xs
xsm
sm
md
lg

ดรามา ! สาวถูก ดร.ป๊อป ด่าทอ-จับขัง เพื่อเช็กดูว่าเป็นโรคซึมเศร้าจริงไหม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สาวซื้อคอร์สอบรม อ้างถูกนักพูดชื่อดัง “ด่าทอ-กักขัง” ในงานอบรมซึ่งไปกับคุณแม่ โดยนักพูดทำไปเพื่อเช็กดูว่าเป็นโรคซึมเศร้าจริงไหม ล่าสุด ดร.ป๊อป ไลฟ์สดชี้แจง รับพูดให้ไปตายจริง แต่ไม่ได้ด่าคนป่วย

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. กระทู้หนึ่งในเว็บไซต์พัทิป ชื่อว่า “น้องเราถูกด่าทอและกักขังในงานอบรมแห่งหนึ่งเพื่อแค่กระตุ้นให้รู้ว่าเป็นโรคซึมเศร้าจริงไหม” จากกรณีที่เป็นกระแสดรามาคนไข้โรคซึมเศร้าถูกนักพูดและนักเขียนหนุ่มชื่อดัง หรือโค้ชอาจารย์และเทรนเนอร์ด้านภาษาสื่อประสาทเพื่อพัฒนาศักยภาพมนุษย์ หนึ่งในคนเอเชีย ไม่กี่คนที่ได้รับดำรงตำแหน่ง Certified NLP Trainer นั้นด่าทอและกักขัง โดยมีเนื้อหาว่า

ขอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องเป็นน้องที่รู้จักกันในวงการตอนนี้น้องเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามาราวๆ 1 ปีแล้ว โดยจะเล่าในมุมมองของเราจากที่น้องเล่ามาให้ฟัง ว่าได้ไปงานอบรมของนักพูดคนหนึ่งพร้อมกับแม่ งานที่ว่ามีสองวัน จัดในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมานี้ ที่หอศิลปะวัฒนธรรม โดยนักพูดและนักเขียนชื่อดังคนหนึ่ง โดยไปทั้งสองวันเลย เพราะที่บ้านชอบนักพูดคนนี้ ในวันแรกนั้นน้องขอออกมาจากห้องอบรมก่อนเวลาเพราะน้องอึดอัดกับบางคำพูดของนักพูด โดยได้มีการไล่ให้ไปตายกันเกิดขึ้น น้องตกใจมาก ยกตัวอย่างตอนนั้น คือ เหมือนกับเป็นการหาสาเหตุให้คนๆ นึงอยู่ แล้วคนนึงเขาอ้างว่าเป็นโรคซึมเศร้า และเขาตอบคำถามว่าทำไม่ได้ นักพูดเลยบอกว่าถ้าทำไม่ได้ก็ไปตายซะ ที่คุณทำอยู่มันไร้สาระ

ตอนนั้นขอออก แต่เขาไม่ให้ออก อันนี้เข้าใจว่าเป็นกติกาของการอบรม ว่าออกระหว่างอบรมออกไม่ได้ แต่ตอนนั้นน้องไม่ไหวแล้วจริงๆ รู้สึกคลื่นไส้ หายใจไม่ทัน รู้สึกแย่และแพนิก พอเห็นแบบนั้น ทางสตาฟก็ให้น้องออกมาจากห้องอบรมพร้อมถามถึงเหตุผล ซึ่งน้องเราก็บอกไปตามตรงว่าเป็นผู้ป่วย แล้วช็อคกับคำพูดของนักพูด สตาฟก็ขอนำเอาเรื่องของน้องเราไปหารือกับนักพูด ซึ่งตัวน้องก็อนุญาตเพราะหวังว่าจะช่วยได้บ้าง

โดยวันต่อมานักพูด ได้เรียกน้องกับคุณแม่ของน้องให้ไปคุยด้านนอกฮอลล์ และเขาก็ยิงคำถามว่าน้องเป็นอะไร น้องก็ไม่ตอบ ยืนมองหน้านักพูดเงียบๆ เพราะรู้สึกไม่ดี กับสิ่งที่เขาเคยพูดไว้ ซึ่งมันให้ค่อนข้างทำให้น้องรู้สึกแย่ เมื่อน้องไม่ตอบแล้วเขาก็บอกว่า สิ่งที่น้องเราทำอยู่เป็นการแสดงล้วนๆ‪ ‬ตอนนั้นน้องก็งง ‪เขาพูดแบบ จริงๆ แล้วน้องไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่กำลังเสแสร้งว่าเป็นโรคซึมเศร้า‬ ด้วยความโกรธและไม่พอใจน้องจึงขึ้นเสียงตอบเขาไปว่า ‬มีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้ ‪เขาก็ชี้ไปทางแม่ของน้องและบอกว่าเขากำลังช่วยผู้หญิงคนนั้นแม่น้องอยู่ ช่วยจากคุณ‬

‪ใจความก็คือเขากำลังจะบอกว่าน้องเสแสร้งที่เป็นโรคซึมเศร้าและทำให้แม่เสียใจ‬ บอกว่าแม่เราเลี้ยงลูกไม่ดีทำให้น้องเราเป็นแบบนี้ ตอนนั้นน้องเราเล่าว่าทั้งช็อค ทั้งโกรธ ไม่เข้าใจ เสียใจ และตวาดทั้งๆที่ร้องไห้ไปเลยว่า คุณรู้ดีอะไรถึงมาพูดแบบนี้ คุณรู้เหรอว่าเราทุกข์ใจเรื่องอะไร เราพอแล้ว เราจะกลับบ้าน เราเกลียดคุณ เขาก็บอกว่า ได้ งั้นกลับบ้านไปเลย ด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ขณะที่น้องเรากำลังจะเดินออกประตู แม่ของน้องก็รั้งไว้ เเม่ของน้องมาพร้อมกับแม่ของนักพูด แม่ของนักพูดเดินเข้ามา แล้วตะคอกใส่หน้าน้องเราว่า มันจะมากไปแล้วนะ กล้าดียังไงมาว่าลูกเขา แล้วตรงมาจับไหล่ ถลนตาใส่ด้วยความโกรธ เเม่ของนักพูดง้างมือ ทำท่าเหมือนจะตบน้องเราตอนนั้นน้องก็บอกไปว่า อยากตบก็เชิญเลย คือน้องไม่กลัวอะไรแล้ว รู้สึกแย่ โกรธ เสียใจ เสียความรู้สึก

สุดท้ายเขาเลยลากน้องเราพาไปขังเอาไว้ในห้องหนึ่ง เป็นห้องเหมือนห้องเก็บของ เล็กๆ โล่งๆ มีแต่เก้าอี้พร้อมกับเรียกสตาฟอีกคนมาเฝ้าไม่ให้น้องเราออก แม่ของนักพูดชี้หน้าด่าน้อง ขึ้นหยาบขั้น กุ มึง และบอกว่า “ถ้าอยากตายนัก ก็ตายตรงนี้เลย” พอน้องเราบอกไปว่า ก็อยากตายมานานแล้ว ถ้าตายตรงนี้ได้ก็ทำ น้องเราเคยมีประวัติพยายามฆ่าตัวตาย เขาก็ด่าน้องเราว่ามมันอีบ้า เสแสร้ง พยายามเบี่ยงประเด็นอย่างนู้นอย่างนี้ ด่าว่าน้องแสร้งว่ารักแม่ ขนาดแม่ห้ามก็ไม่ยอมฟัง น้องเราไม่รักแม่ คือน้องเราตอนนั้นโกรธ เสียใจ น้องโกรธคุณแม่ว่าพามาคุยกับนักพูดทำไม ทำไมลูกโดนด่ากลับไม่อะไร ทำไมอีกหลายอย่าง เขาก็ขังน้องเราไว้ให้คุยกับสตาฟ จนกว่าพ่อน้องเราจะมารับ ก่อนออกไปคุณแม่ของนักพูดก็บอกว่าเชิญทำตัวบ้า ๆ ของมึงไปเลย แล้วก็ขังน้องเราไว้ทิ้งกับสตาฟไม่พอสตาฟก็พยายามจะมาโค้ชน้องเราต่อในห้องนั้น น้องมองหน้าสต๊าฟถามว่าทำไมทำแบบนี้ โค้ชที่ว่าคือมาพูดแบบว่าพี่ก็เคยคิดฆ่าตัวตายนะ แล้วเล่าประสบการณ์ด้วยสำนวนคล้ายของนักพูดแต่ไม่มีการด่าทอ น้องก็เออออไปด้วยเพราะอยากกลับบ้านแล้ว เรื่องจบก็คือน้องกลับบ้านกับคุณพ่อมาทั้งสุขภาพจิตเสียมาก รู้สึกแย่ โดนด่าว่าเป็นภาระ ทำให้แม่ผิดหวัง เสแสร้ง จากคนแปลกหน้าที่ไม่เคยคุยกัน เสียเงินตั้ง 5,000 บาท เพื่อให้คนมาชี้หน้าด่า กักตัวเอาไว้

ล่าสุด น้องก็ได้คำขอโทษจากนักพูดผ่านโทรศัพท์ เขาบอก “เขาแค่กระตุ้นเพื่อดูว่าน้องโรคจริงไหม สรุปคือเป็นโรคจริงๆ และก็ขอโทษ” ส่วนคุณแม่หลังจากน้องกลับบ้านก็เข้าอบรมต่อ เมื่อกลับบ้านก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่มีการตั้งกระทู้ดังกล่าว ดร.ป๊อป ฐาวรา สิริพิพัฒน์ ได้ออกมายอมรับว่ากระทู้ดังกล่าวเป็นตนเองจริงๆ และที่พูดว่าถ้าทำไม่ได้ก็ให้ไปตายซะ คำนั้นตนก็พูดจริง ๆ บนเวที ซึ่งต่อมาน้องอาเจียนและเป็นลมก่อนออกจากห้องไป ตอนแรกแม่ของน้องในกระทู้เคยมาถามว่าเป็นโรคซึมเศร้ามาเรียนได้ไหม ตนก็แจ้งตั้งแต่แรกแล้ว ว่าไม่ให้มาเรียน เพราะจะมีคำพูดที่แรงๆ หยาบคาย ที่ผ่านมาก็มีคนที่กึ่งๆ จะเป็นโรคซึมเศร้าลองมาเรียนดู แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นเลยมาเรียนกับตน ตนก็จะมีคำถามเช็กว่าเธอแสดงอยู่ใช่ไหม แสดงอยู่หรือเปล่า ส่วนใหญ่ที่เจอคือไม่เป็น เราเช็กได้แล้วว่าไม่เป็น ก็คือไม่เป็น จากนั้นคนป่วยก็เลิกกินยา หายป่วยเลย

ก่อนหน้านี้ ตนก็เตือนแล้วว่าไม่ให้มา ถ้าน้องป่วย แต่วันนั้นน้องก็มา พอมาคุยตนก็รู้สึกว่าน้องน่าจะมีอาการอะไร เลยลองจี้แบบปกติว่า แสดงหรือเปล่า น้องโกหกหรือเปล่า น้องก็ถลึงตาทำท่าจะกลับ เราก็เรียกน้องมาคุยกันต่อ แต่น้องกรี๊ดดังมาก เขาพูดว่า “หนูเกลียดคุณ” ตนเลยบอกให้กลับไป ในตอนนั้นน้องกรี๊ดไม่หยุด แม่น้องก็เข้ามากอด ตนเลยบอกไม่ให้กอด คุณแม่ของตนและแม่ของน้องคุยกันว่าเราจะตกลงจะดุน้องดู พูดจาหยาบคายกับน้อง เพราะอยากช่วยน้องให้สงบสติอารมณ์ ก่อนพาน้องเข้าไปในห้องเก็บของ ไปคุยให้สงบ จากนั้นแม่น้องก็โทรให้พ่อมารับน้อง เพราะแม่จะเรียนกับตนต่อ ตนเลยให้น้องอยู่ในห้องนั้นต่อกับโค้ชที่คอยปลอบน้อง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ขัง






ข้อมูลจาก สมาชิกหมายเลข 3991177 เว็บไซต์พันทิปดอทคอม เฟซบุ๊ก Dr.Pop
กำลังโหลดความคิดเห็น