จากกรณีหนุ่มสักลายโพสต์ตัดพ้อ เจ้าคณะอำเภอไม่ยอมบวชให้ หลังเจ้าตัวตั้งใจจะบวชแก้บนที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งทางเจ้าคณะให้เหตุผลว่าที่ปฏิเสธไม่บวชให้นั้น เป็นดุลพินิจของท่านเอง เพราะเขาสักทั้งตัวและใบหน้า ถ้าใส่จีวรครองผ้าเหลืองออกบิณฑบาต ญาติโยมที่ไหนจะอยากใส่บาตร ทุกอย่างอยู่ที่ความเหมาะสมของคนที่จะบวช แต่หากเขาจะไปบวชที่วัดอื่น ก็เป็นเรื่องของสงฆ์ที่อื่น
เมื่อวันที่ (29 ส.ค.) เฟซบุ๊ก “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” ล่าสุด ได้โพสต์ข้อความ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า “เบื่อพวกสังคมย้อนแย้งนี่จริงจริงเลย คุณมึงเกิดมาหน้าตาดี ผิวพรรณวรรณะดี คุณมึงก็พูดได้ดิว๊ะ ว่า สังคมต้องมองคนที่บุคลิกภาพเป็นสำคัญ คุณมึงไม่ได้เกิดมาเป็นเด็กมีปัญหา เคยติดยา เคยหลงทางผิด เคยสักลาย หรือเป็นพวกขี้คุก คุณมึงก็พูดได้ดิว๊ะว่า ก็สมควรแล้ว ที่เขาไม่ให้โอกาส เวลาคนอื่น เรียกคุณ ไอ้ดำ ไอ้อ้วน อีตุ๊ด อีทอม คุณบอกว่าเขาเหยียดคุณ แต่พอเวลาคุณเห็นคนมีรอยสัก คุณดันไปเหยียดเขาว่า ไอ้พวกมีลาย เวลาตัวเองทำอะไรผิดพลาด ก็บอกว่าผิดไปแล้วอยากได้รับโอกาส แต่เวลาคนอื่นทำพลาด ดันบอกว่า ก่อนทำ ทำไมมึงไม่คิด
โดยยังย้ำอีกว่า เวลามองคนที่มีภาพลักษณ์ข้างนอกไม่ดี คุณก็บอกว่า ต้องมีกฎเกณฑ์เยอะแยะในการคัดกรอง ในการพิจารณา แต่ทั้งทั้งที่ในความเป็นจริง แค่เห็นเขาคุณก็ส่ายหัว เหยียดผิวเหยียดลายบนตัวเขาแล้ว (มึงไปสักมาทำไมเยอะแยะ) อีทีลูกผู้ดีมีชาติตระกูลมาบวช ไม่ต้องซ้อมนาค ไม่ต้องมาอยู่วัด เป็นดาราทำความผิด คุณยกมือสาธุการ บอกว่าสังคมควรให้โอกาสเขา เห็นโจรหล่อ บอกว่า ทำไมไม่มาข่มขืนกู แต่พอเห็นโจรมีรอยสัก บอกว่า ไอ้เลวสมควรโดนประหาร
นี่พูดให้ชัดอีกทีแล้วจะไม่พูดอีก กฎเกณฑ์ในการรับรองคุณสมบัติของคนที่จะบวช ทั้งตามพระวินัย และกฎหมายบ้านเมือง ก็มีแบบรัดกุมอยู่แล้วก็ใช้กฎนั้นสิ แล้วใช้อย่างเสมอภาคกับคนทุกคน ไม่แบ่งแยกว่า มีลายไม่มีลาย ภาพลักษณ์ดีหรือภาพลักษณ์ไม่ดี นี่ถึงจะถูกต้อง จะให้ใครบวช ไม่ให้ใครบวช ก็แจงกันตามเหตุผล ของกฎเกณฑ์ที่บังคับใช้ ในระเบียบขั้นตอนว่าด้วยการขอบวช ให้ศาสนามันดูว่ามีความเป็นธรรมหน่อย ไม่ใช่มาพิพากษาคนที่เนื้อหนังมังสาแบบนี้ ไม่ใช่ไปตัดสินด้วยความอคติว่า บวชแล้วใครจะใส่ข้าวให้ฉัน เห็นแล้วใครจะศรัทธา อ้าว ! พ่อแม่ญาติพี่น้องเขามี ไปเดือดร้อนแทนเขาทำไม