MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
หมายเหตุ : เนื่องจากเว็บไซต์ MGR Online กำลังปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ ต้องการชมเนื้อหาย้อนหลัง คลิก https://bit.ly/mgrtop7 ขออภัยในความไม่สะดวก
สรุปข่าวประจำวันที่ 2 - 8 ธ.ค. 2560
อันดับ 1 : หวังใช้ศาลเตี้ยตบทรัพย์! “หนอ วีระชัย” ยกพวกแอบอ้าง ป.ป.ส. เล็งเป้าวัยรุ่น-คนมีเงิน
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Nuttapong Jitsaguan" ของนายณัฐพงศ์ จิตสงวน อายุ 26 ปี เจ้าของอู่ทำสีรถ ถูกชายฉกรรจ์ 3 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมถืออาวุธปืนสั้น และกระดาษ สอบถามว่าใครชื่อ "ณัฐพงษ์" ก่อนนำกุญแจมือเข้ามาใส่ ปิดประตูร้าน พร้อมระบุว่ามีหมายจับคดีครอบครองยาเสพติดและฟอกเงิน โดยนายณัฐพงษ์โวยวายว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กระทั่งญาติของนายณัฐพงษ์ที่เป็นทหารอากาศได้เข้ามาถึงอู่ กลุ่มชายฉกรรจ์จึงรีบขับรถยนต์ออกไปทันที โดยได้แจ้งความ สน.สายไหม ไปเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ ป.ป.ส. ยืนยันว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. แต่อย่างใด และขอให้ประชาชนระมัดระวัง ปรากฎว่า ชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน คือ นายวีระชัยศรีวณิก หรือ หนอ วรรณึกกุล อายุ 38 ปี อดีตนักแสดงช่อง 7 ทายาทไฮโซชื่อดัง, นายศิวัช หล่ำศรี อายุ 36 ปี และ นายณรงค์ฤทธิ์ ทองพันธุ์ อายุ 30 ปี
วันที่ 7 ธ.ค. พนักงานสอบสวน สน.สายไหม ได้ขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับ และได้รับการอนุมัติ กระทั่งในช่วงค่ำ ผู้ต้องหาทั้ง 3 มอบตัวที่ สน.สายไหม ต่อมาวันที่ 8 ธ.ค. ได้นำตัวฝากขังผัดแรกที่ศาลจังหวัดมีนบุรี โดยคัดค้านการประกันตัว ซึ่งตำรวจเปิดเผยว่า รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ก่อนนำปืนไปทิ้งที่สะพานนนทบุรี (นวลฉวี) โดยสงสัยว่านายณัฐพงษ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเนื่องจากมีทรัพย์สินพอสมควร และมักจะเลือกเหยื่อที่เป็นวัยรุ่น หรือคนที่มีทรัพย์สินพอสมควร เมื่อถูกขู่เหยื่อก็จะกลัว และใช้โอกาสนี้ตบทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีนายเกียรติศักดิ์ สาระวดี อายุ 32 ปี ผู้เสียหายอีกราย ระบุว่าเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ถูกชายฉกรรจ์ทั้ง 3 ใช้รถยนต์ปาดหน้าขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านย่านวัชรพล อ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เข้าตรวจค้น และใช้อาวุธปืนจี้พร้อมใส่กุญแจมือ ก่อนจะอุ้มขึ้นรถยนต์แล้วบังคับให้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท มือถือไอโฟน 7 พลัส และเงินสด 10,000 บาท ก่อนจะปล่อยตัวไป
อันดับ 2 : นาฬิกานี้ท่านได้แต่ใดมา "บิ๊กป้อม" แพงระยับจรัสแสงไทยคู่ฟ้า
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี "ประยุทธ์ 5" เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ได้มีการถ่ายรูปหมู่ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดคือจังหวะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นำมือมาบังแดด พบว่าสวมใส่นาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ ยี่ห้อ ริชาร์ด มิลล์ รุ่น RM 029 และแหวนทองคำขาวหัวเพชร ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านบาท แต่ไม่ระบุในรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัย ขณะที่ พล.อ.ประวิตร เลี่ยงที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน ระบุว่าจะตอบกับ ป.ป.ช. เลย และยืนยันว่าทำงานมาไม่เคยมีเรื่องทุจริต
ด้านที่ประชุมใหญ่ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เป็นประธานการประชุมได้มีมติให้ส่งหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษร หรือชี้แจงด้วยตัวเอง ภายใน 30 วัน ก่อนรวบรวมเพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุม ป.ป.ช. อีกครั้งเพื่อให้พิจารณาต่อไป โดย พล.ต.อ.วัชรพล ระบุว่า ป.ป.ช.ต้องการทราบว่า พล.อ.ประวิตรได้ทรัพย์สินดังกล่าวมาอย่างไร และมีหลักฐานหรือไม่ ก่อนจะตรวจสอบและเปรียบเทียบกับรายการทรัพย์สินที่มีอยู่เดิมต่อไป แต่ปัจจุบันกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแสดงรายการบัญชีทรัพย์สิน เฉพาะตอนเข้าดำรงตำแหน่งและออกจากตำแหน่งเท่านั้น ส่วนระหว่างดำรงตำแหน่งนั้น กฎหมายไม่ได้กำหนด
อันดับ 3 : "มิชลินไกด์" มีแต่ร้านที่ปีนบันไดกิน อึ้ง! สตรีทฟูดแพงขั้นเทพ "เจ๊ไฝ" คว้า 1 ดาว
การเปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก “มิชลิน ไกด์” ฉบับกรุงเทพฯ (THE MICHELIN GUIDE BANGKOK 2018) จัดขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. โดยมิชลิน ผู้ผลิตยางรถยนต์ชื่อดัง ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำขึ้น โดยคณะกรรมการได้เก็บข้อมูลเพื่อจัดอันดับร้านอาหารยอดเยี่ยมยาวนานถึง 8 เดือน พบว่าไม่มีร้านไหนได้รางวัล 3 ดาวมิชลิน ส่วนรางวัล 2 ดาวมิชลิน เป็นของร้านแกกกั้น (Gaggan) ซอยหลังสวน, ร้านเลอ นอร์มังดี (Le Normandie) โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ถนนเจริญกรุง และร้านเมซซาลูนา (Mezzaluna) ชั้น 65 โรงแรมเลอบัว ถนนสีลม ส่วนร้านที่ได้รางวัล 1 ดาวมิชลิน มีทั้งหมด 14 ร้าน หนึ่งในนั้นคือร้านเจ๊ไฝ ถนนสำราญราษฎร์ เป็นร้านอาหารริมทาง (สตรีทฟูด) ร้านเดียวที่ได้รับรางวัล นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารประเภท บิบ กูร์มองด์ (Bib Gourmand) หรือร้านอาหารที่อร่อยในราคาสมเหตุสมผล พบว่าได้ถูกจัดอันดับทั้งหมด 33 ร้าน โดยมีร้านสตรีทฟูด 16 ร้าน
อย่างไรก็ตาม การประกาศผลการจัดอันดับมิชลินสตาร์ในครั้งนี้เรียกเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตจำนวนมาก ไว่ว่าจะเป็นร้านที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์แต่ละแห่งล้วนแล้วแต่เป็นร้านหรูราคาแพง ขณะที่ร้านอาหารสตรีทฟูดอย่างร้านเจ๊ไฝก็พบว่าแต่ละเมนูราคาสูงจนชาวบ้านทั่วไปไม่อาจเอื้อมถึง เช่น ไข่เจียวปูราคาเริ่มต้นที่ 800 บาท ไปจนถึง 1,000 บาท ราดหน้าทะเล จานละ 400 บาท ผัดขี้เมาทะเล 400 บาท อย่างไรก็ตาม เจ๊ไฝอ้างว่าเหตุที่คิดราคาแพงเพราะใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง โดยเฉพาะอาหารทะเลรับมาจากแหล่งโดยตรง อาทิ กุ้งจากมหาชัย จ.สมุทรสาคร ปูจาก จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช หรือหอยเปาฮื้อ ที่ทำราดหน้าจานละ 1 หมื่นบาทก็นำเข้าจากประเทศเม็กซิโก ที่ยอมจ่ายต้นทุนที่สูงเพื่อให้ลูกค้าทานอาหารอร่อย ย้ำว่าคนไทยมีโอกาสขายของแพงได้ ถ้าเรากล้าทำก็มีคนรับประทาน ยืนยันว่าจะไม่ขยายสาขาเพราะอายุมากแล้ว
อันดับ 4 : หวยอลวน-คนอลเวง! 30 ล้านสวรรค์ค้าง ตำรวจบำนาญเจอครูแจ้งจับ-หาว่าไปขโมย
เรื่องของโชคลาภที่กลายเป็นทุกขลาภ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ประธานมูลนิธิทนายประชาชนฯ เปิดเผยว่า ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจบำนาญ ชาว จ.กาญจนบุรี ร้องเรียนว่าถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี แจ้งความกล่าวหาว่าไปขโมยสลาก ทั้งๆ ที่ตนซื้อมาจากตลาดเรดซิตี้ ในตัวเมืองกาญจนบุรี แล้วถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. จำนวน 5 ใบ รวมเงินรางวัล 30 ล้านบาท ก่อนที่จะนำไปขึ้นเงินแล้วแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปใช้หนี้สิน อีกส่วนหนึ่งฝากไว้ในบัญชีธนาคารกรุงไทย กระทั่งต่อมาวันที่ 28 พ.ย. มีการแจ้งความและอายัดเงินในบัญชีกว่า 20 ล้านบาท ก่อนเรียกไปคุยต่อหน้าตำรวจ อ้างมีหลักฐานว่านายปรีชาซื้อ และมีแม่ค้าสลากมายืนยันว่าขายให้ครูจริง แต่ถ้าผู้เสียหายจะเจรจา ยินดีที่จะแบ่งเงินให้ 15 ล้านบาท เพราะถือว่าเคยทำบุญร่วมกันมา แต่ ร.ต.ท.จรูญไม่ยินยอม นายษิทราเชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ
พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจได้สอบสวนคู่กรณี รวมถึงพยานที่รู้เห็นทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะตรวจดีเอ็นเอบนลอตเตอรี่ เมื่อประสานขอความร่วมมือตลาดเรดซิตี้เพื่อตรวจสอบภาพวงจรปิดปรากฏว่า บริเวณที่มีการขายลอตเตอรี่ไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนกล้องวงจรปิดที่อยู่โดยรอบถูกบันทึกซ้ำไปแล้ว เนื่องจากห่างกันหลายวัน ต่อมาวันที่ 8 ธ.ค. นายษิทรา นำ ร.ต.ท.จรูญ และภรรยาชี้จุดซื้อลอตเตอรี่ รวมทั้งจุดที่ ร.ต.ท.จรูญอ้างว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของ จ.กาญจนบุรีได้นัดหมายให้พบที่บ้านพักนายตำรวจห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร พร้อมกับเปิดเผยว่า มีพยาน 2 คนระบุว่า หาซื้อเลข 926 ที่ตลาดเรดซิตี้ แต่แม่ค้าบอกว่ามีแต่หวยชุด 5 ใบ ขาย 700 บาท เมื่อปฏิเสธไม่เอาจึงถูกต่อว่าถามแล้วไม่เอา สงสัยว่าหากเก็บสลากให้ครูเหลือเพียงชุดเดียวเหตุใดจึงนำมาขายอีก
อันดับ 5 : ชักดิ้นชักงอ! อ้างโรคลมชัก พุ่งชนแหลกกลางพัทยาดับ 2 - พบ "ฉี่สีม่วง" มีสารของยาบ้า
เหตุสลดใจกลางเมืองพัทยาเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 4 ธ.ค. รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน ผค 43 ชลบุรี พุ่งชนรถจักรยานยนต์หลายคัน บนถนนพัทยาใต้ บริเวณหน้าตึกคอมพัทยา หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 2 ราย คือ นายวุฒิชัย เหลาคำ อายุ 23 ปี และ น.ส.สุนารี บำรุงราษฎร์ อายุ 23 ปี มีผู้บาดเจ็บนอนร้องขอความช่วยเหลืออยู่คนละทิศละทางรวม 15 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนและผู้ปกครอง ขณะที่ผู้ก่อเหตุนั่งเบลออยู่จึงรีบนำตัวออกจากที่เกิดเหตุเนื่องจากเกรงว่าจะถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ ทราบชื่อคือ นายอัครเดช อุดมรัตน์ อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ให้การกับตำรวจด้วยอาการมึนงงว่า ตนขับรถมาตามปกติพอถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ ก็ไม่รู้สึกตัว มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าขับชนรถชาวบ้านพังยับเยินเกลื่อนถนนแล้ว ตนรู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ซึ่งตนมีโรคประจำตัวคือโรคลมชักด้วย
เมื่อตำรวจนำตัวนายอัครเดชไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ก็ไม่พบว่ามีปริมาณเกินที่กฎหมายกำหนด แต่เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ผลตรวจปัสสาวะของนายอัครเดชคนขับเป็นสีม่วง และมีสารเสพติดชนิด "แอมเฟตามีน" เจือปนอยู่ ตำรวจแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ ขับรถแบบประมาทหวาดเสียว หลบหนีการจับกุม และเสพสารเสพติดในขณะขับรถ ก่อนฝากขังศาลจังหวัดพัทยาโดยคัดค้านการประกันตัวต่อไป เรื่องดังกล่าวทำให้สังคมตั้งคำถามว่าทำไมคนที่มีโรคประจำตัวถึงปล่อยให้มีการขับขี่ยานพาหนะได้ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกชี้แจงว่า นายอัครเดชถือใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพ แต่หากพิสูจน์ทราบว่าเป็นโรคลมชักจริงจะถูกเพิกถอนใบขับขี่ เพราะเป็นบุคคลที่มีสภาพร่างกายไม่พร้อม นอกจากนี้ยังจะหารือกับแพทยสภาเพื่อเพิ่มโรคต้องห้ามขับรถเพิ่มจาก 5 โรคเป็น 10 โรค
อันดับ 6 : โรคจิตใช้เข็มขัดฟาดกลางสถานี MRT สายสีม่วง รปภ. อ้างนึกว่าทะเลาะกันธรรมดา
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. เฟซบุ๊ก Rapeepat Tanpratoomvong ได้โพสต์ภาพชายคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายจนแขนเต็มไปด้วยเลือด พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ว่า พบชายโรคจิตรายหนึ่งใช้มือถือขยับไปมาเหมือนจะส่องหน้าอกของผู้หญิง บนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เห็นรูปคอ รูปหน้าอกผู้หญิงจากมือถือของคนร้าย จึงแจ้งพนักงานก่อนวิทยุไปให้ รปภ.กักตัว แต่ชายคนดังกล่าวรีบเดินอย่างรวดเร็ว กระทั่งลงไปต่อรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ที่สถานีเพชรบุรี พยายามยืนประชิดหาเรื่อง กระทั่งต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีเตาปูน ถึงสถานีบางพลู คนร้ายกล่าวว่า "เมื่อกี้ว่าใครโรคจิตนะ" จึงเดินเข้าหา รปภ. ขอความช่วยเหลือ แต่คนร้ายใช้เข็มขัดฟาดไปที่ชายคนดังกล่าว 6-7 ครั้งจนเลือดอาบ ก่อนหนีไปขึ้นรถไฟขบวนถัดไป และเห็นว่า รปภ. ไม่ห้ามปรามได้แต่ยืนพูด ปล่อยให้ขึ้นรถขบวนต่อไป อีกทั้งเจ้าหน้าที่บอกว่าจะเรียกรถพยาบาลให้ แต่ต้องจ่ายเงินเอง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ชายที่ก่อเหตุคนดังกล่าวถูกจับกุมได้แล้ว แต่คู่กรณียอมความเพราะไม่อยากมีประวัติคดีทะเลาะวิวาท ทำให้ชาวเน็ตไม่พอใจผู้เสียหายจำนวนมาก ต่อมาการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงว่า รปภ. ประเมินสถานการณ์เฉพาะหน้า ว่า เป็นการทะเลาะวิวาทกันธรรมดา โดยได้ติดตามผู้ก่อเหตุเข้าสู่ขบวนรถไฟฟ้าไปจนถึงสถานีตลาดบางใหญ่ ก่อนประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง เพื่อเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บที่ต้องจ่ายเงินค่ารถพยาบาลเอง เพราะกรณีนี้ประกันภัยบุคคลที่ 3 ไม่อยู่ในความคุ้มครอง และคู่กรณีได้ทำการตกลงยอมความกันที่ สภ.บางบัวทอง โดยผู้ก่อเหตุยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้บาดเจ็บ
อันดับ 7 : ทะลุเป้า 700 ล้านบาท! "ตูน บอดี้สแลม" ทำได้ใน 39 วัน
ในที่สุดกิจกรรมวิ่งการกุศล “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” ของนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม นักร้องนำวงบอดี้สแลม ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เส้นทางจาก อ.เบตง จ.ยะลา ถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร เพื่อนำเงินบริจาคมอบให้แก่ 11 โรงพยาบาลศูนย์ทั่วประเทศเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยตั้งเป้ายอดเงินบริจาคจากคนไทยทั้งประเทศ 70 ล้านคน คนละ 10 บาท อยู่ที่ 700 ล้านบาท ในที่สุดยอดเงินบริจาคทำได้เกินเป้าหมาย 700 ล้านบาทไปเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากวิ่งเป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ตามกำหนดการจะต้องวิ่งไปถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันที่ 25 ธ.ค. นี้
ก่อนหน้านี้ ตูน บอดี้สแลม วิ่งจาก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เข้าสู่กรุงเทพมหานครไปเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ถึงโรงแรมพูลแมนคิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ เวลาประมาณ 22.00 น. โดยมีกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบเงินบริจาคเพิ่มอีก 53 ล้านบาท รวมเป็น 77 ล้านบาท ก่อนที่เช้าวันถัดมาจะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยกล่าวชื่นชมและขอบคุณในความเสียสละและตั้งใจทำความดี ทำให้คนไทยมีความสุข ทั้งนี้ โรงพยาบาลทั้ง 11 แห่ง รัฐบาลดูแลในส่วนหนึ่ง แต่ยอมรับว่างบประมาณส่วนใหญ่ต้องไปดูแลเรื่องประกันสุขภาพถ้วนหน้า กิจกรรมของตูนได้เข้ามาช่วยลดปัญหาตรงนี้ พร้อมฝากว่าหากมีอุปสรรคทางร่างกายขออย่าฝืน และฝากแฟนสาว ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ ดูแลด้วย