เชื่อว่าหลายๆ คนที่ผ่านการเติบโตมาด้วยการ์ตูนแอนิเมชัน ที่นอกจากจะได้รับความเพลิดเพลินและสนุกสนานจากสิ่งที่เขาสัมผัสมา บางส่วนก็อาจจะมีความคิดเล็กๆ ที่ว่า สักวันหนึ่งเขาหรือเธอเหล่านั้น อยากที่จะออกแบบหรือกำหนดท่าทางของแอนิเมชัน และคงจะมีโอกาสได้ไปร่วมงานสักครั้งในชีวิต เพื่อเติมเต็มในสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นสนใจให้สมใจตามความฝันในสักวัน
แต่สำหรับ บิ๊ก หรือ ดร.วิทวัส รุ่งจิรธนานนท์ แล้ว เขาสามารถทำให้ความฝันที่ว่ามานี้เป็นจริงได้ เพราะด้วยประสบการณ์ในด้านกราฟิกเอ็นจีเนียร์ที่ผ่านการออกแบบและกำหนดทิศทางในเกมดังอย่าง Final Fantasy XV หรือ Dragon Quest จึงทำให้เขาได้ต่อยอดทางความฝันจากเด็กชายที่ชอบเล่นเกมและดูแอนิเมชันในวัยเยาว์ ได้เข้าสู่ตำแหน่ง Simulation Software Engineer ของ Pixar Animation Studios สตูดิโอแอนิเมชันระดับโลก ซึ่งนับว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยอีกคนหนึ่ง ที่ได้รับเกียรติให้ร่วมงานกับบริษัทระดับโลกอีกคนหนึ่ง
• โดยส่วนตัวของคุณเอง เป็นคนที่สนใจในด้านแอนิเมชันมาก่อนอยู่แล้วมั้ยครับ
ใช่ครับ เราเริ่มมาจากความสนใจในการ์ตูนกับเกมตั้งแต่ตอนเด็ก แล้วมีความสงสัยว่าเขาสร้างการ์ตูนเขาสร้างเกมกันยังไง ถึงออกมาเป็นภาพสวย ๆ เคลื่อนไหวบนจอภาพที่สร้างความรู้สึกสนุกให้เราได้ แล้วความสงสัยนั้นก็เป็นแรงจูงใจหลักให้เลือกที่จะศึกษาเกี่ยวกับพวกกราฟิกและแอนิเมชันครับ จนได้ลอง ได้เรียนรู้หลาย ๆ ศาสตร์ที่จำเป็นในการสร้างผลงานด้านนี้ แล้วก็พบว่า ตัวเองรู้สึกสนุก ตื่นเต้นกับการเขียนโค้ดหลาย ๆ บรรทัดแล้วได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นภาพสวย ๆ เคลื่อนไหวครับ จากความสนใจสงสัยก็ค่อย ๆ พัฒนามาเป็นความชอบในการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่องานด้านนี้ครับ แล้วก็พอได้เอาความรู้ไปใช้จริง ในการสร้างสิ่งที่เป็นแรงจูงใจเราตอนเด็ก ตอนนี้ความชอบก็กลายมาเป็นความสุข ความสนุกครับ
• ด้วยความที่คุณเล่นเกมมาตั้งแต่เด็ก คิดว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่อยากจะทำงานด้านนี้ด้วยมั้ยครับ
ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จุดประกายความสนใจในด้านนี้ และเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหลักที่ปูทางมาถึงทุกวันนี้ครับ แล้วก็โชคดีที่โตมากับความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใช้ทำแอนิเมชันและเกมด้วยครับ เลยเป็นสิ่งที่ทำให้คงความสนใจมาได้เรื่อย ๆ
• อะไรที่ทำให้คุณสนใจความเคลื่อนไหวในรายละเอียดของแอนิเมชันอย่างจริงจังครับ
เวลาที่เราดูแอนิเมชันในแต่ละฉากแต่ละตอน มันสร้างอารมณ์ขำ เศร้า ซึ้ง ประทับใจ หลากหลายอารมณ์ให้เราใช่มั้ยครับ ก็แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากตัวละครและเรื่องราวในฉากนั้น ๆ แต่จริง ๆ แล้วการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ รายละเอียดยิบย่อยต่าง ๆ ในฉากก็มีความสำคัญต่อการสร้างอารมณ์ให้คนดูไม่แพ้กันครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรเล็กน้อยที่คนสังเกตไม่ค่อยทัน แต่มีผลต่อความรู้สึกคนดูได้แบบไม่รู้ตัว ผมรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ดีครับ
• อยากให้คุณช่วยอธิบายถึงหลักทางด้านวิทยาศาสตร์ต่อการเคลื่อนไหวของแอนิเมชันแบบคร่าวๆ หน่อยครับ
ในส่วนที่ผมทำงาน เขาเรียกว่า Simulation ครับ ซึ่งส่วนนี้ ในเกมหรือแอนิเมชัน คือ การจำลองการเคลื่อนไหวทางฟิสิกส์ของวัตถุครับ ใช้คณิตศาสตร์ กฎทางฟิสิกส์ต่าง ๆ มาคำนวณว่าวัตถุควรจะเคลื่อนไหวยังไงถึงจะสมจริงสวยงาม ที่เห็นได้ชัดเลยก็พวกการพลิ้วไหวของเสื้อผ้าและผมของตัวละคร การตกหล่น กลิ้ง กระเด็นกระดอนของข้าวของในฉาก การสร้างการเคลื่อนไหวพวกนี้ด้วยมือเป็นอะไรที่ใช้เวลามากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย จึงเป็นที่มาของการนำ Simulation เข้ามาช่วยสร้างการเคลื่อนไหวพวกนี้โดยอัตโนมัติครับ
• แล้วพอมาทดสอบหรือทำงานในหลักแอนิเมชันจริงๆ ความยากและอุปสรรคในแต่ชิ้นงาน อยู่ที่ตรงไหนครับ
ความยากอยู่ตรงการเชื่อมระหว่างศิลปะกับวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกันครับ ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี และในแง่ของการทำงานร่วมกันของคนจากสองฝั่งครับ ในแง่ของเทคโนโลยีก็คือเราต้องพัฒนาอะไรที่ทำให้ความสมจริง กับ ความสวยงามทางศิลป์มันไปด้วยกันได้และควบคุมได้ครับ หลายครั้งความสมจริงมันก็ไม่ค่อยจะสวยงามในทางศิลป์ครับ ในแง่ของการทำงานก็คือการสื่อสารกันระหว่างคนที่มีหัวทางเทคโนโลยีกับคนที่มีหัวทางศิลป์ครับ แน่นอนว่ากระบวนการทางความคิดก็จะมีแตกต่างกันบ้าง ก็ต้องมีการปรับ พยายามเข้าใจกันในการสื่อสารครับ ก็เป็นความยากและอุปสรรคที่ท้าทายและสนุกดีครับ
• งาน Software Engineer ในมุมมองของคุณต่อการทำงานลักษณะนี้ คิดว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ
Software Engineer ในงานส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกไปสู่ลูกค้าข้างนอก ออกสู่ชาวโลกโดยตรงใช่มั้ยครับ แต่ว่าการทำงานของ Software Engineer ในสตูดิโอแอนิเมชันหรือเกม ลูกค้าของเราคือ อาร์ทิสต์หรือคนในสตูดิโอเดียวกันครับ ผลิตภัณฑ์ของเราจะไม่ได้ออกไปสู่ชาวโลกโดยตรง แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ไอเดียของศิลปินออกมาเป็นรูปเป็นร่างให้ได้มากที่สุด รวมถึงให้เขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ
• ในการทำงานที่ Pixar หลักในการทำงานของที่นี่แบบไหนที่คิดว่าสามารถนำมาประยุกต์ในการทำงานทั่วไปได้ครับ
การมีความสุขกับสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดมากที่ Pixar ครับ เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ทำให้ผลงานของ Pixar ออกมาประทับใจคนดูทั่วโลก เพราะฉะนั้นผมคิดว่าการทำงานโดยมีมุมมองด้านบวกกับสิ่งที่เราทำ เป็นสิ่งที่น่าจะเอาไปประยุกต์กับการทำงานทั่วไปได้ทุกอย่างครับ
• การที่ได้มาทำงานที่นี่ นอกจากทำตามความฝันแล้ว ได้ให้อะไรเพิ่มเติมกับคุณบ้างครับ
ผมคิดว่าได้ขยายมุมมองของตัวเองครับ รู้สึกว่าการได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย ได้ทำงานร่วมกับคนหลาย ๆ แบบ มันทำให้เรามองโลกกว้างขึ้น เข้าใจยอมรับความแตกต่างและสิ่งใหม่ได้ง่ายขึ้น โดยส่วนตัวคิดว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีทัศนคติที่ดี นอกจากการทำงานแล้ว การใช้ชีวิตทั่วไปก็มีความสุขได้ง่ายขึ้นครับ
• ถ้าถามถึงนักสร้างงานแอนิเมชันไทย ในมุมมองของคุณเอง มีจุดเด่นและจุดด้อยยังไง และคิดว่าจะไปสู้กับชาติอื่นๆ ได้บ้างมั้ยครับ
ต้องออกตัวก่อนว่าไม่มีความรู้หรือข้อมูลเกี่ยวกับวงการแอนิเมชันไทยเท่าไหร่เลยครับ แต่ขอแสดงความคิดเห็นในฐานะคนติดตามผลงานของคนไทยคนหนึ่งแล้วกัน ผมคิดว่าฝีมือของคนไทยสู้ชาติอื่นได้แน่นอน แต่อาจจะขาดเงินทุนและการได้รับความสนับสนุน แล้วก็อีกเรื่องหนึ่งที่อยากเห็นมาก ๆ เลยคือ แอนิเมชันที่มีไอเดียเด็ด ๆ แหวกแนวของคนไทยครับ บางครั้งรู้สึกว่าการพยายามทำอะไรให้ดูไทยมาก ๆ เป็นดาบสองคมที่ทำให้จินตนาการโดนขีดกรอบได้เหมือนกันครับ ผมคิดว่าเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เรื่องราวบนท้องถนน เรื่องราวในครอบครัว เรื่องราวกับคนข้างบ้าน ทุกอย่างมันมีความเป็นไทยแฝงอยู่ในตัวอยู่แล้ว เอาสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเป็นหัวเชื้อไอเดียเราอาจจะได้ไอเดียอะไรแปลกใหม่ก็ได้ครับ
• จากที่เคยคิดเล่นๆ ว่าอยากมีชื่อตัวเองอยู่ในเครดิตผลงานที่ร่วมสร้างมา พอมามีแล้วจริงๆ ความรู้สึกในตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ
ผมรู้สึกดีใจมากครับ แม้ว่าจะมีแค่ตัวอักษรวิ่งผ่านหน้าจอไม่กี่วินาทีเอง แต่รู้สึกภูมิใจมากเลยครับ ต้องบอกว่าผมโชคดีมากที่ได้เจอสิ่งที่ตัวเองชอบเร็ว ได้รับการสนับสนุนให้เข้าไปศึกษามันอย่างจริงจัง และโชคดีที่ได้โอกาสดีๆ หลายอย่าง จากครอบครัวและคนรอบข้าง แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่ารอโอกาสอย่างเดียวนะครับ อยากฝากเด็ก ๆ น้อง ๆ ด้วยครับว่า ใช้เวลาให้คุ้มค่า ออกไปลองในสิ่งที่คิดว่าตัวเองสนใจ ออกไปเรียนรู้ อย่าดูถูกตัวเอง เอาตัวเองออกไปข้างนอก สร้างโอกาสให้โอกาสดีๆ วิ่งชนเราให้ได้มากที่สุดครับ
เรื่อง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ : วิทวัส รุ่งจิรธนานนท์
แต่สำหรับ บิ๊ก หรือ ดร.วิทวัส รุ่งจิรธนานนท์ แล้ว เขาสามารถทำให้ความฝันที่ว่ามานี้เป็นจริงได้ เพราะด้วยประสบการณ์ในด้านกราฟิกเอ็นจีเนียร์ที่ผ่านการออกแบบและกำหนดทิศทางในเกมดังอย่าง Final Fantasy XV หรือ Dragon Quest จึงทำให้เขาได้ต่อยอดทางความฝันจากเด็กชายที่ชอบเล่นเกมและดูแอนิเมชันในวัยเยาว์ ได้เข้าสู่ตำแหน่ง Simulation Software Engineer ของ Pixar Animation Studios สตูดิโอแอนิเมชันระดับโลก ซึ่งนับว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยอีกคนหนึ่ง ที่ได้รับเกียรติให้ร่วมงานกับบริษัทระดับโลกอีกคนหนึ่ง
• โดยส่วนตัวของคุณเอง เป็นคนที่สนใจในด้านแอนิเมชันมาก่อนอยู่แล้วมั้ยครับ
ใช่ครับ เราเริ่มมาจากความสนใจในการ์ตูนกับเกมตั้งแต่ตอนเด็ก แล้วมีความสงสัยว่าเขาสร้างการ์ตูนเขาสร้างเกมกันยังไง ถึงออกมาเป็นภาพสวย ๆ เคลื่อนไหวบนจอภาพที่สร้างความรู้สึกสนุกให้เราได้ แล้วความสงสัยนั้นก็เป็นแรงจูงใจหลักให้เลือกที่จะศึกษาเกี่ยวกับพวกกราฟิกและแอนิเมชันครับ จนได้ลอง ได้เรียนรู้หลาย ๆ ศาสตร์ที่จำเป็นในการสร้างผลงานด้านนี้ แล้วก็พบว่า ตัวเองรู้สึกสนุก ตื่นเต้นกับการเขียนโค้ดหลาย ๆ บรรทัดแล้วได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นภาพสวย ๆ เคลื่อนไหวครับ จากความสนใจสงสัยก็ค่อย ๆ พัฒนามาเป็นความชอบในการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่องานด้านนี้ครับ แล้วก็พอได้เอาความรู้ไปใช้จริง ในการสร้างสิ่งที่เป็นแรงจูงใจเราตอนเด็ก ตอนนี้ความชอบก็กลายมาเป็นความสุข ความสนุกครับ
• ด้วยความที่คุณเล่นเกมมาตั้งแต่เด็ก คิดว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่อยากจะทำงานด้านนี้ด้วยมั้ยครับ
ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จุดประกายความสนใจในด้านนี้ และเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหลักที่ปูทางมาถึงทุกวันนี้ครับ แล้วก็โชคดีที่โตมากับความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใช้ทำแอนิเมชันและเกมด้วยครับ เลยเป็นสิ่งที่ทำให้คงความสนใจมาได้เรื่อย ๆ
• อะไรที่ทำให้คุณสนใจความเคลื่อนไหวในรายละเอียดของแอนิเมชันอย่างจริงจังครับ
เวลาที่เราดูแอนิเมชันในแต่ละฉากแต่ละตอน มันสร้างอารมณ์ขำ เศร้า ซึ้ง ประทับใจ หลากหลายอารมณ์ให้เราใช่มั้ยครับ ก็แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากตัวละครและเรื่องราวในฉากนั้น ๆ แต่จริง ๆ แล้วการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ รายละเอียดยิบย่อยต่าง ๆ ในฉากก็มีความสำคัญต่อการสร้างอารมณ์ให้คนดูไม่แพ้กันครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรเล็กน้อยที่คนสังเกตไม่ค่อยทัน แต่มีผลต่อความรู้สึกคนดูได้แบบไม่รู้ตัว ผมรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ดีครับ
• อยากให้คุณช่วยอธิบายถึงหลักทางด้านวิทยาศาสตร์ต่อการเคลื่อนไหวของแอนิเมชันแบบคร่าวๆ หน่อยครับ
ในส่วนที่ผมทำงาน เขาเรียกว่า Simulation ครับ ซึ่งส่วนนี้ ในเกมหรือแอนิเมชัน คือ การจำลองการเคลื่อนไหวทางฟิสิกส์ของวัตถุครับ ใช้คณิตศาสตร์ กฎทางฟิสิกส์ต่าง ๆ มาคำนวณว่าวัตถุควรจะเคลื่อนไหวยังไงถึงจะสมจริงสวยงาม ที่เห็นได้ชัดเลยก็พวกการพลิ้วไหวของเสื้อผ้าและผมของตัวละคร การตกหล่น กลิ้ง กระเด็นกระดอนของข้าวของในฉาก การสร้างการเคลื่อนไหวพวกนี้ด้วยมือเป็นอะไรที่ใช้เวลามากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย จึงเป็นที่มาของการนำ Simulation เข้ามาช่วยสร้างการเคลื่อนไหวพวกนี้โดยอัตโนมัติครับ
• แล้วพอมาทดสอบหรือทำงานในหลักแอนิเมชันจริงๆ ความยากและอุปสรรคในแต่ชิ้นงาน อยู่ที่ตรงไหนครับ
ความยากอยู่ตรงการเชื่อมระหว่างศิลปะกับวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกันครับ ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี และในแง่ของการทำงานร่วมกันของคนจากสองฝั่งครับ ในแง่ของเทคโนโลยีก็คือเราต้องพัฒนาอะไรที่ทำให้ความสมจริง กับ ความสวยงามทางศิลป์มันไปด้วยกันได้และควบคุมได้ครับ หลายครั้งความสมจริงมันก็ไม่ค่อยจะสวยงามในทางศิลป์ครับ ในแง่ของการทำงานก็คือการสื่อสารกันระหว่างคนที่มีหัวทางเทคโนโลยีกับคนที่มีหัวทางศิลป์ครับ แน่นอนว่ากระบวนการทางความคิดก็จะมีแตกต่างกันบ้าง ก็ต้องมีการปรับ พยายามเข้าใจกันในการสื่อสารครับ ก็เป็นความยากและอุปสรรคที่ท้าทายและสนุกดีครับ
• งาน Software Engineer ในมุมมองของคุณต่อการทำงานลักษณะนี้ คิดว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ
Software Engineer ในงานส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกไปสู่ลูกค้าข้างนอก ออกสู่ชาวโลกโดยตรงใช่มั้ยครับ แต่ว่าการทำงานของ Software Engineer ในสตูดิโอแอนิเมชันหรือเกม ลูกค้าของเราคือ อาร์ทิสต์หรือคนในสตูดิโอเดียวกันครับ ผลิตภัณฑ์ของเราจะไม่ได้ออกไปสู่ชาวโลกโดยตรง แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ไอเดียของศิลปินออกมาเป็นรูปเป็นร่างให้ได้มากที่สุด รวมถึงให้เขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ
• ในการทำงานที่ Pixar หลักในการทำงานของที่นี่แบบไหนที่คิดว่าสามารถนำมาประยุกต์ในการทำงานทั่วไปได้ครับ
การมีความสุขกับสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดมากที่ Pixar ครับ เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ทำให้ผลงานของ Pixar ออกมาประทับใจคนดูทั่วโลก เพราะฉะนั้นผมคิดว่าการทำงานโดยมีมุมมองด้านบวกกับสิ่งที่เราทำ เป็นสิ่งที่น่าจะเอาไปประยุกต์กับการทำงานทั่วไปได้ทุกอย่างครับ
• การที่ได้มาทำงานที่นี่ นอกจากทำตามความฝันแล้ว ได้ให้อะไรเพิ่มเติมกับคุณบ้างครับ
ผมคิดว่าได้ขยายมุมมองของตัวเองครับ รู้สึกว่าการได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย ได้ทำงานร่วมกับคนหลาย ๆ แบบ มันทำให้เรามองโลกกว้างขึ้น เข้าใจยอมรับความแตกต่างและสิ่งใหม่ได้ง่ายขึ้น โดยส่วนตัวคิดว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีทัศนคติที่ดี นอกจากการทำงานแล้ว การใช้ชีวิตทั่วไปก็มีความสุขได้ง่ายขึ้นครับ
• ถ้าถามถึงนักสร้างงานแอนิเมชันไทย ในมุมมองของคุณเอง มีจุดเด่นและจุดด้อยยังไง และคิดว่าจะไปสู้กับชาติอื่นๆ ได้บ้างมั้ยครับ
ต้องออกตัวก่อนว่าไม่มีความรู้หรือข้อมูลเกี่ยวกับวงการแอนิเมชันไทยเท่าไหร่เลยครับ แต่ขอแสดงความคิดเห็นในฐานะคนติดตามผลงานของคนไทยคนหนึ่งแล้วกัน ผมคิดว่าฝีมือของคนไทยสู้ชาติอื่นได้แน่นอน แต่อาจจะขาดเงินทุนและการได้รับความสนับสนุน แล้วก็อีกเรื่องหนึ่งที่อยากเห็นมาก ๆ เลยคือ แอนิเมชันที่มีไอเดียเด็ด ๆ แหวกแนวของคนไทยครับ บางครั้งรู้สึกว่าการพยายามทำอะไรให้ดูไทยมาก ๆ เป็นดาบสองคมที่ทำให้จินตนาการโดนขีดกรอบได้เหมือนกันครับ ผมคิดว่าเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เรื่องราวบนท้องถนน เรื่องราวในครอบครัว เรื่องราวกับคนข้างบ้าน ทุกอย่างมันมีความเป็นไทยแฝงอยู่ในตัวอยู่แล้ว เอาสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเป็นหัวเชื้อไอเดียเราอาจจะได้ไอเดียอะไรแปลกใหม่ก็ได้ครับ
• จากที่เคยคิดเล่นๆ ว่าอยากมีชื่อตัวเองอยู่ในเครดิตผลงานที่ร่วมสร้างมา พอมามีแล้วจริงๆ ความรู้สึกในตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ
ผมรู้สึกดีใจมากครับ แม้ว่าจะมีแค่ตัวอักษรวิ่งผ่านหน้าจอไม่กี่วินาทีเอง แต่รู้สึกภูมิใจมากเลยครับ ต้องบอกว่าผมโชคดีมากที่ได้เจอสิ่งที่ตัวเองชอบเร็ว ได้รับการสนับสนุนให้เข้าไปศึกษามันอย่างจริงจัง และโชคดีที่ได้โอกาสดีๆ หลายอย่าง จากครอบครัวและคนรอบข้าง แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่ารอโอกาสอย่างเดียวนะครับ อยากฝากเด็ก ๆ น้อง ๆ ด้วยครับว่า ใช้เวลาให้คุ้มค่า ออกไปลองในสิ่งที่คิดว่าตัวเองสนใจ ออกไปเรียนรู้ อย่าดูถูกตัวเอง เอาตัวเองออกไปข้างนอก สร้างโอกาสให้โอกาสดีๆ วิ่งชนเราให้ได้มากที่สุดครับ
เรื่อง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ : วิทวัส รุ่งจิรธนานนท์
