กลายเป็นกระแสแชร์และส่งต่ออย่างรวดเร็ว เพียงเวลาไม่ถึงวัน ก็มีคนดูมากกว่า 4 ล้านวิวสำหรับคลิปกลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนสมเด็จพิทยาคม อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ แต่งเพลง “อวสานมื้อสอบ” ที่ถูกอกม่วนใจบักคัก
และสิ่งที่ต้องบอกว่าน่าสนใจอย่างยิ่งก็คือ ที่มาของเพลงนี้ คือเด็กหนุ่มมัธยมอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น เขาเคยสร้างปรากฏการณ์ระดับ 16 ล้านวิวมาแล้ว กับเพลง "ฮักเขาสาอ้าย" ภายใต้ค่ายดนตรี "หลวงพระเนตร เรคคอร์ด" ค่ายเพลงที่ทำเองทุกกระบวนการ
“จริงๆ มันไม่ได้เครียดขนาดนั้น” "กีรติ พรมน้อย" หรือ "ไอซ์ หลวงพระเนตร" นักเรียน ม.4 โรงเรียนสมเด็จพิทยาคม หนุ่มน้อยหน้ามนผู้ไล่ล่าท้าฝัน บอกสั้นๆ ถึงเนื้อหาของเพลง “อวสานมื้อสอบ”
“ผมเขียนเพลงนี้เล่นๆ อยากให้มันสะท้อนสังคมช่วงสอบปิดภาค คิดว่าอยากจะแต่งเพลงตลกๆ ให้คนฟัง สะท้อนสังคมตอนสอบด้วย คือการเรียนของเด็กวัยรุ่นแทบไม่มีความแตกต่างกัน มีการแข่งขัน แต่สำหรับผม ผมไม่แข่งกับใคร มันปวดหัว" เด็กหนุ่มกล่าวกลั้วเสียงหัวเราะ ก่อนจะเปิดใจเล่าถึงเส้นทางความฝัน ก่อนจะมาถึงวันนี้...
• จุดเริ่มต้นของ “ไอซ์ หลวงพระเนตร”
ตั้งแต่เด็กๆ ผมฝันอยากจะเป็นดาราเป็นนักแสดง (ยิ้ม) เพราะว่าตอนช่วงเรียน ป.5 ได้ไปเข้าค่ายลูกเสือ และได้แสดงละครกับเพื่อน ตอนนั้นสนุกมาก ก็เลยฝังใจอยากจะทำงานในวงการบันเทิง แต่ทีนี้ พอขึ้น ป.6 บังเอิญได้ยินเพลงของพี่เพชร สหรัตน์ ซึ่งเป็นซิงเกิลใหม่ ซิงเกิลแรกของพี่เขา ชื่อเพลง “อ้ายตายสิไห่นำบ่” ดังมากทางภาคอีสาน ผมก็เลยชอบมาก ก็เลยอยากจะเป็นนักร้องเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ทีนี้ พอขึ้นชั้น ม.1 ก็เลยขอคุณแม่ซื้อกีตาร์ ก็เป็นจุดเริ่มต้นของทั้งหมด ทั้งหัดเล่นและหัดเขียนเพลงตามสไตล์พี่เขา ตั้งแต่ ม.2 ก็ทำมาตลอด
• ทำไมถึงเลือกที่จะชอบดนตรีแนวเพลงลูกทุ่งอีสาน แทนเพลงสตริงหรือสากลตามยุคสมัย
คือวัฒนธรรมสังคมบ้านเรา ผมเติบโตมากับสิ่งนี้ วัยรุ่นแถวบ้านส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนวเดียว แบบเดียวกันหมด เด็กแถวนี้ฟังหมอลำหมด ถามว่าทำไมถึงชอบ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เหมือนมันอยู่ในสายเลือด จริงๆ ผมก็ฟังได้หมดทุกแนว แต่พอได้ฟังเพลงศิลปะพื้นบ้านเรา ก็เลยซึมซับ พอเห็นก็ชอบโดยไม่มีเหตุผล แต่ก็ไม่ได้คาดคิดไว้ว่าจะมาถึงวันนี้ คือแอบตั้งความหวังไว้เท่านั้น
• ช่วงเริ่มแรกฝึกหัด ต้องเจอกับความยากง่ายมากน้อยแค่ไหน
ช่วง ม.1 ที่หัดซ้อมกีตาร์ ใช้ระยะเวลา 1 เดือนจึงเริ่มจับคอร์ดได้ ถัดมาอีก 5-6 เดือนเล่นเป็นเพลงได้ ส่วนการแต่งเพลง แต่งไม่จบสักเพลง (หัวเราะ) แม้ว่าจะศึกษาดูตามยูทิวบ์ ตามอาจารย์นักแต่งเพลง ดูแนวคิด ฟังเขาพูด แต่เพราะความเป็นเด็ก มันยังไม่มีความตั้งใจมากตอนนั้น ก็ถึงกับท้อ คิดจะเลิกเลย
• แล้วอะไรที่ทำให้ฮึดก้าวต่อ?
ตอนขึ้น ม.2 ช่วงที่พี่ก้อง ห้วยไร่ กำลังเป็นที่โด่งดังรู้จัก ก็ได้เห็นเรื่องราวชีวิตของพี่ก้อง เลยตั้งใจทำใหม่ เพราะทุกช่วงชีวิตของแกไม่เคยท้อ สู้ตลอด และที่สำคัญเป็นคนบ้านนอกเหมือนกับเรา ไม่ได้มีต้นทุนไม่ได้มีอะไรเลย แต่ก็สามารถฝ่าฟันจนถึงฝั่งฝัน ผมคิดว่าผมก็ต้องทำได้เหมือนกัน ก็ทำให้มีกำลังใจกลับมา ตอนนั้นก็แต่งจบได้ 2 เพลง คือเพลง “ไห่เจ้าโชคดี” และเพลง “ฮักเขาสาอ้าย” ซึ่งหลังจากแต่งเพลงแรกเสร็จ ก็ได้มีการเอามาเล่นและโพสต์ลงเฟซบุ๊ก แต่กระแสตอบรับไม่ดีเลย ทำให้คิดว่าเสียงเราคงไม่ดี เลยเลิกอยากจะเป็นนักร้อง เป็นแค่นักแต่งเพลงดีกว่า ทีนี้พอปีถัดไป จึงให้เพื่อนผู้หญิงที่ชื่อ "แป้ง - ภัคฐิราภร คงพรม" เป็นคนร้องแทน
• จึงเกิดเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ในฐานะค่ายเพลงน้องใหม่ นามว่า “หลวงพระเนตร เรคคอร์ด”
จริงๆ แล้วตั้งแต่เริ่มช่วงหัดเล่นและกลายมาเป็นเพจ 'หลวงพระเนตร เรคคอร์ด' ผมใช้ชื่อนี้อยู่แล้ว ซึ่งที่มาของชื่อก็ได้มาจากลุงตำรวจท่านหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของลุงผม แกเห็นผมนั่งเล่นกีตาร์อยู่ที่บ้านประจำ แกบอกว่าเห็นแวว เลยชวนคุยเรื่องดนตรีกับผม แกก็บอกว่าหลวงพระเนตรมันเคยเป็นชื่อวงแกตอนนั้น ซึ่งมันแปลว่า 'หลวงตา' ผมได้ยินก็รู้สึกว่ามันเท่ดี ก็เอามาตั้งเลยไม่ได้คิดอะไร
หลังจากนั้นก็เอาคลิปลงเรื่อยๆ พอเปลี่ยนเป็นเพื่อนร้อง แต่ตอนแรกก็ยังไม่ปังมาก เพราะเราเริ่มจากการคัฟเวอร์เพลง มีเพลงของเราแทรกไปบ้าง มันก็ค่อยๆ เริ่มมีคนไลค์คนแชร์ เมื่อประมาณช่วงต้นปี 2559 จนกระทั่งจุดเปลี่ยนเกิดขึ้นมาตอนผมไปดูหนังไทยเรื่อง “ไทบ้าน เดอะซีรีย์” หนังเรื่องนี้ชอบมาก มันเป็นวิถีชีวิตของวัยรุ่นอีสาน แล้วทำให้ผมคิดว่าอยากจะมีตัวเองในจอโปรเจคเตอร์ในโรงหนัง ถ้ามีตัวเองคงจะดี คิดในใจตอนนั้น ผมเลยกลับมาชวนเพื่อนทำเพลง ทำเพลงเป็นของตัวเอง แต่ด้วยความที่เราไม่มีทุน ก็เลยชวนเพื่อนไปเปิดหมวก
ครั้งแรกเล่นที่ตลาดคลองถมกับตลาดนัดในตัวอำเภอแถวบ้าน ถามว่าอายไหม ผมไม่อาย ผมสนุกมากกว่า เราทำกันด้วยใจ ก็เล่นทั้งเพลงคัฟเวอร์และเล่นเพลงตัวเอง แต่เขาก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นเพลงที่เราแต่งเอง (หัวเราะ) ก็เล่น 3- 4 วัน วันแรกได้พันกว่าบาท วันที่สองได้สามพันกว่าบาท กระทั่งได้หกพันบาท จึงเริ่มทำเพลงกันเอง วางแผนถ่ายทำเอ็มวี ส่วนภาคดนตรีให้อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นคนจัดทำให้ จากนั้นเราก็ถ่ายทำเอมวีกันเองกับเพื่อนๆ 20 คน เปิดเพจหลวงพระเนตร เรคคอร์ด ทำเล่นๆ กับเพื่อน ไม่ได้มีระบบการจัดการ ทำเองขายเอง
• การออกสู่สายตาสารธารณชน ผลลัพธ์เป็นไปอย่างที่คาดหวังหรือไม่
ไม่ครับ (หัวเราะ) วันแรกได้ 4,000 - 5,000 ยอดวิวคนดู ก็ยอมรับว่าผิดคาด คิดว่าน่าจะได้เป็นแสนๆ ล้านๆ วิว อย่างคนอื่นๆ ที่เขาทำกัน ก็มีเหนื่อยใจบ้าง แต่ก็ไม่ท้อ พี่แถวบ้านที่เขาทำเพลงมียอดวิวเป็น 10 ล้าน เขาก็ให้กำลังใจ แนะนำว่าต้องรอ ซึ่งพอหลังจากนั้นผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ มันก็เริ่มขึ้นเป็นแสนวิว เริ่มมีกระแสตอบรับขึ้นมา เพื่อนๆ ก็ช่วยกันแชร์ด้วยที่โรงเรียน เพลงก็ค่อยขยับขึ้นมาๆ จนล้านในหนึ่งเดือน (ยิ้ม) ก็ดีใจ นอกจากทำความฝันพิสูจน์ตัวเองเป็นจริง ก็ยังสืบสานวัฒนธรรมรากเหง้าของท้องถิ่นเรา เราก็เลยเดินหน้าทำกันต่อเรื่อยๆ ก็แต่งเพลงเรื่อยๆ และมีมินิซีรีย์เอ็มวีเพลงออกมา
• ล่าสุด เห็นว่าได้เล่นหนังด้วย
ระหว่างที่เราทำเพลงของเราไปเรื่อยๆ จนมาเป็นคลิปเพลง “ฮักเขาสาอ้าย” อาจารย์ประจักษ์ ไหทองคำ ก็ติดต่อมาว่า อยากให้เพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ และก็ให้เราแสดงด้วย เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ ช่วงที่มีผลงานเพลง “ฮักเขาสาอ้าย” ออกไป หลังจากที่ทำเอมวีเพลง ได้ไปออกรายการไมค์ทองคำ ก็ได้รู้จักอาจารย์ประจักษ์ อาจารย์ก็คุยเรื่อยว่าอยากจะให้แต่งเพลงให้ ผมก็ว่าผมจะสอบ ยังไม่มีเวลาจริงจัง พอดีแต่งเพลงเล่นๆ เพลง "อวสานมื้อสอบ" นั้นลงพอดี ก็เลยเอาเพลงนี้เลย ซึ่งก็มีเนื้อหาแนวๆ ทางในเพลงผู้สาวขาเลาะด้วยโดยบังเอิญ ก็ติดต่อจากเพลงและมาร่วมแสดง เมื่อวันที่ 28 กันยายน
ส่วนตัวผมก็ดีใจ ไม่คิดว่าจะได้ขนาดนี้ ได้มีผลงานและได้มาเล่นหนังเหมือนที่ตัวเองเคยฝันไว้ และก็ได้มาร้องเพลงด้วย ทำได้สองอย่างเลย ทิศทางในอนาคตก็อยากทำเรื่อยๆ ควบคู่กับการเป็นครูที่จะสอบเข้าในอนาคตที่วางไว้
• จากเริ่มต้นจนสำเร็จ มีเคล็ดลับอย่างไรให้บรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วในระยะเวลาไม่กี่ปี
ส่วนตัวผม มีคติคือ ความฝันทุกความฝัน ถ้าไม่หยุดคิดและลงมือทำ สักวันมันก็จะเป็นจริง ผมคิดอย่างนั้น อยู่ที่ใจเราล้วนๆ ต้องแน่วแน่ ถ้าใจเราแน่วแน่ ทุกอย่างก็ทำได้
ก็ขอฝากขอบคุณแฟนๆ พี่ๆ สื่อมวลชน ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ฝากติดตามผลงานพวกผมด้วย ตอนนี้สังกัดค่ายไหทองคำอินดี้ ฝากติดตามด้วยครับ นอกจากภาพยนตร์ก็จะมีเพลงมาอัพเดทให้ได้ฟังกันเรื่อยๆ ครับผม เป็นแพลงแนวอีสานบ้านเฮา วัฒนธรรมบ้านเฮาเด้อ ขอบพระคุณครับ
เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : ไหทองคำ อินดี้
และสิ่งที่ต้องบอกว่าน่าสนใจอย่างยิ่งก็คือ ที่มาของเพลงนี้ คือเด็กหนุ่มมัธยมอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น เขาเคยสร้างปรากฏการณ์ระดับ 16 ล้านวิวมาแล้ว กับเพลง "ฮักเขาสาอ้าย" ภายใต้ค่ายดนตรี "หลวงพระเนตร เรคคอร์ด" ค่ายเพลงที่ทำเองทุกกระบวนการ
“จริงๆ มันไม่ได้เครียดขนาดนั้น” "กีรติ พรมน้อย" หรือ "ไอซ์ หลวงพระเนตร" นักเรียน ม.4 โรงเรียนสมเด็จพิทยาคม หนุ่มน้อยหน้ามนผู้ไล่ล่าท้าฝัน บอกสั้นๆ ถึงเนื้อหาของเพลง “อวสานมื้อสอบ”
“ผมเขียนเพลงนี้เล่นๆ อยากให้มันสะท้อนสังคมช่วงสอบปิดภาค คิดว่าอยากจะแต่งเพลงตลกๆ ให้คนฟัง สะท้อนสังคมตอนสอบด้วย คือการเรียนของเด็กวัยรุ่นแทบไม่มีความแตกต่างกัน มีการแข่งขัน แต่สำหรับผม ผมไม่แข่งกับใคร มันปวดหัว" เด็กหนุ่มกล่าวกลั้วเสียงหัวเราะ ก่อนจะเปิดใจเล่าถึงเส้นทางความฝัน ก่อนจะมาถึงวันนี้...
• จุดเริ่มต้นของ “ไอซ์ หลวงพระเนตร”
ตั้งแต่เด็กๆ ผมฝันอยากจะเป็นดาราเป็นนักแสดง (ยิ้ม) เพราะว่าตอนช่วงเรียน ป.5 ได้ไปเข้าค่ายลูกเสือ และได้แสดงละครกับเพื่อน ตอนนั้นสนุกมาก ก็เลยฝังใจอยากจะทำงานในวงการบันเทิง แต่ทีนี้ พอขึ้น ป.6 บังเอิญได้ยินเพลงของพี่เพชร สหรัตน์ ซึ่งเป็นซิงเกิลใหม่ ซิงเกิลแรกของพี่เขา ชื่อเพลง “อ้ายตายสิไห่นำบ่” ดังมากทางภาคอีสาน ผมก็เลยชอบมาก ก็เลยอยากจะเป็นนักร้องเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ทีนี้ พอขึ้นชั้น ม.1 ก็เลยขอคุณแม่ซื้อกีตาร์ ก็เป็นจุดเริ่มต้นของทั้งหมด ทั้งหัดเล่นและหัดเขียนเพลงตามสไตล์พี่เขา ตั้งแต่ ม.2 ก็ทำมาตลอด
• ทำไมถึงเลือกที่จะชอบดนตรีแนวเพลงลูกทุ่งอีสาน แทนเพลงสตริงหรือสากลตามยุคสมัย
คือวัฒนธรรมสังคมบ้านเรา ผมเติบโตมากับสิ่งนี้ วัยรุ่นแถวบ้านส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนวเดียว แบบเดียวกันหมด เด็กแถวนี้ฟังหมอลำหมด ถามว่าทำไมถึงชอบ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เหมือนมันอยู่ในสายเลือด จริงๆ ผมก็ฟังได้หมดทุกแนว แต่พอได้ฟังเพลงศิลปะพื้นบ้านเรา ก็เลยซึมซับ พอเห็นก็ชอบโดยไม่มีเหตุผล แต่ก็ไม่ได้คาดคิดไว้ว่าจะมาถึงวันนี้ คือแอบตั้งความหวังไว้เท่านั้น
• ช่วงเริ่มแรกฝึกหัด ต้องเจอกับความยากง่ายมากน้อยแค่ไหน
ช่วง ม.1 ที่หัดซ้อมกีตาร์ ใช้ระยะเวลา 1 เดือนจึงเริ่มจับคอร์ดได้ ถัดมาอีก 5-6 เดือนเล่นเป็นเพลงได้ ส่วนการแต่งเพลง แต่งไม่จบสักเพลง (หัวเราะ) แม้ว่าจะศึกษาดูตามยูทิวบ์ ตามอาจารย์นักแต่งเพลง ดูแนวคิด ฟังเขาพูด แต่เพราะความเป็นเด็ก มันยังไม่มีความตั้งใจมากตอนนั้น ก็ถึงกับท้อ คิดจะเลิกเลย
• แล้วอะไรที่ทำให้ฮึดก้าวต่อ?
ตอนขึ้น ม.2 ช่วงที่พี่ก้อง ห้วยไร่ กำลังเป็นที่โด่งดังรู้จัก ก็ได้เห็นเรื่องราวชีวิตของพี่ก้อง เลยตั้งใจทำใหม่ เพราะทุกช่วงชีวิตของแกไม่เคยท้อ สู้ตลอด และที่สำคัญเป็นคนบ้านนอกเหมือนกับเรา ไม่ได้มีต้นทุนไม่ได้มีอะไรเลย แต่ก็สามารถฝ่าฟันจนถึงฝั่งฝัน ผมคิดว่าผมก็ต้องทำได้เหมือนกัน ก็ทำให้มีกำลังใจกลับมา ตอนนั้นก็แต่งจบได้ 2 เพลง คือเพลง “ไห่เจ้าโชคดี” และเพลง “ฮักเขาสาอ้าย” ซึ่งหลังจากแต่งเพลงแรกเสร็จ ก็ได้มีการเอามาเล่นและโพสต์ลงเฟซบุ๊ก แต่กระแสตอบรับไม่ดีเลย ทำให้คิดว่าเสียงเราคงไม่ดี เลยเลิกอยากจะเป็นนักร้อง เป็นแค่นักแต่งเพลงดีกว่า ทีนี้พอปีถัดไป จึงให้เพื่อนผู้หญิงที่ชื่อ "แป้ง - ภัคฐิราภร คงพรม" เป็นคนร้องแทน
• จึงเกิดเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ในฐานะค่ายเพลงน้องใหม่ นามว่า “หลวงพระเนตร เรคคอร์ด”
จริงๆ แล้วตั้งแต่เริ่มช่วงหัดเล่นและกลายมาเป็นเพจ 'หลวงพระเนตร เรคคอร์ด' ผมใช้ชื่อนี้อยู่แล้ว ซึ่งที่มาของชื่อก็ได้มาจากลุงตำรวจท่านหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของลุงผม แกเห็นผมนั่งเล่นกีตาร์อยู่ที่บ้านประจำ แกบอกว่าเห็นแวว เลยชวนคุยเรื่องดนตรีกับผม แกก็บอกว่าหลวงพระเนตรมันเคยเป็นชื่อวงแกตอนนั้น ซึ่งมันแปลว่า 'หลวงตา' ผมได้ยินก็รู้สึกว่ามันเท่ดี ก็เอามาตั้งเลยไม่ได้คิดอะไร
หลังจากนั้นก็เอาคลิปลงเรื่อยๆ พอเปลี่ยนเป็นเพื่อนร้อง แต่ตอนแรกก็ยังไม่ปังมาก เพราะเราเริ่มจากการคัฟเวอร์เพลง มีเพลงของเราแทรกไปบ้าง มันก็ค่อยๆ เริ่มมีคนไลค์คนแชร์ เมื่อประมาณช่วงต้นปี 2559 จนกระทั่งจุดเปลี่ยนเกิดขึ้นมาตอนผมไปดูหนังไทยเรื่อง “ไทบ้าน เดอะซีรีย์” หนังเรื่องนี้ชอบมาก มันเป็นวิถีชีวิตของวัยรุ่นอีสาน แล้วทำให้ผมคิดว่าอยากจะมีตัวเองในจอโปรเจคเตอร์ในโรงหนัง ถ้ามีตัวเองคงจะดี คิดในใจตอนนั้น ผมเลยกลับมาชวนเพื่อนทำเพลง ทำเพลงเป็นของตัวเอง แต่ด้วยความที่เราไม่มีทุน ก็เลยชวนเพื่อนไปเปิดหมวก
ครั้งแรกเล่นที่ตลาดคลองถมกับตลาดนัดในตัวอำเภอแถวบ้าน ถามว่าอายไหม ผมไม่อาย ผมสนุกมากกว่า เราทำกันด้วยใจ ก็เล่นทั้งเพลงคัฟเวอร์และเล่นเพลงตัวเอง แต่เขาก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นเพลงที่เราแต่งเอง (หัวเราะ) ก็เล่น 3- 4 วัน วันแรกได้พันกว่าบาท วันที่สองได้สามพันกว่าบาท กระทั่งได้หกพันบาท จึงเริ่มทำเพลงกันเอง วางแผนถ่ายทำเอ็มวี ส่วนภาคดนตรีให้อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นคนจัดทำให้ จากนั้นเราก็ถ่ายทำเอมวีกันเองกับเพื่อนๆ 20 คน เปิดเพจหลวงพระเนตร เรคคอร์ด ทำเล่นๆ กับเพื่อน ไม่ได้มีระบบการจัดการ ทำเองขายเอง
• การออกสู่สายตาสารธารณชน ผลลัพธ์เป็นไปอย่างที่คาดหวังหรือไม่
ไม่ครับ (หัวเราะ) วันแรกได้ 4,000 - 5,000 ยอดวิวคนดู ก็ยอมรับว่าผิดคาด คิดว่าน่าจะได้เป็นแสนๆ ล้านๆ วิว อย่างคนอื่นๆ ที่เขาทำกัน ก็มีเหนื่อยใจบ้าง แต่ก็ไม่ท้อ พี่แถวบ้านที่เขาทำเพลงมียอดวิวเป็น 10 ล้าน เขาก็ให้กำลังใจ แนะนำว่าต้องรอ ซึ่งพอหลังจากนั้นผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ มันก็เริ่มขึ้นเป็นแสนวิว เริ่มมีกระแสตอบรับขึ้นมา เพื่อนๆ ก็ช่วยกันแชร์ด้วยที่โรงเรียน เพลงก็ค่อยขยับขึ้นมาๆ จนล้านในหนึ่งเดือน (ยิ้ม) ก็ดีใจ นอกจากทำความฝันพิสูจน์ตัวเองเป็นจริง ก็ยังสืบสานวัฒนธรรมรากเหง้าของท้องถิ่นเรา เราก็เลยเดินหน้าทำกันต่อเรื่อยๆ ก็แต่งเพลงเรื่อยๆ และมีมินิซีรีย์เอ็มวีเพลงออกมา
• ล่าสุด เห็นว่าได้เล่นหนังด้วย
ระหว่างที่เราทำเพลงของเราไปเรื่อยๆ จนมาเป็นคลิปเพลง “ฮักเขาสาอ้าย” อาจารย์ประจักษ์ ไหทองคำ ก็ติดต่อมาว่า อยากให้เพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ และก็ให้เราแสดงด้วย เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ ช่วงที่มีผลงานเพลง “ฮักเขาสาอ้าย” ออกไป หลังจากที่ทำเอมวีเพลง ได้ไปออกรายการไมค์ทองคำ ก็ได้รู้จักอาจารย์ประจักษ์ อาจารย์ก็คุยเรื่อยว่าอยากจะให้แต่งเพลงให้ ผมก็ว่าผมจะสอบ ยังไม่มีเวลาจริงจัง พอดีแต่งเพลงเล่นๆ เพลง "อวสานมื้อสอบ" นั้นลงพอดี ก็เลยเอาเพลงนี้เลย ซึ่งก็มีเนื้อหาแนวๆ ทางในเพลงผู้สาวขาเลาะด้วยโดยบังเอิญ ก็ติดต่อจากเพลงและมาร่วมแสดง เมื่อวันที่ 28 กันยายน
ส่วนตัวผมก็ดีใจ ไม่คิดว่าจะได้ขนาดนี้ ได้มีผลงานและได้มาเล่นหนังเหมือนที่ตัวเองเคยฝันไว้ และก็ได้มาร้องเพลงด้วย ทำได้สองอย่างเลย ทิศทางในอนาคตก็อยากทำเรื่อยๆ ควบคู่กับการเป็นครูที่จะสอบเข้าในอนาคตที่วางไว้
• จากเริ่มต้นจนสำเร็จ มีเคล็ดลับอย่างไรให้บรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วในระยะเวลาไม่กี่ปี
ส่วนตัวผม มีคติคือ ความฝันทุกความฝัน ถ้าไม่หยุดคิดและลงมือทำ สักวันมันก็จะเป็นจริง ผมคิดอย่างนั้น อยู่ที่ใจเราล้วนๆ ต้องแน่วแน่ ถ้าใจเราแน่วแน่ ทุกอย่างก็ทำได้
ก็ขอฝากขอบคุณแฟนๆ พี่ๆ สื่อมวลชน ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ฝากติดตามผลงานพวกผมด้วย ตอนนี้สังกัดค่ายไหทองคำอินดี้ ฝากติดตามด้วยครับ นอกจากภาพยนตร์ก็จะมีเพลงมาอัพเดทให้ได้ฟังกันเรื่อยๆ ครับผม เป็นแพลงแนวอีสานบ้านเฮา วัฒนธรรมบ้านเฮาเด้อ ขอบพระคุณครับ
เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : ไหทองคำ อินดี้
