไรผิดอะไรถูก เสียดายท่านเขียนได้แค่ตอนเดียวเขาย้ายท่านไปเป็นทูตที่วอชิงตัน ไม่งั้นผมจะมีเรื่องที่เขียนโดยทูตในญี่ปุ่นเยอะเลย มีงานพิธีศพกษัตริย์ตองกา เอกอัครราชทูตไทยที่เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยที่ไปในพิธีศพที่ประเทศตองกา คุณนพดล เทพพิทักษ์ ท่านก็เขียนเรื่องเล่ามาพิธีศพของพระเจ้าแผ่นดินตองกาเป็นอย่างไร คู่สร้างคู่สมมีนักเขียนอย่างนี้
ศุภัคญาฎาร์ - เยอะมากคือที่บอกว่ามีคนทำงาน 9 คน แท้จริงแล้วแค่ในออฟฟิตไง แต่ข้างนอกนี่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก
ดำรง - เพราะฉะนั้นหนึ่งเขามีความสุข เพราะเป็นกันเอง เขามีเรื่องอะุไรก็เขียนมาเล่า เขียนเรื่องมา เช่นไปแต่งงานกับเยอรมัน เขากินเบียร์ ก็ไปแต่งกับเยอรมัน นึกว่าเยอรมันจะกินเบียร์ ดันไปแแต่งงานกับผู้ชายเยอรมันที่ไม่ชอบกินเบียร์
ศุภัคญาฎาร์ - เอ้า พลาดเป้า
ดำรง - เขียนมาฟ้องผม จะหาเหตุเลิกเพราะไม่ได้กินเบียร์ สามีบ่น เรื่องอาบน้ำทั้งเช้า ทั้งเย็น คนไทยมันต้องอาบน้ำเช้าเย็นนะ
พชร - อ๋อ ใช่
ดำรง - ฝรั่งมันบอก ไม่ประหยัด สามีบอกไม่ประหยัด ไอ้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ ถามว่าหนังสือเล่มไหนคนเขาจะเขียนไหม เขาไม่เขียนกัน เขียนมาเล่าให้ผมฟัง
ศุภัคญาฎาร์ - อันนี้คอลัมน์ ชื่อว่าอะไรนะคะ อันนี้
ดำรง - มันมีคอลัมน์ ดำรง ตอบจดหมาย บางที ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี ผัวไม่ให้อาบน้ำ ใช่ไหม
ศุภัคญาฎาร์ - ผัวไม่ให้อาบน้ำ
ดำรง - ก็ไมี่มี ไม่อาบ มันเป็นที่พึ่งของเขา
ศุภัคญาฎาร์ - แล้วคุณอา ก็ตอบเหรอคะ ตอบว่าอะไรคะ แล้วผัวไม่ให้อาบน้ำ ทำยังไงคะ คุณอา
ดำรง - ก็เล่าไปว่ามันเป็นวัฒนธรรมของเรา เราอาบมาตั้งแต่เกิด อะไรอย่างนี้ หรือเช่น ถามมาว่า ลูกอายุ 20 ปีแล้ว ต้องกลับมาเกณฑ์ทหารหรือเปล่า เราก็ตอบกลับไปว่า ถ้าลูกใช้พาสปอร์ตไทย ต้องกลับมาเพราะลูกเป็นคนไทย ตามกฎหมายไทย ต้องตอบอย่างนี้ เพราะฉะนั้นอย่างนี้ เขาไม่รู้จะไปถามใคร
ศุภัคญาฎาร์ - ถ้าเกิดถามมาในคำถามที่คุณอาไม่รู้ล่ะคะ
ดำรง - ไม่มีอะไร
ศุภัคญาฎาร์ - ไม่มีอะไร ไม่รู้
ดำรง - ไม่ใช่ ไม่มีอะไร ไม่รู้ ก็ค้นคว้าสิครับ
พชร - เราสามารถค้นคว้าได้
ดำรง - เราสามารถค้นคว้าได้ ถามเรื่องกฎหมาย อาจะไปรู้อะไรได้ เรื่องกฎหมาย เราก็ถามคนที่เขารู้กฎหมายตอบไป
ศุภัคญาฎาร์ - คุณอาก็ใช้เวลากับอยู่กับการที่จะตอบจดหมายแฟนๆ นี่เยอะแยะไปหมด แล้วคนที่บ้านคุณอามีเวลาให้บ้างไหม ไปเที่ยวต่างประเทศก็เยอะ
ดำรง - ก็นี่แหละ เป็นปัญหา เรารู้สึกสงสารเขา เพิ่งมากลับใจได้ เมื่ออายุ 70 กว่า นี่ไง ว่าเราควรจะให้เวลากับครอบครัวบ้าง คือ ผมไม่ได้ให้เวลากับครอบครัว สมมติไปต่างประเทศ มีคนเชิญไป บางครั้งเขาให้เอาครอบครัวไปด้วย ตอนหลังเขาก็ไม่ไปด้วย เพราะเขาเห็นว่าไปก็ไม่ได้เรื่อง ไปอาก็ทำงาน ต้องไปทำงาน ไปกระทรวงต่างประเทศ เดี๋ยวไปวัดไทย ไปวัดไทยเพื่ออะไร ไปพบคนไทย คนไทยจะมารวมกันที่วัด แล้วหนูไม่เจออย่างนี้หรอ คุณดำรงขอถ่ายรูปหน่อย ขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ ยืนถ่ายคนถ่ายก็เป็นคนอีสาน เอาตีนด้วย บ่ เราก็เอ๊ะ แปลว่าอะไร เอาตีนด้วย บ่ คือหมายความว่า ถ่ายให้เห็นเท้าด้วยหรือเปล่า นะครับ เราก็ยืนอยู่นะ เอาตีนด้วย บ่ ก็ไม่ตอบเพราะไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร ก็แปลว่าคล้ายๆ ว่า ถ่ายเต็มตัวหรือเปล่า
พชร - ไปเที่ยวก็เหมือนทำงานทุกครั้ง
ดำรง - ไม่เหมือน ไม่ใช่เหมือนเลยล่ะ คุณเพชร ทำงานเลย
พชร - อย่างนี้คนไปด้วย ต่อให้เป็นครอบครัว ก็รู้สึกไม่สนุกแน่นอน
ดำรง - ครับ ไม่สนุก วิธีที่ไป ที่ผมไป ก็คือไปกับเจ้าหน้าที่ ถ้าเผื่อเขาให้ไปสองคน เราก็ไปกับลูกน้องเรา ทำงานด้วยกัน
ศุภัคญาฎาร์ - อันนี้ที่เราถามไปตอนต้นรายการ คือฟีดแบค จากคนที่เขาได้เจอคุณอา หลังจากหนึ่งอาทิตย์ ฟีดแบค จากศรีภรรยา หลังจากที่ปิดตัวลง และครอบครัว ดีขึ้นๆ ไปไหนมาไหนด้วยกันมาขึ้น
ดำรง - ไม่ได้แย่ลงอะไรนะ เพียงแต่ว่า ณ ถึงวันนี้เขาก็ยังไม่เชื่อว่าผมจะยัง
ศุภัคญาฎาร์ - จะหยุดจริงๆ
ดำรง - จะหยุดจริงๆ ไม่เชื่อ ไม่เชื่อจริงๆ
ศุภัคญาฎาร์ - ยังไม่เชื่อ
ดำรง - เขาไม่เชื่อครับ ไม่เชื่อ
ศุภัคญาฎาร์ - อะไรทำให้ไม่เชื่อคะ คุณอาต้องมี
ดำรง - ก็เพราะเห็นมาตลอด
ศุภัคญาฎาร์ - ยังเดินสายไปโน่นมานี่
พชร - เป็นคนบ้างาน
ดำรง - เป็นคนบ้างาน ใช่ๆ ยังไม่เชื่อนะครับ จนกว่าจะได้พิสูจน์
พชร - แล้วตอนที่บอกว่าจะหยุด คนรอบตัวเขาตกใจไหม เขางงไหม ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย
ดำรง - คนรอบตัว ถ้าเป็นคนใกล้ชิดจริงๆ คงไม่ตกใจ เพราะว่าเราจะเปรยอยู่ตลอด แต่ถ้าคนในกอง บก. เราก็มีวิธีบอกเขา ชี้ให้เขาเห็น เช่น หนังสือต่างๆ ปิดเราก็ต้องเอามาพูด เอ้า เล่มนั้น ปิดแล้วนะ เอาเล่มนี้ รุ่นพี่เราตั้งหลายปี ก็ปิดแล้วนะ อันนี้ก็เอามาชี้แนะ
พชร - เริ่มทำใจได้
ดำรง - เริ่มทำใจ ต่อมาก็มี เห็นไหม โฆษณา ไม่มี โฆษณา ซึ่งเคยมีอยู่เยอะๆ ไม่มีเพราะอะไร เพราะว่าเศรษฐกิจ มันไม่ดี แต่นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่อีกเรื่องหนึ่งก็คือ งบโฆษณา มันถูกนำไปโฆษณาในนี้ ในมือถือ เจ้าของสินค้า เขาวัดด้วยว่า คนเสพ คนดูกี่คน
พชร - มันมีสถิติ
ศุภัคญาฎาร์ - แถมรู้ด้วยว่า มีใครมาจากไหน
ดำรง - อย่างรายการ พระอาทิตย์Live เนี่ย ไปบอกว่าคนดู 5 ล้านก็ได้ 10 ล้านก็ได้ มันไม่มีตัวเลข แต่นี่เจ้าของสินค้า เขาแคร์เรื่องตัวเลข
พชร - ออนไลน์ มันเห็นทันที
ดำรง - เห็นทันที เพราะฉะนั้น ต้องบอกคุณเพชร ว่าสมัยผมเฟื่องๆ ทั้งหนังสืออะไรเนี่ย มันจะมีเอเยนต์เรตติ้ง เช็กเรตติ้ง โกหกทั้งนั้น
ศุภัคญาฎาร์ - อ้าว
ดำรง - ไม่จริง อย่าไปเชื่อ
พชร - มันมียอดพิมพ์ ยอดเคลม ยอด
ดำรง - หนังสือคู่สร้างคู่สม เล่มแรก พิมพ์แสนนึง เขาไม่เคยลงเลยว่า ท็อปฮิต ท็อปอันดับหนึ่ง นี่เจ็บแค้นมาขนาด
ศุภัคญาฎาร์ - เจ็บใจ
ดำรง - ขนาดเลิกทำไปแล้ว ยังเจ็บใจเลยนะ
พชร - แต่ถึงตอนนี้ ไม่มีใครปฏิเสธ
ดำรง - เพราะว่ามีไอ้นี่
ศุภัคญาฎาร์ - ออนไลน์ ออนไลน์ มันจะมีทั้งข้อดีและข้อไม่ดีของมัน อยู่ในตัว มันก็ทุกเรื่อง มันมีสองด้านเสมอ
ดำรง - เอ๊ะ เมื่อกี้ผมพูดผิดไปอัน จักรี
ศุภัคญาฎาร์ - อะไรคะ
ดำรง - เรื่องโรงพยาบาล ที่เปิดวันจันทร์ที่ผ่านมา ชื่อจักรีนฤบดินทร จักรีนฤเบศร เป็นชื่อเรือ จักรีนฤบดินทร ครับ
เห็นไหม ผู้สูงอายุ
ศุภัคญาฎาร์ - แต่ไม่เป็นไร เราสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้
ดำรง - เราแก้ไขได้
ศุภัคญาฎาร์ - เราแก้ไขได้เสมอ เอาล่ะค่ะ จนถึงทุกวันนี้แล้ว มีอะไรบ้างไหมคะ คุณอา ที่คุณอาอยากทำในนิตยสารเล่มนี้ แต่ไม่ได้ทำ
ดำรง - ไม่มีนะ ได้ทำสมใจเลย
ศุภัคญาฎาร์ - ทุกอย่าง
ดำรง - ไม่มีอะไรที่ยังไม่ได้ทำ ในหนังสือ 38 ปีเนี่ย อยากทำอะไรทำ อยากเขียนเรื่องเล่า เรื่อง ผมชอบ แอฟริกา คือคู่สร้างคู่สม มีอยู่อย่างหนึ่ง เราเป็นคนเปิดประเทศให้คนไทยรู้จัก เช่น เอมิเรตส์ คนไทย ไม่เคยรู้จัก เมืองดูไบ คนไทยรู้จักจาก คู่สร้างคู่สม เมืองมัลดีฟส์ ผมนี่ชอบดำน้ำ เขาเรียกสคูบ้าไดฟ์ หนุ่มๆ นะ อยากไปดำน้ำที่ มัลดีฟส์ ตอนนั้นยังเรียกชื่อไม่ถูก เยอรมันเรียก มัลไดฟ์ เอ๊ะ มันเรียก มัลไดฟ์ เราก็ดั้นด้นไป อ้อ ความที่ถือว่าเรามีชื่อเสียง คลับเมด รีสอร์ต เราเคยทำให้เขามีชื่อเสียงในภูเก็ต เขาก็เชิญเราไปที่มัลดีฟส์ เราก็แนะนำเรื่อง มัลดีฟส์ มันไม่ใช่ แค่เรื่องแนะนำอย่างเดียว มันก็กลับไปอีก ไปเล่าเรื่อง วิถีชีวิตอะไร ก็เลยทำให้รู้สึกภูิมใจ ว่าหนังสือคู่สร้างคู่สมเปิดประตู ประเทศ หลายประเทศที่คนไทย ไม่เคยรู้ อย่าง เคนย่า คนไทยเขารู้ชื่อ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว เคนย่า เป็นยังไง ในป่า ซาฟารี มันเป็นยังไง สิงโต มันยังไง บิ๊กไฟท์ มันคืออะไร บิ๊กไฟท์ คือสัตว์ที่อันตรายที่สุดในซาฟารี สิงโต แรด ช้างป่า ควายป่า อย่างนี้เป็นต้น และก็ยังเถียงกันอีกว่า ควายป่า กับ สิงโต ใครดุกว่ากัน พวกนี้เราจะลงไปในรายละเอียด
พชร - ได้ทำมาทั้งหมดแล้ว
ดำรง - ทำมาทั้งหมด นี่คือสิ่งที่อยากทำ นั่งคิด เอ...อะไร ก็มีหมดทั้งหมด อยากทำมาทั้งหมด
ศุภัคญาฎาร์ - ได้ทำแล้ว
ดำรง - ได้ทำแล้ว ลงในหนังสือ
พชร - ที่บอกวันสุดม้าย น่าจะใจหายนะ เป็นผม ผมคงใจหาย
ดำรง - ผม เออ ไม่รู้สิ พูดแล้ว คือผมสบายใจ มันโล่งใจ โล่งแล้ว คนที่อาลัยอาวรณ์ คือเจ้าหน้าที่ก็ธรรมดา ธรรมชาติของเขานะครับ ที่จะ อยู่กันมา แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง ทีมงานคู่ส้รางคู่สม มันมีน้อยเนี่ย ทำให้เราสามารถทำอะไรให้กับลูกน้องได้อย่างเต็มที่ เช่นเขาจะไปเที่ยว อยากไปเที่ยวไหน มีคนหนึ่งชื่อ เปิ้ล คนนี้เขาฝ่ายการเงิน ใครๆ ก็เกรงใจเขา แล้วเขาทำงานดี บอก หนูไม่เคยเห็น หิมะ
ศุภัคญาฎาร์ - อ๋อ อยากไปเห็น หิมะ
ดำรง - อยากไปเห็น หิมะ เอ้า แล้วจะไปไหน อยากไปญี่ปุ่น ไปเลย ไปญี่ปุ่น คนที่มีลูกเอาลูกไปด้วยคนหนึ่ง มีสองคนที่มีลูก เอาลูกไปด้วย และเชื่อไหม คุณเพชร คุณจะพักที่ไหน คุณจะกินอะไร ตามสบาย ผู้ช่วยผมหอบเงินไป อยู่กันตามสบาย ไม่ได้ต้องมาจำกัด ว่าจะต้องเที่ยวอย่างโน้นเราอยู่กันอย่างนี้
พชร - เป็นโบนัส วิเศษ
ดำรง - เป็นโบนัส วิเศษ ได้เที่ยวตามที่ตัวเองอยากเที่ยว อยากกินอะไรล่ะ เนื้อ เนื้ออะไรนะ เนื้อขึ้นชื่อของญี่ปุ่น วากิวกันทุกมื้อเลย
พชร - เสียดายที่ปิดไปแล้ว ไม่อย่างนั้น แฟรี่จะไป สมัคร
ศุภัคญาฎาร์ - เอาจริงๆ อยากไปสมัครจริงๆ เพราะว่าอีหนึ่งอย่างที่อยากจะพูดมากๆ คือ ในยุคนี้ แฟรี่เองเป็นเด็กราชภัฏ แล้วเพื่อนๆ คนที่เรียนมาด้วยกัน ที่จบเกี่ยวกับด้านนิเทศ พอเขาเห็นเราเป็นเด็กราชภัฏ แล้วเนี่ย มันมีข้อจำกัดในออฟฟิศใหญ่ๆ
ดำรง - คำว่าเขา นี่คือใคร
ศุภัคญาฎาร์ - คือบริษัทใหญ่ๆ เขาจะมองเรา เห้ย เป็นเด็กราชภัฏ จะดีเหรอ เขาก็จะเลือกคนที่จบในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง
ดำรง- จุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์
ศุภัคญาฎาร์ - อะไรประมาณนั้น ถือว่าในยุคนั้น แฟรี่ หรือเพื่อนๆ แฟรี่ได้รู้จัก กับคุณอา นะ คงจะเทกันไปที่นี่ คุณอาว่ามันจริงไหมคะ ที่เขาว่าเลือกจากราชภัฏ
ดำรง - ก็มีธนาคารหนึ่ง เขาประกาศ ไม่รับเด็กราชภัฏ
ศุภัคญาฎาร์ - นั่นแหละค่ะ
ดำรง - เขาก็ไม่ผิด ไม่ถูก นักนะ อย่าลืมว่าอาเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอยู่ 3 แห่งนะครับ เขาก็มองว่า แล้วก็ราชภัฏ อีกอย่างหนึ่ง จะเหนียมอาย จะไม่ค่อยกล้าแสดงออก อย่าว่าแต่หนูเลย ผมจัดรายการที่ช่อง 5 วันสุขสัตน์วันเสาร์ หรือ รายการอะไรนี่ล่ะ คนดูเราคือนักศึกษา นักศึกษา จากต่างๆ จะขอมาอะไรก็ตาม ผมแปลกใจมากเลย ไม่มีราชภัฏ ขอมา บ้านสมเด็จ อาเคยว่าไป เพราะอาสำเร็จ บ้านสมเด็จ รุ่นพ่อหนู เคยว่าไป ว่าทำไม ทำไม ไม่เห็นมาเลย พวกอาชีวะ พวกอะไรเขามา ก็มันน่าจะเป็นคาแรกเตอร์ ของคนราชภัฏ หรือเปล่า นะครับ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่คน แล้วแต่ตัวบุคคล
ศุภัคญาฎาร์ - มันไม่ได้จำกัดแค่สถาบัน
ดำรง - ไม่ใช่สถาบัน
ศุภัคญาฎาร์ - อยากให้คุณอา พูดกับ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พูดกับเด็กราชภัฏ หน่อยค่ะว่า แสดงตนหน่อย
ดำรง - ก็คงไม่ต้องพูด แต่ที่คุยกัน เนี่ยนะครับ ขอให้ราชภัฏ มีความภาคภูมิใจในความเป็นสถาบันราชภัฏ คำว่า ราชา ราด-ชะ เนี่ย มีความหมาอยู่แล้ว แล้วเป็นสถาบัน ของท้องถิ่น ที่บางคนพูดว่า เป็นสถาบันท้องถิ่นที่จะเจริญก้าวหน้า ไปในสากล แต่มันไม่ใช่แค่นักศึกษาอย่างเดียว มันอยู่ที่คณาจารย์ด้วย อยู่ที่กรรมการสภามหาวิทยาลัยด้วย ต้องประกอบไปด้วยกัน ไม่ใช่แต่เด็ก แต่อย่างเดียว แต่มันมีอย่างนี้อยู่หน่อยเดีย วพอใครเข้ามหาวิทยาลัยอะไรไม่ได้ก็ เฮโล ไปเรียนราชภัฏ ผู้บริหารองค์กรต่างๆ ก็มักจะคิออย่างนี้ เรียนอะไรไม่ได้ก็ไปเข้าราชภัฏ ก็เลยมองดูราชภัฏว่า คุณภาพต่ำ เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยด้วยกัน
พชร - ขอนุญาต ถามเรื่องที่สงสัยค้างคาอยู่ ผมสงสัยว่าก้าวต่อไปในนิตยสารกระดาษ ในเมืองไทย มันจะเป็นยังไง เพราะว่าก่อนหน้านี้ คือผมมีความรู้สึกว่า ความหวังของเราคือ คู่สร้างคู่สม หนังสือที่ไม่น่าจะ แล้วอยู่มาวันหนึ่ง คู่สร้างคู่สม ก็ตัดสินใจที่ปิดฉาก ผมก็เลย นั่งนึกดูว่า เอ๊ะ แล้วนิตยสารกระดาษ เมืองไทย มันจะเป็นอย่างไร
ดำรง - ถามผมอย่างนี้ ต่อไปมันจะมีนิตยสาร ที่จะทำงานอยู่ ก็เยอะ แต่ก็วิธีคิดก็คือ อย่างNewsweek ป็นนิตยสารชั้นนำของโลก ผมเองก็รับคู่กับ Times แล้ววันหนึ่ง Newsweek ก็เลิกไป ใช่ไหม เพราะฉะนั้นก็ย้อนกลับไปอันเดิม เพราะถ้าเผื่อคนเขา ไม่อ่าน เพราะว่าเขาใช้โทรศัพท์มือถือ ไอ้นี่ ผมเห็นด้วยเลย ผมจะไม่ว่ามันเลย เพราะเขาใช้สิ่งนี้เขาทำอะไรได้สารพัดหมดทุกอย่าง ทั้งธุรกรรมการเงิน ทั้งดูหนัง ฟังเพลง ส่งข่าว รับข่าว ทำรายการโทรทัศน์ก็ได้ ถ่ายแล้วตัดต่อ ไม่ได้อย่างดำรง มารอออกอากาศ ที่ช่องโน้น ช่องนี้ เขาถ่ายแล้วเขาส่ง ต่อเข้าไปในยูทูป โลกมันเปลี่ยนไปอย่างนี้ แล้วถามว่า ใครมันจะมานั่งอ่านหนังสือ ที่อยู่ในกระดาษ เพราะว่า มีตัวเลขออกมาแล้วว่า คนอ่านหนังสือน้อยลง มักจะพูดกันว่า คนไทยอ่านหนังสือ ปีละไม่ถึงแปดบรรทัด มันตลกแล้ว เดี๋ยวนี้คนไทยอ่านหนังสือ กันมาก แต่ไม่อ่านในกระดาษ ย้ำนะครับ คนไทยอ่านหนังสือมากกว่าเก่า รู้ข่าวสารรู้อะไร สารพัดเลย แต่เขารู้มา ไม่ได้รู้จากหนังสือในกระดาษ แต่เขารู้จากนี้ครับ โทรศัพท์มือถือ เดี๋ยวนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเสพอะไร ข้อเสียคือที่อยู่ในนี้ มันไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง ไม่มีกองบรรณาธิการ ใครคิดอะไร เขียนด่าว่า ดำรง ตำหนิ ดำรง เป็นคนอย่างนี้ กดไป คนอ่านก็เชื่อเลย แต่พอเราทำหนังสือ คุณเพชร ทำหนังสือ นี่ไม่ได้นะ ต้องกลั่นกรองข้อเท็จจริง เป็นอย่างไร เดี๋ยวจะถูกฟ้องร้อง แต่เดี๋ยวนี้โลกมันเปลี่ยนไป มันก็สารพัดที่จะทำ คนจึงไม่อ่านหนังสือ เดี่ยวก่อนคุณเพชร ที่เป็นนักเขียนในคู่สร้างคู่สมผม สมัยก่อนเขาอ่านทั้งเล่มเขาไปเจอคอลัมน์ที่เขียนพิมพ์ผิด เขาก็จะโทรมาบอก เดี๋ยวนี้เขาไม่อ่าน เขาจะอ่านแค่คอลัมน์ของเขา เขาไม่อ่านคอลัมน์คนอื่น แล้วลูกผมสองคน คนหนึ่งจบ จุฬาฯ ไปแล้ว อีกคนกำลังจะจบ มัธยมศึกษาาปีที่ 6 จิตรลดา ก็ไม่อ่าน หนังสือ หนังสือพ่อเอามาตั้งไว้บนโต๊๊ะ ก็ไม่สนใจอ่าน ลูกเรายังไม่อ่าน แล้วจะยังหน้าด้านทำขายอยู่อีกเหรอ
พชร - แล้วคุณอา ยังอ่านมือถือไหม
ดำรง - แทบจะไม่อ่านเลยครับ ผม เวลาคุณเพชร โทรหาผม ผมจะบอกคุณเพชรว่า คุณเพชรเบอร์อะไรครับ คุณเพชรบอกว่า ก็เบอร์นี้แหละครับ อาดำรง เมมเลย ผมเมม ไม่เป็นนะ
พชร - ไหนมือถือครับ เป็น สมาร์ทโฟนไหม
ดำรง - สมาร์ทโฟนครับ ทันสมัย สมมติ ซื้อมาห้าหมื่น ผมใช้จริงๆ หมื่นนึงเท่านั้นครับ คือไม่รับรู้ ไม่เมมโมรี่ ไม่อะไร เวลานี้กำลังจะเปลี่ยน จะให้เลิกทำอะไร สั่งแล้วให้ซื้อโทรศัพท์อย่างอาม่า รับส่งอย่างเดียว ตัวมันโตดี เราจะได้อ่านตัวโต
พชร - คือใช้โทรศัพท์ เพื่อเป็นโทรศัพท์จริงๆ
ดำรง - คือเป็นโทรศัพท์ และ ไม่อยากจะรับรู้อะไร ใครจะไปทำอะไรยังไง ไม่อยากจะรับรู้อะไรแล้ว อาศัยว่าดูข่าว CNN หน่อยนึง ดูข่าว BBC โทรทัศน์ ถ้านั่งดูเมื่อไหร่ ก็กดดูฟุตบอล อย่างเดียว
พชร - ดูท่าทาง เตรียมตัวพักผ่อนจริงๆ เลย
ดำรง - เตรียมพักผ่อนจริงๆ เลยครับ
ศุภัคญาฎาร์ - แน่นอนเลยนะคะ เห็นไหม บอกแล้ว 1 ชั่วโมง จะผ่านไปเร็วมาก และแล้วก็ผ่านไปจริงๆ สุดท้ายอยากให้คุณอา อวยพรปีใหม่หน่อยค่ะ สำหรับแฟนๆ ที่ชมรายการพระอาทิตย์ Live
ดำรง - ถ้าเผื่อคนในวัยผม จะอำนวยอวยพร ก็ขอให้ท่านผู้ชมมีสุขภาพ พลานามัยแข็งแรง มีความเจริญรุ่งเรืองในสัมมาอาชีพ แล้วก็อยากจะอวยพรต่อไปทั้งประเทศ ขอให้ประเทศไทย มีแต่ความสงบ มีความเจริญ หรือในอนาคตได้มีการเลือกตั้งอะไรอย่างนี้ ก็อวยพรอย่างนี้ล่ะครับ ก็ขอให้ทั้งคุณเพชรและน้อง มีความสุข ให้รายการนี้มีเรตติ้งสูงๆ เป็นที่พึ่งพาของประชาชน ณ ที่นี้ ของสื่อมวลชน เป็นตัวอย่างที่เสนอความเป็นธรรมให้แก่สังคม กับประชาชน
ศุภัคญาฎาร์ - ถือโอกาสนี้มอบผลิตภัณฑ์ MANAGER สวัสดีปีใหม่ คุณอานะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ และวันนี้หมดเวลา รายการพระอาทิตย์ Live การได้คุยกับคุณอา วันนี้ รู้สึกเป็นเกียรติมาก และรู้อย่างหนึ่งว่า การเปลี่ยนแปลง คือนิรันดร์จริงๆ
พชร - วันนี้ ตัวเราเองก็ได้ประโยชน์มากมาย คุณผู้ชมทางบ้าน ได้นอกเหนือจากวงการสิ่งพิมพ์ ได้ข้อคิดสติ ในการดำเนินชีวิตไปด้วย
ศุภัคญาฎาร์ - ติดตามชมเรื่องราวน่าสนใจครั้งหน้า ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ