มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สั่งลงโทษพักการศึกษา 1 ภาคการศึกษา แก่นักศึกษาชายที่คุกคามทางเพศนักศึกษาหญิงรุ่นน้อง หลังฝ่ายหญิงร้องเรียน ด้านฝ่ายหญิงระบุ ตัดสินใจถูกที่ส่งเรื่องให้มหาวิทยาลัยจัดการ ไม่เช่นนั้น ยิ่งเงียบเท่ากับส่งเสริมให้เกิดการข่มขืนในอนาคต
วันนี้ (19 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษาและการเรียนรู้ ปฏิบัติการแทนอธิการบดี ออกคำสั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ที่ 066/2560 เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ให้ลงโทษนักศึกษาชาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รายหนึ่ง ด้วยการให้พักการศึกษา 1 ภาคการศึกษา และให้มารายงานตัวที่งานการเรียนรู้และบริการสังคม ศูนย์รังสิต เพื่อดูแลระหว่างการรับโทษ พร้อมทั้งให้บำเพ็ญประโยชน์ภายใต้การดูแลของงานการเรียนรู้และบริการสังคม หลังได้รับการร้องเรียนจากนักศึกษาหญิง ซึ่งเป็นรุ่นน้องคณะเดียวกัน ถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม
นักศึกษาหญิงรายดังกล่าวได้เล่าเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายรุ่นพี่คนดังกล่าวคุกคามทางเพศ ระบุว่า เมื่อกลางเดือนมีนาคม 2560 ได้ไปค้างแรมที่หอของเพื่อน ระหว่างที่กลับจากการดื่มสุรา นักศึกษาชายรุ่นพี่คนดังกล่าว ซึ่งนอนอยู่ข้างๆ กัน เอามือมาสะกิด และเอามือของนักศึกษาหญิงรุ่นน้องไปจับที่อวัยวะเพศของนักศึกษาชายรุ่นพี่ เมื่อเขยิบหนีชายคนดังกล่าวก็เขยิบตาม แล้วเอาขามาทับร่างกายของนักศึกษาหญิงรุ่นน้องไม่ให้ขยับ เมื่อเอามือปัดออก กลับใช้มือจับหน้าอกและใช้มือกระทำชำเรา ฝ่ายหญิงจึงผลัก ถีบ ขัดขืนสุดกำลัง เท่าที่สามารถจะทำได้ แต่ก็ไม่หยุด พยายามอยู่หลายครั้ง โชคดีที่มีจังหวะที่ฝ่ายหญิงถีบออกไปได้ ลุกออกจากเตียง ก่อนจะร้องไห้ ทำอะไรไม่ถูก เพราะเพื่อนที่เหลือในห้องยังนอนหลับ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นบ้าง และฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ตะโกน หรือโวยวายออกไป
“แม้ว่าภายหลัง เขาจะบอกว่าเมา ไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะอาการเมาไม่ใช่ข้ออ้างที่จะใช้ทำเรื่องแย่ๆ กับคนอื่น เรามั่นใจว่าเราไม่ได้เป็นเคสแรกที่เกิดการล่วงละเมิดทางเพศขึ้นระหว่างนักศึกษาด้วยกันเอง แต่น่าเสียดายที่ผู้เสียหายหลายคนเลือกที่จะไม่พูด ไม่เอาเรื่อง และปล่อยให้เรื่องเงียบไป เพียงเพราะว่าอาย และไม่อยากพูดถึงมันอีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกอาย คนที่ทำผิดต่างหากต้องเป็นคนที่รู้สึกอาย ไม่ใช่เรา การที่เราโพสต์เรื่องราวนี้ ไม่ได้ต้องการจะประจานคนที่กระทำผิด แต่เราต้องการ empower คนที่เป็นเหยื่อในเหตุการณ์การล่วงละเมิดทางเพศ ให้กล้าออกมาพูด" นักศึกษาหญิงคนดังกล่าว ระบุในเฟซบุ๊กส่วนตัว
นักศึกษาหญิงคนดังกล่าว ระบุว่า “การออกมาพูดมีราคาที่ต้องจ่าย แน่นอนว่า เราต้องแบกรับความรู้สึกแย่ๆ ทั้งหมด ต้องพูดเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ให้ใครหลายๆ คนฟัง มีทั้งคนที่เข้าใจ ไม่เข้าใจ และมีคนที่ตัดสินเราในทางแย่ๆ แต่เราต้องอยู่กับมันให้ได้ ต้องเข้มแข็งและกล้าที่จะพูด อย่าลืมว่าเรามีสิทธิเต็มที่ คนที่เสียหายมีสิทธิที่จะดำเนินการเอาผิดกับคนที่กระทำความผิด ถึงแม้อาจจะมีคนไม่สนับสนุน มีคนไม่เห็นด้วย แต่อย่าลืมว่ามันเป็นสิทธิของคุณ ถ้าคุณตัดสินใจอะไรไป คนอื่นที่ไม่เห็นด้วยอาจจะแค่ผิดหวัง แต่ตัวคุณเท่านั้นที่ต้องแบกรับผลของการตัดสินใจนั้น เราคิดว่าเราตัดสินใจถูกที่เลือกจะส่งเรื่องให้คณะจัดการสอบสวนเพื่อลงโทษทางวินัยกับคนที่ทำผิด เพราะถ้าวันนั้นเราเลือกที่จะเงียบ วันนี้เราคงต้องนั่งเสียใจที่เราไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่าง ถ้าเราไม่พูดและปล่อยให้เรื่องเงียบ ยิ่งจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดเป็นวัฒนธรรมการข่มขืนขึ้นในอนาคต”