เรื่องราวของร้านคาเฟ่สัตว์ที่ถูกอดีตพนักงานแฉว่า ไม่มีความรับผิดชอบ ปล่อยให้สัตว์ตายเดือนละเกือบ 10 ตัว แม้จะมีการเตือนของสัตวแพทย์แล้วก็ยังนิ่งเฉย ก่อนร้านดังกล่าวจะออกมาโพสต์แก้ตัวเรียบร้อย
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Itsarachai Beerleo Niyomrad” ได้โพสต์ข้อความถึงร้านคาเฟ่สัตว์แห่งหนึ่งย่านสยามสแควร์ โดยทางผู้โพสต์ได้บอกว่าร้านคาเฟ่ดังกล่าวนี้ไม่มีความรับผิดชอบ ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำๆ โดนเหตุการณ์ที่ว่านั้นคือ การปล่อยให้สัตว์ในคาเฟ่เสียชีวิต ภายในเดือนหนึ่งได้มีสัตว์เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 7 - 8 ตัว ส่วนใหญ่จะตายจากสาเหตุลำไส้อักเสบและโรคที่เรียกว่า “พาโว” ทั้งนี้ ทางผู้โพสต์ได้บอกอีกว่า ทางสัตวแพทย์ได้มีคำเตือนมาว่า ให้แยกสัตว์ตัวที่ป่วยออกและพาไปหาหมอ แต่ก็ยังไม่เชื่อตามที่สัตว์แพทย์เตือน ทั้งนี้ รู้สึกสงสารสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ที่ถูกเอามาเป็นเครื่องมืออย่าน่าสงสาร
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ (30 ต.ค.) ทางเพจ “Kitties & Bears Cafe” ได้ออกมาโพสต์ข้อความแก้ข่าวที่โดนกล่าวหาในโลกโซเชียลว่า
“สวัสดีแฟนเพจ Kitties & Bears Cafe ทุกท่านนะคะ เนื่องจากพวกเราได้ทราบข่าวว่ามีโพสต์โจมตีคาเฟ่ของเราในเฟซบุ๊กส่วนตัว เราทุกคนรักสัตว์ทุกตัวในคาเฟ่ และเรามั่นใจว่า น้องๆ ของเราได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เราได้เชิญสัตวแพทย์มาตรวจน้องๆ ของเราและเช็กร่างกายตลอด 4 - 5 ครั้งต่อเดือน และได้ทำการส่งน้องที่ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์หากทราบว่าน้องป่วย สำหรับอาหาร เราก็ให้เฉพาะอาหารอย่างดีที่สุดแก่น้องๆ ของเรา รวมถึงทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เดทตอล และบลีช อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว เราก็ไม่สามารถเลี่ยงการติดเชื้อจาก Parvovirus ได้ ไวรัสตัวนี้เป็นไวรัสที่ร้ายแรงมาก แต่สามารถพบได้ทั่วไป สิ่งน่าเศร้าสำหรับไวรัสตัวนี้ก็คือน้องหมายังคงสามารถที่ติดไวรัสตัวนี้ได้แม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว โดยเฉพาะลูกหมาจะมีโอกาสติดเชื้อตัวนี้มากกว่า พอเราทราบอาการผิดปกติของน้อง เราก็รีบพาน้องไปหาหมอทันที แต่หมอก็ไม่สามารถช่วยน้องจากไวรัสตัวนี้ได้ ไวรัสตัวนี้ได้มาจากไหน?
ตามที่คุณหมอบอกมา คุณหมอบอกว่า สามารถติดจากลูกค้าหลายๆ ท่านได้ แม้ว่าเราจะได้จัดเตรียมสบู่ฆ่าเชื้ออย่างดีและมีน้ำยาฆ่าเชื้อ แต่ก็ยังมีโอกาสติดได้ และเชื้อไวรัสนี้ยังสามารถติดจากผู้ขาย และพนักงานที่มีน้องหมาที่บ้าน หรือลูกค้าที่สัมผัสน้องหมาที่มีเชื้อจากที่อื่นๆ เช่น น้องหมาจรจัด ก่อนเข้ามาเยี่ยมชมที่คาเฟ่ของเรา และยังสามารถติดเชื้อจากโรงพยาบาลได้อีกด้วย เราได้ทำอะไรบ้าง? เราดูแลน้องๆของเราอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เราได้พาน้องไปหาหมอหลายที่เพื่อเช็คดูอาการ เราได้ทำตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด IV drips, Saline solution, glucose administration, ให้ยาและดูแลน้องที่ติดเชื้ออย่างดี แต่ข่าวร้ายคือน้องหมาที่ยังเด็กของเราไม่สามารถต่อสู้กับไวรัสนี้ได้จนถึงขั้นเสียชีวิต แต่เราก็ยังมีข่าวดีคือตอนนี้น้องๆของเราทุกตัวมีภูมิคุ้มกันต่อ Parvovirus อย่างสมบูรณ์ หลังจากเหตุการณ์นี้ เราทำอะไรบ้าง?
เราให้พนักงานทุกคนมีการทำความสะอาดน้องๆและดูแลด้านสุขภาพต่อสัตว์ทุกตัว เราได้มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อคาเฟ่ของเราทุกวันตามนี้
- ทำความสะอาดชามน้ำทุกใบของน้องรวมถึงชามอาหาร
- ทำความสะอาดพื้นทุกซอกทุกมุมด้วยเดทตอล ไฮเตอร์ และน้ำส้มสายชูจากแอปเปิ้ล hydrogen peroxide และ baking soda รวมถึงเราได้ทำพื้นใหม่ทั้งหมดเป็น epoxy cell flooring และครอบคลุมถึงขอบและมุมห้อง
ตอนนี้คาเฟ่ของเราปราศจากเชื้อโรค 100% และเราสัญญาว่าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก โดยเฉพาะน้องหมาที่สามารถผ่านภาวะนี้ไปได้จนมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์จนมีภูมิคุ้มกันต่อ Parvovirus
คุณได้อ่านข้อร้องเรียนเกี่ยวกับจตุจักร ร้านขายสัตว์ ฟาร์มสัตว์ สัตวแพทย์ หรือเจ้าของสัตว์ คนก็จะโทษไปที่เจ้าของอย่างเดียว แม้ว่าความจริงแล้วเรามีการดูแลน้องๆของเราอย่างดี สมมติว่า มีเด็กป่วยเพราะโรงมะเร็ง คุณจะโทษคุณแม่ของเด็กมั้ย? ทั้งๆ ที่คุณแม่เลี้ยงเด็กมาอย่างดี ได้รับการดูแล และอาหารอย่างดีที่สุด คุณจะประนามคุณแม่ของเด็กคนนั้นให้ไปตายรึเปล่าหากเธอได้ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่มะเร็งก็พรากชีวิตของเด็กไป ในปัจจุบันนี้ มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนพวกนี้ที่จะทำลายชื่อเสียงของกิจการต่างๆ ถ้าทุกคนไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ คนพวกนี้อาจจะทำให้กิจการของเราปิดตัวลงเลยก็ได้ ได้โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบสำหรับกรณีนี้และตัดสินใจด้วยตัวคุณเองว่าคุณจะสนับสนุนคาเฟ่ของเราหรือจะเกลียดคาเฟ่ของเรา ตัวเลือกที่คุณเลือกและเสียงของคุณมีความหมายต่อเรามาก โปรดเห็นถึงความตั้งใจอันดีของเรา
เราอยากให้ทุกท่านพิจารณาและอย่าตัดสินเราเพียงเพราะคุณเห็นโพสต์ไม่ดี คุณสามารถแวะมาเยี่ยมคาเฟ่ของเราเพื่อดูด้วยตาของคุณเองว่าสัตว์ของเราสุขภาพดีแค่ไหน อาหารที่เราให้ก็เป็นสิ่งที่มีคุณภาพ สิ่งที่คุณหมอกล่าวเกี่ยวกับน้องๆ ของเรา ความสะอาดในคาเฟ่ การควบคุมกลิ่น ความสะอาดของชามต่างๆของน้อง เราทำความสะอาดพื้นบ่อยแค่ไหน คุณภาพของน้ำยาฆ่าเชื้อของเรา จำนวนของใบเสร็จจากการไปหาหมอ ขอบคุณมากค่ะ”
อย่างไรก็ตาม ได้มีชาวโซเชียลเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีเช่นนี้เป็นจำนวนมาก บ้างก็ตำหนิทางร้านที่ไม่มีความรับผิดชอบในการดูแลสัตว์อย่างเต็มที่