เพราะความรักในสัตว์เลี้ยงของตัวเอง และอยากจะให้น้องหมามีสุขภาพดี บวกกับมีพื้นฐานในการทำขนมคุกกี้พอสมควร นั่นจึงทำให้เขาริเริ่มในการทำขนมดังกล่าวเพื่อตอบโจทย์ให้กับสัตว์เลี้ยงต่างๆ ได้ลิ้มรสความอร่อยและมีร่างกายแข็งแรง ปลายทางที่ได้คือ “คุกกี้สัตว์เลี้ยง” ที่ตอบโจทย์ให้กับสิ่งดังกล่าวที่ว่ามา
จากคนเบื้องหลังทางโทรทัศน์ที่มีประสบการณ์มาพอสมควร และเมื่อเริ่มทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นคำตอบให้กับสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย นั่นจึงทำให้ บาส-ธฤต มีเหมือน เดินหน้ามาสู่อาชีพเสริมด้วยการทำ “คุกกี้สัตว์เลี้ยง” ที่เน้นใส่ใจรายละเอียดมาตั้งแต่วัตถุดิบชั้นยอด ไปจนถึงผลิตภัณฑ์บรรจุชั้นเยี่ยม ผลลัพธ์จากสิ่งนี้ ทำให้มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อขนมดังกล่าว เพื่อนำไปให้สัตว์เลี้ยงของแต่ละบ้านได้กินกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของเขาเพื่อสัตว์เลี้ยงที่รักเหล่านี้...
• อยากให้เล่าถึงการทำงานของคุณหน่อยครับ
ผมเป็นคนกรุงเทพฯ ครับ เริ่มทำงานในฝ่ายประสานงานของรายการเกมฮอตเพลงฮิต ซึ่งตอนนั้น ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย เรียนด้านโฆษณามา คือมีคนดูดวงให้เรา เขาบอกว่าเราจะเข้าวงการ ความรู้สึกในตอนนั้นคือโคตรดีใจเลย นึกว่าจะได้เป็นพระเอก ปรากฏว่าเป็นเบื้องหลัง (หัวเราะ) เป็นรายการอย่างที่บอก ซึ่งเป็นรายการเกี่ยวกับเพลง ออกอากาศสด แบบนี้เลย ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี ช่อง 7 ที่จะมีน้าหุ่นน้าเหลื่อม ก็คือน้าเน็ก (เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา) ในปัจจุบัน ซึ่งตอนนั้นเราเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แล้วประสานงานเราก็มีพี่ที่ทำงานอยู่แล้ว เราก็จะเป็นคนที่ช่วยเขาอีกทีนึง จนเรียนจบ พอหลังจากเกมฮอตฯ ก็มาทำรายการที่นี่ประเทศไทย ช่อง 5 ที่มีพี่แอ๊ด ไชยวัฒน์ (อนุชัยตระกูล) พี่ลอร่า (วัฒนกุล) พี่เกรซ (มหาดำรงค์กุล) คล้ายๆ รายการบ้านเลขที่ 5 แต่นี่เป็นรายการสด ตอนกลางคืน ช่อง 5 ช่วงนี้เป็นสคริปต์ ไรเตอร์
• ซึ่งรายการทีวีสดในตอนนั้น ก็ไม่เหมือนกับในปัจจุบัน
ตอนนั้นถือว่ายังไม่มีโซเชียลออนไลน์ ดังนั้นในการเชิญแขกมาแต่ละครั้ง ก็เหมือนฉกชิงวิ่งราวเลย ซึ่งต่างกับสมัยนี้ ที่สามารถไลฟ์ได้ แต่สมัยนั้น สมมติว่าแขกรับเชิญไปที่แรก ตอนบ่าย 2 บ่ายโมงเราต้องไปรอสแตนด์บายแล้ว ไม่อย่างงั้น ที่แรกเขาจะส่งกลับบ้าน แล้วเราจะไม่ได้แขก หรือบางที แขกอยู่กับเราแล้ว จะมีรายการหนึ่งออนแอร์ก่อนหน้าเรา ทำทีมาคุย แล้วตั้งกล้อง เสร็จแล้วนำเทปนั้นมาออกอากาศเลย ซึ่งเขาก็ไม่ผิดนะ เพราะช่วงออกอากาศเขาอยู่ก่อนหน้าเราอยู่แล้ว แล้วในสมัยนั้น เวลาที่ไปหาแขกรับเชิญ ก็ต้องหาจากกระแสเช่นเดียวกัน ซึ่งแขกมีหนึ่งเดียว แล้วเราต้องวิ่งหา
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนเหตุการณ์สึนามิ ที่เป็นช่วงที่ทุกคนพูดถึงสึนามิหมดเลย แล้วเราพยายามหาประเด็นที่แตกต่าง อย่างเขาพูดเรื่องความเสียหายบนบก เราต้องคิดแล้วว่า ใต้น้ำก็มีความสูญเสียนะ ฉะนั้น เราก็ต้องหาประเด็นเลี่ยง เพื่อไม่ให้ชนกับประเด็นอื่น หลังจากนั้นก็ทำรายการมาเรื่อยๆ ครับ รายการเล็กบ้าง ปกติบ้าง จนมาถึงรายการที่สนุกที่สุดคือ รายการบันเทิง 5 หน้า 1 ซึ่งต้องขอบคุณพี่ๆ ทีมงานที่เห็นความสามารถ ซึ่งก่อนที่จะมาทำรายการนี้ เราได้มีโอกาสไปทำงานกับพี่เอิ๊ก พรหมพร (ยูวะเวส) ซึ่งตอนอยู่กับแกได้ความรู้มากนะ ในเรื่องของการทำงานเนื้อหาส่วนบันเทิง จนมาทำรายการดังกล่าว ที่มีต้นหอม (ศกุนตลา เทียนไพโรจน์) กับ บอย (พิษณุ นิ่มสกุล) เป็นพิธีกร
• แล้วพอมาทำแนวรายการบันเทิง ความรู้สึกในตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง
ตอนแรกเครียดนะ เพราะว่าเราไม่เคยทำข่าวในเรื่องของดารามาก่อน แต่ว่าเราทราบในเรื่องการทำงานทั้งหมดเลย เราก็ต้องมาปรับใช้ ต้องปรับตัว ซึ่งเราโชคดีที่เรามีทีมงานที่ดี จากนั้นก็ไปรายการ แตกฟอง ไลฟ์ ซึ่งเรามาเป็นโปรดิวเซอร์แล้ว ก็จะมีพี่ๆ ช่วยกันดู ล่าสุดก็รายการ ข่าวคลุกข้าว ที่มีพี่อั๋น ภูวนาท (คุณผลิน) เป็นรายการทำอาหารและคุยข่าวไป ระหว่างนั้นก็ทำรายการ GMM News ด้วย
• คุณทำรายการเกี่ยวกับทำอาหารหรือเปล่าที่ทำให้มาทำผลิตภัณฑ์นี้
จริงๆ คือเราชอบ อ.ยิ่งศักดิ์ (จงเลิศเจษฎาวงศ์) เป็นการส่วนตัว บวกกับเราชอบในเรื่องการทำเบเกอรี่ ซึ่งการทำเบเกอรี่เป็นการคลายเครียดสำหรับเรา แล้วเราเป็นคนที่ชอบทานคุกกี้อยู่แล้ว เราก็ไปเรียนคอร์สสั้นๆ ในระหว่างที่ทำงานปกติ เราก็ไปเรียนด้วย เพราะว่าอยากทำเป็น เราก็ทำไป ทำกินเองที่บ้าน ในระหว่างทำ ก็ได้กลิ่นทั่วบ้าน น้องหมาก็ได้กลิ่นด้วย เราก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จนคลายสงสัยที่ว่า มันคงอยากกินด้วย แล้วการที่จะให้น้องหมากินของคนมันก็ไม่ควรไง เพราะในส่วนของคนก็จะมีน้ำตาล มีเกลือ มีสีสังเคราะห์ มีกลิ่น ซึ่งมันไม่เหมาะกับน้องหมา เพราะว่า หมาจะจับในส่วนเกลือกับน้ำตาลได้ไม่ดีเท่าของคน ฉะนั้น คุกกี้ที่เราทำ ต้องไม่มีเกลือ น้ำตาล สารกันบูด สีสังเคราะห์ และกลิ่น เราต้องเอาออกหมด ซึ่งถ้าคนกินมันจะจืดมากเลย เขาจะทานด้วยกลิ่น กลิ่นหอมสำหรับเขาคืออร่อย ผมเลยมีส่วนผสมของเนื้อปลา เป็นปลาแห้งป่น ซึ่งเราก็พยายามที่จะสนับสนุนสินค้าของชุมชน ซึ่งเป็นเนื้อปลาแห้งจากนครสวรรค์
เราก็พยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมา เพราะว่าขนมยี่ห้อต่างๆ มันจะมีสีผสมอาหาร มีกลิ่นที่เชิญชวนให้กิน แล้วก็สารกันบูด ซึ่งก็ทานได้ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้จะดี เราก็เลยอยากจะทำอะไรให้น้องหมาของเรา ก็เลยทำสิ่งนี้ขึ้นมา แล้วก็เพื่อนเห็น เพื่อนก็สั่งของ เราก็ได้ลองทำมาเรื่อยๆ ซึ่งถ้าสมมติว่ามีการตอบรับที่ดี ก็ยินดี เพราะยังทำอยู่ ขณะเดียวกัน ก็มีคิดที่จะทำของคุกกี้คนด้วย รสดาร์กช็อกโกแลตกับบราวนี่ เป็นสูตรน้ำตาลน้อย ซึ่งถ้ากินกับนมก็ได้ ก็มีออเดอร์อยู่ครับ ส่วนของน้องหมา ก็มีเพื่อนๆ ที่ดีต่อกัน เขาก็สั่งไปงานสวัสดีปีใหม่ ซึ่งบางบ้านที่ให้อาหารน้องหมาก็จะให้เป็นข้าว แต่ด้วยข้าวมันนิ่ม มันจะไม่ขัดฟัน หินปูนเลยไม่ออก ซึ่งถ้าเป็นคุกกี้ ก็จะช่วยขัดฟันได้ เราจะได้ไม่ต้องแปรงฟันให้เขา หรือถ้าบ้านไหนที่น้องหมาน้องแมวกินยากนะครับ เราจะต้องหักใจตัวเองก่อน ถ้าภายใน 15 นาที เขาไม่กิน ให้ยกขึ้น และภายใน 3 มื้อ เขาจะกิน เราอย่าไปป้อนเขา เพราะคุณจะป้อนไปตลอด และน้องหมาน้องแมว สามารถอดอาหารได้ 3 วัน คือให้ทำอย่างที่บอกเลย แล้วมื้อที่ 3-4 เขาจะเริ่มกินแล้ว
• พอตัดสินใจที่จะทำ คุณมีการทำการบ้านยังไง
เบื้องต้นคือจะทำยังไงให้น้องหมาทานแล้วสุขภาพดี เพราะว่าตอนนั้นก็เลี้ยงอยู่ตัวหนึ่ง เป็นพันธุ์พุดเดิ้ล ซึ่งปัญหาหนึ่งที่พบคือเรื่องผิวหนัง จะมีอาการคัน ขนร่วง จะแดง เราก็พยายามหาวัตถุดิบ หรือว่า อะไรที่มันบำรุงขน ผิวหนัง ซึ่งการหาแต่ละครั้ง เราก็ไปหาข้อมูลตามเว็บบอร์ดโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง หรือว่าข้อมูลว่าน้องหมาท่านอะไรได้หรือไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้มันง่ายแล้ว และโรงพยาบาลหลายๆ ที่ เขาจะมี CSR ตรงนี้ เพื่อให้ความรู้ประชาชน เราก็เอาความรู้ตรงนั้นมาใช้งานต่อ ซึ่งถ้าเป็นสัตว์ฟันแทะก็สามารถทานได้ มีกระรอก กระต่าย น้องหมา แมว เม่นก็ได้ อย่างเม่นเขาจะแทะ เพราะว่าสิ่งที่เราใส่ไปมันจะมีกลิ่นของปลาแห้ง ดังนั้นสัตว์พวกนี้มันทานโปรตีนอยู่แล้ว ถามว่าทำไมจึงเลือกใช้ปลาแห้ง เพราะว่าอย่างน้องหมา น้องแมวบางตัว จะแพ้โปรตีนจากไก่ บางตัวนี่คือจะมีตุ่มเม็ดขึ้นตามตัว เราก็เลยช่วยตรงนี้
• ในเรื่องของสูตรของคุกกี้สัตว์เลี้ยงนั้น เป็นอย่างไรบ้าง
ตอนนี้มี 4 สูตรครับ หนึ่งคือ รสออริจินัล มีปลาป่น กับธัญพืชรวม ก็คือจะมีวิตามินอีสูง จะช่วยในเรื่องขน ผิวหนัง เล็บ สูตรที่ 2 คือ รสคอร์นชีส คือชีสสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพราะว่าถ้าชีสที่คนกิน จะมีเกลือสูง สูตรสาม คือ super black ครับ คือมีชาร์โคล กับ งาดำ ซึ่งชาร์โคลทราบอยู่แล้วว่าช่วยลดกลิ่นต่างๆ และสูตรที่ 4 คือ คลอโรฟิลล์ มีส่วนผสมของสไปรูลิน่า ซึ่งเหมาะกับน้องหมาที่ต้องการโปรตีนสูงๆ ซึ่งแล้วแต่ว่าจะให้น้องหมาเป็นยังไง แต่ส่วนใหญ่ เขาก็สั่งมา 4 แบบเลย เพราะว่าดีต่อสุขภาพของน้องหมาเอง อย่างถ้าตัวที่กินเป็นแม่หมา ที่ต้องบำรุงเรื่องนม ให้กินรสคอร์นชีสครับ ส่วน super black คือ งาดำสูงมาก คือก็เป็นคุกกี้ที่ทานได้ เพียงแค่เอาส่วนผสมต่างๆ ออก อย่างวัตถุดิบที่เลือกใช้ ก็จะใช้ร้านออแกนิก เพราะว่าเราอยากจะสนับสนุนตรงนี้
• ขั้นตอนในการทำคุกกี้สัตว์เลี้ยงเป็นอย่างไร
อย่างรสคอร์นชีส ก็จะมีการใส่แป้ง ไข่ นม โดยพื้นฐานเป็นหลัก จากนั้นก็ใส่ชีสและข้าวโพดลงไป ซึ่งข้าวโพดก็มาจากสุรินทร์เลย คือข้าวโพดนี้เป็นข้าวโพดที่ทำสุกแล้ว ซึ่งพอเราได้มาแล้วนำมาผสมเนี่ย เวลาที่ดูแป้งปั้น พอทำเรียบร้อย มันจะมีความนิ่ม เหมือนผิวหนังคน มันจะไม่ติดมือขึ้นมา แล้วพอปั๊มแล้ว มันจะง่าย แล้วเราก็มีตัวปั๊มรูปสัตว์ต่างๆ ด้วย คือลูกค้าสามารถสั่งเป็นชื่อได้ตามต้องการ จากนั้นก็นำเข้าเตาอบเลยครับ ซึ่งถ้าอยากให้สวย ก็เอามาแต่งสีอีกทีหนึ่ง
• แล้วในรายละเอียดของสินค้า กับช่องทางการขาย จะติดต่อได้ที่ไหนยังไงบ้างครับ
คุกกี้ 1 กล่องก็ประมาณ 20 ชิ้นครับ เพราะว่าชื่อ Twenty เนื่องมาจากน้องหมาที่เลี้ยงมีชื่อว่า ยี่สิบ แต่ว่าตอนนี้ไม่อยู่แล้ว เลยตั้งชื่อนี้เพื่อเป็นที่ระลึก ส่วนราคาขายอยู่ที่กล่องละ 100 บาท แต่ 5 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย เราจะนำไปช่วยน้องหมาน้องแมวที่พิการ ซึ่งสามารถสั่งซื้อได้ที่เฟซบุ๊ก Twenty Cookies กับ id line : bas0897873300 ซึ่งขนาดก็มีทั้งแบบกล่องเหล็ก กับ Family Set ส่วนช่องทางการซื้อนั้น คุยกันในไลน์ดีกว่าครับ เพราะว่าไม่มีหน้าร้าน อย่างเฟซบุ๊ก จะมีในกลุ่มอยู่แล้ว เราก็ไปร่วมในกรุ๊ปเขา แล้วก็ไปแนะนำในกลุ่ม ถ้าสนใจก็สั่งมาได้ แต่เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า น้องแมว หรือ หมารุ่นเล็ก เขาจะเลือกกิน แต่ถ้าเขาชอบ เขาจะกิน
อย่างเวลาเพื่อนที่อยู่เมืองนอกสั่งมา ก็ส่งไปให้เขาเหมือนกัน แต่ว่างานประจำก็ยังทำอยู่ แต่สิ่งเหล่านี้ที่ทำก็เพราะว่า หนึ่ง เรารักน้องหมา แล้วก็อยากให้เขาห่างจากขนมห่อที่วางตลาดทั่วไป เพราะอันนี้ไม่มีสารกันบูดเลย สามารถอยู่ได้นาน 1 เดือนถ้าเอาไว้ตู้เย็น แต่ส่วนใหญ่อยู่ได้ไม่ถึงเดือนนะ จะหมดก่อน (ยิ้ม) อย่างเวลาที่มีออเดอร์มาตอนเช้า ผมก็ทำให้ในตอนกลางคืน แล้ววันรุ่งขึ้นเราก็ส่ง คือต้องบอกว่า สิ่งที่เราทำนั้น เป็นคุกกี้เฉพาะตัว มันจะมีชื่อน้องหมา เราจะทำแบบสต๊อกไม่ได้ ต้องมีออเดอร์ถึงจะทำ ไม่งั้นชื่อน้องหมาจะซ้ำกัน
เรียบเรียงโดย : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
จากคนเบื้องหลังทางโทรทัศน์ที่มีประสบการณ์มาพอสมควร และเมื่อเริ่มทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นคำตอบให้กับสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย นั่นจึงทำให้ บาส-ธฤต มีเหมือน เดินหน้ามาสู่อาชีพเสริมด้วยการทำ “คุกกี้สัตว์เลี้ยง” ที่เน้นใส่ใจรายละเอียดมาตั้งแต่วัตถุดิบชั้นยอด ไปจนถึงผลิตภัณฑ์บรรจุชั้นเยี่ยม ผลลัพธ์จากสิ่งนี้ ทำให้มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อขนมดังกล่าว เพื่อนำไปให้สัตว์เลี้ยงของแต่ละบ้านได้กินกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของเขาเพื่อสัตว์เลี้ยงที่รักเหล่านี้...
• อยากให้เล่าถึงการทำงานของคุณหน่อยครับ
ผมเป็นคนกรุงเทพฯ ครับ เริ่มทำงานในฝ่ายประสานงานของรายการเกมฮอตเพลงฮิต ซึ่งตอนนั้น ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย เรียนด้านโฆษณามา คือมีคนดูดวงให้เรา เขาบอกว่าเราจะเข้าวงการ ความรู้สึกในตอนนั้นคือโคตรดีใจเลย นึกว่าจะได้เป็นพระเอก ปรากฏว่าเป็นเบื้องหลัง (หัวเราะ) เป็นรายการอย่างที่บอก ซึ่งเป็นรายการเกี่ยวกับเพลง ออกอากาศสด แบบนี้เลย ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี ช่อง 7 ที่จะมีน้าหุ่นน้าเหลื่อม ก็คือน้าเน็ก (เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา) ในปัจจุบัน ซึ่งตอนนั้นเราเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แล้วประสานงานเราก็มีพี่ที่ทำงานอยู่แล้ว เราก็จะเป็นคนที่ช่วยเขาอีกทีนึง จนเรียนจบ พอหลังจากเกมฮอตฯ ก็มาทำรายการที่นี่ประเทศไทย ช่อง 5 ที่มีพี่แอ๊ด ไชยวัฒน์ (อนุชัยตระกูล) พี่ลอร่า (วัฒนกุล) พี่เกรซ (มหาดำรงค์กุล) คล้ายๆ รายการบ้านเลขที่ 5 แต่นี่เป็นรายการสด ตอนกลางคืน ช่อง 5 ช่วงนี้เป็นสคริปต์ ไรเตอร์
• ซึ่งรายการทีวีสดในตอนนั้น ก็ไม่เหมือนกับในปัจจุบัน
ตอนนั้นถือว่ายังไม่มีโซเชียลออนไลน์ ดังนั้นในการเชิญแขกมาแต่ละครั้ง ก็เหมือนฉกชิงวิ่งราวเลย ซึ่งต่างกับสมัยนี้ ที่สามารถไลฟ์ได้ แต่สมัยนั้น สมมติว่าแขกรับเชิญไปที่แรก ตอนบ่าย 2 บ่ายโมงเราต้องไปรอสแตนด์บายแล้ว ไม่อย่างงั้น ที่แรกเขาจะส่งกลับบ้าน แล้วเราจะไม่ได้แขก หรือบางที แขกอยู่กับเราแล้ว จะมีรายการหนึ่งออนแอร์ก่อนหน้าเรา ทำทีมาคุย แล้วตั้งกล้อง เสร็จแล้วนำเทปนั้นมาออกอากาศเลย ซึ่งเขาก็ไม่ผิดนะ เพราะช่วงออกอากาศเขาอยู่ก่อนหน้าเราอยู่แล้ว แล้วในสมัยนั้น เวลาที่ไปหาแขกรับเชิญ ก็ต้องหาจากกระแสเช่นเดียวกัน ซึ่งแขกมีหนึ่งเดียว แล้วเราต้องวิ่งหา
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนเหตุการณ์สึนามิ ที่เป็นช่วงที่ทุกคนพูดถึงสึนามิหมดเลย แล้วเราพยายามหาประเด็นที่แตกต่าง อย่างเขาพูดเรื่องความเสียหายบนบก เราต้องคิดแล้วว่า ใต้น้ำก็มีความสูญเสียนะ ฉะนั้น เราก็ต้องหาประเด็นเลี่ยง เพื่อไม่ให้ชนกับประเด็นอื่น หลังจากนั้นก็ทำรายการมาเรื่อยๆ ครับ รายการเล็กบ้าง ปกติบ้าง จนมาถึงรายการที่สนุกที่สุดคือ รายการบันเทิง 5 หน้า 1 ซึ่งต้องขอบคุณพี่ๆ ทีมงานที่เห็นความสามารถ ซึ่งก่อนที่จะมาทำรายการนี้ เราได้มีโอกาสไปทำงานกับพี่เอิ๊ก พรหมพร (ยูวะเวส) ซึ่งตอนอยู่กับแกได้ความรู้มากนะ ในเรื่องของการทำงานเนื้อหาส่วนบันเทิง จนมาทำรายการดังกล่าว ที่มีต้นหอม (ศกุนตลา เทียนไพโรจน์) กับ บอย (พิษณุ นิ่มสกุล) เป็นพิธีกร
• แล้วพอมาทำแนวรายการบันเทิง ความรู้สึกในตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง
ตอนแรกเครียดนะ เพราะว่าเราไม่เคยทำข่าวในเรื่องของดารามาก่อน แต่ว่าเราทราบในเรื่องการทำงานทั้งหมดเลย เราก็ต้องมาปรับใช้ ต้องปรับตัว ซึ่งเราโชคดีที่เรามีทีมงานที่ดี จากนั้นก็ไปรายการ แตกฟอง ไลฟ์ ซึ่งเรามาเป็นโปรดิวเซอร์แล้ว ก็จะมีพี่ๆ ช่วยกันดู ล่าสุดก็รายการ ข่าวคลุกข้าว ที่มีพี่อั๋น ภูวนาท (คุณผลิน) เป็นรายการทำอาหารและคุยข่าวไป ระหว่างนั้นก็ทำรายการ GMM News ด้วย
• คุณทำรายการเกี่ยวกับทำอาหารหรือเปล่าที่ทำให้มาทำผลิตภัณฑ์นี้
จริงๆ คือเราชอบ อ.ยิ่งศักดิ์ (จงเลิศเจษฎาวงศ์) เป็นการส่วนตัว บวกกับเราชอบในเรื่องการทำเบเกอรี่ ซึ่งการทำเบเกอรี่เป็นการคลายเครียดสำหรับเรา แล้วเราเป็นคนที่ชอบทานคุกกี้อยู่แล้ว เราก็ไปเรียนคอร์สสั้นๆ ในระหว่างที่ทำงานปกติ เราก็ไปเรียนด้วย เพราะว่าอยากทำเป็น เราก็ทำไป ทำกินเองที่บ้าน ในระหว่างทำ ก็ได้กลิ่นทั่วบ้าน น้องหมาก็ได้กลิ่นด้วย เราก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จนคลายสงสัยที่ว่า มันคงอยากกินด้วย แล้วการที่จะให้น้องหมากินของคนมันก็ไม่ควรไง เพราะในส่วนของคนก็จะมีน้ำตาล มีเกลือ มีสีสังเคราะห์ มีกลิ่น ซึ่งมันไม่เหมาะกับน้องหมา เพราะว่า หมาจะจับในส่วนเกลือกับน้ำตาลได้ไม่ดีเท่าของคน ฉะนั้น คุกกี้ที่เราทำ ต้องไม่มีเกลือ น้ำตาล สารกันบูด สีสังเคราะห์ และกลิ่น เราต้องเอาออกหมด ซึ่งถ้าคนกินมันจะจืดมากเลย เขาจะทานด้วยกลิ่น กลิ่นหอมสำหรับเขาคืออร่อย ผมเลยมีส่วนผสมของเนื้อปลา เป็นปลาแห้งป่น ซึ่งเราก็พยายามที่จะสนับสนุนสินค้าของชุมชน ซึ่งเป็นเนื้อปลาแห้งจากนครสวรรค์
เราก็พยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมา เพราะว่าขนมยี่ห้อต่างๆ มันจะมีสีผสมอาหาร มีกลิ่นที่เชิญชวนให้กิน แล้วก็สารกันบูด ซึ่งก็ทานได้ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้จะดี เราก็เลยอยากจะทำอะไรให้น้องหมาของเรา ก็เลยทำสิ่งนี้ขึ้นมา แล้วก็เพื่อนเห็น เพื่อนก็สั่งของ เราก็ได้ลองทำมาเรื่อยๆ ซึ่งถ้าสมมติว่ามีการตอบรับที่ดี ก็ยินดี เพราะยังทำอยู่ ขณะเดียวกัน ก็มีคิดที่จะทำของคุกกี้คนด้วย รสดาร์กช็อกโกแลตกับบราวนี่ เป็นสูตรน้ำตาลน้อย ซึ่งถ้ากินกับนมก็ได้ ก็มีออเดอร์อยู่ครับ ส่วนของน้องหมา ก็มีเพื่อนๆ ที่ดีต่อกัน เขาก็สั่งไปงานสวัสดีปีใหม่ ซึ่งบางบ้านที่ให้อาหารน้องหมาก็จะให้เป็นข้าว แต่ด้วยข้าวมันนิ่ม มันจะไม่ขัดฟัน หินปูนเลยไม่ออก ซึ่งถ้าเป็นคุกกี้ ก็จะช่วยขัดฟันได้ เราจะได้ไม่ต้องแปรงฟันให้เขา หรือถ้าบ้านไหนที่น้องหมาน้องแมวกินยากนะครับ เราจะต้องหักใจตัวเองก่อน ถ้าภายใน 15 นาที เขาไม่กิน ให้ยกขึ้น และภายใน 3 มื้อ เขาจะกิน เราอย่าไปป้อนเขา เพราะคุณจะป้อนไปตลอด และน้องหมาน้องแมว สามารถอดอาหารได้ 3 วัน คือให้ทำอย่างที่บอกเลย แล้วมื้อที่ 3-4 เขาจะเริ่มกินแล้ว
• พอตัดสินใจที่จะทำ คุณมีการทำการบ้านยังไง
เบื้องต้นคือจะทำยังไงให้น้องหมาทานแล้วสุขภาพดี เพราะว่าตอนนั้นก็เลี้ยงอยู่ตัวหนึ่ง เป็นพันธุ์พุดเดิ้ล ซึ่งปัญหาหนึ่งที่พบคือเรื่องผิวหนัง จะมีอาการคัน ขนร่วง จะแดง เราก็พยายามหาวัตถุดิบ หรือว่า อะไรที่มันบำรุงขน ผิวหนัง ซึ่งการหาแต่ละครั้ง เราก็ไปหาข้อมูลตามเว็บบอร์ดโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง หรือว่าข้อมูลว่าน้องหมาท่านอะไรได้หรือไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้มันง่ายแล้ว และโรงพยาบาลหลายๆ ที่ เขาจะมี CSR ตรงนี้ เพื่อให้ความรู้ประชาชน เราก็เอาความรู้ตรงนั้นมาใช้งานต่อ ซึ่งถ้าเป็นสัตว์ฟันแทะก็สามารถทานได้ มีกระรอก กระต่าย น้องหมา แมว เม่นก็ได้ อย่างเม่นเขาจะแทะ เพราะว่าสิ่งที่เราใส่ไปมันจะมีกลิ่นของปลาแห้ง ดังนั้นสัตว์พวกนี้มันทานโปรตีนอยู่แล้ว ถามว่าทำไมจึงเลือกใช้ปลาแห้ง เพราะว่าอย่างน้องหมา น้องแมวบางตัว จะแพ้โปรตีนจากไก่ บางตัวนี่คือจะมีตุ่มเม็ดขึ้นตามตัว เราก็เลยช่วยตรงนี้
• ในเรื่องของสูตรของคุกกี้สัตว์เลี้ยงนั้น เป็นอย่างไรบ้าง
ตอนนี้มี 4 สูตรครับ หนึ่งคือ รสออริจินัล มีปลาป่น กับธัญพืชรวม ก็คือจะมีวิตามินอีสูง จะช่วยในเรื่องขน ผิวหนัง เล็บ สูตรที่ 2 คือ รสคอร์นชีส คือชีสสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพราะว่าถ้าชีสที่คนกิน จะมีเกลือสูง สูตรสาม คือ super black ครับ คือมีชาร์โคล กับ งาดำ ซึ่งชาร์โคลทราบอยู่แล้วว่าช่วยลดกลิ่นต่างๆ และสูตรที่ 4 คือ คลอโรฟิลล์ มีส่วนผสมของสไปรูลิน่า ซึ่งเหมาะกับน้องหมาที่ต้องการโปรตีนสูงๆ ซึ่งแล้วแต่ว่าจะให้น้องหมาเป็นยังไง แต่ส่วนใหญ่ เขาก็สั่งมา 4 แบบเลย เพราะว่าดีต่อสุขภาพของน้องหมาเอง อย่างถ้าตัวที่กินเป็นแม่หมา ที่ต้องบำรุงเรื่องนม ให้กินรสคอร์นชีสครับ ส่วน super black คือ งาดำสูงมาก คือก็เป็นคุกกี้ที่ทานได้ เพียงแค่เอาส่วนผสมต่างๆ ออก อย่างวัตถุดิบที่เลือกใช้ ก็จะใช้ร้านออแกนิก เพราะว่าเราอยากจะสนับสนุนตรงนี้
• ขั้นตอนในการทำคุกกี้สัตว์เลี้ยงเป็นอย่างไร
อย่างรสคอร์นชีส ก็จะมีการใส่แป้ง ไข่ นม โดยพื้นฐานเป็นหลัก จากนั้นก็ใส่ชีสและข้าวโพดลงไป ซึ่งข้าวโพดก็มาจากสุรินทร์เลย คือข้าวโพดนี้เป็นข้าวโพดที่ทำสุกแล้ว ซึ่งพอเราได้มาแล้วนำมาผสมเนี่ย เวลาที่ดูแป้งปั้น พอทำเรียบร้อย มันจะมีความนิ่ม เหมือนผิวหนังคน มันจะไม่ติดมือขึ้นมา แล้วพอปั๊มแล้ว มันจะง่าย แล้วเราก็มีตัวปั๊มรูปสัตว์ต่างๆ ด้วย คือลูกค้าสามารถสั่งเป็นชื่อได้ตามต้องการ จากนั้นก็นำเข้าเตาอบเลยครับ ซึ่งถ้าอยากให้สวย ก็เอามาแต่งสีอีกทีหนึ่ง
• แล้วในรายละเอียดของสินค้า กับช่องทางการขาย จะติดต่อได้ที่ไหนยังไงบ้างครับ
คุกกี้ 1 กล่องก็ประมาณ 20 ชิ้นครับ เพราะว่าชื่อ Twenty เนื่องมาจากน้องหมาที่เลี้ยงมีชื่อว่า ยี่สิบ แต่ว่าตอนนี้ไม่อยู่แล้ว เลยตั้งชื่อนี้เพื่อเป็นที่ระลึก ส่วนราคาขายอยู่ที่กล่องละ 100 บาท แต่ 5 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย เราจะนำไปช่วยน้องหมาน้องแมวที่พิการ ซึ่งสามารถสั่งซื้อได้ที่เฟซบุ๊ก Twenty Cookies กับ id line : bas0897873300 ซึ่งขนาดก็มีทั้งแบบกล่องเหล็ก กับ Family Set ส่วนช่องทางการซื้อนั้น คุยกันในไลน์ดีกว่าครับ เพราะว่าไม่มีหน้าร้าน อย่างเฟซบุ๊ก จะมีในกลุ่มอยู่แล้ว เราก็ไปร่วมในกรุ๊ปเขา แล้วก็ไปแนะนำในกลุ่ม ถ้าสนใจก็สั่งมาได้ แต่เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า น้องแมว หรือ หมารุ่นเล็ก เขาจะเลือกกิน แต่ถ้าเขาชอบ เขาจะกิน
อย่างเวลาเพื่อนที่อยู่เมืองนอกสั่งมา ก็ส่งไปให้เขาเหมือนกัน แต่ว่างานประจำก็ยังทำอยู่ แต่สิ่งเหล่านี้ที่ทำก็เพราะว่า หนึ่ง เรารักน้องหมา แล้วก็อยากให้เขาห่างจากขนมห่อที่วางตลาดทั่วไป เพราะอันนี้ไม่มีสารกันบูดเลย สามารถอยู่ได้นาน 1 เดือนถ้าเอาไว้ตู้เย็น แต่ส่วนใหญ่อยู่ได้ไม่ถึงเดือนนะ จะหมดก่อน (ยิ้ม) อย่างเวลาที่มีออเดอร์มาตอนเช้า ผมก็ทำให้ในตอนกลางคืน แล้ววันรุ่งขึ้นเราก็ส่ง คือต้องบอกว่า สิ่งที่เราทำนั้น เป็นคุกกี้เฉพาะตัว มันจะมีชื่อน้องหมา เราจะทำแบบสต๊อกไม่ได้ ต้องมีออเดอร์ถึงจะทำ ไม่งั้นชื่อน้องหมาจะซ้ำกัน
เรียบเรียงโดย : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
