xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพเรือติดตั้ง “เรือผลักดันน้ำ” 55 ลำ เสริมระบายน้ำแม่น้ำท่าจีนลงสู่ทะเล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมเรือผลักดันน้ำ 15 ลำ ในแม่น้ำท่าจีน ใต้สะพานถนนพระราม 2 เผยติดตั้งแล้ว 55 เครื่องในสมุทรสาคร และ 7 เครื่องในนครปฐม ตั้งเป้าผลักดันน้ำลงทะเลให้ได้วันละ 1 แสน ลบ.ม. ต่อวินาที

วันนี้ (24 ต.ค.) ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ พร้อมด้วย นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้เดินทางไปตรวจการดำเนินการผลักดันน้ำของกองทัพเรือ ในแม่น้ำท่าจีน ซึ่งได้ติดตั้งบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ถนนพระราม 2 จำนวน 15 เครื่อง จากจำนวนทั้งหมด 55 เครื่อง ที่ได้ติดตั้งตามคำร้องขอของจังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ สะพานบางปลา ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร จำนวน 10 เครื่อง, สะพานพุทธมณฑลสาคร ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จำนวน 20 เครื่อง และสะพานบางยาง ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จำนวน 10 เครื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันน้ำลงสู่ทะเลให้ได้ 1 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

พล.ร.อ.นริส กล่าวว่า สถานการณ์ในแม่น้ำท่าจีนตั้งแต่ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สุพรรณบุรี จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร ตลอด 325 กิโลเมตร มีปริมาณน้ำสูงขึ้นจนเอ่อล้น ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี แต่เนื่องจากสภาพแม่น้ำมีความคดเคี้ยว ทำให้ระบายน้ำไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น กรมชลประทานจึงขอรับการสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำจากกองทัพเรือ เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำท่าจีนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเรือผลักดันน้ำมีประสิทธิภาพในการผลักดันน้ำได้ 24.2 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะสามารถดึงมวลน้ำในอัตรา 72.7 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที หรือประมาณ 7.2 หมื่นลิตรต่อนาทีใน 1 ชั่วโมง จะสามารถเร่งระบายน้ำได้ประมาณ 4.362 ล้านลิตร

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ โดยอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ได้จัดส่งขบวนรถลำเลียงเรือผลักดันน้ำ จำนวน 22 ลำ พร้อมกำลังพล 80 นาย เดินทางไปยัง จ.สมุทรสาคร ในการติดตั้งเรือผลักดันน้ำบริเวณสะพานแม่น้ำท่าจีน 15 ลำ และบริเวณวัดบางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม 7 ลำ เพื่อดำเนินการผลักดันน้ำจากในแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างให้ระบายลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กองทัพเรือได้ส่งเรือผลักดันน้ำ 12 ลำ ให้การสนับสนุนสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในเขตกรุงเทพฯ บริเวณคลองลาดพร้าวซอยลาดพร้าว 56 อุโมงค์พระราม 9 และคลองสามเสน บริเวณอุโมงค์บึงมักกะสัน และล่าสุด ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้จัดเรือหลวงมาวิชัย สนับสนุนการผลักดันน้ำร่วมกับเรือผลักดันน้ำอีก 7 ลำ บริเวณคลองลัดโพธิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ อีกด้วย

ด้าน นายสมเกียรติ กล่าวว่า สภาพของแม่น้ำท่าจีนมีลักษณะคดเคี้ยวและแบบราบ ทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ช้า แต่จากความร่วมมือของกองทัพเรือในครั้งนี้จะสามารถช่วยผลักดันให้การระบายน้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่ไหลอยู่ประมาณ 464 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลลงสู่อ่าวไทยได้เร็วขึ้น โดยมีการติดตั้งเรือผลักดันน้ำในแม่น้ำท่าจีนตั้งแต่วันที่ 23 - 24 ต.ค. รวม 55 ลำ โดยเรือผลักดันน้ำ 1 ลำ ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง มีประสิทธิภาพในการผลักดันน้ำได้วันละ 33,120 ลูกบาศก์เมตรต่อลำ รวมทั้งหมด 55 ลำ จะผลักดันน้ำได้รวมกันวันละ 1.8 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยเร่งระบายน้ำเหนือ และน้ำฝนที่ตกค้างอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและสุพรรณบุรีให้ออกสู่ทะเลทางแม่น้ำท่าจีนได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ กองทัพเรือจะปฏิบัติการผลักดัน จนกว่าสถานการณ์น้ำในลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ








กำลังโหลดความคิดเห็น