xs
xsm
sm
md
lg

ดิฉันพลาดจริงๆ! “สุดารัตน์” ย้ำไม่ได้ตั้งใจ ขึ้นรถป้ายชื่อยักษ์แห่ดอกดาวเรือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แกนนำพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า พลาด ป้ายชื่อตัวโตๆ บนขบวนแห่ดอกดาวเรือง อ้างเวลาเร่ง -
ต้องหนีฝน เลยรีบขึ้นรถคันนี้โดยลืมไปว่ามีป้ายชื่อ ระบุ รถที่นำมาใช้ทีมงานขออนุญาตยืม พอหน้างานฉุกละหุกไปหมด พร้อมน้อมรับหากโซเชียลไม่จบ ย้ำไม่ได้หาเสียง - พอคิดเป็น ถ้าตั้งใจโหนมีแต่เสีย ไม่มีได้ มีแต่ตาย แต่มันพลาดจะทำอย่างไร


วันนี้ (17 ต.ค.) เมื่อเวลา 08.09 น. คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ถึงกรณีกระแสวิจารณ์ว่าการจัดกิจกรรม “ดอกดาวเรืองแทนใจชาวลาดปลาเค้า” ว่า เป็นการหาเสียงทางการเมืองในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเฉพาะภาพรถหาเสียงที่มีชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ ปรากฏชัดเจนบริเวณรถกระบะ ว่า ก่อนอื่นกราบขอโทษทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ จริงๆ แล้วถ้าอยู่ในภาพรวมของงาน จะทราบว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ได้พูดกัน

ความจำเป็นที่ต้องมีรถ เพราะเรามี 9 ซุ้มตลอดถนนลาดปลาเค้า การจะต้องทำพิธีทุกซุ้ม กล่าวน้อมพระมหากรุณาธิคุณและยืนสงบนิ่ง ก่อนถวายดอกดาวเรือง แต่ละซุ้มชาวบ้านจะร่วมกันจัด มีธีมแตกต่างกัน โดยการนำพระราชดำริต่างๆ มา ก็จะมีการแสดงของชาวบ้านตามธีมที่ได้นำมาทำเป็นซุ้ม เช่น ขับเสภาเกี่ยวกับเรื่องความเพียร เดิมกำหนดแค่ 2 ชั่วโมงต่อซุ้ม ก็ใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่า และแต่ละซุ้มก็อยู่ไกลกัน แทนที่จะต่างคนต่างขับรถขนคนกันไป เพราะแต่ละซุ้มจะมีประชาชน 200 คน ทั้งหมด 9 ซุ้ม ทางกรรมการก็เลยใช้วิธีการใช้รถขน ก็ระดมรถที่มีป้ายด้านข้างจากห้างร้านและมูลนิธิเป็นขบวนยาว

หากถ่ายรูปด้านหน้าก็ดูเหมือนว่ามีคันเดียว แต่ถ้าถ่ายรูปด้านข้างก็จะเห็นเป็นขบวน เป็นป้ายโครงการอย่างสวยงาม ในรถจะมีประชาชนที่เป็นกรรมการแต่ละซุ้มถือดอกดาวเรืองลงไป เพราะกรรมการจัดงานเฉพาะกองกลางร้อยกว่าคน แต่ละซุ้มมีกรรมการอีกเป็นร้อย ร่วมกันจัดกันทุกฝ่ายจริงๆ วัด บ้าน โรงเรียน ครบหมด พอจัดเสร็จเราก็ต้องเคลื่อนไปแต่ละซุ้มเพื่อประกอบพิธี ทางเจ้าหน้าที่ให้เราชิดซ้ายอย่างเดียว เราก็จอดซ้าย ซุ้มมีทั้งซ้ายทั้งขวา รถก็อยู่ในขบวนสิบกว่าคัน ส่วนมอเตอร์ไซค์ที่เห็นไม่ใช่รถนำขบวน พอรถอยู่ในขบวน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ก็เอารถของเขาที่ต่างคนต่างมี ร่วม 20 คัน ร่วมขบวนด้วย เขาก็คิดกันเอง ชมรมจักรยานก็เอาจักรยานมาร่วมด้วย ก็ขนคน ขนดอกดาวเรืองก็แล้วแต่ คนที่ไปร่วมงานขนคน

“เหตุการณ์ในตอนนั้น เราต้องลงไปประกอบพิธีทุกซุ้ม แล้วเวลาก็เร่ง และเร่งหนีฝนด้วย เราก็รีบ ดิฉันเองก็วิ่ง รถคันไหนที่จอดอยู่ใกล้ตรงจุดที่เราอยู่ตรงนั้น คือมันกำหนดว่าคันนี้มาฟิกซ์อย่างนี้ไม่ได้ มันก็ต้องจอดเรียงกันไป เพราะรถเป็นสิบคัน ก็จอดเรียงกันไป ใกล้คันไหนก็กระโดดขึ้นคันนั้น แล้วบังเอิญจริงๆ มีช่วงหนึ่ง จากซุ้มที่ 3 ไปซุ้มที่ 5 ดิฉันได้ไปขึ้นรถคันนี้ ขึ้นจากหลังรถ ก็รู้ว่ารถตัวเองนี่แหละ แต่รถมัน 10 ปีแล้ว เป็นรถที่ใช้ในมูลนิธิ เป็นรถกิจกรรมที่ใช้บริการประชาชน แต่หลังๆ ก็มาเป็นรถขายข้าวสารธรรม เป็นข้าวจากหมู่บ้านศีล 5 ที่รับมาขาย ก็วิ่งขึ้นรถก็ไม่ได้คิด ลืมคิดไปว่ามันมีป้ายชื่อ เพราะเราขึ้นจากด้านหลัง พอเห็นภาพดิฉันก็ตกใจ แล้วก็เสียใจว่า ว่า ... ตายแล้ว เราพลาดไป แต่กิจกรรมนั้นมันไม่ได้มีกิจกรรมหาเสียงอะไรเลย ส่วนทำไมที่เป็นขบวน ไม่ใช่ขบวนแห่แหน แต่เป็นการขนคนแต่ละซุ้มไป ดิฉันเสียใจมากที่เกิดภาพแบบนี้ขึ้นมา ก็ต้องขอกราบขอโทษประชาชนจริงๆ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนไม่คิดที่จะไปเอาประโยชน์หรือหาเสียงจากงานนี้ นักการเมืองก็คนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นคนไทยคนหนึ่งที่เราต้องรักและอยากจะทำอะไรให้พระองค์ท่าน เราก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่เราอยู่ดีมีสุขในแผ่นดินนี้ 365 วันนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2559 มา ตนทำกิจกรรมมากมาย เฉพาะสวดมนต์กับนั่งวิปัสสนาที่เปิดโอกาสให้คนมาร่วมใจกันถวายเป็นพระราชกุศลเป็นสิบครั้ง ครั้งหนึ่งก็ 9 วัน จัดบวชพระก็สองครั้ง ครั้งนี้ก็จัดงานเมื่อวันที่ 13 - 15 ต.ค. วันที่ 14 ต.ค. ก็จัดบวชพระ 77 รูป ปีที่แล้วเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2559 ก็บวชพระ 99 รูป ราบเรียนว่า ตนก็เสียใจและก็เป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ถึงแม้จะมีอาชีพอะไร หรือเคยมีอาชีพอะไรก็แล้วแต่ แต่ที่ทำทั้งหมดด้วยความตั้งใจ เราเพียรพยายามทำกัน 3 - 4 เดือน ก็ไม่ได้มีอะไรที่แอบแฝง และไม่เคยคิดที่จะแอบแฝงเรื่องแบบนี้ เพียงแต่ว่าข่าวหลัก สื่อหลักก็ออกไปแล้ว พอมีโซเชียล มีเฟซบุ๊กหนึ่งเขียนนำความคิดเลยว่า มันจะเป็นแบบนี้ ตนก็เข้าใจว่าคิดได้ แต่ก็ขอชี้แจงว่า ถ้าอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ มันก็จะไม่ได้เป็นแบบว่า ไปขึ้นรถหาเสียง โบกไม้โบกมือก็ไม่ได้มี นั่งรถคนนี้ไม่เกิน 3 นาที เคลื่อนจากซุ้มหนึ่งไปอีกซุ้มหนึ่งเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า ไปเอารถจากมูลนิธิไทยพึ่งไทย ซึ่งมีป้ายชื่อตัวใหญ่มาด้วย แม้ว่าจะเป็นคันเดียว ตอนเอารถคันนั้นมาใช้ร่วมขบวน ทีมงานไม่ได้คิดมาก่อนเลยหรือ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า กรรมการมีแยกเป็นหลายฝ่าย กรรมการที่จัดเตรียมเรื่องจราจรก็ตกลงว่าให้ทำเป็นขบวน ก็ไปยืมรถมา ไม่มีรถกันเอง เราจัดกันเองเป็นภาคประชาชนจริงๆ ก็ยืมรถจากหลายหน่วยงาน และหลายร้านค้า หลายองค์กร ก็ใช้รถเป็นสิบๆ คัน รถคันนี้เขาก็ขออนุญาตยืม ซึ่งทางทีมงานก็เอารถไปให้ แล้วก็เอามาร่วมขบวน จริงๆ รถเสียด้วย เขาก็เอาไปซ่อมกัน แล้วทางทีมงานก็ให้ยืมไป ทีนี้ พอหน้างานรถก็เยอะ คนก็เยอะ คนร่วมงานเป็นพันคน ซุ้มละ 200 - 300 คน มันก็ฉุกละหุกไปหมด

“ดิฉันเองถึงได้บอกว่าพลาด ลืมคิดไปว่ารถคันนี้มันมีป้ายชื่อเรา แล้วสติกเกอร์มันติดอยู่นานแล้ว ความที่รถมันนาน ดิฉันพลาดจริงๆ พี่ดนัย (เอกมหาสวัสดิ์) ขอโทษและก็เสียใจ เสียมาก ดิฉันยอมรับว่าพลาด ไม่ต้องแก้ตัวว่าอะไร แต่ว่าอยากให้ดูเจตนา ไม่ได้ว่าเอารถคันนี้มาแห่หาเสียง อย่างที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กต่างๆ ว่า เอารถมาแห่แหนหาเสียง เอามาประกาศโน่นนี่นั่น และในวันงานจริงๆ ดิฉันขึ้นรถคันอื่นด้วย และคันนี้ไปจากซุ้มที่ 3 ไปซุ้มที่ 5 ดิฉันว่าไม่เกิน 5 นาที ก็พลาดจริงๆ คือ ไม่โทษอะไร เราทำพลาดเราก็ยอมรับว่าเราทำพลาด จะไปโทษโน่นนี่มันก็เปล่าประโยชน์ ก็พลาดจริงๆ ต้องกราบขอโทษจริงๆ อยากให้เข้าใจว่า ไม่ได้ไปขึ้นแห่หาเสียง ไม่ได้มีเจตนาจะไปเอาประโยชน์อะไรเลย ลองไปดูเฟซบุ๊กดิฉันทำมา 365 วัน ไม่ได้โฆษณา ไม่ได้อะไร สร้างหนังสั้น 10 เรื่อง เมื่อหลายปีแล้ว ดิฉันก็คนไทยคนหนึ่ง ได้รับพระมหากรุณามากมาย อะไรที่ทำให้พระองค์ท่านได้เราก็ทำ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

เมื่อถามว่า เมื่อมีภาพอย่างนี้ แม้กระทั่งนาทีเดียว ในทางการเมืองถือว่าตายไปแล้วครึ่งตัว จะกู้กลับมาอย่างไรในทางการเมือง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นอะไร ตนไม่ได้หวังผลทางการเมือง น้อมรับในสิ่งที่พลาด รับผิดชอบและกราบขอโทษ ไม่ได้พลาดเพียงแต่ทำความเข้าใจว่า เราไม่ได้มีความตั้งใจหรือไปจัดให้เป็นแบบนี้ เมื่อมันพลาดเราก็ต้องรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า ถือเป็นบทเรียนราคาแพงทางการเมือง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปหวังผลทางการเมือง เมื่อมันพลาดแล้วจะเกิดผลทางการเมืองอย่างไร ตนก็น้อมรับ ตัวเองไม่ได้คิดถึงเรื่องการเมืองเป็นตัวตั้งอยู่แล้ว หวังในความเข้าใจเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า ส่วนที่สังคมโซเชียลยังไม่จบ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ก็น้อมรับ ตนพูดความจริงทุกอย่างตามเหตุการณ์ คนร่วมงานเป็นพันๆ คน ถ้าจะไปทำอย่างนั้น พูดภาษาชาวบ้าน ตนก็พอคิดเป็น อ่านออกที่จะไปทำกิจกรรมแบบนี้ ในห้วงเวลาแบบนี้ ถ้าตั้งใจไปทำแบบนี้ มันมีแต่เสีย ไม่มีได้ มีแต่ตาย แต่มันพลาด จะทำอย่างไร ก็น้อมรับความผิดพลาดตรงนี้ รับผิดชอบ และกราบขอโทษจริงๆ อยากให้แค่เข้าใจและอธิบายความจำเป็นในการที่ต้องขนคน เรียนว่าไม่ได้มีเจตนาใดๆ เลย

กำลังโหลดความคิดเห็น