ดาลัด…เมืองหลวงในจังหวัดแลม ดอง ประเทศเวียดนาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเวียดนามและภูมิภาคเอเชีย ซึ่งดาลัดอยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติ เลียน เคือง (เมืองแลมดอง ประเทศเวียดนาม) ประมาณ 35 กิโลเมตร หรือราวๆ 40 นาที เท่านั้น และนี่ก็คือ 7 สถานที่น่าเช็กอินในดาลัด เวียดนาม
1. พิพิธภัณฑ์ แลม ดอง (Lam Dong Province’s Museum)
พิพิธภันฑ์ แลม ดอง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1953 โดยปิดปรับปรุงและเปิดอีกทีเมื่อปี ค.ศ.2010 ประกอบไปด้วยส่วนจัดแสดงทั้งหมด 9 ห้องประกอบไปด้วย ส่วนแสดง ประวัติศาสตร์ วัตถุโบราณ รูปแบบที่พักอาศัย เครื่องมือล่าสัตว์ หมู่บ้านหัตถกรรมแบบดั้งเดิม การแต่งกายแบบดั้งเดิม เทศกาลและประเพณีต่างๆ ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงฆ้องหินหลายชนิดที่ขุดพบในหลายยุคสมัย
นอกจากนั้นยังมีโบราณสถาน “Cat Tien” ซึ่งเป็นมรดกล้ำค่าจากอาณาจักรโบราณซึ่งถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินมานับพันปี โบราณสถานแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของชาติในปี ค.ศ.1997 ราคาค่าเข้าชม 15,000 ดง ต่อ 1 ท่าน หรือประมาณ 23 บาท
2. พระราชวัง 1 (Palace 1)
เป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขาแวดล้อมไปด้วยป่าสน พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นวิลล่าของเศรษฐีชาวฝรั่งเศสชื่อ Robert Clement Bourgery ถูกสร้างขึ้นในช่วงก่อนปี ค.ศ.1940 หลังจากนั้นกษัตริย์ Bao Dai กษัตริย์องค์สุดท้ายของเวียดนามที่มีอายุยืนที่สุด ได้ซื้อพระราชวังแห่งนี้ในปี ค.ศ.1949 โดยที่นี่เป็นพระราชวังที่แรกของพระองค์ และนอกจากนี้ยังได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่สำหรับเจ้าหน้าที่ใต้บังคับบัญชาของกษัตริย์
จนกระทั่งปี ค.ศ.1956 ประธานาธิบดี Ngo Dinh Diem ได้ใช้พระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่ส่วนตัวของประธานาธิบดี โดยได้มีการขุดอุโมงค์ใต้ดินเพิ่มเพื่อใช้สำหรับเป็นทางออกฉุกเฉิน ซึ่งปัจจุบันนั้นยังมีของใช้ของกษัตริย์ Bao Dai มเหสีและบุตรอยู่ด้วย ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมโดยสนนราคาเข้าชม 30,000 ดง ต่อคน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 45 บาท
3. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ XQ (XQ Da Lat Historical House)
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ XQ เลื่องชื่อในด้านงานศิลปหัตถกรรมโดยงานปักที่วิจิตรงดงามราวภาพวาด หมู่บ้านประวัติศาสตร์ XQ เปรียบเสมือนห้องแสดงศิลปะชั้นเยี่ยมที่รวบรวมชิ้นงานปักที่สวยงามมาไว้ด้วยกัน โดยสถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่จัดแสดง และขายงานศิลปหัตถกรรมที่มีชื่อในเวียดนาม โดยภาพปักของ XQ นั้นถือเป็นของขวัญล้ำค่าที่สามารถถ่ายทอดความงดงามของวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเวียดนามได้เป็นอย่างดี ซึ่งงานปักแต่ละชิ้นนั้นสนนราคาตั้งแต่หลักหมื่นบาทไทยไปจนถึงหลักแสน แต่ถ่ายรูปมาให้ชมได้ไม่มาก เพราะสถานที่แห่งนี้ภายในไม่ให้ถ่ายภาพผลงานเท่าไหร่ ส่วนราคาค่าเข้าชมหมู่บ้านประวัติศาสตร์นั้นอยู่ที่ 20,000 ดง หรือ 28 บาท
4. หุบเขาแห่งความรัก (Valley of Love)
หุบเขาแห่งความรักเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนดาลัด เนื่องจากความสวยงามทางทัศนียภาพและความโรแมนติกของสถานที่แห่งนี้ หุบเขาแห่งความรักจึงกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และยังได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่สวยงามระดับประเทศในปี 1998 ด้วยความงดงามของหุบเขาที่ล้อมรอบไปด้วยป่าสนอันสวยงาม และยังมีทะเลสาบ Da Thien อันเงียบสงบ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1972 ทำให้หุบเขาแห่งนี้มีเสน่ห์มากขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมธรรมชาติไปตามเส้นทางธรรมชาติและถ่ายรูปกับซุ้มประตูดอกไม้และรูปปั้นอันงดงามได้อย่างอิสระ ซึ่งที่สังเกตเห็นนั้นมีคู่รักมาเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้หลายคู่เลยล่ะ
5. น้ำตก Datanla (Datanla Waterfall)
น้ำตก Datanla เคยมีชื่อว่า Da Tam N’nha โดยชาวพื้นเมืองซึ่งมีชื่อเรียกว่าชาว Kho อยู่ห่างจากตัวเมืองดาลัดไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ในสมัยก่อนเชื่อว่าเป็นที่อาบน้ำของเหล่านางฟ้า น้ำตกแห่งนี้มีความสวยงามและมีหลายชั้น ซึ่งคุณสามารถลงไปยังน้ำตกด้วยรถราง (Roller Coaster) หรือจะเลือกเดินลงโดยบันไดคอนกรีตก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้แล้วยังมีกิจกรรมที่หลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส รวมไปถึงร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของฝากที่มีไว้คอยบริการ ใครที่ชอบแนวแอดเวนเจอร์ไม่ควรพลาดเด็ดขาด
6. Da Lat Night Market
ตลาดนัดกลางคืนแหล่งน่าเดินเล่น เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีสินค้าหลากหลาย มีทั้งตลาดเสื้อผ้ามือสองที่ราคาถูกมากๆ ถ้าใครที่กำลังมองหาแจ๊กเก็ตดีๆ ใส่ ลองมาหาได้ที่นี่ รับรองสภาพดีเลยล่ะ หรือจะเป็นโซนพื้นที่อาหารสดก็น่าสนใจเพราะในเมืองดาลัดมีชื่อเสียงในเรื่องอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีดินอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การปลูกดอกไม้และผัก ทำให้คุณสามารถหาผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นที่เกษตรกรนำออกสู่ตลาดได้ง่ายๆ เช่น มันฝรั่งหวาน, อาร์ติโชค, สตรอเบอร์รี่, กะหล่ำปลีดอก,กุหลาบ, กล้วยไม้, ดอกเดซี่ ฯลฯ
แต่ที่ดูจะสะดุดตาเป็นพิเศษก็คงจะเป็นร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดที่สามารถนั่งกินได้ชิลๆ ริมฟุตปาท ซึ่งแต่ละร้านจะมีเก้าอี้ตัวเล็กๆ วางไว้ด้วย แอบเห็นเด็กวัยรุ่นจับกลุ่มนั่งกินกันเต็มเลย ส่วนอาหารที่เด็ดๆ ก็จะเป็นของปิ้งย่าง, น้ำเต้าหู้, ก๋วยเตี๋ยว และพิซซ่าเวียดนามที่ดูเหมือนจะเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่เลยแหละ เพราะมองไปทางไหนก็เห็นแต่คนนั่งกินกันทั้งนั้น และนอกจากนี้แล้วยังมีดนตรีสดให้คุณได้ดื่มด่ำนั่งฟังแบบเพลินๆ กินอาหารไป ฟังดนตรีไปท่ามกลางอากาศที่ดี๊ดี รับรองว่าชิลสุดๆ
7. ฟาร์มผักและดอกไม้
ฟาร์มปลูกผักและดอกไม้ที่เก่าแก่ที่สุด สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้และผักนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น ดอกไฮเดรนเยีย, ดอกกล้วยไม้, ดอกกุหลาบ ฯลฯ ที่หากได้เข้าไปชม คุณจะต้องสะดุดตากับสีสันของดอกไม้หลากสีที่สวยงาม สมกับได้ชื่อว่าเป็นเมือง “สวนดอกไม้และผัก” จริงๆ
จากประวัติ แรกเริ่มเดิมทีนั้น ชาวดาลัดจะปลูกข้าวมาก่อน แต่ระยะหลังๆ ได้มีการปลูกผัก และดอกไม้เพิ่ม เนื่องจากรายได้ไม่พอทำกิน ทำให้ปัจจุบันดาลัดจะส่งดอกไม้ออกไปยังเมืองต่างๆ ในเวียดนามถึง 80% อีกทั้งจะมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้ทุกๆ 2 ปี
เรื่อง / ภาพ : วรัญญา งามขำ
1. พิพิธภัณฑ์ แลม ดอง (Lam Dong Province’s Museum)
พิพิธภันฑ์ แลม ดอง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1953 โดยปิดปรับปรุงและเปิดอีกทีเมื่อปี ค.ศ.2010 ประกอบไปด้วยส่วนจัดแสดงทั้งหมด 9 ห้องประกอบไปด้วย ส่วนแสดง ประวัติศาสตร์ วัตถุโบราณ รูปแบบที่พักอาศัย เครื่องมือล่าสัตว์ หมู่บ้านหัตถกรรมแบบดั้งเดิม การแต่งกายแบบดั้งเดิม เทศกาลและประเพณีต่างๆ ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงฆ้องหินหลายชนิดที่ขุดพบในหลายยุคสมัย
นอกจากนั้นยังมีโบราณสถาน “Cat Tien” ซึ่งเป็นมรดกล้ำค่าจากอาณาจักรโบราณซึ่งถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินมานับพันปี โบราณสถานแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของชาติในปี ค.ศ.1997 ราคาค่าเข้าชม 15,000 ดง ต่อ 1 ท่าน หรือประมาณ 23 บาท
2. พระราชวัง 1 (Palace 1)
เป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขาแวดล้อมไปด้วยป่าสน พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นวิลล่าของเศรษฐีชาวฝรั่งเศสชื่อ Robert Clement Bourgery ถูกสร้างขึ้นในช่วงก่อนปี ค.ศ.1940 หลังจากนั้นกษัตริย์ Bao Dai กษัตริย์องค์สุดท้ายของเวียดนามที่มีอายุยืนที่สุด ได้ซื้อพระราชวังแห่งนี้ในปี ค.ศ.1949 โดยที่นี่เป็นพระราชวังที่แรกของพระองค์ และนอกจากนี้ยังได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่สำหรับเจ้าหน้าที่ใต้บังคับบัญชาของกษัตริย์
จนกระทั่งปี ค.ศ.1956 ประธานาธิบดี Ngo Dinh Diem ได้ใช้พระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่ส่วนตัวของประธานาธิบดี โดยได้มีการขุดอุโมงค์ใต้ดินเพิ่มเพื่อใช้สำหรับเป็นทางออกฉุกเฉิน ซึ่งปัจจุบันนั้นยังมีของใช้ของกษัตริย์ Bao Dai มเหสีและบุตรอยู่ด้วย ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมโดยสนนราคาเข้าชม 30,000 ดง ต่อคน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 45 บาท
3. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ XQ (XQ Da Lat Historical House)
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ XQ เลื่องชื่อในด้านงานศิลปหัตถกรรมโดยงานปักที่วิจิตรงดงามราวภาพวาด หมู่บ้านประวัติศาสตร์ XQ เปรียบเสมือนห้องแสดงศิลปะชั้นเยี่ยมที่รวบรวมชิ้นงานปักที่สวยงามมาไว้ด้วยกัน โดยสถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่จัดแสดง และขายงานศิลปหัตถกรรมที่มีชื่อในเวียดนาม โดยภาพปักของ XQ นั้นถือเป็นของขวัญล้ำค่าที่สามารถถ่ายทอดความงดงามของวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเวียดนามได้เป็นอย่างดี ซึ่งงานปักแต่ละชิ้นนั้นสนนราคาตั้งแต่หลักหมื่นบาทไทยไปจนถึงหลักแสน แต่ถ่ายรูปมาให้ชมได้ไม่มาก เพราะสถานที่แห่งนี้ภายในไม่ให้ถ่ายภาพผลงานเท่าไหร่ ส่วนราคาค่าเข้าชมหมู่บ้านประวัติศาสตร์นั้นอยู่ที่ 20,000 ดง หรือ 28 บาท
4. หุบเขาแห่งความรัก (Valley of Love)
หุบเขาแห่งความรักเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนดาลัด เนื่องจากความสวยงามทางทัศนียภาพและความโรแมนติกของสถานที่แห่งนี้ หุบเขาแห่งความรักจึงกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และยังได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่สวยงามระดับประเทศในปี 1998 ด้วยความงดงามของหุบเขาที่ล้อมรอบไปด้วยป่าสนอันสวยงาม และยังมีทะเลสาบ Da Thien อันเงียบสงบ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1972 ทำให้หุบเขาแห่งนี้มีเสน่ห์มากขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมธรรมชาติไปตามเส้นทางธรรมชาติและถ่ายรูปกับซุ้มประตูดอกไม้และรูปปั้นอันงดงามได้อย่างอิสระ ซึ่งที่สังเกตเห็นนั้นมีคู่รักมาเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้หลายคู่เลยล่ะ
5. น้ำตก Datanla (Datanla Waterfall)
น้ำตก Datanla เคยมีชื่อว่า Da Tam N’nha โดยชาวพื้นเมืองซึ่งมีชื่อเรียกว่าชาว Kho อยู่ห่างจากตัวเมืองดาลัดไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ในสมัยก่อนเชื่อว่าเป็นที่อาบน้ำของเหล่านางฟ้า น้ำตกแห่งนี้มีความสวยงามและมีหลายชั้น ซึ่งคุณสามารถลงไปยังน้ำตกด้วยรถราง (Roller Coaster) หรือจะเลือกเดินลงโดยบันไดคอนกรีตก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้แล้วยังมีกิจกรรมที่หลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส รวมไปถึงร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของฝากที่มีไว้คอยบริการ ใครที่ชอบแนวแอดเวนเจอร์ไม่ควรพลาดเด็ดขาด
6. Da Lat Night Market
ตลาดนัดกลางคืนแหล่งน่าเดินเล่น เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีสินค้าหลากหลาย มีทั้งตลาดเสื้อผ้ามือสองที่ราคาถูกมากๆ ถ้าใครที่กำลังมองหาแจ๊กเก็ตดีๆ ใส่ ลองมาหาได้ที่นี่ รับรองสภาพดีเลยล่ะ หรือจะเป็นโซนพื้นที่อาหารสดก็น่าสนใจเพราะในเมืองดาลัดมีชื่อเสียงในเรื่องอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีดินอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การปลูกดอกไม้และผัก ทำให้คุณสามารถหาผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นที่เกษตรกรนำออกสู่ตลาดได้ง่ายๆ เช่น มันฝรั่งหวาน, อาร์ติโชค, สตรอเบอร์รี่, กะหล่ำปลีดอก,กุหลาบ, กล้วยไม้, ดอกเดซี่ ฯลฯ
แต่ที่ดูจะสะดุดตาเป็นพิเศษก็คงจะเป็นร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดที่สามารถนั่งกินได้ชิลๆ ริมฟุตปาท ซึ่งแต่ละร้านจะมีเก้าอี้ตัวเล็กๆ วางไว้ด้วย แอบเห็นเด็กวัยรุ่นจับกลุ่มนั่งกินกันเต็มเลย ส่วนอาหารที่เด็ดๆ ก็จะเป็นของปิ้งย่าง, น้ำเต้าหู้, ก๋วยเตี๋ยว และพิซซ่าเวียดนามที่ดูเหมือนจะเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่เลยแหละ เพราะมองไปทางไหนก็เห็นแต่คนนั่งกินกันทั้งนั้น และนอกจากนี้แล้วยังมีดนตรีสดให้คุณได้ดื่มด่ำนั่งฟังแบบเพลินๆ กินอาหารไป ฟังดนตรีไปท่ามกลางอากาศที่ดี๊ดี รับรองว่าชิลสุดๆ
7. ฟาร์มผักและดอกไม้
ฟาร์มปลูกผักและดอกไม้ที่เก่าแก่ที่สุด สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้และผักนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น ดอกไฮเดรนเยีย, ดอกกล้วยไม้, ดอกกุหลาบ ฯลฯ ที่หากได้เข้าไปชม คุณจะต้องสะดุดตากับสีสันของดอกไม้หลากสีที่สวยงาม สมกับได้ชื่อว่าเป็นเมือง “สวนดอกไม้และผัก” จริงๆ
จากประวัติ แรกเริ่มเดิมทีนั้น ชาวดาลัดจะปลูกข้าวมาก่อน แต่ระยะหลังๆ ได้มีการปลูกผัก และดอกไม้เพิ่ม เนื่องจากรายได้ไม่พอทำกิน ทำให้ปัจจุบันดาลัดจะส่งดอกไม้ออกไปยังเมืองต่างๆ ในเวียดนามถึง 80% อีกทั้งจะมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้ทุกๆ 2 ปี
เรื่อง / ภาพ : วรัญญา งามขำ
