“แหม่มโพธิ์ดำ” เผยเรื่องราวสาวสุดเซ็งจอดรถหน้าออฟฟิศในหมู่บ้านย่านศรีนครินทร์ เจอฉนวนละลาย จากสายไฟลุกไหม้ ร่วงเต็มรถ ถามหาคนรับผิดชอบ เจอเกี่ยงกันไม่รับ สุดท้ายออกค่าขัดสีเอง พร้อมฝากเตือนภัยผู้ใช้รถระวังกันให้มาก
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. เพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ได้เปิดเผยเรื่องราวความขัดแย้งของเจ้าของโครงการบ้านย่านศรีนครินทร์ กับการไฟฟ้า หลังมีสาวร้องเรียนจากเหตุกิ่งไม้สีสายไฟ จนทำให้ฉนวนละลายจากการที่สายไฟลุกไหม้และหยดมาโดนรถเก๋งเกือบทั่วคัน เป็นรอยไหม้ดำๆ ของรถเก๋งที่ตนเองจอดไว้บริเวณดังกล่าว ทำให้เจ้าของรถเก๋งดังกล่าวได้สอบถามถึงผู้ที่จะมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ และเกิดการเถียงกันระหว่างเจ้าของโครงการกับทางการไฟฟ้า โยนความรับผิดชอบกันไปมา ทางการไฟฟ้าได้ให้คำตอบว่า กิ่งไม้ของโครงการมาสีกับสายไฟเองทางเขาจึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ ส่วนทางเจ้าของโครกการบ้านก็บอกว่าต้องรอนำเรื่องเข้าที่ประชุมให้ได้ข้อสรุปออกมาก่อน และทางโครงการได้บอกอีกว่าเป็นเหตุสุดวิสัยหากจะให้รับผิดชอบก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
ทางผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Natthakarn Chumphinit” ซึ่งเป็นเจ้าของรถเก๋งสีขาวคันดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงผ่านเพจของ “แหม่มโพธิ์ดำ” ว่า
“ขออนุญาตทุกคนนะคะ เราคือเจ้าของรถในเหตุการณ์นะคะ ประเด็นแรก ที่ไม่จอดรถในบ้าน เพราะนี่ไม่ใช่ที่พักอาศัยเราค่ะ เราแค่มาทำงาน เช้าและเย็นกลับ ไม่จอดรถค้างคืน ที่ไม่จอดในบ้านเพราะพื้นที่ไม่พอ เราจะจอดตามพื้นที่ส่วนกลาง และบริเวณหน้าออฟฟิศเท่านั้น ตรงนี้ตราบใดที่เรายังทำงานที่นี่เราแก้ปัญหานี้ไม่ได้ค่ะ เรายังต้องใช้รถไปทำงาน ประเด็นเรื่องเคลมประกัน จบไปนะคะ รถเราประกันชั้น 3 ไม่รับเคลมอยู่แล้วค่ะ สำหรับเรื่องเรียกร้องความเสียหาย อันนี้พูดกันตรงๆนะคะ เราก็ไม่ได้อยากเสียเงินเอง เพราะเราก็แค่รู้สึกว่าเรามาทำงาน รถเราจอดเฉยๆ แต่ถ้าทุกฝ่ายจะแจ้งว่าไม่รับผิดชอบใดๆ ด้วยเพราะเราไม่ใช่ลูกบ้านโดยตรง หรือเหตุผลเรื่องจอดรถนอกตัวบ้าน ตรงนี้เราเข้าใจและทำใจไว้แล้ว ทุกคนมีอารมณ์ผิดหวังเสียใจ เห็นรถครั้งแรกมันเฟลค่ะ อาจจะโพสอะไรย้อนแย้งไปบ้าง ก็ต้องขออภัยทุกคนด้วยนะคะ และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจนะคะ ตอนนี้ขัดสีออกแล้ว ซึ่งเราค่อนข้างสบายใจขึ้นค่ะ ขอบคุณควีนที่แบ่งปันพื้นที่ให้เรานะคะ”
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของตนเองแล้วว่า เรื่องราวทุกอย่างได้คลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว และยังฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจกับเหตุการณ์อุบัติเหตุแบบนี้ให้มากขึ้น และฝากเตือนให้ผู้ที่มีรถยนต์ทุกท่าน ระมัดระวังในการเลือกที่จอดรถให้ดียิ่งขึ้น
