xs
xsm
sm
md
lg

พระกร่างมีมาก สมควรปฎิรูปวงการสงฆ์! “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ชี้ดีเดย์เดือนหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คืบหน้าจากกรณีการโยกย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ หรือ ผอ. พงศ์พร อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จนเป็นข้อกังขาต่อสาธารณะชน ไปจนถึงกรณีความเคลือบแคลงสงสัยเรื่องของการกระทำทุจิตรที่เกี่ยวข้องกับวัดหลากต่อหลายเหตุการณ์--ที่หวั่นเป็นมวยล้มต้มคนดู--ไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างโปร่งใสและรวดเร็ว

จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ รายการ “เป็นเรื่อง!” ทางช่อง News1 จึงไม่อาจรอช้าที่จะต่อสายตรงถกถึงประเด็นดังกล่าวกับอดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ถึงทิศทางการดำเนินงานข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ประเทศไทยยังมีความหวังที่จะฟื้นฟูพุทธศาสนาให้ถูกต้องในที่ควรจะเป็นได้หรือไม่

ฤาจักเป็นกงล้อประวัติศาสตร์ที่หมุนซ้ำรอยเดิม!!!

ในเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นของวงการสงฆ์ วันนี้ประเทศไทยยังมีความหวังในเรื่องการปฏิรูปอยู่ไหม

ก็คงจะต้องตามกันว่าทางรัฐจะตรวจสอบกันจริงจังหรือไม่ แต่ว่าเราต้องตามอย่างจริงจัง โดยเฉพาะประชาชน แล้วก็อาจจะต้องตามในประเด็นที่เขาซุกไว้ เช่นเรื่อง กรณี 3 วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ เรื่องที่ไม่มีโรงเรียนพระปริยธรรม แต่ไปเบิกเงินอุดหนุนมา อันนี้ทางหน่วยงานภาครัฐต้องตามคำถามนี้ให้ได้ว่าจริงเท็จประการใด มีการตรวจสอบในส่วนเรื่องนี้หรือไม่อย่างไร เพราะเรื่องนี้มีขั้นตอน มันมีความชัดเจนมาก แล้วก็นอกจากเรื่องนี้ก็มีเรื่องอื่นที่ต้องติดตาม

แต่ถ้าถามเรื่องเวลาในการสะสางสำหรับส่วนตัวผมคิดว่าอาจจะต้องเว้นไว้รอตอนก่อน รอหลังจากเดือนตุลาคม เพราะตอนนี้กำลังเข้าช่วงที่เข้าสู่ห้วงถวายความอาลัยในพระบรมมหาราชพิธี ดังนั้นก็จะต้องเป็นในส่วนของพฤศจิกายน ก็คงจะต้องตามกันอย่างจริงๆ จังๆ อีกครั้งหนึ่ง แล้วรัฐบาลก็น่าจะมีความชัดเจนในช่วงเวลานั้น

มีข่าวออกมาล่าสุดว่าทาง ป.ป.ท. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ) มีการตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัด เบื้องต้นหน่อยงานที่ตรวจสอบไม่พบว่าวัดหรือพระผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด พบเพียงแต่ว่ามีเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตเพียงเท่านั้น

ก็เป็นอย่างที่คาดไว้อยู่แล้ว...แต่ก็อย่างที่บอกว่าเบื้องต้น เราก็ต้องติดตามต่อไป ไอ้เบื้องต้นแล้วต่อมาหลังจากถัดเดือนตุลาคมเป็นเดือนพฤศจิกายน มันมีความคืบหน้าขยายผลไปได้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เราก็ต้องดำเนินงานกล่าวโทษไปตรงๆ เพราะหลายเรื่องจะไปบอกปฏิเสธว่าทางวัด เกี่ยวกับเจ้าอาวาส ไม่ได้มีการที่จะไปรับผิด รับผิดชอบอะไรเลย มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วบางวัด ดังนั้นถ้าบอกว่าไม่มีพระภิกษุ เจ้าอาวาสรูปใด ผิดทั้งสิ้น ก็เป็นมวยล้มต้มคนดูแน่นอน

ซึ่งเราก็คงยอมไม่ได้ เพราะว่าประชาชนต้องการคำตอบกันในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง อันนี้เป็นจุดเริ่มเฉยๆ ยังมีเรื่องของบัญชีรับ-จ่ายของวัด ที่ปกปิดกันเหลือเกิน ทราบไหมว่าที่แจ้งมาว่าส่ง 3 หมื่นกว่าวัดทั้งหลายที่ส่งมาสำนักงานพระพุทธศาสนาแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์จากทั่วประเทศ จริงๆ ไม่ได้ส่งเลย ส่งแต่ตัวเลขเฉยๆ ไม่ได้มีการจัดทำบัญชีพร้อมอย่างโปร่งใส่ที่พร้อมจะเปิดบัญชีให้สาธารณะได้รู้ ก็เพราะด้วยเหตุนี้ กลัวเรื่องปัญหาเงินทอน กลัวเรื่องผลประโยชน์จะเอาไปใช้ไม่ได้ทั้งหลาย ซึ่งผมว่าถึงเวลาที่พุทธศาสนิกชนจะต้องตื่นตัวตรวจสอบกันอย่างเข้มข้น แต่รอหลังเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจะดำเนินการเรื่องนี้

นอกจากเราจะเฝ้าติดตามเรื่องนี้ หลายๆ คนอยากจะทราบถึงชีวิต ของท่าน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ หรือ ผอ. พงศ์พร อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คุณไพรบูรณ์ได้มีการพูดคุย อัพเดทหรือไม่ว่าตอนนี้ท่านเป็นอย่างไรบ้าง

ก็คงยังไม่ได้พูดคุยกันกับตัวท่านเองโดยตรง แต่ผมก็เข้าใจว่าท่าน เนื่องจากท่านยังรับราชการอยู่ ฉะนั้นการทำงานอะไรก็คงจะต้องอยู่ภายใต้กรอบของระบบระเบียบราชการ แต่ช่วงนี้ก็คงอาจจะต้องรอเรื่องพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีความชัดเจนขึ้น แต่ผมก็เข้าใจว่าประชาชนก็ยังทราบข่าว ยังติดตามข่าวคราวท่าน ซึ่งผมก็เช่นเดียวกัน เรื่อง ผอ. พงศ์ธร ในเมื่อท่านเป็นผู้ตรวจสำนักนายกแล้ว นายกท่านจะมอบหมายงานอย่างที่ท่านได้กล่าวไว้ตั้งแต่ตอนที่มีการโยกย้ายขึ้น ในวันที่ 29 สิหาคม ว่าจะเอาไปช่วยงานใกล้ๆ ช่วยงานปฏิรูปนั้น ท่านจะมีการแต่งตั้งให้ทำอย่างที่ท่านได้กล่าวไว้จริงหรือไม่ เพราะว่าประชาชนก็เป็นห่วงว่าถ้าสังคมหรือคนที่ออกมาทำหน้าที่ตรวจสอบกันอย่างตรงไปตรงมาและเป็นข้าราชการระดับสูง แต่กลับถูกย้ายไปดองไว้ เอาไปเก็บซะ หรืออะไรต่างๆ ที่ทำให้มันทำให้ความรู้สึกของประชาชนไม่ดี ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ก็ยังเป็นเรื่องที่สังคมตรวจสบติดตาม ซึ่งผมว่าก็เช่นเดียวกันเดือนพฤศจิกาก็ต้องเริ่มทวงถามกันต่อไป

แล้วเรื่องสารทุกข์สุขดิบคุณไพบูลย์ได้พอมีโอกาสติดต่อกับ ผอ. พงศ์พร ทราบหรือไม่ว่าตั้งแต่ไปรับตำแหน่งใหม่ได้มีโอกาสลงพื้นที่บ้างหรือยัง

ยังๆ เพราะว่าอยากจะให้ท่านได้พักให้สบายใจก่อน เนื่องจากว่าถ้าผมไปอะไรมากเดี๋ยวมีผู้บังคับบัญชาทั้งหลายก็จะเพ่งเล็งอีก แต่ทั้งนั้นที่ส่วนผมไมได้มีปัญหาอะไร ในการที่ผมจะตรวจสอบการทำงานของฝ่ายรัฐ โดยเฉพาะในระดับรัฐมนตรีหรือรองนายกในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนายกรัฐมนตรีท่านด้วย เพราะว่าถ้าอย่าง ผอ. พงศ์พร เป็นเรื่องที่คนทั้งประเทศเข้าสนใจ เขาอยากจะดูว่าความจริงต่อรัฐบาลต่อข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ดี จริงใจมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้ตรวจสอบไม่ยาก ติดตามไม่ยาก แต่เวลามันอาจจะไม่เร็วๆ นี้ซะหน่อย ก็ขอให้มันมีเวลาสักหน่อย

สาเหตุที่ถามต้องเรื่องความเป็นอยู่ของ ผอ. พงศ์พร เนื่องจากตอนที่มีคำสั่งออกมา ได้มีคลิปที่เป็นของพระรูปหนึ่งได้ออกปลุกกระแสชาวพุทธและพระสงฆ์ใน 5 จังหวัดภาคใต้ให้มีการจัดรับน้องให้หนัก

ผมได้เห็นแล้ว คือพระรูปนี้ท่านก็ประเภทพูดจาอะไรที่มี่สมควรจะเป็นพระอยู่แล้ว คือตั้งแต่ก่อนหน้านั้นก็ออกมาพูดอะไร ผอ.พงศธร ที่ไปเกี่ยวข้องกับการปฏิรูปกิจการของพระพุทธศาสนาเนี่ย ที่ท่านนายกจะมอบหมายเพิ่มให้ ท่านจะมอบเมื่อไหร่ และจะทำงานเมื่อไหร่ตรงนี้ซะมากกว่า แต่ส่วนไอ้คนในคลิปที่จะไปตอนรับอย่าไปให้ราคา ซึ่งจะสู้กับกระแสประชาชนที่เป็นพุทธศาสนิกชนไม่ได้อยู่แล้ว

ยังเห็นตัวการกระทำของพระรูปนี้เสอมๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แล้วก็ยังมีที่การอ้างบอกว่ามีพระผู้ใหญ่ในเถรสมาคมว่าให้การสนับสนุนอยู่ เขาไม่กลัว ถ้ามีอย่างนี้หลายๆ รูป ส่วนตัวคิดว่าจะทำอย่างไรดี

จริงๆ มีตั้งหลายรูป เขายิ่งพูดก็ยิ่งทำให้เจ้านายเขา คือมหาเถรสมาคมยิ่งพังเร็วขึ้นไปอีก ผมว่าถ้าอยากจะพูดก็พูดให้เต็มที่ มันจะได้มีหลักฐานครบถ้วนว่าอย่างนี้มันสมควรที่จะปฏิรูปคณะสงฆ์แล้วหรือยัง อย่างคลิปที่พูดมาจะเรียกว่าพระดีหรือเปล่าที่พูด ไม่ทราบว่าพูดอย่างนี้อออกมาอย่างนี้ คนที่ฟังแล้วรู้สึกอย่างไร ก็นี้แหล่ะคือความเสื่อมที่ทำให้พวกเราต้องมาตรวจสอบ ต้องมาติดตามเพื่อที่จะอยากจะให้ปฏิรูปกิจการพุทธศาสนา เพราะว่าผลิตผลของการปกครองคณะสงฆ์ก็คือได้พระรูปแบบนี้และมีอีกจำนวนมากๆ เลยที่เป็นแบบนี้

ซึ่งอันนี้ก็มีปัญหา ซึ่งล่าสุดก็เห็นมีข่าวลงมาในโซเชียบเน็ตเวิรค์เกี่ยวกับระดับเป็นถึงกรรมการมหาเถรสมาคมไปร่วมงานพิธีหนึ่งซึ่งเป็นถึงอธิการบดีด้วยมั่ง แล้วท่านก็ไปนั่งดูการฟ้อนรำอะไรต่างๆ ซึ่งมันไม่ใช่กิจสงฆ์ ดูภาพแล้วในก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปหมด เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่คณะสงฆ์หรือการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาต้องกลับมาสู่พระธรรมวินัย ไอ้ที่ทำมาล่วงละเมิดพระธรรมวินัยทั้งหมด โดยเฉพาะพระรูปเมื่อนี้ในคลิปวีดีโอนั้น อันนี้ล่วงละเมิดไม่รู้ตั้งกี่เรื่องๆ

ส่วนตัวในฐานะคนที่พยายามจะพูดเรื่องของการปฏิรูปคณะสงฆ์มานาน ขนาดเรามีขนาดราชการน้ำดีมาก แข็งแรง กล้าหาญ ยังอยู่ไม่ได้เลย แล้วเรามีความหวังขนาดไหน

ก็มันเกี่ยวกับสถานการณ์และห้วงเวลาด้วย แต่ว่าผมก็ยังยืนยันตั้งแต่ทำเรื่องนี้มา ก็เห็นพัฒนาการเป็นลำดับว่าฝ่ายคณะสงฆ์ที่กระทำมิดีมิร้ายต่อศาสนา ก็ถูกกระชากหน้ากากออกมาเป็นระยะๆ แล้วก็มี ผอ. พงศ์ธร ที่เข้าไปตรวจสอบก็ได้ประเด็นที่สำคัญออกมาให้กับสาธารณะเพิ่มอีก คือช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่ได้

เราก็ต้องทำกันเข้าไป แล้วผมยังเชื่อว่าไม่ว่าจะมีข้าราชการ อุบาสก อุบาสิกา พุทธศาสนิกชนที่ตอนนี้ตื่นตัวกันมากมายและก็มีแต่ทวีคูณขึ้น ดังนั้นไม่เสียเปล่าและคงเดินหน้ากันไปได้เห็นการปฏิรูปเกิดขึ้น แต่ช้าเร็วอย่างไรก็ต้องมองว่ามันมีความคืบหน้าเป็นระยะอยู่แล้ว

นอกจากเวลาและสถานการณ์ ท้ายที่สุดส่วนตัวทำงานตรงไปตรงมากอย่างนี้เคยโดนสายตรงไหม เบรกๆ หน่อย มีบ้างหรือไม่

ใครจะมากล้าเบรกผม ผมเป็นอิสระ ไม่มีใครมาเบรกผม มาสั่งอะไรต่างๆ ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเราที่ต้องคำนึงคือเสียงของประชานเป็นหลักอยู่แล้ว ผมก็พูดแทนประชาชน ประชาชนคิดอย่างไรเราก็คิดตรงกัน ดังนั้นถ้าเราพูดโดยประชาชนที่มีความรู้สึกตรงกัน พูดออกมาแล้วไม่ต้องไปกลัวใคร พุ่งไปเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น