กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืนสำหรับ แพร-มินตรา เชื้อวังคำ สาวน้อยมุกดาหารเจ้าของคลิปวิดีโอที่ใครเห็นก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “น่ารัก” “สดใส” กับสาวน้อยหน้าใสใส่ชุดนักเรียนและพูดประโยคสั้นๆ ว่า “นี่ๆ เราไม่ใช่คนธรรมดานะ (พร้อมหยิบไข่ดาวมาโปะบนศีรษะ) เห็นไหมว่าเราเป็นคนพิเศษ สำหรับนาย อะจึ๋ย!” ทำเอาคลิปดังกล่าวนี้มียอดผู้ชมเป็นหลักล้านเลยทีเดียว
• ถามถึงกระแสคลิปดังกล่าวหน่อยค่ะ ทำไมต้องไข่ดาว?
จริงๆ คลิปนี้ไม่มีอะไรลึกซึ้งเลยค่ะ ปกติแพรจะช่วยคิดมุกลงเพจที่ดูแลกับพี่ๆ เป็นประจำอยู่แล้ว เลยคิดว่าอยากลองหัดถ่ายคลิปตลกลงเฟซบุ๊กของตัวเองดูบ้าง แต่เราไม่มีจุดขายที่ความสวยหรือความเซ็กซี่อะไรอยู่แล้ว เลยทำเป็นคลิปตลกเล่นๆ บ้าๆ บอๆ แบบที่เราถนัด ตอนที่ถ่ายก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลยค่ะ แค่อยากลองทำเล่นๆ ดู
พอมีกระแสเข้ามา วันแรกแพรก็ดีใจที่มีคนชอบนะคะ แต่ก็ไม่คิดอะไร เพราะส่วนตัวแพรมีภูมิต้านทานกระแสโซเชียลจากการทำเพจระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่พอวันต่อมาก็ตกใจมากค่ะ เพราะแชร์กำลังจะขึ้นหลักหมื่น ถ้าเป็นแก๊กการ์ตูนก็คงจะเป็นเรื่องปกติ แต่อันนี้เป็นคลิปหน้าตัวเองหนูเลยตื่นเต้นมาก เขินมาก บางคนก็ชมว่าน่ารัก บางคนบอกว่าหน้าเหมือนพี่นุ่น วรนุช ซึ่งหนูว่าถ้าพี่นุ่นทราบ พี่เขาคงเสียใจมากแน่ๆ (หัวเราะ)
แพรคิดว่าที่คนชอบคงเป็นเพราะมันน่ารักแบบมึนๆ ตลกๆ ด้วยมั้งคะ หนูก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันค่ะ เพราะตอนนั้นหนูไม่ได้คิดอะไร จนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ (หัวเราะ)
• ก่อนหน้านี้น้องแพรทำคลิปเป็นประจำอยู่แล้วหรือเปล่า ชอบทำคลิปประมาณไหนบ้างคะ
ถ้าเมื่อก่อนก็ไม่ถึงกับทำประจำนะคะ อย่าง 2-3 เดือนก็จะมีสักครั้ง แพรชอบทำคลิปเกรียนๆ ค่ะ กับคลิปแนวยันเดเระคือเป็นแบบตัวการ์ตูนโรคจิตรักอย่างคลั่งไคล้น่ะค่ะ แต่แนวยันเดเระคงไม่ได้ทำอีกแล้วค่ะ เพราะบางคนเขาไม่เข้าใจว่าเราทำเล่นขำๆ เขาจะตีความผิด กับเด็กๆ ที่ไม่เข้าใจจะเอาไปเลียนแบบได้ ก็เลยอยากทำคลิปขำๆ น่ารักๆ ให้คนดูอมยิ้มเล่นดีกว่าค่ะ
• คิดว่าตัวเองจะดังข้ามคืนแบบนี้ไหมคะ
ตอนที่ถ่ายแพรก็ไม่ได้คิดว่าจะดังหรือไม่ดังนะคะ คิดแค่ว่าอยากเล่นมุก เราไม่ได้คิดเรื่องดังเลย เพราะดูคลิปที่ดังๆ ของคนอื่นส่วนใหญ่ไม่ใช่แบบนี้ เขาสวยหุ่นดี เหมือนนางฟ้าเลย บางคนก็เต้นเก่ง แต่ของเรามุกตลก ห้าบาท สิบบาท ไม่คิดเลยว่าจะดังอะไร แต่พอมาเป็นกระแสดังข้ามคืนสองสามวันแรกหนูตื่นเต้นมาก มีคนทักเข้ามาเยอะมาก ทั้งแชต ทั้งคอมเมนต์ แต่ก็ค่อยๆ ปรับตัว รับมือกับคนรูปแบบต่างๆ
• มีคนเข้ามาชื่นชมค่อนข้างเยอะ ในทางกลับกันมีกระแสในแง่ลบไหม รับมือยังไงบ้าง
ดรามามีแน่นอนค่ะ เป็นเรื่องปกติของโซเชียลอยู่แล้ว คนที่เข้ามาดรามาก็จะเป็นผู้หญิงด้วยกันค่ะ ก็มีการขุดรูปกับคลิปก่อนที่เราจะเป็นกระแส เพื่อด่า คือเมื่อก่อนเราไม่ได้คิดอะไรมาก อยากทำอะไรก็ทำ บ้าบอไปเรื่อยๆ เราอยู่กับการ์ตูน กับเกม กับเพจ แล้วเราก็เอาความชอบและความเคยชินนั้นมาประยุกต์โพสต์เล่นในเฟซบุ๊กของตัวเอง แต่เราก็รู้ขอบเขตนะคะ เราจะพยายามไม่พูดคำหยาบเสมอ และเราก็ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนเลยค่ะ
ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่มันไม่ใช่ปัญหาที่เป็นความผิดสำหรับคนทั่วไป แต่เป็นปัญหาสำหรับคนที่มีผู้ติดตามเยอะ บางคนที่ไม่ชอบเราเขาก็จะตีความเป็นด้านลบได้ค่ะ หมื่นคน แสนคน ร้อยพ่อพันแม่ตีความหมายไม่เหมือนกัน ซึ่งเวลามีปัญหาวิธีรับมือที่ดีที่สุดไม่ใช่การด่าใครกลับ แต่เป็นการทำความเข้าใจคนกลุ่มนั้น แล้วแก้ไขที่ตัวเราเองก่อนค่ะ บางอย่างที่ไม่ชัดเจนคนอาจตีความด้านลบ เราก็ลบสิ่งนั้นทิ้งซะ
การที่เราก็รู้จักขอบเขตกับการเลือกแก้ไขที่ตัวเราเองมากกว่าพิมพ์เถียงก็จะทำให้ทุกอย่างเคลียร์ได้ไว เราเปิดให้คนติดตาม เราก็ต้องทำใจยอมรับผลกระทบนี้ไว้บ้าง มันอาจจะเกิดกับใครก็ได้ ที่ดังแบบไม่ทันตั้งตัวค่ะ
• ตอนนี้คิดว่าตัวเองดังแล้วหรือยัง เราได้โอกาสอะไรจากตรงนี้บ้าง
หนูคิดว่าหนูยังไม่ใช่คนดังนะคะ แต่หนูจะพยายามวางตัวให้ดีขึ้นกว่านี้ค่ะ จะใช้โอกาสที่ได้รับทำให้ดีขึ้น ตั้งใจทำงานหาเงินเรียนมหาวิทยาลัยเอง ไม่ให้พ่อแม่เสียใจทีหลังค่ะ บางเรื่องที่เคยวางตัวผิดพลาดเมื่อก่อนก็แก้ไขให้ดีขึ้นค่ะ
ส่วนงานที่เข้ามาตอนนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีงานรีวิวครีมเข้ามา 20 กว่าเจ้าเลยค่ะ แต่หนูยังไม่ได้รับงานใครเลย เพราะหนูว่าหนูต้องคัดให้ดีๆ เพราะถ้าคนใช้ตามแล้วหน้าพังคงแย่มากๆ เราต้องรู้สึกผิดเพราะเราเป็นคนเชิญชวนให้เขามาใช้ค่ะ
งานในวงการบันเทิง ตอนนี้ก็มีค่ายละครช่องนึงมีผู้กำกับหนังท่านหนึ่งทักมาคุยว่าสนใจ ชวนไปแคสต์ช่วงปิดเทอมค่ะ ซึ่งหนูคิดว่าหนูไม่น่าจะผ่าน เพราะหนูก็ยังไม่ได้ดูดี เป๊ะทุกมุมขนาดนั้น
จริงๆ หนูชื่นชอบงานในวงการบันเทิงนะคะ อยากทำงานด้านนี้ เพราะเป็นหนึ่งในความฝัน แต่ไม่รู้ชีวิตนี้จะได้ทำไหม เพราะตัวหนูเองยังไม่ดีพร้อมด้วย ผิวก็ไม่เนียน พูดก็หลงๆ ลืมๆ ต้องปรับปรุงตัวก่อนหลายอย่างเลยค่ะ
ตอนนี้ที่หนูตอบรับทำแล้วก็มี งานเกม กับ ถ่ายมิวสิกวิดีโอเพลงค่ะ แต่เอาจริงๆ ถ้ามีงานอะไรที่สามารถทำให้หนูส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัยได้ หนูก็อยากจะรับหมดนะคะ ขอเป็นงานอะไรก็ได้ที่ทำแล้วได้เงิน มีเวลา ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน พ่อแม่ภูมิใจ และไม่ผิดกฎหมาย หนูยินดีทำหมดค่ะ
• พูดตามตรงว่ามีหลายคนที่เป็นกระแสข้ามคืน ซึ่งน้องแพรก็เป็นหนึ่งในนั้นตรงนี้คิดเห็นอย่างไรบ้าง กลัวไหมว่าวันหนึ่งเราจะหายไป
ไม่กลัวค่ะ (ตอบเร็ว) อินเทอร์เน็ตทำให้หนูเข้าใจโลกหลายๆ อย่างนะคะ วันหนึ่งเด็กที่มีชื่อเฟซบุ๊กว่า มินตรา การ์ตูนดิ๊งด่อง อาจจะหายไป หนูต้องโตขึ้น ต้องทำงานทำการ อีก 10 ปีหนูคงไม่กล้าอยู่ให้คนเปรียบเทียบรูปอดีตกับปัจจุบันหรอกค่ะ (ยกเว้นเป็นดาราแล้วต้องใช้สื่อทำงานด้านนี้นะคะ) ตอนนี้หนูมีหน้าที่คือทำเพจ คิดมุก และตอนนี้มีหน้าที่เพิ่มอีกอย่างคือ ทำคลิปให้คนดูอมยิ้มเล่นๆ อนาคตหนูไม่รู้แน่ชัด แต่ทำความเข้าใจไว้แล้วค่ะ แต่ก็นะอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ
• มีหลายคนมองว่าน้องแพรเป็น “เน็ตไอดอล” ไปแล้ว ส่วนตัวคิดยังไงกับคำนี้บ้างคะ
หนูว่า “เน็ตไอดอล” เป็นคำศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าจะมาเรียกเด็กบ้านๆ แบบหนู มันไม่ใช่แค่ยอดไลค์เยอะแล้วได้เป็นค่ะ ตอนนี้แพรยังไม่ใช่เน็ตไอดอลแน่นอน แต่สักวันไม่รู้ค่ะ ไม่มีใครรู้อนาคต เน็ตไอดอลสำหรับหนูคือคนที่ขัดเกลาตัวเอง จนเป็นแบบอย่างที่ดีได้ ซึ่งตอนนี้ หนูยังทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้นแค่ไม่กี่วันเองค่ะ
• แล้วอยากบอกอะไรกับน้องๆ ที่เขาเห็นเราเป็นไอดอลและอยากทำตามบ้างไหมคะ
แพรอยากฝากถึงน้องๆ ว่า อะไรที่แพรเคยทำแล้วไม่ดีก็อย่าเลียนแบบ เลียนแบบแต่สิ่งดีๆ พอค่ะ ใช้แพรเป็นแรงบันดาลใจในการวาดรูป เล่นมุก ครีเอตให้เพื่อนข้างๆ หัวเราะ หรือค้นหาตัวเองในแบบที่น้องชอบได้ หรือเวลาที่เจอปัญหาน้องอย่ากลัว แพรเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ยังผ่านไปได้เลย น้องๆ ก็ต้องผ่านไปได้เหมือนกันค่ะ จงแก้ไขด้วยสมอง รู้จักปรับปรุงตัว สร้างผลงาน จงสู้ด้วยผลงานทำมันให้ดียิ่งขึ้น แต่อย่าสู้กันด้วยคำด่า คำเหยียด หรือการนัดตบตีค่ะ
• ปกติน้องแพรเล่นสื่อโซเชียลเป็นประจำเลยใช่ไหม ตรงนี้อยากให้พูดหรือฝากถึงน้องๆ หรือวัยรุ่นเหมือนกันกับเราเกี่ยวกับการใช้สื่อหน่อยค่ะเพราะสมัยนี้การใช้สื่อในทางที่ดีมันก็มีประโยชน์ แต่ถ้าใช้ในทางลบมันก็ทำให้เสียหายได้
แพรใช้สื่อเป็นประจำค่ะ ก็เคยรับจ้างเขียนบทความเพจการ์ตูน ดูแลเพจ ตั้งแต่ ม.ต้น ค่ะ เห็นดรามามาก็เยอะมาก หนูว่าอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือที่เป็นอาวุธได้ ให้คนทำมาหากินได้ ให้ความบันเทิงได้ เป็นเครื่องมือฆ่าตัวเองก็ยังได้ และทำให้คนเกลียดกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันก็ได้
เรื่องแรกที่อยากพูด แพรขอยกตัวอย่างนะคะ อย่างมีเฟซบุ๊กของเด็กผู้หญิงรุ่นเดียวกันคนหนึ่งที่เข้ามาพิมพ์ด่าหนู เฟซบุ๊กของเขามีรูปถ่ายคู่แฟนเขาเยอะหลายรูป ท่ากอด หอมแก้ม พอค้นๆ ไปมีรูปถ่ายชุดว่ายน้ำลงเฟซบุ๊ก มีการตั้งสเตตัสด่าคนลอยๆ หยาบๆ เป็นประจำ แต่แพรเห็นว่าสมัยนี้มีเด็กวัยรุ่นหลายๆ คนก็โพสต์แบบนี้นะ บางคนสิ่งที่โพสต์รุนแรงกว่าเด็กที่หนูยกตัวอย่างมาอีก ซึ่งก็มีเยอะมากค่ะ แต่แล้วถ้าหากว่าคนนั้นเขาดังในชั่วข้ามคืนแบบหนูล่ะ เขาจะต้องเจอกระแสแบบไหนในวันต่อมา ตรงนี้แพรเลยอยากฝากถึงเพื่อนๆ น้องๆ ที่ยังชอบโพสต์สิ่งเหล่านี้อยู่ ลองเก็บไปคิดนะคะ ก่อนจะโพสต์หรือพิมพ์อะไร ให้รู้จักเซฟตัวเองด้วย ดูเคสของแพรเป็นตัวอย่าง แพรว่าแพรก็เซฟแล้วระดับหนึ่งยังเจอดรามาเลย ยังมีพี่ๆ น้องๆ อีกหลายคน ที่เล่นโซเชียลอย่างสนุกโดยที่ไม่ได้คิดถึงผลกระทบในอนาคต อยากให้เริ่มคิดและป้องกันตัว อะไรที่ไม่ดีก็ลบทิ้งซะ มันไม่มีอะไรสายไปหรอกค่ะถ้าเรารู้จักเรียนรู้ แก้ไข และปรับปรุงตัว
เรื่องที่สอง ที่อยากพูดและเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมโซเชียลทุกวันนี้ไม่เป็นสุขเลย ดรามาด่ากันทุกวัน คือ ถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชัง หรือ Hate Speech ค่ะ การด่า การดูถูก ความรุนแรงของคนที่เล่นโซเชียลมันมีมากขึ้นทุกวัน เหมือนโกรธแค้นกันมาจากชาติก่อน บางคนก็ดูถูกคนอื่นแค่เพราะเขาไม่เหมือนกับเรา แค่นั้นเองค่ะ เช่น เห็นคนหนึ่งผิวสีเข้มก็ไปด่าอีนี่ดำมาก หรือ คนกรุงดูถูกคนบ้านนอก คนบ้านนอกดูถูกคนกรุง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งการด่าทุกวันนี้ เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มากนะคะ เพราะการด่าทุกวันนี้สามารถด่าได้ทั่วไปจะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น แค่เขาต่างจากเรา หรือเพราะเราหมั่นไส้เขา ก่อนจะด่าคนก็ใช้วิธีหาพวก โดยการจับผิดคนคนหนึ่งแล้วชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง เป็นข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ แล้วนำความแตกต่าง หรือข้อผิดพลาดนั้นไปประจานทำลายชีวิตอีกคน ซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนมีข้อผิดพลาดกันหมดแหละ แต่ถ้าเขาไม่ได้ไปทำผิดกฎหมาย, ข่มขืน, ฆ่า, ขโมยของ, แก้ผ้าไลฟ์สด เราก็ควรเคารพในสิทธิของเขานะ วิธีแก้ ถ้าน้องๆ เพื่อนๆ คนไหน คุ้นเคยชินกับการทำแบบนี้ ชอบด่าคนที่ต่างจากเราจนเป็นนิสัยติดตัวไปแล้ว อยากให้คุณลองแก้ที่ตัวเองก่อน ลองข่มนิสัยด้านมืดของตัวเอง ข่มความหมั่นไส้ ข่มความอิจฉา แล้วลองเข้าใจคนอื่น หรือข้ามไปแบบไม่ต้องสนใจก็ได้ค่ะ เอาเวลาไปทำสิ่งที่มีประโยชน์ ทำงานบ้าน ทำงานพิเศษ ช่วยพ่อแม่หาเงิน ก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ สังคมโชเชียลจะได้น่าอยู่ขึ้นค่ะ
แพรอยากให้ทุกคนเล่นสื่อโซเชียลอย่างมีสติถ้าน้องๆ เด็กๆ ยังไม่เข้าใจว่าอะไรควรโพสต์ หรืออะไรไม่ควรโพสต์ แพรจะขอสรุปดังนี้นะคะ
1. อย่าโพสต์รูปอนาจารของตัวเองลงสื่อโซเชียล ไม่ว่าจะแลกเงิน ไลฟ์สดต่างๆ หรือส่งให้แฟน อย่าค่ะ มันไม่คุ้มหรอก ในอนาคตน้องและคุณพ่อคุณแม่จะต้องเสียใจทีหลังแน่นอนค่ะ
2. ถ้าน้องๆ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อย่าเพิ่งรีบอวดแฟนค่ะ พยายามอย่าเรียกแฟนวัยเรียนว่า “ผัวเมีย” ตั้งแต่เด็ก เพราะอนาคตคือสิ่งไม่แน่นอนค่ะน้อง ถ้าเกิดวันหนึ่งน้องเกิดเป็นคนที่มีชื่อเสียงในอนาคต เรื่องต่างๆ ที่น้องเคยโพสต์ในวันนี้ จะถูกขุดมาประจานค่ะ ถึงแม้มันจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมายก็ตาม
3. จงมีสติในการใช้คำพูดค่ะ การด่าคนคนหนึ่ง ด้วยการพิมพ์ง่ายๆ แบบไม่คิดอะไร หรืออาจจะรู้สึกหมั่นไส้ ไม่กี่วินาที คุณอาจจะมีศัตรูที่เขาแค้นจ้องทำร้ายเอาคืนชีวิตคุณทั้งชีวิตได้ค่ะ ยิ่งถ้าใครไม่รู้จักควบคุมตัวเองศัตรูอาจมีเป็นร้อยคนเลยค่ะ แล้วเมื่อคุณโตขึ้นชีวิตคุณจะไม่มีความสุขแน่นอน น้องจะเอาโซ่ที่เรียกว่าความเกลียดชังมาพันตัวน้องเองทำไม มันไม่มีประโยชน์อะไรกับน้องเลย
4. อยากให้เปลี่ยนจากการโพสต์ถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชัง มาเป็นโพสต์อะไรที่ทำให้คนอื่นหัวเราะตลกหรือให้สาระความรู้ได้ค่ะ เราว่าความตลกรอยยิ้มเสียงหัวเราะ กับสาระความรู้ มีประโยชน์มากกว่าคำด่า และถ้าหากพวกเราทำได้ พวกเราเด็กวัยรุ่นยุคใหม่จะได้ใช้สื่อสร้างสังคมโซเชียลให้น่าอยู่ด้วยค่ะ
• ตอนนี้น้องแพรทำอะไรอยู่บ้างคะ เห็นว่ามีความสามารถพิเศษเรื่องวาดรูปด้วย
ใช่ค่ะ แพรชอบวาดรูป ก็ฝึกวาดกับพวกพี่ๆ มา 4 ปีแล้วค่ะ แต่ตัวหนูเองก็ยังไม่เก่งเท่าไหร่ต้องให้พี่ๆ ช่วยแก้ ช่วยสอนประจำ
แพรชอบวาดรูปแนวโหด กับแนวเซ็กซี่ เพราะพอเป็นการ์ตูนเราจะมองว่ามันเป็นศิลปะและมุกตลก แต่แนวโหดหรือเซ็กซี่ต่อไปคงจะหัดวาดลงแค่ในกระดาษไม่ลงสื่อ เพราะคนจะดรามาได้ค่ะ ต่อไปนี้ที่มีให้อ่านในเพจจากนี้ไปจะเป็นแนวมุกตลก กับสาระความรู้ เพราะสังคมไทยมีกรอบโดยเฉพาะกรอบของผู้หญิงที่มากกว่าผู้ชาย ส่วนตัวหนูก็เรียนรู้และเคารพกรอบนั้นค่ะ
ส่วนผลงานตอนนี้ก็ช่วยพี่ๆ ดูแลหลายเพจ แต่เพจหลักของพวกเราตอนนี้ก็คือ เพจการ์ตูนดิ๊งด่อง (แอดมินมี 3 คน) และเพจหนูมินตันทาสกระดาน ก็สามารถเข้าไปดูได้ค่ะ
• การเรียนเป็นยังไง แบ่งเวลาในชีวิตยังไงเพราะตอนนี้เรามีคนรู้จักมากขึ้นแล้วก็ต้องให้ความสำคัญกับการโพสต์ การทำคลิปอะไรมากขึ้น
การเรียนหนูก็โอเคค่ะ ไม่ถึงกับดี แต่ก็ไม่แย่ เกรดเฉลี่ยรวมๆ ก็ยัง 3 กว่าค่ะ (ยิ้ม) ซึ่งการแบ่งเวลาหนูก็ต้องแบ่งดีๆ เพราะพ่อกับแม่ก็จะพูดเสมอว่าให้หนูตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานให้ไปได้ไกลกว่าพ่อกับแม่นะเพราะพ่อหนูจบแค่ชั้นประถมค่ะ
แพรก็กำลังฝึกฝน อย่างมีการทำคลิปโปรโมตเกม กับ หนังสือบทเรียน ก็พยายามใช้เวลาว่างศึกษา พอกลับบ้านมาก็จะลองถ่ายดู กำลังหัดเรียนรู้งาน เรียนรู้การแบ่งเวลา บางทีก็ทำไม่ทันก็ให้พี่ๆ แอดมินเพจอีกสองคนช่วยดูช่วยสอนคอยสนับสนุนค่ะ
• แล้ววางแผนอนาคตไว้ยังไงต่อไปบ้างคะ
อนาคตแพรก็อยากฝึกถ่ายคลิปให้รู้มุมค่ะ เผื่อในอนาคตทำรายการลงเพจด้วย เรื่องเพจพวกเราจะช่วยกันทำเพจ คิดคอนเทนต์ด้านบวกให้กับสังคม ลดความกวนและความทะลึ่งลง กับตอนนี้กำลังทำเสื้อเพจ และสติกเกอร์ไลน์คนพิเศษของหนูเองอยู่ค่ะ
ส่วนตัวหนูคิดว่าทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มแต่เราก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะเป้าหมายหลักของหนูก็คือหาเงินช่วยพ่อแม่ส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัยให้ได้ จะพยายามให้เต็มที่ จะถ่ายคลิปลงรูปคิดคอนเทนต์ให้คนดูยิ้มทุกสัปดาห์ แต่จะไปได้ไกลแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของพี่ๆ น้องๆ ที่ติดตามหนูด้วยเหมือนกันค่ะ (ยิ้ม)
3 สิ่งที่แพรขาดไม่ได้
แรงบันดาลใจ อุดมการณ์ และ เงิน เพราะ…
- หากขาดแรงบันดาลใจ เราจะไม่มีพลังในการทำงาน การเรียน เราจะใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ
- หากขาดอุดมการณ์ เราจะไม่มีกรอบ แบ่งแยกสิ่งที่ถูกหรือผิด
- และถ้าหากขาดเงิน เราจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่บนโลกความจริงได้ค่ะ แพรจึงคิดว่า 3 สิ่งนี้ต้องไปด้วยกัน
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : facebook : มินตรา การ์ตูนดิ๊งด่อง
• ถามถึงกระแสคลิปดังกล่าวหน่อยค่ะ ทำไมต้องไข่ดาว?
จริงๆ คลิปนี้ไม่มีอะไรลึกซึ้งเลยค่ะ ปกติแพรจะช่วยคิดมุกลงเพจที่ดูแลกับพี่ๆ เป็นประจำอยู่แล้ว เลยคิดว่าอยากลองหัดถ่ายคลิปตลกลงเฟซบุ๊กของตัวเองดูบ้าง แต่เราไม่มีจุดขายที่ความสวยหรือความเซ็กซี่อะไรอยู่แล้ว เลยทำเป็นคลิปตลกเล่นๆ บ้าๆ บอๆ แบบที่เราถนัด ตอนที่ถ่ายก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลยค่ะ แค่อยากลองทำเล่นๆ ดู
พอมีกระแสเข้ามา วันแรกแพรก็ดีใจที่มีคนชอบนะคะ แต่ก็ไม่คิดอะไร เพราะส่วนตัวแพรมีภูมิต้านทานกระแสโซเชียลจากการทำเพจระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่พอวันต่อมาก็ตกใจมากค่ะ เพราะแชร์กำลังจะขึ้นหลักหมื่น ถ้าเป็นแก๊กการ์ตูนก็คงจะเป็นเรื่องปกติ แต่อันนี้เป็นคลิปหน้าตัวเองหนูเลยตื่นเต้นมาก เขินมาก บางคนก็ชมว่าน่ารัก บางคนบอกว่าหน้าเหมือนพี่นุ่น วรนุช ซึ่งหนูว่าถ้าพี่นุ่นทราบ พี่เขาคงเสียใจมากแน่ๆ (หัวเราะ)
แพรคิดว่าที่คนชอบคงเป็นเพราะมันน่ารักแบบมึนๆ ตลกๆ ด้วยมั้งคะ หนูก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันค่ะ เพราะตอนนั้นหนูไม่ได้คิดอะไร จนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ (หัวเราะ)
• ก่อนหน้านี้น้องแพรทำคลิปเป็นประจำอยู่แล้วหรือเปล่า ชอบทำคลิปประมาณไหนบ้างคะ
ถ้าเมื่อก่อนก็ไม่ถึงกับทำประจำนะคะ อย่าง 2-3 เดือนก็จะมีสักครั้ง แพรชอบทำคลิปเกรียนๆ ค่ะ กับคลิปแนวยันเดเระคือเป็นแบบตัวการ์ตูนโรคจิตรักอย่างคลั่งไคล้น่ะค่ะ แต่แนวยันเดเระคงไม่ได้ทำอีกแล้วค่ะ เพราะบางคนเขาไม่เข้าใจว่าเราทำเล่นขำๆ เขาจะตีความผิด กับเด็กๆ ที่ไม่เข้าใจจะเอาไปเลียนแบบได้ ก็เลยอยากทำคลิปขำๆ น่ารักๆ ให้คนดูอมยิ้มเล่นดีกว่าค่ะ
• คิดว่าตัวเองจะดังข้ามคืนแบบนี้ไหมคะ
ตอนที่ถ่ายแพรก็ไม่ได้คิดว่าจะดังหรือไม่ดังนะคะ คิดแค่ว่าอยากเล่นมุก เราไม่ได้คิดเรื่องดังเลย เพราะดูคลิปที่ดังๆ ของคนอื่นส่วนใหญ่ไม่ใช่แบบนี้ เขาสวยหุ่นดี เหมือนนางฟ้าเลย บางคนก็เต้นเก่ง แต่ของเรามุกตลก ห้าบาท สิบบาท ไม่คิดเลยว่าจะดังอะไร แต่พอมาเป็นกระแสดังข้ามคืนสองสามวันแรกหนูตื่นเต้นมาก มีคนทักเข้ามาเยอะมาก ทั้งแชต ทั้งคอมเมนต์ แต่ก็ค่อยๆ ปรับตัว รับมือกับคนรูปแบบต่างๆ
• มีคนเข้ามาชื่นชมค่อนข้างเยอะ ในทางกลับกันมีกระแสในแง่ลบไหม รับมือยังไงบ้าง
ดรามามีแน่นอนค่ะ เป็นเรื่องปกติของโซเชียลอยู่แล้ว คนที่เข้ามาดรามาก็จะเป็นผู้หญิงด้วยกันค่ะ ก็มีการขุดรูปกับคลิปก่อนที่เราจะเป็นกระแส เพื่อด่า คือเมื่อก่อนเราไม่ได้คิดอะไรมาก อยากทำอะไรก็ทำ บ้าบอไปเรื่อยๆ เราอยู่กับการ์ตูน กับเกม กับเพจ แล้วเราก็เอาความชอบและความเคยชินนั้นมาประยุกต์โพสต์เล่นในเฟซบุ๊กของตัวเอง แต่เราก็รู้ขอบเขตนะคะ เราจะพยายามไม่พูดคำหยาบเสมอ และเราก็ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนเลยค่ะ
ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่มันไม่ใช่ปัญหาที่เป็นความผิดสำหรับคนทั่วไป แต่เป็นปัญหาสำหรับคนที่มีผู้ติดตามเยอะ บางคนที่ไม่ชอบเราเขาก็จะตีความเป็นด้านลบได้ค่ะ หมื่นคน แสนคน ร้อยพ่อพันแม่ตีความหมายไม่เหมือนกัน ซึ่งเวลามีปัญหาวิธีรับมือที่ดีที่สุดไม่ใช่การด่าใครกลับ แต่เป็นการทำความเข้าใจคนกลุ่มนั้น แล้วแก้ไขที่ตัวเราเองก่อนค่ะ บางอย่างที่ไม่ชัดเจนคนอาจตีความด้านลบ เราก็ลบสิ่งนั้นทิ้งซะ
การที่เราก็รู้จักขอบเขตกับการเลือกแก้ไขที่ตัวเราเองมากกว่าพิมพ์เถียงก็จะทำให้ทุกอย่างเคลียร์ได้ไว เราเปิดให้คนติดตาม เราก็ต้องทำใจยอมรับผลกระทบนี้ไว้บ้าง มันอาจจะเกิดกับใครก็ได้ ที่ดังแบบไม่ทันตั้งตัวค่ะ
• ตอนนี้คิดว่าตัวเองดังแล้วหรือยัง เราได้โอกาสอะไรจากตรงนี้บ้าง
หนูคิดว่าหนูยังไม่ใช่คนดังนะคะ แต่หนูจะพยายามวางตัวให้ดีขึ้นกว่านี้ค่ะ จะใช้โอกาสที่ได้รับทำให้ดีขึ้น ตั้งใจทำงานหาเงินเรียนมหาวิทยาลัยเอง ไม่ให้พ่อแม่เสียใจทีหลังค่ะ บางเรื่องที่เคยวางตัวผิดพลาดเมื่อก่อนก็แก้ไขให้ดีขึ้นค่ะ
ส่วนงานที่เข้ามาตอนนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีงานรีวิวครีมเข้ามา 20 กว่าเจ้าเลยค่ะ แต่หนูยังไม่ได้รับงานใครเลย เพราะหนูว่าหนูต้องคัดให้ดีๆ เพราะถ้าคนใช้ตามแล้วหน้าพังคงแย่มากๆ เราต้องรู้สึกผิดเพราะเราเป็นคนเชิญชวนให้เขามาใช้ค่ะ
งานในวงการบันเทิง ตอนนี้ก็มีค่ายละครช่องนึงมีผู้กำกับหนังท่านหนึ่งทักมาคุยว่าสนใจ ชวนไปแคสต์ช่วงปิดเทอมค่ะ ซึ่งหนูคิดว่าหนูไม่น่าจะผ่าน เพราะหนูก็ยังไม่ได้ดูดี เป๊ะทุกมุมขนาดนั้น
จริงๆ หนูชื่นชอบงานในวงการบันเทิงนะคะ อยากทำงานด้านนี้ เพราะเป็นหนึ่งในความฝัน แต่ไม่รู้ชีวิตนี้จะได้ทำไหม เพราะตัวหนูเองยังไม่ดีพร้อมด้วย ผิวก็ไม่เนียน พูดก็หลงๆ ลืมๆ ต้องปรับปรุงตัวก่อนหลายอย่างเลยค่ะ
ตอนนี้ที่หนูตอบรับทำแล้วก็มี งานเกม กับ ถ่ายมิวสิกวิดีโอเพลงค่ะ แต่เอาจริงๆ ถ้ามีงานอะไรที่สามารถทำให้หนูส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัยได้ หนูก็อยากจะรับหมดนะคะ ขอเป็นงานอะไรก็ได้ที่ทำแล้วได้เงิน มีเวลา ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน พ่อแม่ภูมิใจ และไม่ผิดกฎหมาย หนูยินดีทำหมดค่ะ
• พูดตามตรงว่ามีหลายคนที่เป็นกระแสข้ามคืน ซึ่งน้องแพรก็เป็นหนึ่งในนั้นตรงนี้คิดเห็นอย่างไรบ้าง กลัวไหมว่าวันหนึ่งเราจะหายไป
ไม่กลัวค่ะ (ตอบเร็ว) อินเทอร์เน็ตทำให้หนูเข้าใจโลกหลายๆ อย่างนะคะ วันหนึ่งเด็กที่มีชื่อเฟซบุ๊กว่า มินตรา การ์ตูนดิ๊งด่อง อาจจะหายไป หนูต้องโตขึ้น ต้องทำงานทำการ อีก 10 ปีหนูคงไม่กล้าอยู่ให้คนเปรียบเทียบรูปอดีตกับปัจจุบันหรอกค่ะ (ยกเว้นเป็นดาราแล้วต้องใช้สื่อทำงานด้านนี้นะคะ) ตอนนี้หนูมีหน้าที่คือทำเพจ คิดมุก และตอนนี้มีหน้าที่เพิ่มอีกอย่างคือ ทำคลิปให้คนดูอมยิ้มเล่นๆ อนาคตหนูไม่รู้แน่ชัด แต่ทำความเข้าใจไว้แล้วค่ะ แต่ก็นะอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ
• มีหลายคนมองว่าน้องแพรเป็น “เน็ตไอดอล” ไปแล้ว ส่วนตัวคิดยังไงกับคำนี้บ้างคะ
หนูว่า “เน็ตไอดอล” เป็นคำศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าจะมาเรียกเด็กบ้านๆ แบบหนู มันไม่ใช่แค่ยอดไลค์เยอะแล้วได้เป็นค่ะ ตอนนี้แพรยังไม่ใช่เน็ตไอดอลแน่นอน แต่สักวันไม่รู้ค่ะ ไม่มีใครรู้อนาคต เน็ตไอดอลสำหรับหนูคือคนที่ขัดเกลาตัวเอง จนเป็นแบบอย่างที่ดีได้ ซึ่งตอนนี้ หนูยังทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้นแค่ไม่กี่วันเองค่ะ
• แล้วอยากบอกอะไรกับน้องๆ ที่เขาเห็นเราเป็นไอดอลและอยากทำตามบ้างไหมคะ
แพรอยากฝากถึงน้องๆ ว่า อะไรที่แพรเคยทำแล้วไม่ดีก็อย่าเลียนแบบ เลียนแบบแต่สิ่งดีๆ พอค่ะ ใช้แพรเป็นแรงบันดาลใจในการวาดรูป เล่นมุก ครีเอตให้เพื่อนข้างๆ หัวเราะ หรือค้นหาตัวเองในแบบที่น้องชอบได้ หรือเวลาที่เจอปัญหาน้องอย่ากลัว แพรเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ยังผ่านไปได้เลย น้องๆ ก็ต้องผ่านไปได้เหมือนกันค่ะ จงแก้ไขด้วยสมอง รู้จักปรับปรุงตัว สร้างผลงาน จงสู้ด้วยผลงานทำมันให้ดียิ่งขึ้น แต่อย่าสู้กันด้วยคำด่า คำเหยียด หรือการนัดตบตีค่ะ
• ปกติน้องแพรเล่นสื่อโซเชียลเป็นประจำเลยใช่ไหม ตรงนี้อยากให้พูดหรือฝากถึงน้องๆ หรือวัยรุ่นเหมือนกันกับเราเกี่ยวกับการใช้สื่อหน่อยค่ะเพราะสมัยนี้การใช้สื่อในทางที่ดีมันก็มีประโยชน์ แต่ถ้าใช้ในทางลบมันก็ทำให้เสียหายได้
แพรใช้สื่อเป็นประจำค่ะ ก็เคยรับจ้างเขียนบทความเพจการ์ตูน ดูแลเพจ ตั้งแต่ ม.ต้น ค่ะ เห็นดรามามาก็เยอะมาก หนูว่าอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือที่เป็นอาวุธได้ ให้คนทำมาหากินได้ ให้ความบันเทิงได้ เป็นเครื่องมือฆ่าตัวเองก็ยังได้ และทำให้คนเกลียดกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันก็ได้
เรื่องแรกที่อยากพูด แพรขอยกตัวอย่างนะคะ อย่างมีเฟซบุ๊กของเด็กผู้หญิงรุ่นเดียวกันคนหนึ่งที่เข้ามาพิมพ์ด่าหนู เฟซบุ๊กของเขามีรูปถ่ายคู่แฟนเขาเยอะหลายรูป ท่ากอด หอมแก้ม พอค้นๆ ไปมีรูปถ่ายชุดว่ายน้ำลงเฟซบุ๊ก มีการตั้งสเตตัสด่าคนลอยๆ หยาบๆ เป็นประจำ แต่แพรเห็นว่าสมัยนี้มีเด็กวัยรุ่นหลายๆ คนก็โพสต์แบบนี้นะ บางคนสิ่งที่โพสต์รุนแรงกว่าเด็กที่หนูยกตัวอย่างมาอีก ซึ่งก็มีเยอะมากค่ะ แต่แล้วถ้าหากว่าคนนั้นเขาดังในชั่วข้ามคืนแบบหนูล่ะ เขาจะต้องเจอกระแสแบบไหนในวันต่อมา ตรงนี้แพรเลยอยากฝากถึงเพื่อนๆ น้องๆ ที่ยังชอบโพสต์สิ่งเหล่านี้อยู่ ลองเก็บไปคิดนะคะ ก่อนจะโพสต์หรือพิมพ์อะไร ให้รู้จักเซฟตัวเองด้วย ดูเคสของแพรเป็นตัวอย่าง แพรว่าแพรก็เซฟแล้วระดับหนึ่งยังเจอดรามาเลย ยังมีพี่ๆ น้องๆ อีกหลายคน ที่เล่นโซเชียลอย่างสนุกโดยที่ไม่ได้คิดถึงผลกระทบในอนาคต อยากให้เริ่มคิดและป้องกันตัว อะไรที่ไม่ดีก็ลบทิ้งซะ มันไม่มีอะไรสายไปหรอกค่ะถ้าเรารู้จักเรียนรู้ แก้ไข และปรับปรุงตัว
เรื่องที่สอง ที่อยากพูดและเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมโซเชียลทุกวันนี้ไม่เป็นสุขเลย ดรามาด่ากันทุกวัน คือ ถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชัง หรือ Hate Speech ค่ะ การด่า การดูถูก ความรุนแรงของคนที่เล่นโซเชียลมันมีมากขึ้นทุกวัน เหมือนโกรธแค้นกันมาจากชาติก่อน บางคนก็ดูถูกคนอื่นแค่เพราะเขาไม่เหมือนกับเรา แค่นั้นเองค่ะ เช่น เห็นคนหนึ่งผิวสีเข้มก็ไปด่าอีนี่ดำมาก หรือ คนกรุงดูถูกคนบ้านนอก คนบ้านนอกดูถูกคนกรุง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งการด่าทุกวันนี้ เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มากนะคะ เพราะการด่าทุกวันนี้สามารถด่าได้ทั่วไปจะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น แค่เขาต่างจากเรา หรือเพราะเราหมั่นไส้เขา ก่อนจะด่าคนก็ใช้วิธีหาพวก โดยการจับผิดคนคนหนึ่งแล้วชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง เป็นข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ แล้วนำความแตกต่าง หรือข้อผิดพลาดนั้นไปประจานทำลายชีวิตอีกคน ซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนมีข้อผิดพลาดกันหมดแหละ แต่ถ้าเขาไม่ได้ไปทำผิดกฎหมาย, ข่มขืน, ฆ่า, ขโมยของ, แก้ผ้าไลฟ์สด เราก็ควรเคารพในสิทธิของเขานะ วิธีแก้ ถ้าน้องๆ เพื่อนๆ คนไหน คุ้นเคยชินกับการทำแบบนี้ ชอบด่าคนที่ต่างจากเราจนเป็นนิสัยติดตัวไปแล้ว อยากให้คุณลองแก้ที่ตัวเองก่อน ลองข่มนิสัยด้านมืดของตัวเอง ข่มความหมั่นไส้ ข่มความอิจฉา แล้วลองเข้าใจคนอื่น หรือข้ามไปแบบไม่ต้องสนใจก็ได้ค่ะ เอาเวลาไปทำสิ่งที่มีประโยชน์ ทำงานบ้าน ทำงานพิเศษ ช่วยพ่อแม่หาเงิน ก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ สังคมโชเชียลจะได้น่าอยู่ขึ้นค่ะ
แพรอยากให้ทุกคนเล่นสื่อโซเชียลอย่างมีสติถ้าน้องๆ เด็กๆ ยังไม่เข้าใจว่าอะไรควรโพสต์ หรืออะไรไม่ควรโพสต์ แพรจะขอสรุปดังนี้นะคะ
1. อย่าโพสต์รูปอนาจารของตัวเองลงสื่อโซเชียล ไม่ว่าจะแลกเงิน ไลฟ์สดต่างๆ หรือส่งให้แฟน อย่าค่ะ มันไม่คุ้มหรอก ในอนาคตน้องและคุณพ่อคุณแม่จะต้องเสียใจทีหลังแน่นอนค่ะ
2. ถ้าน้องๆ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อย่าเพิ่งรีบอวดแฟนค่ะ พยายามอย่าเรียกแฟนวัยเรียนว่า “ผัวเมีย” ตั้งแต่เด็ก เพราะอนาคตคือสิ่งไม่แน่นอนค่ะน้อง ถ้าเกิดวันหนึ่งน้องเกิดเป็นคนที่มีชื่อเสียงในอนาคต เรื่องต่างๆ ที่น้องเคยโพสต์ในวันนี้ จะถูกขุดมาประจานค่ะ ถึงแม้มันจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมายก็ตาม
3. จงมีสติในการใช้คำพูดค่ะ การด่าคนคนหนึ่ง ด้วยการพิมพ์ง่ายๆ แบบไม่คิดอะไร หรืออาจจะรู้สึกหมั่นไส้ ไม่กี่วินาที คุณอาจจะมีศัตรูที่เขาแค้นจ้องทำร้ายเอาคืนชีวิตคุณทั้งชีวิตได้ค่ะ ยิ่งถ้าใครไม่รู้จักควบคุมตัวเองศัตรูอาจมีเป็นร้อยคนเลยค่ะ แล้วเมื่อคุณโตขึ้นชีวิตคุณจะไม่มีความสุขแน่นอน น้องจะเอาโซ่ที่เรียกว่าความเกลียดชังมาพันตัวน้องเองทำไม มันไม่มีประโยชน์อะไรกับน้องเลย
4. อยากให้เปลี่ยนจากการโพสต์ถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชัง มาเป็นโพสต์อะไรที่ทำให้คนอื่นหัวเราะตลกหรือให้สาระความรู้ได้ค่ะ เราว่าความตลกรอยยิ้มเสียงหัวเราะ กับสาระความรู้ มีประโยชน์มากกว่าคำด่า และถ้าหากพวกเราทำได้ พวกเราเด็กวัยรุ่นยุคใหม่จะได้ใช้สื่อสร้างสังคมโซเชียลให้น่าอยู่ด้วยค่ะ
• ตอนนี้น้องแพรทำอะไรอยู่บ้างคะ เห็นว่ามีความสามารถพิเศษเรื่องวาดรูปด้วย
ใช่ค่ะ แพรชอบวาดรูป ก็ฝึกวาดกับพวกพี่ๆ มา 4 ปีแล้วค่ะ แต่ตัวหนูเองก็ยังไม่เก่งเท่าไหร่ต้องให้พี่ๆ ช่วยแก้ ช่วยสอนประจำ
แพรชอบวาดรูปแนวโหด กับแนวเซ็กซี่ เพราะพอเป็นการ์ตูนเราจะมองว่ามันเป็นศิลปะและมุกตลก แต่แนวโหดหรือเซ็กซี่ต่อไปคงจะหัดวาดลงแค่ในกระดาษไม่ลงสื่อ เพราะคนจะดรามาได้ค่ะ ต่อไปนี้ที่มีให้อ่านในเพจจากนี้ไปจะเป็นแนวมุกตลก กับสาระความรู้ เพราะสังคมไทยมีกรอบโดยเฉพาะกรอบของผู้หญิงที่มากกว่าผู้ชาย ส่วนตัวหนูก็เรียนรู้และเคารพกรอบนั้นค่ะ
ส่วนผลงานตอนนี้ก็ช่วยพี่ๆ ดูแลหลายเพจ แต่เพจหลักของพวกเราตอนนี้ก็คือ เพจการ์ตูนดิ๊งด่อง (แอดมินมี 3 คน) และเพจหนูมินตันทาสกระดาน ก็สามารถเข้าไปดูได้ค่ะ
• การเรียนเป็นยังไง แบ่งเวลาในชีวิตยังไงเพราะตอนนี้เรามีคนรู้จักมากขึ้นแล้วก็ต้องให้ความสำคัญกับการโพสต์ การทำคลิปอะไรมากขึ้น
การเรียนหนูก็โอเคค่ะ ไม่ถึงกับดี แต่ก็ไม่แย่ เกรดเฉลี่ยรวมๆ ก็ยัง 3 กว่าค่ะ (ยิ้ม) ซึ่งการแบ่งเวลาหนูก็ต้องแบ่งดีๆ เพราะพ่อกับแม่ก็จะพูดเสมอว่าให้หนูตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานให้ไปได้ไกลกว่าพ่อกับแม่นะเพราะพ่อหนูจบแค่ชั้นประถมค่ะ
แพรก็กำลังฝึกฝน อย่างมีการทำคลิปโปรโมตเกม กับ หนังสือบทเรียน ก็พยายามใช้เวลาว่างศึกษา พอกลับบ้านมาก็จะลองถ่ายดู กำลังหัดเรียนรู้งาน เรียนรู้การแบ่งเวลา บางทีก็ทำไม่ทันก็ให้พี่ๆ แอดมินเพจอีกสองคนช่วยดูช่วยสอนคอยสนับสนุนค่ะ
• แล้ววางแผนอนาคตไว้ยังไงต่อไปบ้างคะ
อนาคตแพรก็อยากฝึกถ่ายคลิปให้รู้มุมค่ะ เผื่อในอนาคตทำรายการลงเพจด้วย เรื่องเพจพวกเราจะช่วยกันทำเพจ คิดคอนเทนต์ด้านบวกให้กับสังคม ลดความกวนและความทะลึ่งลง กับตอนนี้กำลังทำเสื้อเพจ และสติกเกอร์ไลน์คนพิเศษของหนูเองอยู่ค่ะ
ส่วนตัวหนูคิดว่าทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มแต่เราก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะเป้าหมายหลักของหนูก็คือหาเงินช่วยพ่อแม่ส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัยให้ได้ จะพยายามให้เต็มที่ จะถ่ายคลิปลงรูปคิดคอนเทนต์ให้คนดูยิ้มทุกสัปดาห์ แต่จะไปได้ไกลแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของพี่ๆ น้องๆ ที่ติดตามหนูด้วยเหมือนกันค่ะ (ยิ้ม)
3 สิ่งที่แพรขาดไม่ได้
แรงบันดาลใจ อุดมการณ์ และ เงิน เพราะ…
- หากขาดแรงบันดาลใจ เราจะไม่มีพลังในการทำงาน การเรียน เราจะใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ
- หากขาดอุดมการณ์ เราจะไม่มีกรอบ แบ่งแยกสิ่งที่ถูกหรือผิด
- และถ้าหากขาดเงิน เราจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่บนโลกความจริงได้ค่ะ แพรจึงคิดว่า 3 สิ่งนี้ต้องไปด้วยกัน
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : facebook : มินตรา การ์ตูนดิ๊งด่อง