MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอต ที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGROnline Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
หมายเหตุ : เนื่องจากเว็บไซต์ MGR Online กำลังปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ ต้องการชมเนื้อหาย้อนหลัง คลิก https://bit.ly/mgrtop7 ขออภัยในความไม่สะดวก
สรุปข่าวประจำวันที่ 11 - 17 พ.ย. 2560
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสิ่งของ "ตูน บอดี้สแลม" เป็นกำลังใจในการทำความดี
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรที่ออกมาทำความดีเพื่อชาติบ้านเมือง วันที่ 15 พ.ย. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ เชิญสิ่งของพระราชทาน ให้นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม นักร้องชื่อดัง และคณะโครงการก้าวคนละก้าว วิ่งระยะทาง 2,191 กิโลเมตรจาก อ.เบตง จ.ยะลา ถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อขอรับการบริจาคเงิน เป้าหมาย 700 ล้านบาท ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลศูนย์ 11 แห่งทั่วประเทศ ในการนี้ พล.อ.ท.ภักดี ได้เชิญพระราชกระแสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง และปฏิบัติภารกิจสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
ด้านนายอาทิวราห์ กล่าวว่า ถือเป็นเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงเมตตา มองเห็นในสิ่งที่พวกเราทำ ตอนนี้แม้ยังไม่ถึงปลายทาง พระองค์ท่านทรงมองเห็นและพระราชทานกำลังใจ และยังส่งขนมนมเนย วิตามิน น้ำ เหมือนยาวิเศษที่ทำให้เราได้ไปต่อ ถ้าเราผ่านไปถึงวันที่ 55 ได้ วันนี้จะเป็นวันที่สำคัญที่สุด ที่พวกเราได้เติมพลัง พระองค์ท่านไม่ได้มองเห็นเพียงผมคนเดียว แต่ยังชื่นชมทีมงาน ทีมแพทย์ ทีมนักวิ่ง ทีมงานที่ตื่นก่อน นอนทีหลัง และเจ้าหน้าที่ดูแลอีกมากมาย รวมทั้งขอขอบคุณที่ส่งกำลังใจและร่วมบริจาคเงิน และขอบคุณแทนคุณหมอ พยาบาลทั่วประเทศ ที่ทำงานอย่างหนัก ท่ามกลางสถานการณ์ที่ลำบาก เป้าหมายของตนยังอีกไกล และหวังว่าจะได้ความเมตตาเงินบริจาคจากคนไทยใจดีทุกคน
ขณะที่เรื่องราวระหว่างทาง แม้ว่าตูนจะวิ่งไปได้ 1 ใน 4 ของระยะทาง 2,191 กิโลเมตร แต่ก็มีความประทับใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ตูน บอดี้สแลม ได้พบกับนายจิมมี่ ชวาลา นักธุรกิจค้าผ้าชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่บริจาคเงินในนามประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช 1.6 ล้านคน รวม 16 ล้านบาท พร้อมให้กำลังใจทำความดีต่อไป และเมื่อวันที่ 16 พ.ย. มาถึง จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีวีดีโอคลิปบนโลกโซเชียล เมื่อน้องมาร์ค หรือ ด.ช. ปรเมศวร์ พุ่มพร นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนยุวศึกษา รอบริจาคและถ่ายเซลฟี่กับตูนด้วยโหมดวีดีโอ พร้อมกล่าวขอความร่วมมือประชาชนอย่าล้ำเส้นตัดหน้า แต่ตูนกลับวิ่งเลยไป กลายเป็นคลิปที่มีคนดูนับล้านและประทับใจ แต่ภายหลังทีมงานจัดเซอร์ไพรส์ให้น้องมาร์คได้เจอกับตูน ถึงบนรถบัสที่พัก โดยได้ถ่ายเซลฟี่และมอบลูกฟุตบอลพร้อมลายเซ็นกลับไป
อันดับ 2 : เมา-ไม่เมา? "หมอยอร์น" ขับรถชนประตูกระทรวงสาธารณสุข-ยามสาหัส
แม้ว่าเรื่องราวจะเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ย. เวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง แต่ถ้าไม่มีคลิปปรากฎบนโลกโซเชียล สังคมไทยก็คงจะไม่ได้เห็นพฤติกรรมขับรถโดยประมาทเช่นนี้ โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ย. วีดีโอคลิปบนโลกโซเชียลเผยให้เห็นถึงรถเก๋งสีขาว ขับพุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในกระทรวงสาธารณสุข บริเวณประตูฝั่งสถาบันบำราศนราดูร ขณะปิดประตู แทนที่จะลงมาดูแลผู้บาดเจ็บ กลับขับรถลากไปไกลกว่า 20 เมตรจนแน่นิ่ง ทราบชื่อ รปภ. ภายหลัง คือ นายสมชาย ยามดี หรือ นัด อายุ 22 ปี ส่วนคนขับรถทราบชื่อคือ นพ.ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศก์เขต 12 ซึ่งแถลงข่าวระบุว่า ยอมรับในสิ่งที่กระทำและผลที่ตามมา แต่วันเกิดเหตุคิดว่าขับรถชนประตู ไม่ทราบว่าชนคน เมื่อถามว่าได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก่อนหรือไม่ นพ.ยอร์นกล่าวว่า ให้ข้อมูลกับทางตำรวจแล้ว
อย่างไรก็ตาม คดีนี้สังคมให้ความสนใจ ทำให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ลงมาดูคดีนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ นพ.ยอร์น ไม่ยอมเป่าวัดแอลกอฮอล์กับตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี อ้างว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 1. ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 2. ดื่มสุราขณะขับขี่รถยนต์ 3. ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานกรณีไม่ยินยอมให้เป่าแอลกอฮอล์ และ 4. พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะหลังชน รปภ. ได้หยุดรถประมาณ 25 วินาที แล้วขับรถทับผู้บาดเจ็บลากไปกับถนน ถือว่าต่างกรรมต่างวาระ โดย นพ.ยอร์นใช้ตำแหน่งและหลักทรัพย์ 5 แสนบาทประกันตัว ต่อมาเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาท เฉี่ยวชนแล้วไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้น นพ.ยอร์น ให้การปฏิเสธ ส่วนอาการบาดเจ็บของ รปภ. ที่รักษาตัวใน รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี พบว่าผ่านไป 1 สัปดาห์ ยังไม่พ้นขีดอันตราย
อันดับ 3 : ครม.ฝุ่นตลบ! "ประยุทธ์" ย้ำแล้ว "ประวิตร-อนุพงษ์" ยังอยู่
หลัง พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ลาออกจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน พบว่ามีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 1/5 เกิดขึ้น ตั้งแต่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปประชุมเอเปกที่เวียดนาม และประชุมอาเซียนฟิลิปปินส์ โดยพบว่ามีรัฐมนตรีบางคนเก็บของ เช่น นายออมสิน ชีวพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี แม้ทั้งคู่จะปฏิเสธไม่เกี่ยวกับการปรับ ครม. ขณะที่เมื่อวันที่ 16 พ.ย. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่งให้ลูกน้องเก็บของและจัดระเบียบห้องทำงาน แม้ พล.อ.ฉัตรชัยจะกล่าวว่า จะอยู่หรือไปขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า จะไปเป็น รมว.แรงงาน แทน พล.อ.ศิริชัย นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม งดภารกิจตั้งแต่ 15 พ.ย. ภายหลังมีคนชี้แจงว่าไปตรวจสุขภาพ และแพทย์สั่งให้พักผ่อน 3 วัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ พบว่าหลังกลับจากประเทศฟิลิปปินส์เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้งดภารกิจที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ยังทำเนียบรัฐบาลตามปกติ กระทั่งวันที่ 17 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์เรื่องปรับ ครม. กับนักข่าวครั้งแรก ระบุว่า รายชื่อ ครม. ชุดใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังจะทำเอกสารเพื่อขึ้นทูลเกล้าฯ พร้อมปฏิเสธว่าจะนั่งตำแหน่ง รมว.กลาโหมควบคู่กัน พร้อมยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยังอยู่ทั้งสองคน ส่วน พล.อ.ฉัตรชัย อยู่ไหนก็ไม่รู้ และปฏิเสธว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. อยู่ใน ครม. ชุดใหม่ และไม่มีนักการเมือง คาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้จะแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม วันเดียวกัน พบว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ลาออกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว คาดว่าจะนั่งเป็น รมว.แรงงาน แทน พล.อ.ศิริชัยที่ลาออกไป
อันดับ 4 : สำนวนไม่น่าเชื่อถือ! ศาลฎีกาไม่รื้อคดี "ครูจอมทรัพย์" แพะขับรถชนคนตาย
อีกหนึ่งคดีที่สังคมเคยให้ความสนใจและลืมเลือนกันไปได้กลับมาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ศาลจังหวัดนครพนมมีคำพิพากษาในชั้นฎีกายกคำร้อง กรณีที่ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครูชาว จ.สกลนคร ที่ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครพนมขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่ หลังถูกตำรวจ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม ดำเนินคดีในข้อหาขับรถชนนายเหลือ พ่อบำรุง อายุ 75 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2548 และต่อสู้คดี จนศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี 2 เดือน แต่ภายหลังถูกจำคุก 1 ปี 6 เดือน ก็ได้รับการอภัยโทษเมื่อปี 2558 ก่อนที่จะร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา และขอให้รื้อคดีขึ้นมาใหม่ กระทั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 สั่งพิจารณารื้อคดี
เหตุผลในการยกคำร้องโดยสรุปว่า พยานหลักฐานที่นางจอมทรัพย์นำสืบในช่วงวันที่ 8-10 ก.พ. โดยเฉพาะ นายสับ วาปี อายุ 61 ปี ที่สารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุนั้น ในวันสืบพยานกลับไม่ได้นำตัวขึ้นเบิกความในชั้นศาล แม้ว่าจะมาศาลก็ตาม ขณะที่ นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ พยานที่เห็นเหตุการณ์ ศาลเห็นว่าคำให้การไม่น่าเชื่อถือ เพราะให้การวกไปวนมาและไม่เหมือนเดิมทั้ง 3 ครั้ง พยานคนอื่นอย่างเช่น นางทองเรศ วงศ์ศรีชา ซึ่งนางทัศนีย์อ้างว่าเป็นผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ในวันที่เกิดเหตุก็ไม่ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนตั้งแต่แรก แต่มาปรากฏตัวในภายหลัง นอกจากนี้ ในสำนวนนายสับไม่น่าเชื่อถือ อ้างว่าได้ขับรถเพื่อที่จะออกไปหาซื้อไม้ยูคาลิปตัสมาขาย แต่ช่วงเกิดเหตุประมาณ 2 ทุ่ม ซึ่งผิดปกติวิสัยของผู้ที่จะรับซื้อไม้ หลังตัดสิน นางจอมทรัพย์รู้สึกเสียใจแต่น้อมรับคำตัดสินของศาล ขณะที่ พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิราพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีในขณะนั้น กล่าวว่า จะดำเนินคดีผู้ที่มาเป็นพยานข้อหาให้การเท็จ ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 9 คน
อันดับ 5 : สิ้น "โจ บอยสเก๊าท์" หัวใจวายคาเวที
นับเป็นความสูญเสียบุคคลในวงการบันเทิงอีกรายหนึ่ง เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 11 พ.ย. นายธนัท หรือธเนศ ฉิมท้วม อายุ 44 ปี หรือ "โจ บอยสเก๊าท์" นักร้องชื่อดังนอนหมดสติอยู่บนเวทีภายในร้านคัลเลอร์บาร์ ซอยลาดพร้าว 94 เขตวังทองหลาง กทม. ขณะกำลังเล่นคอนเสิร์ต ร่วมกับ นายทรงพล หรือธนพงศ์ คล้ายพงศ์พันธุ์ หรือ "ดิ๊บ บอยสเก๊าท์" และนายวินรวีร์ หรือฌานิศ ใหญ่เสมอ หรือ "ต๊ะ บอยสเก๊าท์" ก่อนนำส่งโรงพยาบาลลาดพร้าว แต่แพทย์กระตุ้นหัวใจนานกว่า 30 นาที ไม่เป็นผล เสียชีวิตลง จากนั้นได้นำศพวัดสายไหม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยมีแฟนเพลงและเพื่อนร่วมวงการบันเทิงมาร่วมงานจำนวนมาก
ต่อมาระหว่างพิธีรดน้ำศพ มีนายโชคชัย หรือไอซ์ อุชชิน อายุ 27 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอ้างว่าเป็นลูกชายของ นักร้องหนุ่ม โจ บอยสเก๊าท์ ที่เกิดกับ "น้ำ" น.ส.นันนทิยา อุชชิน อดีตภรรยา ตั้งแต่สมัยเป็นบาร์เทนเดอร์ แต่แยกทางกันก่อนเข้าวงการบันเทิง เข้าเคารพศพและแนะนำตัวกับนายสัมฤทธิ์ ฉิมท้วม ผู้เป็นปู่ สร้างความฮือฮาให้กับครอบครัวของโจ บอยสเก๊าท์ เพราะไม่เคยรู้มาก่อน ขณะที่ต๊ะ บอยสเกาท์ เคยทราบว่ายังไม่เข้าวงการก็เคยมีแฟนแล้วมีลูกกัน ครั้งสุดท้ายทราบว่าเขาไปนัดเจอกับลูกชาย อย่างไรก็ตาม ทั้งฝ่ายพ่อของโจ และนายโชคชัยได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว นายโชคชัยได้บวชหน้าไฟอุทิศส่วนกุศลด้วย
อันดับ 6 : ล็อกเก็ต "พี่นวล" สะพัดโซเชียล อ้างเมตตามหาเสน่ห์-บูชาแล้วรวย
กลายเป็นกระแสที่เกี่ยวข้องกับความเชื่ออย่างหนึ่ง เมื่อมีภาพล็อกเก็ตเป็นเครื่องลางของขลังที่ชื่อว่า "พี่นวล" ปรากฎอยู่บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีสรรพคุณบูชาแล้วรวย โดดเด่นเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ สนนราคาบูชาขนาดเล็ก 800 บาท ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 4-6 หมื่นบาท รวมทั้งอ้างว่า กำลังเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ตำนานของ "พี่นวล" ถูกเปิดเผยโดยอดีตนักร้องฝาแฝด “แจ๊ค - จิลล์” จักรพันธ์ - จักรพงศ์ การสมพรต ระบุว่า พี่นวลเป็นหญิงสาวชาวบ้าน จังหวัดหนึ่งในภาคกลาง ถูกควายเผือกไล่ขวิดจนตายกลางทุ่งนา ขณะตั้งท้องได้ 7 เดือน เมื่อ พ.ศ. 2521 ภายหลังพบว่าวิญญาณพี่นวลเกิดความเฮี้ยนขึ้น
เมื่อชาวบ้านทนไม่ได้ จึงเชิญอาจารย์ผู้มีวิชาสะกดวิญญาณจากจังหวัดอื่นมาทำพิธีสะกดวิญญาณ ใช้เวลา 3 วัน 3 คืน จึงสงบลง โดยจัดพิธีการเจาะเอากะโหลก หัวส่วนหน้าของ “นวล” ที่เรียกว่า “ปั้นเหน่ง” เจาะกระโหลกขนาดเท่าฝ่ามือหรือเท่ากะลามะพร้าว นำมาทำพิธีปลุกเสกด้วยมนต์คาถาอาคมให้ใช้ในทางให้คุณ จากนั้น ปั้นเหน่งชิ้นนี้ก็ถูกส่งต่อมาอยู่กับแจ๊คและจิลล์ ก่อนที่จะนำมาทำล็อกเก๊ตนี้ ผมได้ฝันถึง 2 รอบ และอ้างว่าก่อนทำล็อกเก๊ตนี้ ฝันถึง 2 รอบ ไปถามอาจารย์ที่นับถือระบุว่า อยากให้ทำล็อกเก๊ตตามความฝันที่พี่นวลได้มาสั่งไว้ อย่างไรก็ตาม ได้แนะว่าห้ามผิดลูกผิดเมียคนอื่น
อันดับ 7 : กอดนี้เสี่ยงตาย! "จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม" สวมกอด "ไข่มุก BNK 48" ถูกด่าคุกคามทางเพศ
กลายเป็นประเด็นดรามาในวงการบันเทิง เมื่อรายการเมนูพิชิตใจ ทางช่อง 3 เมื่อวันที่ 13 พ.ย. พบว่าตลกอย่าง "จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม" ทีเผลอเข้าไปกอด "ไข่มุก" วรัทยา ดีสมเลิศ หนึ่งในสมาชิกวง BNK48 (บีเอ็นเคโฟร์ตีเอท) ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปไทยสไตล์ญี่ปุ่น หนึ่งในวงน้องสาวอย่างเป็นทางการของ AKB48 ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น แล้วมีเฟซบุ๊กเพจ "นักกอดหมอนออนไลน์" ออกมาวิจารณ์ว่า การเล่นมุกดังกล่าวเป็นการคุกคามทางเพศ รวมทั้งผู้ที่มีชื่อเสียงบนโลกอินเตอร์เน็ตอย่าง "จ่าพิชิต ขจัดพาลชน" ก็ออกมากล่าวว่า มุขแบบนี้เห็นในทีวีไทยบ่อยจนน่าเหนื่อยใจ แต่พิธีกรกลับทำเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ด้านเฟซบุ๊กเพจของรายการ ได้ออกมาขอยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางจุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และพร้อมที่จะนำประสบการณ์ครั้งนี้มาเป็นบทเรียน โดยได้ติดต่อกับทางทีมผู้ดูแล BNK48 และไข่มุกเพื่อขอโทษและแสดงความเสียใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม มีการถกเถียงกันถึงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง แต่สาเหตุสำคัญคือ วัฒนธรรมไอดอลแบบญี่ปุ่นเป็นสิ่งแปลกใหม่ในสังคมไทย โดยที่ทีมงานรายการอาจรู้จักแขกรับเชิญน้อยเกินไป เช่น การได้จับมือสมาชิกในวง BNK48 คนใดคนหนึ่งจะต้องมีบัตรจับมือที่แถมมากับแผ่นซิงเกิลหรือของที่ระลึก และมีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
สำหรับวง BNK48 ปัจจุบันมีสมาชิกในวงทั้งหมด 28 คน โดยมี "เฌอปราง" เฌอปราง อารีย์กุล เป็นกัปตันทีมของวง และมีสมาชิกที่โดดเด่นภายในวงอย่าง "มิวสิค" แพรวา สุธรรมพงษ์ "เจนนิษฐ์ – เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ, "แก้ว" ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ, "ซัทจัง" สวิชญา ขจรรุ่งศิลป์", "มิโอริ โอคุโบะ" ฯลฯ ค่อยๆ เริ่มเป็นที่รู้จักจากผู้ที่ชื่นชอบผลงานไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปจากญี่ปุ่นอยู่แล้ว และบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกโซเชียล อย่าง จ่าพิชิต ขจัดพาลชน, หมอแล็บแพนด้า, อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ฯลฯ ขณะนี้มีผลงานเพลง "คุกกี้เสี่ยงทาย" (Koisuru Fortune Cookie) ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก พร้อมสร้างกระแสแฟนคลับเต้นคัฟเวอร์เพลงดังกล่าวเพื่อร่วมถ่ายทำเอ็มวี จนทำให้วงเริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง