เผยบันทึกไดอารี่ที่เขียนด้วยลายมือ “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารที่เสียชีวิต กังขา โดนต่อยท้อง - ลงนรก โต้กลับย้ำน้องแข็งแรง ดูที่เขียนหัวใจแกร่งแค่ไหน
เฟซบุ๊ก “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” เผยแพร่เอกสารที่เขียนด้วยลายมือของ “น้องเมย” นรต.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารขณะมีชีวิตอยู่ ระบุว่า เป็นบันทึกไดอารี่ที่เขียนด้วยลายมือ เป็นการเขียนถึงชีวิตประจำวัน และความรู้สึกของการใช้ชีวิตภายในรั้วโรงเรียนเตรียมทหาร ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 60 วันนี้เขาจากครอบครัวไปแล้ว หากน้องเมยยังมีชีวิตอยู่พ่อแม่คงได้เห็นความสำเร็จ เติบโตในหน้าที่ราชการอย่างที่เขามุ่งมั่น
โรงเรียนเตรียมทหารต้องปลูกฝังวัฒนธรรมแบบทหารที่ต้องมีวินัย ซึ่งย่อมไม่ใช่การ “ทำร้ายร่างกาย” แต่ในวันที่ 26 พ.ค. 60 น้องเมยได้เขียนว่า “เช้ามาก็โดนต่อยท้องไปหมัดนึงจุกโคตรเลย แถมตกกลางคืนมามีลงนรกอีก เหนื่อยมาก”
ในท้ายไดอารี่ น้องเมยเขียนย้อนไปถึงความภาคภูมิใจที่ผ่านการทดสอบพละรอบ “สถานีดึงข้อ” ได้คะแนนเต็ม ท่อนสุดท้ายเขาเขียนถึงกำลังใจจากครอบครัว ใจความว่า “ผมบอกพ่อไว้ว่าวันสอบพละจะถึง 20 ครั้งให้ดู และแล้วก็ถึงคิวผม (ก่อนหน้าคิวผมคือใจผมสั่นแรงมาก) ผมก็ขึ้นราวดึงข้อ พอกรรมการให้สัญญาณว่าปล่อยตัวลงดิ่ง ผมก็ปล่อย พอกรรมการบอกเชิญดึง ผมดึงแบบไม่สนใจกรรมการเลย เพราะเราดึงถูกท่า ผมทำตามที่พ่อสอน 14 ทีแรกดึงรวดเดียว พอทีที่ 15 ขึ้นไปผมเริ่มแรงจะหมด เข้าทีที่ 18 แรงกลับมาได้ทีที่ 19 แม่ตะโกนมา “เมยได้อีก” เท่านั้นแหละได้ทีที่ 20 เลย”
ที่อ้างว่า ร่างกายของน้องไม่แข็งแรง ก็ดูเอาที่น้องเขียนแล้วกันว่าหัวใจแกร่งแค่ไหน เมื่อไปดูประวัติการรักษาที่ครอบครัวเอาให้ผมดู มีแต่ปวดหัวตัวร้อน ไม่มีอะไรที่บ่งบอกอาการ ยกเว้นหลังวันที่ 23 สิงหาคม 2560 ที่ไปโดนเรื่อง “ธำรงวินัย” (ถูกซ่อม หรือ โดนแดก)
ท้ายสุด ครอบครัวของน้องเมยทิ้งคำถามไว้ให้โรงเรียนเตรียมทหารอันเก่าแก่ ซึ่งผลิตบุคลากรไปทำหน้าที่รับใช้ชาติมายาวนานว่า “ความจริงที่อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของน้องเมยคืออะไร?” แล้วหากครอบครัวตัดสินใจเผาร่างของน้องเมยไป แต่ไม่ได้ “สมอง” และ “หัวใจ” ที่ทำให้เขาได้เข้าโรงเรียนเตรียมทหารคืนมา ครอบครัวจะรู้สึกอย่างไร? ช่างยากเกินคำบรรยายจริงๆ
--- แผ่นที่ 1 ---
36 วัน ชีวิตใน AFAPS ช่วง นักเรียนใหม่
17 พ.ค. 60 เป็นอีกวันที่ผ่านมาได้ วันนี้มีทำความรู้จักกับหัวหน้ากองพันทั้ง 4 คน + หัวหน้านักเรียน ยอมรับว่าเหนื่อย แต่เมื่อจบก็หายเหนื่อย นับเป็นอีกวันที่ดีใจมากที่ปล่อยม้าแล้วเราได้ตับแรก ตับละ 10 คน แต่ตอนวิ่งก็ฝืนไว้เพราะอยากได้คำว่า “ภูมิใจที่ครั้งหนึ่งเคยทำ”
18 พ.ค. 60 เป็นวันที่ครบ 4 อาทิตย์ในรั้วจักรดาว ก็มีหลายๆ อย่างเปลี่ยนไปทั้งท่าทาง บุคลิก ฯลฯ วันนี้นักเรียนใหม่เริ่มมีสิทธิ์มากขึ้น คือไม่ต้องนำฝามาวางบนหัว ทำให้การทานข้าวเร็วขึ้น แต่ทำไมนะถึงโดนอบรมแต่เรื่องเดิมๆ เพราะว่าไม่ช่วยกันไง
19 พ.ค. 60 วันนี้มีแจกของให้ มีหมวกศึกษา, สายเข็มขัด, กางเกงพละ, เสื้อยืด หลังจากแจกครบก็ทำการขุดก้นโดยนำของวางบนฉาก
20 พ.ค. 60 เป็นอีก 1 วันที่ผ่านมาได้ด้วยดี วันนี้มีการมาร้องเพลง - เต้น ฯลฯ โชว์ ให้นักเรียนผ่อนคลาย วันนี้เท่ากับอยู่มาแล้วเดือนนึง
21 พ.ค. 60 อบรมกันแต่เช้า วันนี้มีทำเวรโดนพุ่งหลังไป 300 ยก แล้วก็ไปออกกำลังกายตามลำพัง วันนี้ไปเล่นห้องเวทมา พอกลางคืนก็เจอพี่รหัส พี่รหัสผมเป็นพี่ที่หุบเขามังกรลับ ทำให้ผมดีใจมากเลย
22 พ.ค. 60 Fancy drill วันนี้มีมาแนะแนวว่าแต่ละตำแหน่งเป็นอย่างไร ก็บอกได้เลยว่าสนุกปนเหนื่อย แล้ววันนี้มีทำบัตร ATM อีก นี่คือบัตรใบแรกเลยนะ
23 พ.ค. 60 ไม่มีอะไรมากวันนี้ เป็นอีกวันง่ายๆ อีกวันหนึ่งที่ผ่านไปได้ สัปดาห์หน้าจะขุดจักรดาวแล้ว
24 พ.ค. 60 ภาระเริ่มมาแล้ว คือง่ายๆ คือมีรองเท้าคู่ใหม่ รองเท้าหนังสีดำ ภาระที่เพิ่มคือต้องขัดให้เงา ฮือๆ ขัดไม่เป็น
25 พ.ค. 60 ใส่รองเท้าวันแรก ฮือ ใส่ยากจังทำไมมันยัดยากมาก วันนี้ลองใส่วิ่งดูมันก็กัดนิ้วเท้าไปอีก แต่แปลกวันนี้ผู้ช่วยบอกฟังเรื่องอบรม ไม่มีเรื่องอบรม เกือบดีละ ถ้าเพื่อนจำชื่อ หน.นร. ไม่ได้ เหนื่อยดีจัง อดทนไว้สัปดาห์หน้าจะได้กลับบ้านแล้ว
26 พ.ค. 60 เช้ามาก็โดนต่อยท้องไปหมัดนึงจุกโคตรเลย แถมตอนกลางคืนมามีลงนรกอีก เหนื่อยมาก
27 พ.ค. 60 “วันนี้ไม่มีเรื่องอบรม มีแต่เรื่องขุดจักรดาว หมู่เวรฯ ขอดูหน่อย ขอ”
--- แผ่นที่ 2 ---
“อดีต
ภูมิใจมากที่ติดเตรียมทหารทั้งรอบวิชาการและพละฯ
ก็ถือได้ว่า ได้พิสูจน์สิ่งที่ตั้งใจมา 3 ปี ตั้งใจขนาดที่ยอมหยุดเรียนเพื่อเป็นในสิ่งที่ฝัน ผมต้องฟันฝ่าทั้งคำดูถูก คำว่า คำสบประมาทของผู้อื่น รวมทั้งของตัวผมเอง ผมดูถูกตัวผมเองไว้ว่า “หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม” เพราะเวลาซ้อมผมทำได้ดี แต่เวลาทำจริงกลับจะทำไม่ได้
สุดท้ายก็ฝ่ามาได้สอบพละฯ เหล่าทหารบกเป็นอะไรที่บอกได้เลยว่า เหล่าทหารบกนี้เป็นเหล่าของพวกบ้าพลัง วันที่ผมสอบพละฯ แผลที่เข่าซ้ายยังหายไม่ดีนัก ทำให้พ่อ - แม่ - พี่สาว - ครูที่ติว - โค้ช เป็นห่วงมาก แต่ตัวผมทำใจให้โล่งแล้วทำให้ดีที่สุด โดยในสถานีเช้า มี 6 สถานี สถานีละ 100 คะแนน ผมค่อยๆ ไล่ทีละสถานี ลุกนั่ง 30 วิเต็ม, กระโดดไกลเต็ม, นั่งออตัวครั้งแรกไม่เต็ม (ขาด 1 เซนติเมตร) ครั้งที่สองเต็ม วิ่ง 50 เมตรได้ 74 วิ (เกินไป 0.4 วิ), พอถึงสถานีดึงข้อผมก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว เพราะอยู่สถาบันติวขณะนั้นดึงข้อเหลือแค่ 16 ครั้งแต่ผมบอกพ่อไว้ว่าวันสอบพละจะถึง 20 ครั้งให้ดู และแล้วก็ถึงคิวผม (ก่อนหน้าคิวผมคือใจผมสั่นแรงมาก) ผมก็ขึ้นราวดึงข้อ พอกรรมการให้สัญญาณว่าปล่อยตัวลงดิ่ง ผมก็ปล่อย พอกรรมการบอกเชิญดึง ผมดึงแบบไม่สนใจกรรมการเลย เพราะเราดึงถูกท่า ผมทำตามที่พ่อสอน 14 ทีแรกดึงรวดเดียว พอทีที่ 15 ขึ้นไป ผมเริ่มแรงจะหมด เข้าทีที่ 18 แรงกลับมาได้ทีที่ 19 แม่ตะโกนมา “เมยได้อีก” เท่านั้นแหละได้ทีที่ 20 เลย”