ลุงเกริ่น เขียนชื่น อายุ 65 ปี เดินทางด้วยเรือกอและ จากจังหวัดนราธิวาส เพื่อมากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง ซึ่งเรือกอและเป็นเรือแห่งสัญลักษณ์ของชาวเลภาคใต้ โดยได้ขอให้ช่างในจังหวัดปัตตานี ช่วยต่อเรือให้ แล้วก็ตั้งชื่อเรือว่า “ญีวอ ยัง ซามอ ซึ่งแปลว่า หัวใจเดียวกัน” โดยใช้เวลาเดินทางกว่า 2 เดือนมาถึงท่าเรือท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร
วันนี้ (14 ก.ย.) เวลา 10.30 น. นายเกริ่น เขียนชื่น อายุ 65 ปี ซึ่งล่องเรือกอและขนาดเล็ก มากับนายมุกตานาวี อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส เพื่อนจิตอาสา จากจังหวัดนราธิวาส มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ล่องเรือเดินทางมาถึงท่าพระจันทร์แล้ว หลังใช้เวลาเดินทางมานานถึง 64 วัน นายเกริ่น กล่าวว่า ด้วยความตั้งใจที่จะเดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงขอให้ช่างในจังหวัดปัตตานีช่วยต่อเรือกอและ 2 ที่นั่ง และมีการเสริมอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อให้การเดินเรือในทะเลปลอดภัยมากขึ้น หากต้องเจอคลื่นสูงหรือลมแรง โดยใช้เงินในการต่อเรือลำนี้ประมาณ 7 หมื่นบาท และได้ตั้งชื่อเรือลำนี้ว่า “ญีวอ ยัง ซามอ” ซึ่งแปลว่า “หัวใจเดียวกัน” ผมได้ออกเดินทางจากจังหวัดนราธิวาส มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2560 และในวันนี้เดินทางเข้ามาสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ถึงสะพานภูมิพลแล้ว คาดว่า ใช้เวลาในการล่องเรืออีก 2 วัน ก็จะถึงจุดหมายคือท่าพระจันทร์ ก่อนที่จะขึ้นไปต่อแถวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพตามที่ตั้งใจไว้
นายเกริ่น กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพแล้ว จะมอบเรือลำนี้ให้หน่วยงานที่เห็นความสำคัญและต้องการเรือลำนี้นำไปเก็บรักษา แต่ก็ต้องดูก่อนว่ามอบให้หน่วยงานไหน ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจและประสบการณ์ที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต
