“ทำแบบนี้ทำไม?”
“จิตใจทำด้วยอะไร?”
เหยื่อสาวแสบหลอกแต่งงานก่อนเชิดสินสอดหนี เปิดใจให้สัมภาษณ์
พร้อมระบุรายละเอียดที่ฟังแล้วต้องอึ้ง!
เป็นข่าวดังที่ได้ยินได้ฟังแล้วต้องอึ้ง เมื่อมีสาวนางหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่” ที่ในข่าวบอกว่า มีผู้เสียหายเข้าฟ้องร้องดำเนินคดีกับเธอแล้วถึง 13 ราย โดยทั้งหมดเป็นผู้ชายที่ น.ส.จริยาภรณ์ หลอกให้รักให้ชอบแล้วทำทีขอแต่งงาน ก่อนจะเชิดเงินสินสอดหลานแสนบาท บางรายเกือบล้านบาท หนีหาย ไร้เยื่อใยรักที่เคยพร่ำบอก
ด้วยความชอกช้ำระกำใจ เหยื่อรายหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “วิพล โพธ์สุวรรณ” ได้บอกเล่าเรื่องราวของตนที่ถูกกลโกงแห่งความรักเล่นงานจนสูญเงินไปเกือบล้านบาท โดยเป็นการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เป็นเรื่อง!” ทางช่อง News 1
อ่านรายละเอียดด้านล่าง หรือคลิกชมคลิปได้เลย
พิธีกร : วิธีการเข้ามาของสาวคนนี้ คือเข้ามาทางเฟซบุ๊กใช่ไหมครับ
วิพล : ใช่ครับ
พิธีกร : ครั้งแรกที่เขาทักทายเข้ามา เขาว่ายังไงบ้างครับ
วิพล : ผมไปกดไลค์ในเฟสเขาก่อน จากนั้นเขาก็อินบ็อกซ์กลับมา แล้วก็คุยกันมาเรื่อยๆ ครับ คือรูปโปรไฟล์เขาก็เป็นรูปตัวเขากับผลไม้ครับ
พิธีกร : คือถามตรงๆ เลยว่า คุยกันได้แป๊บนึง แล้วนัดเจอ จากนั้นก็มีเซ็กซ์กัน
วิพล : ใช่ครับ เขามาแบบจู่โจมเลย
พิธีกร : แล้วหลังจากที่มีอะไรกันแล้ว พฤติกรรมเขาเปลี่ยนไปมั้ย
วิพล : ก็ไม่เปลี่ยนครับ ก็ยังคุยแบบหนุ่มสาวทั่วไป
พิธีกร : แล้วเริ่มขอแต่งงานเมื่อไหร่ครับ
วิพล : เริ่มตั้งแต่ช่วงที่ขอเริ่มทำธุรกิจด้วยกัน แล้วเขาก็บอกว่าเขาอยากมีครอบครัว พอคบแล้วเขาอยากมีครอบครัวเลยครับ
พิธีกร : มีเอะใจสักหน่อยไหมครับว่า เขาอาจจะเป็นพวกต้มตุ๋นมาก่อน
วิพล : ไม่มีเลยครับ แต่เขาบอกว่า เคยแต่งงาน แต่จับได้ว่าสามีเขาไปมีเมียน้อย ก็เลิกกัน แบบมาขอความเห็นใจ แล้วบอกว่าตัวเองมีธุรกิจ
พิธีกร : เขาชวนคุณทำธุรกิจก่อนมั้ย
วิพล : เขาก็พูดเชิงว่า อยากให้ร่วมกับเขา แล้วก็ชวนด้วย ตอนนั้นเขาขอเงินลงทุนเราประมาณ 2 แสนครับ
พิธีกร : เขาขอเงินทุนเป็นเงินลงทำเกี่ยวกับผลไม้ แล้วให้เขามั้ย
วิพล : ผมเอารถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ แล้วโอนไปให้เขา 180,000 ครับ เพราะว่าคุยกันมานาน คุยตลอดเกือบ 3 เดือนครับ
พิธีกร : 3 เดือน เขาก็ปรนนิบัติคุณอยู่ว่างั้นเถอะ
วิพล : เขาก็มาหาผมในวันหยุดบ้างครับ เกือบทุกอาทิตย์ บางทีผมก็ไปหาเขาเหมือนกันครับ เวลาไปมาหาสู่กัน เขาก็พูดเรื่องธุรกิจ อาชีพการงานของเขา ชวนกันว่ายอดจะไปยังไง ทำยังไง
พิธีกร : คืออยู่ 3 เดือน ประทับใจเขา แต่ไม่นึกว่าเขาจะทำแบบนี้ พอโอนเงินไป เขาขอแต่งงาน หรือเราขอ
วิพล : เราก็คุยกันสองคน เขาก็บอกว่าเพื่อเป็นการลงทุน และเพื่อพ่อแม่ที่เห็นความตั้งใจของผม กับการทำธุรกิจครั้งแรกครับ
พิธีกร : พอแต่งงานเสร็จ เราเอาสินสอดไปให้เขาเท่าไหร่
วิพล : 520,000 ครับ แต่ว่ายังไม่ได้แต่ง ขอเลื่อนไปเพราะว่าเงินเดือนยังไม่ครบ ก็เลื่อนไปเดือนกุมภาพันธ์ คือของผมจะเป็นการเอาเงินสินสอดแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่ง คือให้ผมโอนไปให้หมดก่อน แล้วก็เริ่มติดต่อไม่ได้ ตีตัวหนีห่างไปเรื่อยๆ
พิธีกร : ตอนนั้นเริ่มมีความเอะใจมั้ยครับ
วิพล : ไม่เอะใจครับ เพราะว่าช่วงต้นเดือนธันวาคม ปี 2559 เขาก็พากลับบ้าน ให้ผมพามาเยี่ยมแม่กับพ่อ ให้ไปคุ้นเคยกับญาติพี่น้องผมก่อน แล้วก็มีถึงขั้นลองชุดลองอะไร ซึ่งคิดว่าคงไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะครับผม คือลองชุดกันก็ช่วงเดือนนั้นพอดีครับ
พิธีกร : ค่อนข้างเนียนมากพอสมควร พอช่วงที่เขาหายไป คุณมารู้เมื่อไหร่ว่าถูกหลอกแน่นอน
วิพล : ตอนที่ตามเจอได้ที่ อ.แกลง จ.ระยอง ครับ ช่วงวันที่ 2 มิถุนายน คือทางตำรวจที่นั่นเขาก็ถามข้อมูลทั่วไป แต่เขาก็พูดว่าพร้อมที่จะเลิกกับผม แล้วพร้อมไปอยู่กับผู้เสียหายอีกคน คือก่อนหน้านั้นก็สืบหาข้อมูลว่าเขาไปอยู่ไหน ทำอะไรอยู่กับใคร ก่อนที่จะไปกับอีกคน เราก็เริ่มรู้ถึงการคบซ้อน
พิธีกร : พอทราบว่ามีผู้ชายถูกหลอกให้แต่งงานนับไปอีก 10 คน ความรู้สึกของพี่เป็นยังไงครับ
วิพล : มันก็เสียความรู้สึกตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเขาไปคบกับผู้ชายอีกคนหนึ่งแล้ว ยิ่งไปเจอผู้เสียหายที่ทยอยมาเรื่อยๆ ผมก็รู้สึกว่า เขาทำไปได้ไง
พิธีกร : พี่ทราบใช่มั้ย
วิพล : ผมมาทราบตอนที่ผมตามจับได้แล้ว น้องๆ ก็เอามาลงเฟส แล้วพอผู้เสียหายด้วยกัน ทักมา เราก็ทักต่อกันไป นัดเจอกันว่าเป็นยังไง
พิธีกร : คำถามสุดท้ายครับ ถ้าได้มีโอกาสที่จะบอกเขา อยากจะบอกอะไรเขาครับ
วิพล : อยากบอกว่า ทำไมคุณมีจิตใจแบบนี้ เราอุตส่าห์ยอมที่จะอยู่กินแบบผัวเมียแล้ว มาหลอกลวงกันแบบนี้ทำไมครับ มันทำให้ชีวิตของคนๆ หนึ่ง หมดความสุข หมดอนาคตไปเลยครับ
“จิตใจทำด้วยอะไร?”
เหยื่อสาวแสบหลอกแต่งงานก่อนเชิดสินสอดหนี เปิดใจให้สัมภาษณ์
พร้อมระบุรายละเอียดที่ฟังแล้วต้องอึ้ง!
เป็นข่าวดังที่ได้ยินได้ฟังแล้วต้องอึ้ง เมื่อมีสาวนางหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่” ที่ในข่าวบอกว่า มีผู้เสียหายเข้าฟ้องร้องดำเนินคดีกับเธอแล้วถึง 13 ราย โดยทั้งหมดเป็นผู้ชายที่ น.ส.จริยาภรณ์ หลอกให้รักให้ชอบแล้วทำทีขอแต่งงาน ก่อนจะเชิดเงินสินสอดหลานแสนบาท บางรายเกือบล้านบาท หนีหาย ไร้เยื่อใยรักที่เคยพร่ำบอก
ด้วยความชอกช้ำระกำใจ เหยื่อรายหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “วิพล โพธ์สุวรรณ” ได้บอกเล่าเรื่องราวของตนที่ถูกกลโกงแห่งความรักเล่นงานจนสูญเงินไปเกือบล้านบาท โดยเป็นการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เป็นเรื่อง!” ทางช่อง News 1
อ่านรายละเอียดด้านล่าง หรือคลิกชมคลิปได้เลย
พิธีกร : วิธีการเข้ามาของสาวคนนี้ คือเข้ามาทางเฟซบุ๊กใช่ไหมครับ
วิพล : ใช่ครับ
พิธีกร : ครั้งแรกที่เขาทักทายเข้ามา เขาว่ายังไงบ้างครับ
วิพล : ผมไปกดไลค์ในเฟสเขาก่อน จากนั้นเขาก็อินบ็อกซ์กลับมา แล้วก็คุยกันมาเรื่อยๆ ครับ คือรูปโปรไฟล์เขาก็เป็นรูปตัวเขากับผลไม้ครับ
พิธีกร : คือถามตรงๆ เลยว่า คุยกันได้แป๊บนึง แล้วนัดเจอ จากนั้นก็มีเซ็กซ์กัน
วิพล : ใช่ครับ เขามาแบบจู่โจมเลย
พิธีกร : แล้วหลังจากที่มีอะไรกันแล้ว พฤติกรรมเขาเปลี่ยนไปมั้ย
วิพล : ก็ไม่เปลี่ยนครับ ก็ยังคุยแบบหนุ่มสาวทั่วไป
พิธีกร : แล้วเริ่มขอแต่งงานเมื่อไหร่ครับ
วิพล : เริ่มตั้งแต่ช่วงที่ขอเริ่มทำธุรกิจด้วยกัน แล้วเขาก็บอกว่าเขาอยากมีครอบครัว พอคบแล้วเขาอยากมีครอบครัวเลยครับ
พิธีกร : มีเอะใจสักหน่อยไหมครับว่า เขาอาจจะเป็นพวกต้มตุ๋นมาก่อน
วิพล : ไม่มีเลยครับ แต่เขาบอกว่า เคยแต่งงาน แต่จับได้ว่าสามีเขาไปมีเมียน้อย ก็เลิกกัน แบบมาขอความเห็นใจ แล้วบอกว่าตัวเองมีธุรกิจ
พิธีกร : เขาชวนคุณทำธุรกิจก่อนมั้ย
วิพล : เขาก็พูดเชิงว่า อยากให้ร่วมกับเขา แล้วก็ชวนด้วย ตอนนั้นเขาขอเงินลงทุนเราประมาณ 2 แสนครับ
พิธีกร : เขาขอเงินทุนเป็นเงินลงทำเกี่ยวกับผลไม้ แล้วให้เขามั้ย
วิพล : ผมเอารถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ แล้วโอนไปให้เขา 180,000 ครับ เพราะว่าคุยกันมานาน คุยตลอดเกือบ 3 เดือนครับ
พิธีกร : 3 เดือน เขาก็ปรนนิบัติคุณอยู่ว่างั้นเถอะ
วิพล : เขาก็มาหาผมในวันหยุดบ้างครับ เกือบทุกอาทิตย์ บางทีผมก็ไปหาเขาเหมือนกันครับ เวลาไปมาหาสู่กัน เขาก็พูดเรื่องธุรกิจ อาชีพการงานของเขา ชวนกันว่ายอดจะไปยังไง ทำยังไง
พิธีกร : คืออยู่ 3 เดือน ประทับใจเขา แต่ไม่นึกว่าเขาจะทำแบบนี้ พอโอนเงินไป เขาขอแต่งงาน หรือเราขอ
วิพล : เราก็คุยกันสองคน เขาก็บอกว่าเพื่อเป็นการลงทุน และเพื่อพ่อแม่ที่เห็นความตั้งใจของผม กับการทำธุรกิจครั้งแรกครับ
พิธีกร : พอแต่งงานเสร็จ เราเอาสินสอดไปให้เขาเท่าไหร่
วิพล : 520,000 ครับ แต่ว่ายังไม่ได้แต่ง ขอเลื่อนไปเพราะว่าเงินเดือนยังไม่ครบ ก็เลื่อนไปเดือนกุมภาพันธ์ คือของผมจะเป็นการเอาเงินสินสอดแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่ง คือให้ผมโอนไปให้หมดก่อน แล้วก็เริ่มติดต่อไม่ได้ ตีตัวหนีห่างไปเรื่อยๆ
พิธีกร : ตอนนั้นเริ่มมีความเอะใจมั้ยครับ
วิพล : ไม่เอะใจครับ เพราะว่าช่วงต้นเดือนธันวาคม ปี 2559 เขาก็พากลับบ้าน ให้ผมพามาเยี่ยมแม่กับพ่อ ให้ไปคุ้นเคยกับญาติพี่น้องผมก่อน แล้วก็มีถึงขั้นลองชุดลองอะไร ซึ่งคิดว่าคงไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะครับผม คือลองชุดกันก็ช่วงเดือนนั้นพอดีครับ
พิธีกร : ค่อนข้างเนียนมากพอสมควร พอช่วงที่เขาหายไป คุณมารู้เมื่อไหร่ว่าถูกหลอกแน่นอน
วิพล : ตอนที่ตามเจอได้ที่ อ.แกลง จ.ระยอง ครับ ช่วงวันที่ 2 มิถุนายน คือทางตำรวจที่นั่นเขาก็ถามข้อมูลทั่วไป แต่เขาก็พูดว่าพร้อมที่จะเลิกกับผม แล้วพร้อมไปอยู่กับผู้เสียหายอีกคน คือก่อนหน้านั้นก็สืบหาข้อมูลว่าเขาไปอยู่ไหน ทำอะไรอยู่กับใคร ก่อนที่จะไปกับอีกคน เราก็เริ่มรู้ถึงการคบซ้อน
พิธีกร : พอทราบว่ามีผู้ชายถูกหลอกให้แต่งงานนับไปอีก 10 คน ความรู้สึกของพี่เป็นยังไงครับ
วิพล : มันก็เสียความรู้สึกตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเขาไปคบกับผู้ชายอีกคนหนึ่งแล้ว ยิ่งไปเจอผู้เสียหายที่ทยอยมาเรื่อยๆ ผมก็รู้สึกว่า เขาทำไปได้ไง
พิธีกร : พี่ทราบใช่มั้ย
วิพล : ผมมาทราบตอนที่ผมตามจับได้แล้ว น้องๆ ก็เอามาลงเฟส แล้วพอผู้เสียหายด้วยกัน ทักมา เราก็ทักต่อกันไป นัดเจอกันว่าเป็นยังไง
พิธีกร : คำถามสุดท้ายครับ ถ้าได้มีโอกาสที่จะบอกเขา อยากจะบอกอะไรเขาครับ
วิพล : อยากบอกว่า ทำไมคุณมีจิตใจแบบนี้ เราอุตส่าห์ยอมที่จะอยู่กินแบบผัวเมียแล้ว มาหลอกลวงกันแบบนี้ทำไมครับ มันทำให้ชีวิตของคนๆ หนึ่ง หมดความสุข หมดอนาคตไปเลยครับ