เป็นเวลากว่า 20 ปีที่ “หมี-สมศักดิ์ แก่นนาคำ” เซียนสะสมของเก่าวัย 35 ปีคนหนึ่ง ได้เก็บสะสมสิ่งของต่างๆ กว่าหนึ่งพันชิ้น เกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่ว่าจะเป็น พระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ เหรียญที่ระลึก เหรียญตราต่างๆ
ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเกิดขึ้นมาจากแรงบันดาลใจสั้นๆ คำนี้
...“ผมรักพระองค์ท่าน”...
• สะสมของเก่ายาวนานกว่า 20 ปี
ผมเก็บของเก่ามาเมื่อ 20 ปีที่แล้วครับ เรียนประมาณชั้นมัธยมปีที่ 3 - 4 ผมจะเป็นคนเก็บของเก่าที่ไม่เหมือนคนอื่น เพราะผมชอบเก็บของแปลก ไม่จำเป็นว่าจะมีราคาหรือไม่มีราคาก็ได้ แต่ทุกชิ้นล้วนมีคุณค่าทางจิตใจ การเสาะแสวงหาของเก่าของผม จะหาจากทั่วไปเลยครับ ไม่จำเป็นว่าจะต้องได้จากคนที่เก่งๆ หรือคนที่เหนือกว่าคนอื่น ผมอาจจะได้มาจากลุงแก่ๆ คนหนึ่งที่เดินข้างถนนซึ่งลุงเขาอาจจะติดสติกเกอร์หน้ารถจักรยาน แล้วผมอาจจะไปขอซื้อแกมาก็ได้
การสะสมของผมไม่มีแบบแผน เดินๆ ไปแล้วเจอ ผมชอบ ผมก็ซื้อ แต่ในพื้นฐานต้องมีความรู้ก่อนว่าของชิ้นนั้นเป็นของเก่าหรือใหม่ ต้องศึกษามาก่อน ซึ่งการศึกษาไม่มีอยู่ในห้องเรียนนะครับ แต่ผมจะเน้นดูเยอะๆ เราต้องศึกษาให้ดี เพราะว่าผมเป็นพ่อค้าด้วย เราต้องสามารถคอนเฟิร์มลูกค้าได้
นักสะสมต้องมีความรู้ก่อนแล้วต้องโฟกัสให้ได้ว่าเราจะสะสมอะไร หรือว่าอาจจะกำหนดปีที่จะสะสมด้วย ตอนนี้ผมเริ่มเก็บตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 ลงไปจนถึง พ.ศ.2400 กว่าๆ แต่สมัยก่อนผมจะเก็บหมด เจอเป็นเช่า เจอเป็นซื้อ รู้ยุคเสร็จแล้วก็เอามาโฟกัสอีกว่าแบบไหนเขาเล่นกัน อันนี้ถ้าในเชิงพาณิชย์นะครับ ก็ต้องดูก่อนว่าเขาเก็บอะไรกัน
• หนึ่งในนั้นที่สะสมเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วย
ใช่ครับ ทั้งเหรียญ ภาพถ่าย นิตยสาร ของแจก ถุงพระราชทาน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน เพราะพระองค์ท่านเป็นทุกอย่างในชีวิต มีความหมายกับชีวิตผมมากๆ
• แรงบันดาลใจที่ทำให้สนใจเก็บสะสมสิ่งของต่างๆ เกี่ยวกับพระองค์ท่านคืออะไรคะ
ผมอยากเก็บเองจากการที่ผมรักพระองค์ท่านครับ ผมจะบอกทุกครั้งว่าถ้าไม่มีพระองค์ท่านก็คงไม่มีประเทศเราที่ดีและทัดเทียมนานาอารยประเทศอื่นได้อย่างทุกวันนี้ อีกอย่าง ส่วนตัวผมเคยมีความประทับใจหนึ่งก็คือ ตอนนั้นผมเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดของรัฐบาล ผมได้รับพระเมตตาจากพระองค์ท่านครับ ซึ่งพระองค์ไม่ได้ทรงมีพระเมตตาเฉพาะแค่กับผู้ใหญ่ข้าราชการทั่วไป แต่พระองค์ท่านยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณกับเด็กๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ สมุด กางเกง ซึ่งผมได้รับบริจาคจากที่พระราชวังบริจาคให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม.ทั่วไป อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าเราโชคดี และผมก็เก็บไว้จนถึงทุกวันนี้เลยครับ
• สิ่งของชิ้นแรกเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เริ่มมาเก็บสะสมจริงจังคืออะไรคะ
ร็อกเกตครับ ซึ่งชิ้นนี้ผมได้มาจากตลาดคลองถม เป็นเหรียญพระฉายาลักษณ์ที่เป็นภาพถ่ายในยุคนั้น เหมือนเหรียญขวัญถุงที่เอาไว้แจกตามวัดต่างๆ ในยุคประมาณสักปี 10 - 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผมได้มาในราคา 10 บาท ผมตั้งใจมากครับที่จะเช่าให้ได้ คิดแต่ว่ายังไงก็ต้องเก็บ ต้องพาท่านกลับบ้านให้ได้ ด้วยความเป็นเด็กก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนั้นพอถามผู้ใหญ่เขาก็บอกว่าเขาไม่เล่นกันนะ คำว่า “ไม่เล่น” ของคนอื่น แต่สำหรับผมมีค่ามากๆ
• หลังจากนั้นก็สะสมสิ่งของเกี่ยวกับพระองค์ท่านมาโดยตลอดเลยใช่ไหมคะ มีชิ้นไหนที่หายากและประทับใจมากๆ บ้างไหมคะ
ใช่ครับ ถ้าเกี่ยวกับพระองค์ท่านส่วนใหญ่จะเป็นภาพพิมพ์และเหรียญครับ ซึ่งสำหรับผมทุกอย่างหายากหมดเลยนะครับ ผมจะหามาจากหลายๆ แหล่ง ถูกสุดก็ 7 บาท เป็นเหรียญครับ ผมได้มาเมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมซื้อมาโดยไม่คิดอะไรอีกเช่นกัน รู้สึกว่าเก่าดี เล่นไปเรื่อยๆ มาทราบทีหลังว่าเป็นภาพถ่าย แต่เป็นงานชาวบ้าน ไม่ใช่ว่าออกในวังนะครับ อายุก็ประมาณสัก 30 - 40 ปีได้แล้วครับ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะไม่ได้มีมูลค่าอะไรมากมาย แต่ก็มีคุณค่าทางใจมากครับ
มีอีกชิ้นหนึ่งที่ผมมองว่าหายากเลยก็คือ ผมได้ใบ certificate ของพระสมเด็จจิตรลดาที่เป็นแบบพิมพ์มาครับ คือตอนนั้นพระองค์ท่านพระราชทานพระจิตรลดาให้กับทุกคน ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ ทั้งแม่ครัว ข้าราชการ บริวาร ครู ตำรวจ ซึ่งพอท่านพระราชทานให้ จากนั้นก็จะมีใบที่รับรองว่าพระองค์นั้นเป็นของแท้ และข้อแตกต่างที่ผมวิเคราะห์มาแล้วก็คือการพิมพ์ เขาจะใช้เครื่องพิมพ์ของแผนที่ทหาร ฟอนต์ในการพิมพ์จะแตกต่างกับการพิมพ์ดีด หัวจะไม่เหมือนกัน ซึ่งต่อมามีมูลค่าหลักล้านเลย แต่ผมจะมีแค่ใบรับรองว่าเป็นของแท้ ซึ่งผมได้มาตอนน้ำท่วมใหญ่ เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว มีซาเล้งเอามาเทกระจาดขายที่สนามหลวงในราคา 40 บาทครับ
ส่วนภาพที่ผมประทับใจมากเลย เป็นภาพที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงผนวช ผมได้มาเป็นกรอบแป้งแล้วก็มีภาษาจีนเขียนไว้ด้านใน ของชิ้นนี้เจ้าของเป็นคนไทยเชื้อสายจีน เป็นของที่ระลึกรับขวัญวันแต่งงาน เพราะตามประเพณีของคนจีนคือ เมื่อแต่งงานไปแล้ว แล้วกลับมาจะต้องมีของชำร่วยให้คุณพ่อคุณแม่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ในยุคปี พ.ศ.2500 ต้นๆ เป็นสิ่งที่มีค่ามากๆ เลยครับ ซึ่งผมได้ให้คนจีนแปลให้เรียบร้อยแล้ว ก็จะแปลว่ามาคารวะท่านพ่อท่านแม่จากลูกสาวหรือลูกเขยที่มอบให้กับคุณพ่อคุณแม่ครับ ซึ่งผมว่าภาพนี้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยและคนจีนได้ดีมาก นอกจากนี้แล้ว ทุกชิ้นก็ล้วนแต่มีคุณค่าทางจิตใจกับผมมากครับ
• แบบนี้มีคนมาขอเช่าหรือเสนอราคาให้บ้างไหมคะ
แรกๆ ผมไม่ปล่อยเช่านะครับ นอกจากคนที่ชอบจริงๆ มาตื๊อ มาขอแบ่ง บางครั้งก็ไม่เอาเงินครับ ให้เลยก็มี แล้วแต่ความสนิทมากน้อย และส่วนใหญ่ผมจะปล่อยอันที่เป็นแอกเซสซอรีมากกว่า แต่พอผมโพสต์ภาพพิมพ์ในหลวงมากๆ เข้า ก็มีคนที่ความคิดเดียวกัน เป็นเพื่อนๆ บ้าง เข้ามาสอบถามว่าเรามีกี่ชิ้น ขอแบ่งได้ไหม จะไม่ให้ก็ไม่ได้ อย่างบางคนมาช่วยงานที่บ้าน คุณจะไม่ให้เขาเหรอ ใช่ไหมครับ จากตรงนี้ผมก็เลยต้องซื้อของเยอะขึ้นเพราะว่าผมจะไม่สามารถซื้อชิ้นเดียวได้แล้ว ผมก็เลยจะอาศัยซื้อแบบเหมาทั้งหมดในร้านเลย
อย่างต้นปีหน้า ผมมีเกณฑ์จะเปิดแกลเลอรีเล็กๆ ชื่อว่า kanna studio แถวๆ บางแค จะเป็นแบบไพรเวต คือจะต้องติดต่อคุยกันก่อนว่าคุณเป็นคนสะสมไหมหรือว่าคุณเป็นคนรูปแบบอะไร หรือว่าจะพานักเรียนนักศึกษามาศึกษา ในนั้นก็จะมีทั้งนาฬิกา ภาพวาด ภาพเขียน แอกเซสซอรี พระฉายาลักษณ์ ของต่างๆ ทั่วโลกที่หายากครับ
ในอนาคตผมจะทำไลน์โปรดักต์ อาจจะเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำออกมาในรูปแบบใหม่ๆ แต่ผมไม่ได้เอาท่านมาขายนะครับ สำหรับผมผมรู้สึกว่ามันเรียกว่าการแบ่งปันให้คนอื่นจะดีกว่า เพราะของบางอย่าง พูดตามตรงว่าไม่ขายก็ไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมก็คิดไว้หลายโปรเจกต์นะครับ แต่ต้องมีเป็นงานใหม่ที่ทำออกมา เป็นงานที่สวยงาม หรืออาจจะนำภาพเก่าที่ผมมีมาใส่กรอบไม้สัก หรือกรอบหลุยส์ เป็นเหมือนเก็บอายุของเก่าไว้ ซึ่งภาพอาจจะแตกบ้าง มันก็เป็นฟีลลิ่งไป ด้านหลังจะให้เป็นป้ายเพจ Kanna Studio ของผมเอง ใครที่เช่าไปจะมีรับประกันว่าของผมอายุประมาณนี้ มีมูลค่า สมมติว่าคุณเช่าไป 8,000 บาท เอาไว้ที่บ้านแล้วคุณเบื่อ คุณสามารถเอากลับมาคืนผมได้ โดยที่ผมอาจจะหักคุณ 30 เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้ผมอยากจะยกระดับของเก่าให้ดูมีมูลค่ามากขึ้นครับ
• ก่อนที่จะมาสะสม ได้ศึกษาหรือทราบเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์อย่างไรบ้างคะ
ส่วนตัวผมไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ ผมเป็นนักสะสม ผมจึงไม่สามารถรู้ประวัติทุกอย่างได้ เพียงแต่ว่าผมรู้ว่าปีพุทธศักราชใด การผลิตเป็นยังไง ที่มาที่ไปคร่าวๆ เป็นยังไงมากกว่าครับ แต่จะไม่ได้ละเอียดลึกขนาดนั้น ยกตัวอย่างเช่น รูปพระองค์ท่านตอนผมสั้นอยู่ประมาณปีไหน แล้วก็สันนิษฐานได้แล้วว่าท่านทรงผนวชกลับมาทำราชการต่อ มาดูแลประเทศเราต่อนะ หลังจากที่ท่านบวช เราก็จะตีได้ว่าท่านผนวชปีไหน อะไรประมาณนี้ครับ
จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ผมจะไม่ค่อยทราบอะไรเท่าไหร่ แต่จากที่ผมได้เก็บสะสมของต่างๆ ผมก็ได้เห็นสิ่งที่ท่านทำเพื่อประชาชน ได้เห็นทางพระราชกรณียกิจอะไรต่างๆ เกี่ยวกับพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ชีวิต ทุกๆ อย่าง
เช่นตัวอย่างจากภาพพิมพ์ สคส. เป็นภาพที่พระองค์ท่านเสด็จฯไปพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ถ้าสังเกตจริงๆ พระองค์ท่านทรงพระราชทานหม้อ ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่ารัก แล้วเห็นข้างหลังจะเป็นผ้าห่ม บ้านเราเรียกผ้าห่มรถทัวร์ เป็นผ้าห่มสีรองเท้าสมัยก่อน คือพระองค์ท่านให้ความสำคัญกับสถานที่ต่างๆ รูปนี้บ่งบอกถึงวัฒนธรรมความเป็นมาของสภาพสังคม วิถีชีวิตของคนไทยในยุคสมัยเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ หรือภาพที่พระองค์ท่านพระราชทานปริญญาบัตร ทุกคนรอรับพระราชทานนานๆ เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะบ่น แต่ในหลวงท่านพระราชทานปริญญาไม่ต่ำกว่า 30 ปีทุกวัน วันละกี่พันคน
หรืออย่างภาพที่ท่านเสด็จออกเยี่ยมเยียนประชาชน สังเกตจากเงาแดดที่ส่องลงมาที่พระองค์ท่านนะครับ จะอยู่ตรงกลางพอดี แสดงว่าตอนนั้นเป็นตอนเที่ยงตรง พระองค์ทรงยอมร้อน ยอมทนตากแดดเพื่อประชาชนของพระองค์ที่มารอรับเสด็จ พระองค์ท่านทรงทำทุกอย่างเพื่อคนไทย แล้วผมก็ยังได้เห็นอีกมุมหนึ่งว่าบางครั้งพระองค์ท่านทำเพื่อประเทศมาก นับว่าเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทำเพื่อประเทศไทยมากจริงๆ ครับ
• ได้อะไรที่มากกว่าการสะสมบ้างคะ
สิ่งแรกที่ผมได้หลักๆ เลยก็คือความสุขครับ อย่างของบางชิ้น ถามว่าถ้าผมเก็บอีก 10 ปี ราคาจะขึ้นมากไหม บางอย่างมันก็ไม่มีราคาเลย แต่ผมไม่ได้เก็บเพื่อเงิน เงินไม่มีความสำคัญสำหรับผมขนาดนั้น เพราะทุกวันนี้ผมมีอยู่ 2 ท้อง แค่ผมกับภรรยา ผมว่าเงินที่ผมมีน่าจะเลี้ยงดูผมกับภรรยาได้ตลอดชีวิต
อย่างที่สองคือ ผมได้เห็นบุคคลที่เป็นแบบอย่าง นั่นก็คือในหลวงรัชกาลที่ 9 ผมใช้ชีวิตโดยมีท่านเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด ผมจะทำอะไรก็ตาม จะต้องไม่เดือดร้อนคนอื่น สุจริต ซื่อตรง ไม่คดโกง ที่สำคัญต้องพอเพียง
• พอเพียง ยึดหลักคำสอนนี้ของพระองค์ท่านในการดำเนินชีวิตอย่างไรบ้างคะ
ทุกวันนี้ผมนำคำสอนของพระองค์ท่านมาปรับใช้ในชีวิต ผมเชื่อพระองค์ท่านเพราะว่าพระองค์ท่านทำมาแล้ว เรียกได้ว่าผมเป็นนักสะสมของเก่าคนหนึ่ง ที่ทำตามงบ ตามอายุ ตามกำลังที่เราสามารถซื้อได้ อย่างตอนเรียนก็จะมีมุมในการเก็บแบบหนึ่ง โตขึ้นมาก็จะเก็บมากขึ้น พอเราทำงาน เรามีเงินเราก็จะเก็บของที่แพงขึ้น
ผมพอเพียง แต่ไม่ใช่บอกว่าต้องประหยัด ใช้วันละ 40 บาท เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่นะครับ แค่มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น ไม่เดือดร้อนคนอื่นก็พอแล้ว ไม่ใช่ทำเพื่อหวังผลประโยชน์ ทุกคนอยากรวย อยากมี อยากได้ทั้งนั้นแหละครับ แต่อย่ามากจนเกินไป
ส่วนตัวผมก็ซื้อ ก็ใช้แบรนด์เนมนะครับ แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนคนอื่น ไม่ใช่ว่าพ่อแม่หาเช้ากินค่ำ ลูกใช้ของฟุ่มเฟือย หรือบางคน พ่อยังไม่เกษียณ ต้องเลี้ยงน้องอีก 2 คน แต่เราดันออกรถป้ายแดงมาทั้งๆ ที่มีรถคันเก่าขับอยู่ ก็ไม่ใช่แล้วครับ หรือว่าคุณมีเงินเป็นสิบๆ ล้าน แต่ไม่ซื้อของ ไม่อะไรเลย อันนี้ก็ไม่ใช่เหมือนกัน
คำว่าพอเพียงของผม ไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพง แต่ต้องเป็นสิ่งที่ทำไปแล้วไม่เดือดร้อนคนอื่น เช่น ทำจิตใจให้พอเพียง ใช้ชีวิตให้พอเพียง ทานข้าวให้พอเพียง ให้ความรักที่พอเพียงอะไรทำนองนี้ครับ
• อยากให้พูดถึงการที่ได้เกิดในรัชสมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 หน่อยค่ะ
ผมว่าทุกคนรักพระองค์ท่านอยู่แล้ว และผมเชื่อว่าพระองค์ท่านก็ทรงอยากเห็นประเทศไทยดีขึ้น ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่ทำถึงขนาดนี้ ท่านทำให้คนไทยทุกอย่าง ผมว่าถ้าประเทศนี้ไม่มีพระองค์ท่าน ความเป็นอยู่ไม่เป็นแบบนี้หรอกครับ สังคมคงแย่ไปเลย คงไม่มีความเจริญทุกๆ อย่าง ยกตัวอย่างเมื่อสองสามวันก่อน ผมเห็นมีคนโพสต์เรื่องปลาสลิด ถ้าไม่มีพระองค์ท่านเราอาจจะไม่ได้กินปลาสลิดเลยก็ได้
เพราะฉะนั้น เราควรทำอะไรที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น คุณมีหน้าที่อะไรทำ ก็ทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุด คุณเป็นตำรวจ คุณก็ต้องดูแลประชาชน คุณเป็นครูก็ต้องสอน คุณเป็นนักสะสม คุณต้องตั้งใจเก็บของเก่า คุณเป็นช่างภาพ คุณต้องตั้งใจโฟกัสให้ภาพไม่เขยื้อน คุณเป็นนักเขียนคอลัมน์ คุณต้องเขียนให้ดีที่สุด ผมเป็นพ่อค้า ผมก็ต้องหาของที่ดีทุกอย่างให้ลูกค้า ผมว่าถ้าเราทำเช่นนั้น สังคมก็น่าจะดีขึ้น
เรื่อง : วรัญญา งามขำ, ธัญลักษณ์ อุ่มเจริญ
ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook : Mee Somsak และ Instagram : Meekanna
ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเกิดขึ้นมาจากแรงบันดาลใจสั้นๆ คำนี้
...“ผมรักพระองค์ท่าน”...
• สะสมของเก่ายาวนานกว่า 20 ปี
ผมเก็บของเก่ามาเมื่อ 20 ปีที่แล้วครับ เรียนประมาณชั้นมัธยมปีที่ 3 - 4 ผมจะเป็นคนเก็บของเก่าที่ไม่เหมือนคนอื่น เพราะผมชอบเก็บของแปลก ไม่จำเป็นว่าจะมีราคาหรือไม่มีราคาก็ได้ แต่ทุกชิ้นล้วนมีคุณค่าทางจิตใจ การเสาะแสวงหาของเก่าของผม จะหาจากทั่วไปเลยครับ ไม่จำเป็นว่าจะต้องได้จากคนที่เก่งๆ หรือคนที่เหนือกว่าคนอื่น ผมอาจจะได้มาจากลุงแก่ๆ คนหนึ่งที่เดินข้างถนนซึ่งลุงเขาอาจจะติดสติกเกอร์หน้ารถจักรยาน แล้วผมอาจจะไปขอซื้อแกมาก็ได้
การสะสมของผมไม่มีแบบแผน เดินๆ ไปแล้วเจอ ผมชอบ ผมก็ซื้อ แต่ในพื้นฐานต้องมีความรู้ก่อนว่าของชิ้นนั้นเป็นของเก่าหรือใหม่ ต้องศึกษามาก่อน ซึ่งการศึกษาไม่มีอยู่ในห้องเรียนนะครับ แต่ผมจะเน้นดูเยอะๆ เราต้องศึกษาให้ดี เพราะว่าผมเป็นพ่อค้าด้วย เราต้องสามารถคอนเฟิร์มลูกค้าได้
นักสะสมต้องมีความรู้ก่อนแล้วต้องโฟกัสให้ได้ว่าเราจะสะสมอะไร หรือว่าอาจจะกำหนดปีที่จะสะสมด้วย ตอนนี้ผมเริ่มเก็บตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 ลงไปจนถึง พ.ศ.2400 กว่าๆ แต่สมัยก่อนผมจะเก็บหมด เจอเป็นเช่า เจอเป็นซื้อ รู้ยุคเสร็จแล้วก็เอามาโฟกัสอีกว่าแบบไหนเขาเล่นกัน อันนี้ถ้าในเชิงพาณิชย์นะครับ ก็ต้องดูก่อนว่าเขาเก็บอะไรกัน
• หนึ่งในนั้นที่สะสมเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วย
ใช่ครับ ทั้งเหรียญ ภาพถ่าย นิตยสาร ของแจก ถุงพระราชทาน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน เพราะพระองค์ท่านเป็นทุกอย่างในชีวิต มีความหมายกับชีวิตผมมากๆ
• แรงบันดาลใจที่ทำให้สนใจเก็บสะสมสิ่งของต่างๆ เกี่ยวกับพระองค์ท่านคืออะไรคะ
ผมอยากเก็บเองจากการที่ผมรักพระองค์ท่านครับ ผมจะบอกทุกครั้งว่าถ้าไม่มีพระองค์ท่านก็คงไม่มีประเทศเราที่ดีและทัดเทียมนานาอารยประเทศอื่นได้อย่างทุกวันนี้ อีกอย่าง ส่วนตัวผมเคยมีความประทับใจหนึ่งก็คือ ตอนนั้นผมเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดของรัฐบาล ผมได้รับพระเมตตาจากพระองค์ท่านครับ ซึ่งพระองค์ไม่ได้ทรงมีพระเมตตาเฉพาะแค่กับผู้ใหญ่ข้าราชการทั่วไป แต่พระองค์ท่านยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณกับเด็กๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ สมุด กางเกง ซึ่งผมได้รับบริจาคจากที่พระราชวังบริจาคให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม.ทั่วไป อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าเราโชคดี และผมก็เก็บไว้จนถึงทุกวันนี้เลยครับ
• สิ่งของชิ้นแรกเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เริ่มมาเก็บสะสมจริงจังคืออะไรคะ
ร็อกเกตครับ ซึ่งชิ้นนี้ผมได้มาจากตลาดคลองถม เป็นเหรียญพระฉายาลักษณ์ที่เป็นภาพถ่ายในยุคนั้น เหมือนเหรียญขวัญถุงที่เอาไว้แจกตามวัดต่างๆ ในยุคประมาณสักปี 10 - 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผมได้มาในราคา 10 บาท ผมตั้งใจมากครับที่จะเช่าให้ได้ คิดแต่ว่ายังไงก็ต้องเก็บ ต้องพาท่านกลับบ้านให้ได้ ด้วยความเป็นเด็กก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนั้นพอถามผู้ใหญ่เขาก็บอกว่าเขาไม่เล่นกันนะ คำว่า “ไม่เล่น” ของคนอื่น แต่สำหรับผมมีค่ามากๆ
• หลังจากนั้นก็สะสมสิ่งของเกี่ยวกับพระองค์ท่านมาโดยตลอดเลยใช่ไหมคะ มีชิ้นไหนที่หายากและประทับใจมากๆ บ้างไหมคะ
ใช่ครับ ถ้าเกี่ยวกับพระองค์ท่านส่วนใหญ่จะเป็นภาพพิมพ์และเหรียญครับ ซึ่งสำหรับผมทุกอย่างหายากหมดเลยนะครับ ผมจะหามาจากหลายๆ แหล่ง ถูกสุดก็ 7 บาท เป็นเหรียญครับ ผมได้มาเมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมซื้อมาโดยไม่คิดอะไรอีกเช่นกัน รู้สึกว่าเก่าดี เล่นไปเรื่อยๆ มาทราบทีหลังว่าเป็นภาพถ่าย แต่เป็นงานชาวบ้าน ไม่ใช่ว่าออกในวังนะครับ อายุก็ประมาณสัก 30 - 40 ปีได้แล้วครับ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะไม่ได้มีมูลค่าอะไรมากมาย แต่ก็มีคุณค่าทางใจมากครับ
มีอีกชิ้นหนึ่งที่ผมมองว่าหายากเลยก็คือ ผมได้ใบ certificate ของพระสมเด็จจิตรลดาที่เป็นแบบพิมพ์มาครับ คือตอนนั้นพระองค์ท่านพระราชทานพระจิตรลดาให้กับทุกคน ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ ทั้งแม่ครัว ข้าราชการ บริวาร ครู ตำรวจ ซึ่งพอท่านพระราชทานให้ จากนั้นก็จะมีใบที่รับรองว่าพระองค์นั้นเป็นของแท้ และข้อแตกต่างที่ผมวิเคราะห์มาแล้วก็คือการพิมพ์ เขาจะใช้เครื่องพิมพ์ของแผนที่ทหาร ฟอนต์ในการพิมพ์จะแตกต่างกับการพิมพ์ดีด หัวจะไม่เหมือนกัน ซึ่งต่อมามีมูลค่าหลักล้านเลย แต่ผมจะมีแค่ใบรับรองว่าเป็นของแท้ ซึ่งผมได้มาตอนน้ำท่วมใหญ่ เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว มีซาเล้งเอามาเทกระจาดขายที่สนามหลวงในราคา 40 บาทครับ
ส่วนภาพที่ผมประทับใจมากเลย เป็นภาพที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงผนวช ผมได้มาเป็นกรอบแป้งแล้วก็มีภาษาจีนเขียนไว้ด้านใน ของชิ้นนี้เจ้าของเป็นคนไทยเชื้อสายจีน เป็นของที่ระลึกรับขวัญวันแต่งงาน เพราะตามประเพณีของคนจีนคือ เมื่อแต่งงานไปแล้ว แล้วกลับมาจะต้องมีของชำร่วยให้คุณพ่อคุณแม่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ในยุคปี พ.ศ.2500 ต้นๆ เป็นสิ่งที่มีค่ามากๆ เลยครับ ซึ่งผมได้ให้คนจีนแปลให้เรียบร้อยแล้ว ก็จะแปลว่ามาคารวะท่านพ่อท่านแม่จากลูกสาวหรือลูกเขยที่มอบให้กับคุณพ่อคุณแม่ครับ ซึ่งผมว่าภาพนี้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยและคนจีนได้ดีมาก นอกจากนี้แล้ว ทุกชิ้นก็ล้วนแต่มีคุณค่าทางจิตใจกับผมมากครับ
• แบบนี้มีคนมาขอเช่าหรือเสนอราคาให้บ้างไหมคะ
แรกๆ ผมไม่ปล่อยเช่านะครับ นอกจากคนที่ชอบจริงๆ มาตื๊อ มาขอแบ่ง บางครั้งก็ไม่เอาเงินครับ ให้เลยก็มี แล้วแต่ความสนิทมากน้อย และส่วนใหญ่ผมจะปล่อยอันที่เป็นแอกเซสซอรีมากกว่า แต่พอผมโพสต์ภาพพิมพ์ในหลวงมากๆ เข้า ก็มีคนที่ความคิดเดียวกัน เป็นเพื่อนๆ บ้าง เข้ามาสอบถามว่าเรามีกี่ชิ้น ขอแบ่งได้ไหม จะไม่ให้ก็ไม่ได้ อย่างบางคนมาช่วยงานที่บ้าน คุณจะไม่ให้เขาเหรอ ใช่ไหมครับ จากตรงนี้ผมก็เลยต้องซื้อของเยอะขึ้นเพราะว่าผมจะไม่สามารถซื้อชิ้นเดียวได้แล้ว ผมก็เลยจะอาศัยซื้อแบบเหมาทั้งหมดในร้านเลย
อย่างต้นปีหน้า ผมมีเกณฑ์จะเปิดแกลเลอรีเล็กๆ ชื่อว่า kanna studio แถวๆ บางแค จะเป็นแบบไพรเวต คือจะต้องติดต่อคุยกันก่อนว่าคุณเป็นคนสะสมไหมหรือว่าคุณเป็นคนรูปแบบอะไร หรือว่าจะพานักเรียนนักศึกษามาศึกษา ในนั้นก็จะมีทั้งนาฬิกา ภาพวาด ภาพเขียน แอกเซสซอรี พระฉายาลักษณ์ ของต่างๆ ทั่วโลกที่หายากครับ
ในอนาคตผมจะทำไลน์โปรดักต์ อาจจะเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำออกมาในรูปแบบใหม่ๆ แต่ผมไม่ได้เอาท่านมาขายนะครับ สำหรับผมผมรู้สึกว่ามันเรียกว่าการแบ่งปันให้คนอื่นจะดีกว่า เพราะของบางอย่าง พูดตามตรงว่าไม่ขายก็ไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมก็คิดไว้หลายโปรเจกต์นะครับ แต่ต้องมีเป็นงานใหม่ที่ทำออกมา เป็นงานที่สวยงาม หรืออาจจะนำภาพเก่าที่ผมมีมาใส่กรอบไม้สัก หรือกรอบหลุยส์ เป็นเหมือนเก็บอายุของเก่าไว้ ซึ่งภาพอาจจะแตกบ้าง มันก็เป็นฟีลลิ่งไป ด้านหลังจะให้เป็นป้ายเพจ Kanna Studio ของผมเอง ใครที่เช่าไปจะมีรับประกันว่าของผมอายุประมาณนี้ มีมูลค่า สมมติว่าคุณเช่าไป 8,000 บาท เอาไว้ที่บ้านแล้วคุณเบื่อ คุณสามารถเอากลับมาคืนผมได้ โดยที่ผมอาจจะหักคุณ 30 เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้ผมอยากจะยกระดับของเก่าให้ดูมีมูลค่ามากขึ้นครับ
• ก่อนที่จะมาสะสม ได้ศึกษาหรือทราบเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์อย่างไรบ้างคะ
ส่วนตัวผมไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ ผมเป็นนักสะสม ผมจึงไม่สามารถรู้ประวัติทุกอย่างได้ เพียงแต่ว่าผมรู้ว่าปีพุทธศักราชใด การผลิตเป็นยังไง ที่มาที่ไปคร่าวๆ เป็นยังไงมากกว่าครับ แต่จะไม่ได้ละเอียดลึกขนาดนั้น ยกตัวอย่างเช่น รูปพระองค์ท่านตอนผมสั้นอยู่ประมาณปีไหน แล้วก็สันนิษฐานได้แล้วว่าท่านทรงผนวชกลับมาทำราชการต่อ มาดูแลประเทศเราต่อนะ หลังจากที่ท่านบวช เราก็จะตีได้ว่าท่านผนวชปีไหน อะไรประมาณนี้ครับ
จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ผมจะไม่ค่อยทราบอะไรเท่าไหร่ แต่จากที่ผมได้เก็บสะสมของต่างๆ ผมก็ได้เห็นสิ่งที่ท่านทำเพื่อประชาชน ได้เห็นทางพระราชกรณียกิจอะไรต่างๆ เกี่ยวกับพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ชีวิต ทุกๆ อย่าง
เช่นตัวอย่างจากภาพพิมพ์ สคส. เป็นภาพที่พระองค์ท่านเสด็จฯไปพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ถ้าสังเกตจริงๆ พระองค์ท่านทรงพระราชทานหม้อ ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่ารัก แล้วเห็นข้างหลังจะเป็นผ้าห่ม บ้านเราเรียกผ้าห่มรถทัวร์ เป็นผ้าห่มสีรองเท้าสมัยก่อน คือพระองค์ท่านให้ความสำคัญกับสถานที่ต่างๆ รูปนี้บ่งบอกถึงวัฒนธรรมความเป็นมาของสภาพสังคม วิถีชีวิตของคนไทยในยุคสมัยเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ หรือภาพที่พระองค์ท่านพระราชทานปริญญาบัตร ทุกคนรอรับพระราชทานนานๆ เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะบ่น แต่ในหลวงท่านพระราชทานปริญญาไม่ต่ำกว่า 30 ปีทุกวัน วันละกี่พันคน
หรืออย่างภาพที่ท่านเสด็จออกเยี่ยมเยียนประชาชน สังเกตจากเงาแดดที่ส่องลงมาที่พระองค์ท่านนะครับ จะอยู่ตรงกลางพอดี แสดงว่าตอนนั้นเป็นตอนเที่ยงตรง พระองค์ทรงยอมร้อน ยอมทนตากแดดเพื่อประชาชนของพระองค์ที่มารอรับเสด็จ พระองค์ท่านทรงทำทุกอย่างเพื่อคนไทย แล้วผมก็ยังได้เห็นอีกมุมหนึ่งว่าบางครั้งพระองค์ท่านทำเพื่อประเทศมาก นับว่าเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทำเพื่อประเทศไทยมากจริงๆ ครับ
• ได้อะไรที่มากกว่าการสะสมบ้างคะ
สิ่งแรกที่ผมได้หลักๆ เลยก็คือความสุขครับ อย่างของบางชิ้น ถามว่าถ้าผมเก็บอีก 10 ปี ราคาจะขึ้นมากไหม บางอย่างมันก็ไม่มีราคาเลย แต่ผมไม่ได้เก็บเพื่อเงิน เงินไม่มีความสำคัญสำหรับผมขนาดนั้น เพราะทุกวันนี้ผมมีอยู่ 2 ท้อง แค่ผมกับภรรยา ผมว่าเงินที่ผมมีน่าจะเลี้ยงดูผมกับภรรยาได้ตลอดชีวิต
อย่างที่สองคือ ผมได้เห็นบุคคลที่เป็นแบบอย่าง นั่นก็คือในหลวงรัชกาลที่ 9 ผมใช้ชีวิตโดยมีท่านเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด ผมจะทำอะไรก็ตาม จะต้องไม่เดือดร้อนคนอื่น สุจริต ซื่อตรง ไม่คดโกง ที่สำคัญต้องพอเพียง
• พอเพียง ยึดหลักคำสอนนี้ของพระองค์ท่านในการดำเนินชีวิตอย่างไรบ้างคะ
ทุกวันนี้ผมนำคำสอนของพระองค์ท่านมาปรับใช้ในชีวิต ผมเชื่อพระองค์ท่านเพราะว่าพระองค์ท่านทำมาแล้ว เรียกได้ว่าผมเป็นนักสะสมของเก่าคนหนึ่ง ที่ทำตามงบ ตามอายุ ตามกำลังที่เราสามารถซื้อได้ อย่างตอนเรียนก็จะมีมุมในการเก็บแบบหนึ่ง โตขึ้นมาก็จะเก็บมากขึ้น พอเราทำงาน เรามีเงินเราก็จะเก็บของที่แพงขึ้น
ผมพอเพียง แต่ไม่ใช่บอกว่าต้องประหยัด ใช้วันละ 40 บาท เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่นะครับ แค่มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น ไม่เดือดร้อนคนอื่นก็พอแล้ว ไม่ใช่ทำเพื่อหวังผลประโยชน์ ทุกคนอยากรวย อยากมี อยากได้ทั้งนั้นแหละครับ แต่อย่ามากจนเกินไป
ส่วนตัวผมก็ซื้อ ก็ใช้แบรนด์เนมนะครับ แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนคนอื่น ไม่ใช่ว่าพ่อแม่หาเช้ากินค่ำ ลูกใช้ของฟุ่มเฟือย หรือบางคน พ่อยังไม่เกษียณ ต้องเลี้ยงน้องอีก 2 คน แต่เราดันออกรถป้ายแดงมาทั้งๆ ที่มีรถคันเก่าขับอยู่ ก็ไม่ใช่แล้วครับ หรือว่าคุณมีเงินเป็นสิบๆ ล้าน แต่ไม่ซื้อของ ไม่อะไรเลย อันนี้ก็ไม่ใช่เหมือนกัน
คำว่าพอเพียงของผม ไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพง แต่ต้องเป็นสิ่งที่ทำไปแล้วไม่เดือดร้อนคนอื่น เช่น ทำจิตใจให้พอเพียง ใช้ชีวิตให้พอเพียง ทานข้าวให้พอเพียง ให้ความรักที่พอเพียงอะไรทำนองนี้ครับ
• อยากให้พูดถึงการที่ได้เกิดในรัชสมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 หน่อยค่ะ
ผมว่าทุกคนรักพระองค์ท่านอยู่แล้ว และผมเชื่อว่าพระองค์ท่านก็ทรงอยากเห็นประเทศไทยดีขึ้น ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่ทำถึงขนาดนี้ ท่านทำให้คนไทยทุกอย่าง ผมว่าถ้าประเทศนี้ไม่มีพระองค์ท่าน ความเป็นอยู่ไม่เป็นแบบนี้หรอกครับ สังคมคงแย่ไปเลย คงไม่มีความเจริญทุกๆ อย่าง ยกตัวอย่างเมื่อสองสามวันก่อน ผมเห็นมีคนโพสต์เรื่องปลาสลิด ถ้าไม่มีพระองค์ท่านเราอาจจะไม่ได้กินปลาสลิดเลยก็ได้
เพราะฉะนั้น เราควรทำอะไรที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น คุณมีหน้าที่อะไรทำ ก็ทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุด คุณเป็นตำรวจ คุณก็ต้องดูแลประชาชน คุณเป็นครูก็ต้องสอน คุณเป็นนักสะสม คุณต้องตั้งใจเก็บของเก่า คุณเป็นช่างภาพ คุณต้องตั้งใจโฟกัสให้ภาพไม่เขยื้อน คุณเป็นนักเขียนคอลัมน์ คุณต้องเขียนให้ดีที่สุด ผมเป็นพ่อค้า ผมก็ต้องหาของที่ดีทุกอย่างให้ลูกค้า ผมว่าถ้าเราทำเช่นนั้น สังคมก็น่าจะดีขึ้น
เรื่อง : วรัญญา งามขำ, ธัญลักษณ์ อุ่มเจริญ
ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook : Mee Somsak และ Instagram : Meekanna