xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : ลับ-ลวง-พราง อวัยวะ "น้องเมย" | โปรดเกล้าฯ ครม.ประยุทธ์ 1/5 | เช็กบิล "ครูจอมทรัพย์"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอต ที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGROnline Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

หมายเหตุ : เนื่องจากเว็บไซต์ MGR Online กำลังปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ ต้องการชมเนื้อหาย้อนหลัง คลิก https://bit.ly/mgrtop7 ขออภัยในความไม่สะดวก

สรุปข่าวประจำวันที่ 18 - 24 พ.ย. 2560

อันดับ 1 : อวัยวะ "น้องเมย" เตรียมทหารเสียชีวิต "หัวใจ-สมอง-กระเพาะ" หายปริศนา

แม้การเสียชีวิตของน้องเมย หรือ นรต.ภคพงษ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 จะเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 17 ต.ค. และมีพิธีฌาปนกิจศพไปเมื่อวันที่ 26 ต.ค. แต่เกิดเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นในวงการทหารและวงการนิติวิทยาศาสตร์ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ครอบครัวตัญกาญจน์ แถลงข่าวระบุว่า ได้นำศพไปผ่าพิสูจน์เป็นครั้งที่ 2 กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม โดยไม่ได้นำศพไปประชุมเพลิง พบว่าอวัยวะสำคัญ ได้แก่ สมอง หัวใจ และกระเพาะอาหาร โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ครอบครัวทราบ รวมทั้งพบกระดูกซี่โครงหัก 4 ซี่ มีรอยช้ำในช่องท้อง ไหปลาร้าหัก 2 ข้าง แพทย์ระบุว่าสาเหตุซี่โครงหักไม่น่าเกิดจากการปั๊มหัวใจ และรอยช้ำน่าจะเกิดจากถูกกระแทกอย่างแรง นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าอาจถูกลงโทษที่เรียกว่า การธำรงวินัย จากรุ่นพี่อย่างรุนแรง ทำให้บาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะเสียชีวิต ทำให้สังคมจับตามองอย่างกว้างขวาง แม้รัฐบาลและโรงเรียนเตรียมทหารจะชี้แจงว่าไม่มีการลงโทษอย่างรุนแรงก็ตาม













อย่างไรก็ตาม วันที่ 23 พ.ย. สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อํานวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า ได้ส่งมอบชิ้นส่วนอวัยวะของน้องเมย ไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยเพิ่มทีมแพทย์ที่มีผู้เชี่ยวชาญภายนอก 3 สถาบัน ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 3 คน รวม 6 คน คาดว่าภายในระยะเวลา 7 วันจะรายงานผลให้กับร้อยเวรและญาติ ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า น้องเมยเสียชีวิตเป็นโรคฮีตสโตรก และอ้างว่าตนเคยโดนซ่อมจนสลบ แต่ไม่ตาย พร้อมแนะว่า ถ้าไม่เต็มใจให้ถูกซ่อมก็ไม่ต้องเข้ามาเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ทำให้บิดาของน้องเมยไม่พอใจ ที่ไม่เห็นคุณค่าของลูก อย่างไรก็ตาม หลังกระแสสังคมโจมตี พล.อ.ประวิตร อย่างหนัก ถึงได้ให้สัมภาษณ์ขอโทษครอบครัวน้องเมย

อันดับ 2 : โปรดเกล้าฯ ครม. "ประยุทธ์ 1/5" มาใหม่นับสิบ "ธนะศักดิ์-อุดมเดช-กอบกาญจน์" ออกไป

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูล โดยพบว่า มีรัฐมนตรีเข้ามาใหม่ 10 ราย ได้แก่ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม, นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์, 5. นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ 6. นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์ 7. นายอุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ 8. นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม 9. นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม และ 10. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน

ขณะที่รัฐมนตรีที่ถูกโยกย้าย มี 8 ราย ประกอบด้วย 1. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ไป รองนายกรัฐมนตรี 2. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม กลับมาเป็น รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี 3. พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน ไป รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 4. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ ขึ้น รมว.พาณิชย์ 5. นางชุติมา บุณยประภัศร รมช.เกษตร ไป รมช.พาณิชย์ 6. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม 7. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไป รมว.แรงงาน และ 8. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ไป รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ส่วนบุคคลที่พ้นจากความเป็นคณะรัฐมนตรี มี 9 ราย ได้แก่ 1. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี 2. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี 3. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม 4. นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา 5. นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี 6. นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม 7. นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ 8. นางอรรถชกา ศรีบุญเรือง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 9. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนรองนายกรัฐมนตรีได้ลดลงจาก 6 คน เหลือ 5 คน แต่รัฐมนตรีสำคัญๆ เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยังอยู่

อันดับ 3 : เช็คบิล "ครูจอมทรัพย์" - "สับ" ซัดครูอ๋องจ้าง 4 แสนให้การเท็จ

หลังจากศาลจังหวัดนครพนมมีคำพิพากษาในชั้นฎีกายกคำร้อง กรณีที่ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครูที่ยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้รื้อฟื้นคดีขับรถชนคนตายเมื่อปี 2548 ขึ้นมาพิจารณาใหม่ โดยอ้างว่านายสับ วาปี เป็นคนขับรถชนตัวจริง ปรากฎว่า พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนแจ้งความต่อ สภ.นาโดน สภ.เรณูนคร และ สภ.เมืองนครพนม กระทั่งวันที่ 20 พ.ย. ได้เข้าแจ้งความ 2 โรงพัก เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 7 ราย คือ นายสับ วาปี อายุ 61 ปี ที่เคยอ้างว่าเป็นผู้ขับรถชนคนตาย, นายบุญเทิง วาปี อายุ 63 ปี พี่ชายนายสับ, นายเลิศ วาปี อายุ 66 ปี, นางจันทร์ วาปี อายุ 59 ปี, นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีครูจอมทรัพย์, นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง อายุ 54 ปี เพื่อนครูจอมทรัพย์, นายรัน โทนแก้ว อายุ 60 ปี ญาตินายสับ และนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี



ต่อมาวันที่ 22 พ.ย. นายสับเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ภ.จว.นครพนม ระบุว่า ครูอ๋องและอีกหลายคน ว่าจ้างให้ตนอ้างว่าเป็นคนขับรถและให้การเท็จ โดยรับปากจะให้เงิน 4 แสนบาท แต่ได้แค่ 2,000 บาท และยืนยันว่ารถกระบะที่ตนเป็นเจ้าของไม่ได้ชน ถูกขายเป็นเศษเหล็กแล้ว สารภาพยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง รวมทั้งในวันที่ไปศาลจังหวัดนครพนม ครูอ๋องยื่นเงิน 170,000 บาท ให้นายสับเพื่อนำไปจ่ายค่าช่วยเหลือเยียวยาให้ญาติผู้เสียชีวิต ตำรวจดำเนินคดีใน 7 ข้อหา คือ 1.แจ้งความเท็จ 2.เบิกความเท็จในชั้นไต่สวน 3.เบิกความเท็จในชั้นยื่นคำร้องขอรื้อฟื้นคดี 4.ร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร 5.หมิ่นประมาทพนักงาน 6.หมิ่นประมาทคณะบุคคล 7.หมิ่นประมาทองค์กร กระทั่งต่อมาตำรวจจับกุมนางจอมทรัพย์ และครูอ๋องเรียบร้อยแล้ว

อันดับ 4 : ตัดก่อนตาย...เตือนก่อนวายวอด! จับกุม "แก๊งล้มบอล" ผงะ 5 นักเตะ "ราชนาวี-โคราช" มีเอี่ยว

เรื่องฉาวโฉ่ในวงการฟุตบอลไทยถูกตีแผ่เมื่อวันที่ 21 พ.ย. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงข่าวการจับกุมขบวนการกำหนดผลการแข่งขันกีฬาฟุตบอลล่วงหน้า (ล้มบอล) โดยมีผู้ต้องหา 12 คน ได้แก่ 1.จ.ต.สุทธิพงษ์ เหลาพร ทีมราชนาวี 2.นายณรงค์ วงษ์ทองคำ ผู้รักษาประตูทีมราชนาวี 3.จ.ท.สุวิทยา นำสินหลาก ทีมราชนาวี 4.จ.อ.เสกสันต์ ชาวทองหลาง ทีมราชนาวี 5.นายวีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตู ทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 6. นายภูมิรินทร์ คำรื่น กรรมการผู้ตัดสินฟีฟ่า 7. นายธีรจิตร สิทธิศุข ไลน์แมน 8.นายเชิดศักดิ์ บุญชู ผู้อำนวยการสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี 9.นายวัลลภ สมาน 10.นายกิตติภูมิ ปาภูงา 11.นายมานิตย์ หรือเศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ 12.นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล กลุ่มนายทุนหรือตัวแทนนายทุน หลังพบความผิดปกติในการแข่งขัน 4 นัด โดยมีการจัดตั้งแบบครบวงจร มีทั้งนายทุนจากไทยและต่างประเทศ





ทั้งนี้ ผบ.ตร. ได้แต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยให้ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้า โดยมีพนักงานสืบสวนสอบสวน ประกอบไปด้วยตำรวจมือดี ทั้งนักสืบและผู้เชี่ยวชาญ 118 นาย รวมทั้งทีมสืบสวนจากกองการต่างประเทศ หรือตำรวจสากล อย่างไรก็ตาม หลังออกมาเปิดเผยชื่อของผู้ต้องหา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ระบุว่า สโมสรจะเอาเรื่องนายวีระให้ถึงที่สุด ส่วน พล.ร.อ.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผบ.กองเรือยุทธการ ในฐานะประธานสโมสรราชนาวี ระบุว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พร้อมสั่งให้ 4 นักเตะหยุดปฏิบัติหน้าที่ในทันที โดยเฉพาะ 3 นักเตะที่เข้ารับราชการทหาร หากมีความผิดจริงจะต้องรับโทษเป็น 2 เท่า สูงสุดถึงขั้นปลดออกจากราชการ ส่วนนายธเนศ เครือรัตน์ ประธานสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี ระบุว่า ทางสโมสรให้นายเชิดศักดิ์เป็นผู้ดูแลผู้ควบคุมการแข่งขัน ที่ให้ตำแหน่งเพราะต้องทำบัตรไอดีการ์ดเพื่อเข้าสนาม ยืนยันว่าสโมสรฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

อันดับ 5 : เตียงหักแล้ว! "สงกรานต์ - แอฟ" แยกกันอยู่ พร้อมหย่าแน่นอน ปิดฉาก 5 ปีชีวิตคู่

หลังจากที่แต่งงานไปเมื่อปี 2555 และใช้ชีวิตคู่จนมีทายาทคือ น้องปีใหม่ แต่ในที่สุดความรักของทั้งคู่ก็ไปไม่รอด เมื่อวันที่ 22 พ.ย. แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ วัย 37 ปี นางเอกหน้าหวาน เปิดเผยถึงความสัมพันธ์กับ สงกรานต์ เตชะณรงค์ วัย 34 ปี ทายาทเจ้าของโบนันซ่า รีสอร์ต เขาใหญ่ ระบุว่า ยังไม่หย่า แต่สถานะครอบครัวแยกกันอยู่มาเกือบปี แต่จะให้ตอบว่าปัญหาเกิดจากอะไรคงตอบยาก เรื่องนี้ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้นในชีวิตแต่มันมาถึงจุดนี้แล้วคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำให้ดีที่สุด แต่เมื่อถามถึงมือที่สามกลับตอบเลี่ยง ระบุว่าขอโฟกัสที่ลูก ยืนยันว่าพร้อมเซ็นใบหย่า ถ้าตามกฎหมายยังเป็นสามีภรรยา แต่ว่าแยกกันมาพักนึงแล้ว ถามว่าอนาคตจะมีโอกาสกลับมาเป็นสามีภรรยาตามแบบพฤตินัยนั้น ไม่มีวันเป็นเหมือนเดิม



อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แอฟ ทักษอร ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ยังมีประเด็นที่ชาวเน็ตออกมาตั้งข้อสังเกต โดยเฉพาะอินสตาแกรมหนุ่มสงกรานต์โพสต์ภาพมือปริศนากำลังลูบเสือในสวนสัตว์โบนันซ่า ทำให้ชาวเน็ตคาดเดากันยกใหญ่ว่ามือดังกล่าวจะเป็นสาวคนไหน โยงไปถึงเน็ตไอดอลรุ่นแรก บอลลูน พินทุ์สุดา ที่ทาสีเล็บคล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังถ่ายรูปเสือตัวเดียวกัน และเช็กอินที่เขาใหญ่บ่อยๆ สุดท้ายแล้วกลายเป็นญาตินายสงกรานต์ ซึ่งน้องชาย ภูผา เตชะณรงค์เคยนำมาลงในไอจีสตอรี่ ปิดฉากมหากาพย์เผือกไปโดยปริยาย

อันดับ 6 : ดรามารถไฟฟ้า MRT "ถอดเก้าอี้แถวกลาง" รฟม. เชียร์ "บีอีเอ็ม" ไม่ผิดสัมปทาน

ทำเอาคนเมืองกรุงฯ งงเป็นไก่ตาแตก เมื่อวันที่ 20 พ.ย. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีอีเอ็ม ผู้ให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล หรือ รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ระบุว่า ได้เพิ่มพื้นที่ว่างในขบวนรถไฟสายสีน้ำเงิน โดยถอดเก้าอี้นั่งผู้โดยสารออกเฉพาะที่นั่งแถวกลาง เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้มากขึ้น เริ่มทดลองให้บริการเป็นขบวนแรก ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์แก่ชาวเน็ตอย่างกว้างขวาง เพราะแทนที่จะจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าใหม่ หรือเพิ่มความถี่ในการเดินรถ อีกทั้งที่ผ่านมามีผู้โดยสารใช้บริการอย่างหนาแน่นในชั่วโมงเร่งด่วน สถานีกลางทางต้องรอคิวกว่าจะได้ขึ้นไปใช้บริการ



อย่างไรก็ตาม หลังทราบเรื่อง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวผิดสัญญาสัมปทานหรือไม่ แต่เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นายรณชิต แย้มสอาด ที่ปรึกษารักษาการรองผู้ว่าการ รฟม. ลงพื้นที่สถานีเตาปูน ระบุว่า ไม่ผิดสัญญาสัมปทาน เพราะระบุเป็นความจุในขบวนรถเท่านั้น แม้จะหายไป 42 ที่นั่ง แต่เพิ่มพื้นที่ยืนเข้าไปแทนได้ 90 คนต่อขบวน ขณะที่ นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บีอีเอ็ม ระบุว่า การถอดที่นั่งรถในตู้แถวกลางออกเป็นมาตรการชั่วคราว ระหว่างรอรถขบวนใหม่ 35 ขบวน ที่อยู่ระหว่างการผลิตจากบริษัทซีเมนส์ คาดว่า 3 ขบวนแรกจะให้บริการปลายปี 2561 และจะครบทั้ง 35 ขบวนในปี 2562
ที่มาภาพ : ข่าวสด
อันดับ 7 : รักลูกให้ถูกทาง! พ่ออดีตบิ๊กทหารพังป้าย "รีคอน" เหตุลูกบาดเจ็บ-ออกจากการฝึก

เรื่องอื้อฉาวในหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พ.ย. พล.ร.ต. เบญจพร บวรสุวรรณ นายทหารนอกราชการ ได้ขับรถเข้าไปที่แผนกวิชาการรบพิเศษ แล้วด่าทอเจ้าหน้าที่ในแผนก ก่อนทำลายแท่นรับการเคารพ พร้อมทั้งชิงอาวุธปืนเอ็ม 16 ของหน่วยไปด้วย เนื่องจากไม่พอใจที่ ร.ต.ตถาพร บวรสุวรรณ หรือ โบกัส อายุ 23 ปี บุตรชาย ซึ่งเป็นนักเรียนรบพิเศษ หมายเลข 78 ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกหลักสูตรการรบพิเศษแขนงการลาดตระเวน สะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจม นาวิกโยธิน หรือรีคอน และเมื่อต้องเข้าโรงพยาบาลต้องรักษาตัวเกิน 24 ชั่วโมง ทำให้พ้นสภาพการเป็นนักเรียนหลักสูตรรีคอน

ต่อมา วันที่ 20 พ.ย. อดีตนักเรียนหลักสูตรรีคอน ร่วมพบปะและให้กำลังใจครูฝึกหลักสูตรรีคอน หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ ด้านแผนกวิชาการรบพิเศษชี้แจงเพิ่มเติม ว่า ร.ต.ตถาพรบาดเจ็บจากการฝึก โดยได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 2 ครั้ง ครั้งแรกมีอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้าย แต่ยังเข้ารับการฝึกต่อได้ กระทั่งระหว่างการฝึกปัญหาต่อเนื่อง 60 ชั่วโมงบาดเจ็บอีกครั้ง กระดูกซี่โครงซี่ที่ 7-8 ขวาหัก และมีภาวะเป็นลมแดด กล้ามเนื้ออักเสบ จึงไม่สามารถเข้ารับการฝึกต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ สั่งการให้ตรวจสอบและสอบสวนแล้ว และสั่งให้ครูฝึก 2 นายระงับการสอนเพื่อความกระจ่าง ส่วน พล.ร.ต. เบญจพร อ้างว่าไม่ได้ขโมยปืนเอ็ม 16 แค่เอาปืนไปทำความสะอาดเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น