“กาลเวลา เสาเรือน” หรือ “ปอเปี๊ยะ” โมงยามนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนักข่าวสาวที่ออกมาทวงความยุติธรรมนำเสนอเรื่องราวภัยคุกคามจากสื่อสังคมออนไลน์ กระทั่งกลายเป็นไอคอนเรียกร้องป้องกันสิทธิ์เพื่อนมนุษย์ที่น่ายกย่องในบ้านเมืองไทย
อะไรที่ทำให้หญิงสาวตัวเล็กๆ แต่ใจแกร่งเด็ดเดี่ยว
เรื่องราวการเดินทางผ่านในวงการน้ำหมึกหล่อหลอมส่งต่อเธออย่างไร
Manager online ขอนำเสนอต้นแบบตัวอย่างดีๆ เพื่อเป็นวิทยาทานนำไปปรับใช้ชีวิตให้สังคมจรรโลง
• กาลเวลา ชื่อนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
มาจากตอนที่เกิด เกิดวันเสาร์ปีเสือ คนเชียงใหม่จะเชื่อในเรื่องของดวงมาก เหมือนมีพระทักว่าดีนะที่มันเกิดเป็นผู้หญิง ถ้ามันเกิดเป็นผู้ชายตายไปนานแล้ว เพราะดวงมันแรงมาก พระก็เลยบอกว่าให้แก้เคล็ดโดยการตั้งชื่อให้เป็นเรื่องของเวลาหรือสายน้ำ แม่กับพ่อเลยบอกว่าเอาเป็นเวลาดีกว่ามันดูเป็นเวลาดี สายน้ำมันดูไหลไปไหลมา ก็ได้ชื่อว่า กาลเวลา มีความหมายว่ามีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าไปยึดติด มีอะไรเกิดขึ้นให้ปล่อยมันไปเหมือนกาลเวลา
แต่มันมีความดรามาว่าตอนหนูคลอดไปไม่นานญาติหนูก็เสีย เป็นญาติใกล้ชิด เป็นความดรามาที่มันละเอียดอ่อน เขาก็เลยว่าหนูว่าเป็นกาลกิณี ก็เลยมีการต่อสู้ให้ไปเปลี่ยนชื่อที่หมอนู้นหมอนี้ เปลี่ยนมาแล้ว 2-3 ชื่อ จนกระทั่งหนูโตและคนที่ต่อสู้เรื่องชื่อของหนูเขาเสียไป หนูก็เลยบอกแม่ว่าขอกลับไปใช้ชื่อเดิมนะคือ กาลเวลา เพราะชื่อนี้มันเตือนหนูทุกวัน แม่ก็บอกเอาเลย ตามใจ พอกลับมาใช้ชื่อตัวเองไม่นานพ่อก็เสียวันที่ 8 ธันวาคม พอพ่อเสีย ประมาณเดือนกว่าพี่ชายก็เกิดอุบัติเหตุรถล้ม เลือดคั่งในสมอง เป็นเจ้าชายนิทรา คือเสียต่อจากพ่อ 4 เดือน วันที่ 8 เมษายน
คิดว่าชีวิตหนูเป็นยังไง คือต้องบอกว่านั่นคือจุดพีคที่ทำให้หนูดรอปจากมหาวิทยาลัยพายัพเพื่อมาต่อที่กรุงเทพฯ เพราะว่าชีวิตตอนนั้นมันพังมาก เป็นการสูญเสียอะไรต่างๆ ทั้งเสียพ่อ เสียพี่ มันทำให้หนูต้องเลี้ยงลูกสาวของพี่ชาย อุ้มมาด้วยกัน ตอนนั้นหลานอยู่อนุบาล 1 เราเหลือแค่แม่กับหลาน ก็พยายามใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ค่อยเที่ยวค่อยดื่มอะไร เพราะว่าถ้าเราตายไปใครจะเลี้ยงแม่กับหลาน มันก็เป็นที่มาของชื่อ ทำให้เวลาเกิดอะไรขึ้นจะกลับไปคิดสิ่งนี้เสมอ แต่ว่าก็ต้องขอบคุณเหตุการณ์นั้น ที่เราเป็นคนเจออะไรมาเยอะ แล้วเวลาเจออะไรอีกเราก็ยังอยู่ตรงนี้ได้ แล้วพร้อมที่จะให้กำลังใจคนอื่น แล้วก็ยังบอกคนอื่นว่าพ่อแม่ยังอยู่ใช่ไหมขอให้ดูแลพ่อกับแม่ดีๆ ทำให้ดีที่สุด ชื่อนี้มันประคองให้เราอยู่ได้ถึงวันนี้ นั่นคือสตอรี่ที่มาของชื่อกาลเวลา
• เราก็มั่นใจพระที่ตั้งชื่อให้ว่าการที่ชื่อกาลเวลาของเรา จริงๆ มันช่วยลดสิ่งต่างๆ ลงไปด้วยซ้ำ
ใช่ค่ะ…แต่มันมีช่วงหนึ่งที่เราอยากจะเปลี่ยนเหมือนกัน คือช่วงที่แม่ไม่สบาย เราก็เริ่มรู้สึกว่าจะเปลี่ยนชื่ออีกทีดีไหม แต่ไม่นานแม่ก็หายดี พอมันหายไปสัก 3-5 ปี มันทิ้งช่วงแล้ว เรารู้สึกว่ามันเริ่มปลอดภัยแล้ว ชีวิตดีขึ้น ปลดออกมาจากความกลัว ถึงบอกว่าขอบคุณชื่อนี้ที่ทำให้หนูได้อยู่ถึงวันนี้ อยู่แบบไม่ประมาท อยู่อย่างมีสติ แล้วเราก็อยู่ได้ถึงวันนี้เพราะชื่อนี้
• ย้อนกลับไปในตอนที่ดรอปจากเชียงใหม่มาเรียนที่กรุงเทพฯ เรียนสาขาสื่อสารมวลชนเลยหรือไม่
ที่มหาวิทยาลัยพายัพก็เรียนนิเทศศาสตร์เหมือนกัน เพราะชอบด้านนี้มากเมื่อก่อนชอบสไตล์พี่สรยุทธ สุทัศนะจินดา อ่านข่าวเข้าใจง่ายและช่วยเหลือประชาชน ณ ตอนนั้น ณ จุดจุดนั้น แล้วทีนี้ก็เลือกเข้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพราะว่าเราก็คิดว่าที่นี่มีเครื่องมือเครื่องไม้พร้อมแล้วก็อยากจะเดินตามรอยเขาที่จบจากที่นั่น พี่เขาเป็นไอดอลเลยเลือกที่จะเรียนสายวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (ยิ้ม)
หลังจากนั้นที่เรียนตอนแรกคิดว่าจะเป็นนักข่าวแบบพี่สรยุทธ แต่ในความเป็นจริงคือจับกล้อง ทำสเลต ยกสายไฟเปลี่ยน คือมันไม่ได้เหมือนที่คิดไว้ ทำเป็นทุกอย่างเลย แต่นั่นแหละคือจุดที่รู้สึกว่า มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด มันยากมากกว่าจะผ่านมันได้ ช่วงที่เรียนอยู่ปี 3 บังเอิญมีการประกวด หนูชนะการประกวดเรื่องพิธีกรคู่กับเพื่อนสนิท เป็นงานของมหาวิทยาลัย พอมีงานประกวดเสร็จเขาก็ส่งเราไปแคสติ้งที่ Nation Channel เป็นบริษัททรัพย์ของอาจารย์ประมุข ท่านเป็นอาจารย์พิเศษของเราเหมือนกัน แล้วอาจารย์ประมุขเขาก็ป้อนให้เรากับ Nation Channel และเป็นการทำงานทีวีครั้งแรกแล้วก็ควบคู่ไปกับออกอากาศรายการเกี่ยวกับบ้าน
• ก็ได้เป็นจริงเพียงแค่ต่างสายแนวทางเพราะต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย
ค่ะ…แต่ตอนนั้นจริงๆ ไม่รู้สึกว่าเราเก่ง เพราะเราอยู่แต่ในมหาวิทยาลัย เราก็ไม่รู้ว่าข้างนอกเขาเป็นยังไงเพราะเราออกไปเจอกองจริงถึงกับได้ฉายาว่า ‘ปอเปี๊ยะ 100 เทค’ คือพลาดเยอะมาก เราก็รู้สึกว่าเราคิดว่าเราเรียนมา เราแน่นมาก แต่จริงๆ เราไม่เลย
การเรียนกับสนามจริงมันไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง มันก็เลยทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่คิดว่าตัวเองเก่งตัวเองแน่ ต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ในวันนี้สอนให้รู้ว่า จะร้องไห้ก็ร้องไม่ได้ เพราะน้ำตามันเลอะมาสคาร่าก็จะเปื้อน คือเราต้องเก็บเอาไว้ มันเป็นการเรียนรู้ ต่อมาพอจบสักพักก็อยากทำงานที่บริษัทที่ฝันอีกอย่างหนึ่งคือที่บริษัททีวีบูรพา เพราะชอบเรื่องของคนค้นคน
• ทำสารคดี ตามติดชีวิตคนเพื่อตีแผ่เป็นวิทยาทานแก่สังคม
ค่ะ (ยิ้ม) ตอนนั้นโปรดิวเซอร์พี่แจ๊ค มาสัมมนาที่ ม.กรุงเทพ คือจรรยาบรรณเหลือล้นมากเลย อยากช่วยสังคมแบบนี้เราก็เลยไปสมัคร สมัครเป็นคนเดินเรื่องคนค้นคน ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ สักพักพี่เขาก็โทร.มาอีกแล้วเราก็รู้สึกว่า เห็นไหมคนค้นคนมันเป็นบริษัท และเป็นรายการที่เราชอบและเขาเห็นความตั้งใจของเรา เราติดตามคุณมาตลอด กระทั่งเข้าไปทำไมมันไม่ใช่รายการคนค้นคน ฉากมันเป็นรายการกระบี่มือหนึ่ง (หัวเราะ) เขาให้ทำอะไรก็เอาหมด แล้วก็เล่นของเราไปแบบที่เปิดให้ทุกคนเห็น จนสุดท้ายเขาก็บอกว่าโอเค ทางกระบี่มือหนึ่งเรากำลังเฟ้นหาพิธีกรหญิงที่มาทำหน้าที่แทนพี่ก้อง เพราะว่าพี่ก้องต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่ว่าเราก็ค้นหากันมาพอสมควรมันยังไม่เจอใครบ้าเท่าเราก็เลยกลายเป็นเรา
• เป็นรายการที่มีสาระดีมากค้นหาคนเก่งของประเทศเรา ซึ่งคุณก็กระบี่มือหนึ่งในเรื่องนี้เหมือนกัน
คือต้องบอกก่อนว่านั่นเป็นการแสดงไม่ใช่ตัวเราจริงๆ (หัวเราะ) แต่จากรายการกระบี่มือหนึ่งก็ได้มีการติดต่อจากพี่คนเดิมพี่บรรจง แต่ว่าเป็นอีกช่องหนึ่งเพราะว่าตอนนั้นพี่เขาอยู่อีกช่องหนึ่งแล้ว เขาติดต่อมาว่าเขาต้องการผู้ประกาศข่าวบันเทิง ให้เราเป็นพิธีกร
หลังจากเป็นผู้ประกาศข่าวบันเทิง พอทำฟรีแลนซ์จากนั้นก็ออกมาทำหลายอย่างเลย ทั้งรายการยกทัพข่าวเช้าเรื่องของบันเทิง แล้วก็ยกล้อบันเทิง 5 ช่อง ถัดไปตอนนี้ที่ยังมี on and Stock อยู่ รายการ Da Vinci เกมถอดรหัสช่อง 3 แต่ทั้งหมดมันก็ไม่ง่ายแม้ว่ามันจะเป็นบันเทิงแต่มีศาสตร์ของมัน แรกๆ เราก็ยังแยกประสาทไม่ได้ก็ต้องเรียนรู้ทุกอย่าง
• นอกจากวิชาชีพข่าวทราบมาว่ายังเป็นคุณครูอาจารย์พิเศษอีกด้วย
คืออาจารย์นิเทศหลายๆ ท่าน เขาก็ให้โอกาสเราเป็นอาจารย์พิเศษเพื่อเอาประสบการณ์มาสอนน้องๆ เนื่องจากประสบการณ์ที่เราเจอมาสามารถจุดไฟให้กับน้องๆ ได้ และเพื่อจะบอกว่าการทำงานของเราแม้ว่าจะผ่านขั้นตอนอะไรมามันยากยังไง เด็กที่จบไปรุ่นน้องจะได้ไม่ต้องไปปล่อยไก่ (หัวเราะ)
โดยวิธีการสอนของเราก็จะเอาสิ่งที่เราพลาดมาบอกกล่าวแนะนำ เอาคลิปใน YouTube ที่ทำออกมาแล้วคนด่าในรายการ บอกว่าครูผิดจริงๆ ผิดแบบนี้นะนี่ไง แก้ไขด้วยแบบนี้ๆ เป็นวิธีที่เราเอาประสบการณ์ความผิดพลาดของเราไปบอกน้องๆ ว่าอย่าทำแบบนี้ แล้วที่ถูกต้องมันเป็นแบบไหน แล้วก็จะมีที่เป็นวิทยากรให้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีเข้าไปเป็นคอมเมนเตเตอร์ให้กับจุฬาฯ งานจุฬาฯ Expo ที่เกี่ยวกับการโต้วาที สรุปก็มีหลายภาคส่วน
• มาถึงตรงนี้รู้สึกว่าโชคดีโชคร้ายหรือยังไงไหม ในส่วนตัวช่วงชีวิตที่ผ่านมาจนหล่อหลอมและเป็นกาลเวลา เสาเรือนในวันนี้
อาจจะดูว่าเป็นเหมือนคนมั่นใจ แต่ว่าสิ่งที่ปอเปี๊ยะเล่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่เจอมาจริงๆ มันเลยหล่อหลอมให้เป็นคนที่ไม่เป็นไรช่างมันเถอะ เพราะสิ่งที่น่ากลัวนี้คือพ่อตาย พี่ตาย ก็ผ่านมาแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าที่เหลือเราก็คงต้องรับได้ ทีนี้ถ้าถามว่าโชคดีหรือโชคร้ายคงต้องบอกว่า ยอมรับทั้งความโชคดีและโชคร้าย คนเราสุดท้ายมันก็มีอยู่แค่นี้แหละ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เราเชื่อว่าเราทำดี ความดีจะคุ้มครองเรา เราไม่ชอบการโกหกเพราะว่าขี้เกียจจำว่าโกหกอะไร พูดตรงๆ ว่าบางทีเราโกหกเราก็ไม่รู้ว่าเราจำอะไรได้มั้ย ไปโป๊ะทีหลัง เกลียดการตลบหลัง ตรงๆ ดีกว่า แล้วอะไรเกิดขึ้นมาก็ช่างมัน เราพร้อมที่จะยืนอยู่ตรงนี้คืออยู่ตรงนี้ก็ขอให้พี่ๆ ช่วยอยู่ไปด้วยกัน อย่าทิ้งเราก็พอ
• ฉะนั้นอันนี้ก็คือเป็นการการันตีว่า เราอยู่ในแวดวงนี้อยู่แล้ว ไม่ได้เป็นใครก็ไม่รู้อยู่ๆก็อยากจะดังแล้วก็มาตีข่าวเล่าเรื่องขึ้นมา ไม่ใช่แบบนั้น
เรื่องที่เกิดขึ้น เราไม่กลัว แล้วเราก็พร้อมเข้าไปดำเนินคดี มันไม่ใช่ความเท็จตำรวจเขาฉลาดไม่ได้โง่ (ยิ้ม)
• แน่นอนทำงานในวงการมาระดับนี้ย่อมมีพี่ๆ ที่เคารพนับถือและให้คำปรึกษาเยอะแยะมากมาย มาถึงตรงนี้อยากจะบอกอะไรหรืออยากฝากอะไรทิ้งท้ายบ้าง
ขอกราบเลยค่ะ (ยิ้ม) กราบขอบพระคุณพี่ๆ มาก เคยคิดว่าการทำข่าวมันอาจจะเหมือนกับเป็นการต่อสู้ระหว่างช่องเพราะว่าเดี๋ยวนี้มันเยอะมาก แต่พอวันหนึ่ง เราได้มาเห็นจริงๆ ว่าพี่ๆ สำนักข่าวแต่ละสำนักทั้งออนไลน์ หนังสือพิมพ์ ทางแฟนเพจ ก็มาร่วมตีข่าวตรงนี้ เชื่อว่าพี่ๆ คงมองเห็น ไม่ใช่ความอยากดังของเรา คือถ้าเทียบเท่ากับว่ามันช่วยเหลือสังคมยังไงพวกพี่ๆ ต้องคัดกรองมาอย่างหนึ่งแล้วที่จะนำเสนอสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ก็ขอขอบพระคุณมากๆ ที่พี่เชื่อและเปิดพื้นที่นี้ไว้สำหรับให้เราบอกว่าเป็นเหยื่อ ให้ออกมาเรียกร้อง ขอบพระคุณมากๆ ทุกช่องเลย คือต้องบอกว่ามันเกินคาด สื่อมวลชนเรา ทำให้เห็นแล้วว่า ต่างช่องเราไม่เกี่ยง แต่เราอยู่เคียงข้างกัน และอยู่ในความถูกต้องและยุติธรรม นั่นคือสิ่งที่สื่อมวลชนทำให้เห็นและเชื่อว่าทุกคนก็ได้เห็นแล้ว ชื่นชมพี่ๆ เช่นเดียวกัน
เราจะทำหน้าที่นี้ต่อไป คือทีแรกคิดดูเหมือนว่าจะเหมาะกับบันเทิงแต่ว่าสุดท้ายจะทำตัวนี้ 4 เดือน 5 เดือน เดือนที่ 5 รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าเพิ่มขึ้นอีกสเต็ปหนึ่ง คุณค่าของการที่เราได้ช่วยเหลือคนอื่นทำข่าวบันเทิงก็ได้ช่วยเหลือคนอื่นเหมือนกันแต่ว่าการลงมาตรงนี้ มันเหมาะกับไลฟ์สไตล์เรามากขึ้น มันลุย มันสนุก ไม่ต้องอยู่กับออฟฟิศอย่างเดียว ได้เจอกับประชาชนจริงๆ ก็คงจะไม่ทิ้งการเรียกร้องที่เป็นเหยื่อจะทำต่อไป งานข่าวก็จะเต็มที่แล้วก็เต็มที่ให้มากยิ่งขึ้น แล้วก็เชื่อว่า ปอท.จะใช้ตรงนี้เป็นกระบอกเสียงแทนและหลายคนที่ยังไม่กล้าออกมาก็สามารถติดต่อผ่านเราได้ที่เฟซบุ๊ก: ปอเปี๊ยะ กาลเวลา เข้ามาแชตคุยกันได้เลย เข้ามาส่งข้อมูลหากันได้ เก็บหลักฐานอะไรไว้ได้คือเก็บเอาไว้ก่อน
เหยื่อทุกคนทั้งผู้หญิงทุกเพศทุกวัยโดนอะไรขอมาปรึกษาได้ แล้วเราจะขับเคลื่อนไปด้วยกัน เราจะประสานให้ช่วยให้ไม่ต้องตกใจไม่ต้องมือสั่น อย่าไปคุยกับมันเยอะเดี๋ยวจะหลงกลมันซะเปล่าๆ ล่าสุดมีคนบอกว่าหนูโดนโกงทองหนูไปประมูลทอง อันนี้เป็นการโดนหลอก นึกว่าได้ทองแต่เขาไม่ให้ ตอนแรกเราก็คิดว่าจะเป็นพวกที่คุกคามอย่างเดียวแต่กลับเป็นว่าทุกๆ อย่าง ก็มาปรึกษาเราทั้งหมดว่าเราควรจะไปไหนยังไงปรึกษาใคร ตรงไหนดี เราคุยกันได้ ปอเปี๊ยะยินดีให้ข้อมูลมากๆ ตรงนี้ปอเปี๊ยะตั้งใจอยากขับเคลื่อนจริงๆ คือเป็นเหยื่ออย่าเงียบ ขอให้ช่วยกันมาเป็นพลัง เรามาช่วยเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน
ข้อมูล : รายการพระอาทิตย์ Live
เรียบเรียง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
อะไรที่ทำให้หญิงสาวตัวเล็กๆ แต่ใจแกร่งเด็ดเดี่ยว
เรื่องราวการเดินทางผ่านในวงการน้ำหมึกหล่อหลอมส่งต่อเธออย่างไร
Manager online ขอนำเสนอต้นแบบตัวอย่างดีๆ เพื่อเป็นวิทยาทานนำไปปรับใช้ชีวิตให้สังคมจรรโลง
• กาลเวลา ชื่อนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
มาจากตอนที่เกิด เกิดวันเสาร์ปีเสือ คนเชียงใหม่จะเชื่อในเรื่องของดวงมาก เหมือนมีพระทักว่าดีนะที่มันเกิดเป็นผู้หญิง ถ้ามันเกิดเป็นผู้ชายตายไปนานแล้ว เพราะดวงมันแรงมาก พระก็เลยบอกว่าให้แก้เคล็ดโดยการตั้งชื่อให้เป็นเรื่องของเวลาหรือสายน้ำ แม่กับพ่อเลยบอกว่าเอาเป็นเวลาดีกว่ามันดูเป็นเวลาดี สายน้ำมันดูไหลไปไหลมา ก็ได้ชื่อว่า กาลเวลา มีความหมายว่ามีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าไปยึดติด มีอะไรเกิดขึ้นให้ปล่อยมันไปเหมือนกาลเวลา
แต่มันมีความดรามาว่าตอนหนูคลอดไปไม่นานญาติหนูก็เสีย เป็นญาติใกล้ชิด เป็นความดรามาที่มันละเอียดอ่อน เขาก็เลยว่าหนูว่าเป็นกาลกิณี ก็เลยมีการต่อสู้ให้ไปเปลี่ยนชื่อที่หมอนู้นหมอนี้ เปลี่ยนมาแล้ว 2-3 ชื่อ จนกระทั่งหนูโตและคนที่ต่อสู้เรื่องชื่อของหนูเขาเสียไป หนูก็เลยบอกแม่ว่าขอกลับไปใช้ชื่อเดิมนะคือ กาลเวลา เพราะชื่อนี้มันเตือนหนูทุกวัน แม่ก็บอกเอาเลย ตามใจ พอกลับมาใช้ชื่อตัวเองไม่นานพ่อก็เสียวันที่ 8 ธันวาคม พอพ่อเสีย ประมาณเดือนกว่าพี่ชายก็เกิดอุบัติเหตุรถล้ม เลือดคั่งในสมอง เป็นเจ้าชายนิทรา คือเสียต่อจากพ่อ 4 เดือน วันที่ 8 เมษายน
คิดว่าชีวิตหนูเป็นยังไง คือต้องบอกว่านั่นคือจุดพีคที่ทำให้หนูดรอปจากมหาวิทยาลัยพายัพเพื่อมาต่อที่กรุงเทพฯ เพราะว่าชีวิตตอนนั้นมันพังมาก เป็นการสูญเสียอะไรต่างๆ ทั้งเสียพ่อ เสียพี่ มันทำให้หนูต้องเลี้ยงลูกสาวของพี่ชาย อุ้มมาด้วยกัน ตอนนั้นหลานอยู่อนุบาล 1 เราเหลือแค่แม่กับหลาน ก็พยายามใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ค่อยเที่ยวค่อยดื่มอะไร เพราะว่าถ้าเราตายไปใครจะเลี้ยงแม่กับหลาน มันก็เป็นที่มาของชื่อ ทำให้เวลาเกิดอะไรขึ้นจะกลับไปคิดสิ่งนี้เสมอ แต่ว่าก็ต้องขอบคุณเหตุการณ์นั้น ที่เราเป็นคนเจออะไรมาเยอะ แล้วเวลาเจออะไรอีกเราก็ยังอยู่ตรงนี้ได้ แล้วพร้อมที่จะให้กำลังใจคนอื่น แล้วก็ยังบอกคนอื่นว่าพ่อแม่ยังอยู่ใช่ไหมขอให้ดูแลพ่อกับแม่ดีๆ ทำให้ดีที่สุด ชื่อนี้มันประคองให้เราอยู่ได้ถึงวันนี้ นั่นคือสตอรี่ที่มาของชื่อกาลเวลา
• เราก็มั่นใจพระที่ตั้งชื่อให้ว่าการที่ชื่อกาลเวลาของเรา จริงๆ มันช่วยลดสิ่งต่างๆ ลงไปด้วยซ้ำ
ใช่ค่ะ…แต่มันมีช่วงหนึ่งที่เราอยากจะเปลี่ยนเหมือนกัน คือช่วงที่แม่ไม่สบาย เราก็เริ่มรู้สึกว่าจะเปลี่ยนชื่ออีกทีดีไหม แต่ไม่นานแม่ก็หายดี พอมันหายไปสัก 3-5 ปี มันทิ้งช่วงแล้ว เรารู้สึกว่ามันเริ่มปลอดภัยแล้ว ชีวิตดีขึ้น ปลดออกมาจากความกลัว ถึงบอกว่าขอบคุณชื่อนี้ที่ทำให้หนูได้อยู่ถึงวันนี้ อยู่แบบไม่ประมาท อยู่อย่างมีสติ แล้วเราก็อยู่ได้ถึงวันนี้เพราะชื่อนี้
• ย้อนกลับไปในตอนที่ดรอปจากเชียงใหม่มาเรียนที่กรุงเทพฯ เรียนสาขาสื่อสารมวลชนเลยหรือไม่
ที่มหาวิทยาลัยพายัพก็เรียนนิเทศศาสตร์เหมือนกัน เพราะชอบด้านนี้มากเมื่อก่อนชอบสไตล์พี่สรยุทธ สุทัศนะจินดา อ่านข่าวเข้าใจง่ายและช่วยเหลือประชาชน ณ ตอนนั้น ณ จุดจุดนั้น แล้วทีนี้ก็เลือกเข้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพราะว่าเราก็คิดว่าที่นี่มีเครื่องมือเครื่องไม้พร้อมแล้วก็อยากจะเดินตามรอยเขาที่จบจากที่นั่น พี่เขาเป็นไอดอลเลยเลือกที่จะเรียนสายวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (ยิ้ม)
หลังจากนั้นที่เรียนตอนแรกคิดว่าจะเป็นนักข่าวแบบพี่สรยุทธ แต่ในความเป็นจริงคือจับกล้อง ทำสเลต ยกสายไฟเปลี่ยน คือมันไม่ได้เหมือนที่คิดไว้ ทำเป็นทุกอย่างเลย แต่นั่นแหละคือจุดที่รู้สึกว่า มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด มันยากมากกว่าจะผ่านมันได้ ช่วงที่เรียนอยู่ปี 3 บังเอิญมีการประกวด หนูชนะการประกวดเรื่องพิธีกรคู่กับเพื่อนสนิท เป็นงานของมหาวิทยาลัย พอมีงานประกวดเสร็จเขาก็ส่งเราไปแคสติ้งที่ Nation Channel เป็นบริษัททรัพย์ของอาจารย์ประมุข ท่านเป็นอาจารย์พิเศษของเราเหมือนกัน แล้วอาจารย์ประมุขเขาก็ป้อนให้เรากับ Nation Channel และเป็นการทำงานทีวีครั้งแรกแล้วก็ควบคู่ไปกับออกอากาศรายการเกี่ยวกับบ้าน
• ก็ได้เป็นจริงเพียงแค่ต่างสายแนวทางเพราะต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย
ค่ะ…แต่ตอนนั้นจริงๆ ไม่รู้สึกว่าเราเก่ง เพราะเราอยู่แต่ในมหาวิทยาลัย เราก็ไม่รู้ว่าข้างนอกเขาเป็นยังไงเพราะเราออกไปเจอกองจริงถึงกับได้ฉายาว่า ‘ปอเปี๊ยะ 100 เทค’ คือพลาดเยอะมาก เราก็รู้สึกว่าเราคิดว่าเราเรียนมา เราแน่นมาก แต่จริงๆ เราไม่เลย
การเรียนกับสนามจริงมันไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง มันก็เลยทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่คิดว่าตัวเองเก่งตัวเองแน่ ต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ในวันนี้สอนให้รู้ว่า จะร้องไห้ก็ร้องไม่ได้ เพราะน้ำตามันเลอะมาสคาร่าก็จะเปื้อน คือเราต้องเก็บเอาไว้ มันเป็นการเรียนรู้ ต่อมาพอจบสักพักก็อยากทำงานที่บริษัทที่ฝันอีกอย่างหนึ่งคือที่บริษัททีวีบูรพา เพราะชอบเรื่องของคนค้นคน
• ทำสารคดี ตามติดชีวิตคนเพื่อตีแผ่เป็นวิทยาทานแก่สังคม
ค่ะ (ยิ้ม) ตอนนั้นโปรดิวเซอร์พี่แจ๊ค มาสัมมนาที่ ม.กรุงเทพ คือจรรยาบรรณเหลือล้นมากเลย อยากช่วยสังคมแบบนี้เราก็เลยไปสมัคร สมัครเป็นคนเดินเรื่องคนค้นคน ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ สักพักพี่เขาก็โทร.มาอีกแล้วเราก็รู้สึกว่า เห็นไหมคนค้นคนมันเป็นบริษัท และเป็นรายการที่เราชอบและเขาเห็นความตั้งใจของเรา เราติดตามคุณมาตลอด กระทั่งเข้าไปทำไมมันไม่ใช่รายการคนค้นคน ฉากมันเป็นรายการกระบี่มือหนึ่ง (หัวเราะ) เขาให้ทำอะไรก็เอาหมด แล้วก็เล่นของเราไปแบบที่เปิดให้ทุกคนเห็น จนสุดท้ายเขาก็บอกว่าโอเค ทางกระบี่มือหนึ่งเรากำลังเฟ้นหาพิธีกรหญิงที่มาทำหน้าที่แทนพี่ก้อง เพราะว่าพี่ก้องต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่ว่าเราก็ค้นหากันมาพอสมควรมันยังไม่เจอใครบ้าเท่าเราก็เลยกลายเป็นเรา
• เป็นรายการที่มีสาระดีมากค้นหาคนเก่งของประเทศเรา ซึ่งคุณก็กระบี่มือหนึ่งในเรื่องนี้เหมือนกัน
คือต้องบอกก่อนว่านั่นเป็นการแสดงไม่ใช่ตัวเราจริงๆ (หัวเราะ) แต่จากรายการกระบี่มือหนึ่งก็ได้มีการติดต่อจากพี่คนเดิมพี่บรรจง แต่ว่าเป็นอีกช่องหนึ่งเพราะว่าตอนนั้นพี่เขาอยู่อีกช่องหนึ่งแล้ว เขาติดต่อมาว่าเขาต้องการผู้ประกาศข่าวบันเทิง ให้เราเป็นพิธีกร
หลังจากเป็นผู้ประกาศข่าวบันเทิง พอทำฟรีแลนซ์จากนั้นก็ออกมาทำหลายอย่างเลย ทั้งรายการยกทัพข่าวเช้าเรื่องของบันเทิง แล้วก็ยกล้อบันเทิง 5 ช่อง ถัดไปตอนนี้ที่ยังมี on and Stock อยู่ รายการ Da Vinci เกมถอดรหัสช่อง 3 แต่ทั้งหมดมันก็ไม่ง่ายแม้ว่ามันจะเป็นบันเทิงแต่มีศาสตร์ของมัน แรกๆ เราก็ยังแยกประสาทไม่ได้ก็ต้องเรียนรู้ทุกอย่าง
• นอกจากวิชาชีพข่าวทราบมาว่ายังเป็นคุณครูอาจารย์พิเศษอีกด้วย
คืออาจารย์นิเทศหลายๆ ท่าน เขาก็ให้โอกาสเราเป็นอาจารย์พิเศษเพื่อเอาประสบการณ์มาสอนน้องๆ เนื่องจากประสบการณ์ที่เราเจอมาสามารถจุดไฟให้กับน้องๆ ได้ และเพื่อจะบอกว่าการทำงานของเราแม้ว่าจะผ่านขั้นตอนอะไรมามันยากยังไง เด็กที่จบไปรุ่นน้องจะได้ไม่ต้องไปปล่อยไก่ (หัวเราะ)
โดยวิธีการสอนของเราก็จะเอาสิ่งที่เราพลาดมาบอกกล่าวแนะนำ เอาคลิปใน YouTube ที่ทำออกมาแล้วคนด่าในรายการ บอกว่าครูผิดจริงๆ ผิดแบบนี้นะนี่ไง แก้ไขด้วยแบบนี้ๆ เป็นวิธีที่เราเอาประสบการณ์ความผิดพลาดของเราไปบอกน้องๆ ว่าอย่าทำแบบนี้ แล้วที่ถูกต้องมันเป็นแบบไหน แล้วก็จะมีที่เป็นวิทยากรให้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีเข้าไปเป็นคอมเมนเตเตอร์ให้กับจุฬาฯ งานจุฬาฯ Expo ที่เกี่ยวกับการโต้วาที สรุปก็มีหลายภาคส่วน
• มาถึงตรงนี้รู้สึกว่าโชคดีโชคร้ายหรือยังไงไหม ในส่วนตัวช่วงชีวิตที่ผ่านมาจนหล่อหลอมและเป็นกาลเวลา เสาเรือนในวันนี้
อาจจะดูว่าเป็นเหมือนคนมั่นใจ แต่ว่าสิ่งที่ปอเปี๊ยะเล่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่เจอมาจริงๆ มันเลยหล่อหลอมให้เป็นคนที่ไม่เป็นไรช่างมันเถอะ เพราะสิ่งที่น่ากลัวนี้คือพ่อตาย พี่ตาย ก็ผ่านมาแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าที่เหลือเราก็คงต้องรับได้ ทีนี้ถ้าถามว่าโชคดีหรือโชคร้ายคงต้องบอกว่า ยอมรับทั้งความโชคดีและโชคร้าย คนเราสุดท้ายมันก็มีอยู่แค่นี้แหละ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เราเชื่อว่าเราทำดี ความดีจะคุ้มครองเรา เราไม่ชอบการโกหกเพราะว่าขี้เกียจจำว่าโกหกอะไร พูดตรงๆ ว่าบางทีเราโกหกเราก็ไม่รู้ว่าเราจำอะไรได้มั้ย ไปโป๊ะทีหลัง เกลียดการตลบหลัง ตรงๆ ดีกว่า แล้วอะไรเกิดขึ้นมาก็ช่างมัน เราพร้อมที่จะยืนอยู่ตรงนี้คืออยู่ตรงนี้ก็ขอให้พี่ๆ ช่วยอยู่ไปด้วยกัน อย่าทิ้งเราก็พอ
• ฉะนั้นอันนี้ก็คือเป็นการการันตีว่า เราอยู่ในแวดวงนี้อยู่แล้ว ไม่ได้เป็นใครก็ไม่รู้อยู่ๆก็อยากจะดังแล้วก็มาตีข่าวเล่าเรื่องขึ้นมา ไม่ใช่แบบนั้น
เรื่องที่เกิดขึ้น เราไม่กลัว แล้วเราก็พร้อมเข้าไปดำเนินคดี มันไม่ใช่ความเท็จตำรวจเขาฉลาดไม่ได้โง่ (ยิ้ม)
• แน่นอนทำงานในวงการมาระดับนี้ย่อมมีพี่ๆ ที่เคารพนับถือและให้คำปรึกษาเยอะแยะมากมาย มาถึงตรงนี้อยากจะบอกอะไรหรืออยากฝากอะไรทิ้งท้ายบ้าง
ขอกราบเลยค่ะ (ยิ้ม) กราบขอบพระคุณพี่ๆ มาก เคยคิดว่าการทำข่าวมันอาจจะเหมือนกับเป็นการต่อสู้ระหว่างช่องเพราะว่าเดี๋ยวนี้มันเยอะมาก แต่พอวันหนึ่ง เราได้มาเห็นจริงๆ ว่าพี่ๆ สำนักข่าวแต่ละสำนักทั้งออนไลน์ หนังสือพิมพ์ ทางแฟนเพจ ก็มาร่วมตีข่าวตรงนี้ เชื่อว่าพี่ๆ คงมองเห็น ไม่ใช่ความอยากดังของเรา คือถ้าเทียบเท่ากับว่ามันช่วยเหลือสังคมยังไงพวกพี่ๆ ต้องคัดกรองมาอย่างหนึ่งแล้วที่จะนำเสนอสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ก็ขอขอบพระคุณมากๆ ที่พี่เชื่อและเปิดพื้นที่นี้ไว้สำหรับให้เราบอกว่าเป็นเหยื่อ ให้ออกมาเรียกร้อง ขอบพระคุณมากๆ ทุกช่องเลย คือต้องบอกว่ามันเกินคาด สื่อมวลชนเรา ทำให้เห็นแล้วว่า ต่างช่องเราไม่เกี่ยง แต่เราอยู่เคียงข้างกัน และอยู่ในความถูกต้องและยุติธรรม นั่นคือสิ่งที่สื่อมวลชนทำให้เห็นและเชื่อว่าทุกคนก็ได้เห็นแล้ว ชื่นชมพี่ๆ เช่นเดียวกัน
เราจะทำหน้าที่นี้ต่อไป คือทีแรกคิดดูเหมือนว่าจะเหมาะกับบันเทิงแต่ว่าสุดท้ายจะทำตัวนี้ 4 เดือน 5 เดือน เดือนที่ 5 รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าเพิ่มขึ้นอีกสเต็ปหนึ่ง คุณค่าของการที่เราได้ช่วยเหลือคนอื่นทำข่าวบันเทิงก็ได้ช่วยเหลือคนอื่นเหมือนกันแต่ว่าการลงมาตรงนี้ มันเหมาะกับไลฟ์สไตล์เรามากขึ้น มันลุย มันสนุก ไม่ต้องอยู่กับออฟฟิศอย่างเดียว ได้เจอกับประชาชนจริงๆ ก็คงจะไม่ทิ้งการเรียกร้องที่เป็นเหยื่อจะทำต่อไป งานข่าวก็จะเต็มที่แล้วก็เต็มที่ให้มากยิ่งขึ้น แล้วก็เชื่อว่า ปอท.จะใช้ตรงนี้เป็นกระบอกเสียงแทนและหลายคนที่ยังไม่กล้าออกมาก็สามารถติดต่อผ่านเราได้ที่เฟซบุ๊ก: ปอเปี๊ยะ กาลเวลา เข้ามาแชตคุยกันได้เลย เข้ามาส่งข้อมูลหากันได้ เก็บหลักฐานอะไรไว้ได้คือเก็บเอาไว้ก่อน
เหยื่อทุกคนทั้งผู้หญิงทุกเพศทุกวัยโดนอะไรขอมาปรึกษาได้ แล้วเราจะขับเคลื่อนไปด้วยกัน เราจะประสานให้ช่วยให้ไม่ต้องตกใจไม่ต้องมือสั่น อย่าไปคุยกับมันเยอะเดี๋ยวจะหลงกลมันซะเปล่าๆ ล่าสุดมีคนบอกว่าหนูโดนโกงทองหนูไปประมูลทอง อันนี้เป็นการโดนหลอก นึกว่าได้ทองแต่เขาไม่ให้ ตอนแรกเราก็คิดว่าจะเป็นพวกที่คุกคามอย่างเดียวแต่กลับเป็นว่าทุกๆ อย่าง ก็มาปรึกษาเราทั้งหมดว่าเราควรจะไปไหนยังไงปรึกษาใคร ตรงไหนดี เราคุยกันได้ ปอเปี๊ยะยินดีให้ข้อมูลมากๆ ตรงนี้ปอเปี๊ยะตั้งใจอยากขับเคลื่อนจริงๆ คือเป็นเหยื่ออย่าเงียบ ขอให้ช่วยกันมาเป็นพลัง เรามาช่วยเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน
ข้อมูล : รายการพระอาทิตย์ Live
เรียบเรียง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
