ชาวเน็ตแห่ชม นักข่าวช่อง 9 สำนักข่าวไทย รีบวิ่งออกจากศาลพร้อมเอกสารข่าวศาลฎีกา บอกนักข่าวที่อยู่รถโอบี “คุก 5 ปีไม่รอลงอาญา” แม้จะเหนื่อยหอบแต่ก็ยังรายงานต่อจนจบ ยกย่องนี่คือนักข่าวตัวอย่าง
นับเป็นอีกหนึ่งสีสันสำหรับการทำข่าวบริเวณหน้าที่ทำการศาลฎีกา กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากไม่ระงับยับยั้งการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ระงับยับยั้งปล่อยให้มีการส่งมอบข้าวตามสัญญาให้รัฐวิสาหกิจจีนต่อไปอีก อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 (เดิม) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา
โดยพบว่า ระหว่างที่สื่อมวลชนแต่ละสำนักกำลังรายงานข่าว เช่นเดียวกับ สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี (โมเดิร์นไนน์ ทีวี) ได้มีการรายงานข่าวต้นชั่วโมงจากสำนักข่าวไทย เวลา 15.00 น. พบว่าระหว่างตัดสัญญาณรายงานสดไปยังศาลฎีกา ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.สุธิดา ปล้องพุดชา รายงานข่าวบริเวณรถโอบีที่จอดตรงข้ามประตูศาลฎีกา โดยมี น.ส.ดาวี ไชยคีรี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยอีกคนหนึ่ง เข้าไปฟังคำพิพากษาอยู่ในห้องพิจารณาคดี เวลา 15.04 น. พบว่า มีผู้สื่อข่าวที่รออยู่ด้านหน้าศาลวิ่งไปรับเอกสารข่าวจากศาลฎีกาจากเจ้าหน้าที่ศาล กระทั่ง น.ส.ดาวี วิ่งออกจากประตูศาลพร้อมเอกสารข่าว และกล่าวกับ น.ส.สุธิดา ที่กำลังรายงานสดว่า “คุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา” ก่อนที่จะพูดคุยกับ น.ส.ดาวี ถึงผลพิพากษาคดี ซึ่ง น.ส.ดาวี รายงานข่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ เพราะเพิ่งวิ่งออกจากศาลมาหมาดๆ ก่อนจะรายงานข่าวจนจบ
การรายงานข่าวดังกล่าว นอกจากจะได้รับเสียงชื่นชมจากคนในสำนักข่าวไทยแล้ว บุคคลภายนอก โดยเฉพาะชาวเน็ตเองต่างก็ชื่นชมการทำหน้าที่สื่อมวลชนของ น.ส.ดาวี ที่ทุ่มเทในการนำเสนอข่าว ที่ช่วงนั้นวิ่งมาที่รถโอบี เปรียบได้กับวิ่ง 4x100 เมตร และถือเป็นสื่อมวลชนที่ควรเอาแบบอย่าง นอกจากนี้ยังชื่นชม น.ส.สุธิดา ว่า ในสถานการณ์แบบนั้น ที่ต้องแยกประสาทว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังรายงานต่อเนื่องให้สมดุลและไม่ขาดตอน ไม่ติดค้าง (เดตแอร์) ถือว่ามีความเป็นมืออาชีพ