xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย กรณียืนถ่ายรูปในอุทยานเยลโลสโตน ย้ำชัด “ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยโฟนอินเปิดใจผ่านรายการโทรทัศน์ หลังตกเป็นจำเลยสังคม เพราะไปยืนถ่ายรูปในจุดห้ามถ่ายของ อุทยานเยลโลสโตน จนโดนชาวต่างชาติถ่ายคลิปประจาน โดยตนเองยืนยันว่า “เราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎ ถ้าผิดกฎเจ้าหน้าที่ก็คงจะมาเตือนแล้ว”

จากกรณีเมื่อวันที่ (7 ส.ค.) หลังจากแชนแนล “Jeffh34” ได้โพสต์คลิปของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยได้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว อุทยานเยลโลสโตน ในประเทศสหรัฐอเมริกา และลงไปถ่ายภายในจุดที่ทางอุทยานห้าม จนมีชายต่างชาติอัดคลิปพร้อมว่ากล่าวจนทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่พอใจจนเกิดการถกเถียงกันขึ้นมา จนทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียล

จนทำให้หนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยชื่อ “แอนนา อรวรรณ” ได้โฟนอินเข้ามาในรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 เพื่ออธิบายเหตุการณีในวันนั้น ว่า

“เราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎ ไม่มี ถ้าผิดกฎเจ้าหน้าที่ก็คงจะมาเตือนแล้ว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเส้นทาง ซึ่งป้ายที่มีก็เป็นการเตือนไม่ให้เด็กๆ ซนวิ่งเข้าไป แล้วป้ายก็ติดไว้แค่เล็กๆ เท่านั้น หลังจากเกิดเหตุการณ์ก็มีคนโทร.มาถามเยอะ ก็ไม่ได้มีอะไร ตลอดเส้นทางมีเจ้าหน้าที่อยู่ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าเป็นที่อันตรายมากก็ต้องติดป้ายใหญ่ๆ ประกาศแจ้งเตือนแล้ว และส่วนที่อันตรายก็ต้องมีการล้อมรั้วไว้ ซึ่งในประเทศสหรัฐฯ สมมติขับรถไปเจอที่จอดรถคนพิการ ถ้าคนปกติจะจอดรถไม่กี่นาทีก็ยังได้ ไม่เป็นไร แต่พี่ไม่ได้ทำ แค่เล่าให้ฟัง”

ล่าสุดวันนี้ (15 ส.ค.) เวลา 17.00 น. เฟซบุ๊ก "พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์" ได้ออกมาเปิดเผยว่า นายนุกูล มูลโชติ ได้โทรศัพท์หาหลังจากทำไลฟ์สดไปเมื่อเที่ยงโดยดึงบุคคลอันมีความคิดเห็นในมุมมองต่างอย่างสุดขั้วต่อเรื่องนี้ คือ ทอม เครือโสภณ หรือ เฟซบุ๊ก Tom Julpas Kruesopon นำเสนอประเด็นฝรั่งเจ้าของคลิป ว่ามันคือการ Racist หรือ เหยียดชาติพันธุ์ คนเอเซียอย่างเรา สะท้อนมุมนี้ในฐานะคนไทยที่อาศัยอยู่อเมริกามาอย่างยาวนาน (ปัจจุบันกลับไทยนานแล้ว) และเคยไปเยือนอุทยานแห่งชาติ Yellow Stone โดย นายนุกูลได้ดูไลฟ์นั้นและได้พยายามทุกวิธีทางในการติดต่อทั้งผมและพี่ทอม หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมงให้หลังไลฟ์จบ ต่อโทรศัพท์สำเร็จ น้ำเสียงเขาไม่ได้หาเรื่องหรือกร่างอย่างในคลิปใส่แต่เขาพยายามอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่นายนุกูลพยายามอธิบายมีดังนี้
1. จุดเกิดเหตุในคลิปไม่ใช่ จุดห้ามเข้าเด็ดขาด' แบบที่เราเข้าใจจากข่าวว่ามีคนตกลงไปตาย
2. นุกูลบอกว่าจุดนี้อยู่ติดทางเดินถนนและไม่ได้ใช้ไม้กั้นในระดับอก หรือล้อมรั้วแบบจุดอันตรายอื่นๆที่เขาเห็นและเปรียบเทียบระดับความรุนแรงได้จากพื้นที่
3. ก่อนกลุ่มพวกเขาเดินเข้าไป ก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวฝรั่งคนอื่นๆเดินเข้าไปถ่ายก่อนหน้านานแล้ว และมีคนหมุนเวียนเข้าออก
4. ป้ายที่เตือนเขียนว่า Danger คือ 'อันตราย' Fragile Thermal Area คือ 'บริเวณพื้นผิวความร้อนแตกง่าย' ไม่ใช่ป้ายห้ามเข้าเหมือนโซนที่อันตรายจริงๆ
5. เขาเป็นคนเดินออกมาทันทีที่ฝรั่งผู้ถ่ายคลิปตะโกนเตือน (ผมเห็นว่าจริงตามคลิปครับ เขาเดินออกมาพร้อมสาวคนหนึ่ง) แต่เขาหันมามองการกระทำของฝรั่งคนนี้อยู่ตลอดจากถนน จากสีหน้าและแววตาค้นพบว่าเป็นการถ่ายเพื่อที่จะเอาไปประจาน และเห็นว่าเป็นการเลือกถ่ายเฉพาะชาวเอเซีย เพราะก่อนหน้าก็มีกลุ่มฝรั่งผิวขาวอีกหลายคนที่เดินลงไป (และถูกเบลอภาพไว้ในคลิป)
6. กลุ่มป้าๆของเขาหลายคน แม้จะอาศัยอยู่ในอเมริกาแต่ภาษาอังกฤษก็อยู่ในระดับสื่อสารเบื้องต้นเท่านั้น เขาระบุว่าการกล่าวคำว่า "ฟรอม ทายยยแลนด์~" ที่พวกเราค่อนข้างโกรธและอาย คุณป้าแกกล่าวออกมาเพราะตอนแรกไม่ทราบเจตนารมณ์ของคนถ่ายว่าจะเอามาประจานแบบนี้ คิดว่าถ่ายเล่น จึงอยากพูดเพื่อเป็นมิตรภาพเหมือนๆกับที่คนไทยทุกคนรู้สึกดีเวลาเจอชาวต่างชาติ
7. ประเด็นที่ฝรั่งพูดว่า 'Don't Touch Me' เขายืนยันว่าไม่ใช่ตัวเขาแตะ แต่เป็นคุณป้าที่พยายามอารมณ์ดีเอามือไปลูบเพื่อหวังจะปลอบให้ฝรั่งหายโกรธ
8. นุกูลยืนยันว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในคลิปคือเขารู้สึกว่าถูก 'เหยียดชาติพันธุ์' และ 'ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล' จึงเดินไปพูดเพื่อจะให้ลบคลิปทิ้ง แต่ด้วยความโกรธจึงคิดคำพูดไม่ทันและไม่สละสลวยนัก
...ถึงเวลานี้มีสื่อสารมวลชนเข้าถึงเบอร์โทรเขาแล้ว และจะขอสัมภาษณ์อีกหลายรายการ แต่เขาไม่ถนัดจะชี้แจงเพราะตอนนี้สภาพจิตใจไม่ปกติ เขารู้สึกเห็นใจ "ทุกๆคนในคลิป" ที่กำลังถูกนักสืบโซเชียลขุดคุ้ยประวัติ อาชีพ ที่ทำงาน และสถานะต่างๆทางสังคม ซึ่งทำให้ทุกๆคนกำลังผวา
เขาจึงหาทางติดต่อผมในฐานะคนที่โกรธกับการกระทำของเขาที่สะท้อนออกมาจากมุมฝรั่งผิวขาวคนนี้
ผมถามเขาว่าแล้วติดต่อเพจอื่นอีกๆด้วยไหม? เขาบอกว่าติดต่อไปหมดแล้ว แต่ได้รับข้อความพิมพ์ขำ หึหึ หุหุ กลับมาโดยไม่รับฟังการชี้แจงของเขาเลย
ขณะนี้นุกูลและคณะกลับถึงเมืองไทยซักพักแล้ว ทริปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม เป็นทริปการไปค้นคว้าหาข้อมูลทำงานของเขา เมื่อเสร็จจึงแวะพักเยี่ยมญาติๆและได้ตัดสินใจขับรถกันมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติ Yellow Stone นี้จนมามีเรื่องคลิปดังกล่าว แต่เมื่อออกจากอุทยานก็ได้พบเจ้าหน้าที่ Park Ranger หลายนายแต่ก็ไม่ได้โดนจับหรือโดนตำหนิแต่อย่างใด..
เอาเป็นว่า "พี่เข้าใจเอ็งแล้วนะนุกูล" ส่วนคนอื่นๆจะคิดอย่างไรมันก็ขึ้นอยู่กับเขานะ
จากคนที่เคยโกรธนายมาก
หนุ่ย.พงศ์สุข


กำลังโหลดความคิดเห็น