หนุ่มเจ้าของโรงงานขยะที่ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมฯ เข้าร้องเรียนนายอำเภอเรื่องรถบรรทุกของธุรกิจบ่อดินน้ำหนักเกินทำถนนพัง แต่กลับถูกกลั่นแกล้งกลับสารพัดโดยมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจ ทั้งระดมชาวบ้านมาประท้วง - ยิงปืนขู่ - โทร.ขู่ฆ่า ล่าสุด มีทหารนอกเครื่องแบบบุกรุกโรงงาน พร้อมทิ้งวลีเด็ดหลังโดนต่อว่า "ถ้าพี่รู้จักผมแล้วจะไม่พูดอย่างนี้” มิหนำซ้ำตำรวจไม่ยอมจับกุมด้วย
จากกรณีที่ นายธีรวงศ์ สรรค์พิพัฒน์ ประธานบริษัท ปราบขยะรีไซเคิล จำกัด เจ้าของธุรกิจขยะเงินล้าน มีแฟรนไชส์ร้อยกว่าสาขาทั่วประเทศ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีโดนเจ้าหน้าที่รัฐกลั่นแกล้ง หลังเข้าร้องเรียนเรื่องรถบรรทุกของธุรกิจบ่อดินน้ำหนักเกิน ทำถนนพังตลอดเวลา
สำหรับลำดับเหตุการณ์แบบย่อๆ มีดังนี้
- เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา นายธีรวงศ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ได้เข้าร้องเรียนรถบรรทุกดินน้ำหนักเกินทำถนนพัง แต่นายอำเภอลาดหลุมแก้วกลับตอบว่า “บ้านไม่ได้อยู่นี่ แล้วเดือดร้อนตรงไหน?”
- วันที่ 31 ส.ค. มีคนนำกล้องวงจรปิดปริศนาจำนวน 3 ตัว มาติดตั้งส่องหน้าโรงงาน และมีโทร.มาข่มขู่โดยยกเหตุการณ์ว่าเคยมีคนร้องเรียนเรื่องบ่อดินแล้วถูกยิง นอกจากนี้ ข้าราชการท้องถิ่นเกณฑ์ชาวบ้านเกือบ 30 รายมาประท้วงที่หน้าสถานประกอบการ มีการพยายามปีนรั้วบุกเข้ามาด้วย
- 2. ก.ย. ชายไม่ทราบชื่อยิงปืนขู่หน้าโรงงาน พร้อมตะโกนว่า “มึงจะเอาหรอไอ้สั-ว์”
จนกระทั่งวันนี้ 4 ก.ย. มีทหารโทร.มาบอกว่ากรมอุตสาหกรรมจะเข้ามาตรวจโรงงาน และทหารขอเข้าโรงงานอีกรอบด้วย โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า รอบก่อนเพิ่งตรวจไปเมื่อ 15 ส.ค. ผลคือไม่ผิด บอกรอบนี้อาจผิดเรื่องสาธารณสุข พร้อมขู่จะใช้มาตรา 44 พังประตูเข้ามา
เวลาต่อมา ได้มีชายเสื้อดำตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งเป็นทหารชั้นประทวน ปตอ. เข้ามาในโรงงานโดยเจ้าของไม่ยิมยอม พอต่อว่าบุกรุกทหารคนนั้นตอบว่า “ตำรวจไม่กล้าจับผมหรอก!!!” ทหารคนนั้นยังพูดอีกว่า “ถ้าคุณรู้ว่าผมเป็นใครจะไม่พูดกับผมแบบนี้!!!!!”
ล่าสุด นายธีรวงศ์ โพสต์ว่า “เมื่อกี๊มีผู้บังคับบัญชาทหารเสื้อดำเจ้าของวลี “ถ้าพี่รู้จักผมแล้วพี่จะไม่พูดอย่างนี้กับผม” โทร.หาผมแจ้งว่า ขอโทษที่ทำเกินกว่าเหตุ และทหารไม่ทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่ต้น โดยทางอำเภอไม่ได้ขอหมายค้นมาวันนี้เลยขอให้ทหารใช้ ม.44 แต่ตอนนี้จะไม่เอา ม.44 มาใช้เข้าโรงงานผมแล้วเพราะไม่ใช่เหตุจำเป็นเร่งด่วนครับ แถมด้วยต่อไปถ้าจะเข้ามาตรวจโรงงานจะทำเป็นหนังสือแจ้งวันเวลาล่วงหน้าตามสมควรก่อน ไม่ใช่มาถึงแล้วเข้าเลยอีก ขอบคุณมากนะครับที่เข้าใจผมบ้าง ไม่เป็นไรครับ คนทำงานย่อมมีผิดพลาดกันได้ คนไม่ทำเท่านั้นที่ไม่ผิด”