มาช้ายังดีกว่าไม่มา สำหรับระบบตั๋วร่วมที่เรียกว่า “บัตรแมงมุม” สำหรับใช้ในระบบขนส่งมวลชน สามารถใช้แตะบัตรแล้วเข้าไปในระบบขนส่งมวลชน ทั้งรถเมล์ ขสมก. รถไฟฟ้า และจะขยายไปยังทางด่วน เรือด่วน ในอนาคตอันใกล้
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดโครงการประกวดตั้งชื่อและออกแบบสัญลักษณ์ตั๋วร่วม ภายใต้แนวคิด “One For All Better” ดี๊ดี…ทุกจังหวะการใช้ชีวิต โดยมีผู้ส่งผลงาน 234 ชิ้น คัดเลือกรอบสุดท้าย 8 ชิ้น
กระทั่งเดือนตุลาคม 2558 ได้ตัดสินรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ "แมงมุม" (MANGMOOM) ผลงานของ น.ส.ววรรธิชา อเนกสิทธิสิน มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้า ธนบุรี ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร
แนวความคิดที่ใช้ชื่อแมงมุม เพราะนึกถึงการปล่อยใยของแมงมุม ทำให้มันสามารถไปที่ใดก็ได้ เหมือนตัวร่วมที่สามารถเชื่อมต่อทุกการเดินทางด้วยบัตรใบเดียว ตั๋วสัญลักษณ์เป็นรูปตัว M โดยใช้ลักษณะของขาแมงมุมผูกรวมกันและดูเป็นการรวมทุกเส้นทางเข้าด้วยกัน
ผ่านไปเกือบ 2 ปี ในที่สุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ส.ค. มีมติรับทราบแนวทางการดำเนินงานการบริหาร จัดการระบบตั๋วร่วมในปี 2560 - 2561 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เรื่อง การดำเนินการนำระบบตั๋วร่วม (e-ticket) มาใช้ในการเชื่อมการเดินทางของประชาชนของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)
ล่าสุด เราได้เห็นหน้าตาบัตรแมงมุมจริง เบื้องต้นจะมี 3 แบบ ได้แก่ บัตรบุคคลทั่วไป สีน้ำเงิน (Adult), บัตรนักเรียน/นักศึกษา สีเทา (Student) และบัตรผู้สูงอายุ สีทอง (Senior) มีค่าธรรมเนียมประมาณ 150 บาท สามารถเติมเงินในบัตรได้สูงสุด 10,000 บาท สามารถขออายัดวงเงินได้กรณีบัตรหาย
ปลายปีนี้ เตรียมแจกบัตรแมงมุมฟรี 2 แสนใบ แก่ประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยประชาชนที่ได้รับ ไม่ต้องเสียค่ามัดจำบัตร 50 บาท สามารถนำบัตรไปเติมเงินและนำไปใช้ได้ทันที
หลังจากแจกบัตรครบทั้งหมดแล้ว จะมอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดขายบัตรแมงมุมตามจุดต่างๆ เช่น สถานีรถไฟฟ้า ป้ายรถเมล์ ร้านสะดวกซื้อ เบื้องต้นจะขายในราคาใบละ 50 บาทเท่านั้น โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมบัตร คิดเฉพาะค่ามัดจำบัตร 100 บาท
เบื้องต้น บัตรแมงมุมสามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป กับรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ติดตั้งระบบ E-Ticket นำร่องจำนวน 800 คัน จากทั้งหมด 2,600 คัน ที่คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จในปี 2561
ส่วนรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (เตาปูน-หัวลำโพง) และสายฉลองรัชธรรม (บางใหญ่-เตาปูน) ขณะนี้ยังต้องรอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประชุมคณะกรรมการในวันที่ 18 ก.ย. นี้ว่าจะตกลงกันอย่างไร เนื่องจากขณะนี้อยู่ในระหว่างการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. คนใหม่
ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอส บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ได้เตรียมเงินลงทุน 100 ล้านบาท ปรับปรุงและอัพเกรดระบบฮาร์ดแวร์ เพื่อรองรับบัตรแมงมุม กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะเริ่มดำเนินการหลังเซ็นเอ็มโอยูกับกระทรวงคมนาคมเพิ่มเติม ตั้งเป้าหมายในปี 2561 จะสามารถใช้ได้
เฟสต่อไป จะเจรจากับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ของกรมทางหลวง เพื่อใช้ชำระค่าผ่านทางผ่านเครื่องแตะบัตรในช่องเงินสด รวมทั้ง เรือด่วนเจ้าพระยา และคลองแสนแสบ คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย สามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐแตะขึ้นรถโดยสาร ขสมก. ได้เลย โดยมีวงเงินโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้าฟรี 500 บาทต่อเดือน แต่ไม่สามารถเติมเงินลงไปในบัตรได้ ต้องซื้อบัตรแมงมุมและเติมเงินแยกต่างหาก.