xs
xsm
sm
md
lg

ฟังคำต่อคำ “วัฒนา” หลุดปากต้องใช้คนแอดวานซ์ผลิตระเบิด ยันไร้เจตนาทำร้าย ปชช.เชื่อเหตุบึ้มนำไปสู่ความสุขยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“วัฒนา” ยันบึ้มหลายจุดไร้เจตนาทำร้ายคน ต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น มั่นใจจะทำให้ทหารร่วมมือประชาชนแสวงหาความสุข สงบ สันติ อย่างยั่งยืน ลั่นรักทหารแต่ไม่ชอบเพียงบางรายที่ใช้ประชาชนเป็นฐานขึ้นสู่อำนาจ หลุดปากหลังบึ้มพระมงกุฎจะหยุดก่อเหตุแล้วเพราะต้องใช้คนแอดวานซ์ทางเทคนิคทำระเบิด แต่พอสื่อจี้ถามปฏิเสธลูกเดียว ย้ำทำเองทั้งหมด

วันที่ 20 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ทำการแถลงข่าวการรับตัว นายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้า และอีกหลายจุดใน กทม. จากกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เขตดุสิต

โดยระหว่างการแถลง มีการสอบถามจากสื่อมวลชนหลายคำถาม จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาตอบคำถามสื่อมวลชนด้วยตัวเอง มีรายละเอียดดังนี้

สื่อมวลชน : การก่อเหตุในปี 50 และ 60 เชื่อมโยงกันยังไง และมีแรงจูงใจอะไร

นายวัฒนา : กราบเรียนพี่น้องสื่อมวลชนและพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน เหตุการณ์เมื่อปี 50 และปี 60 มีแรงบันดาลใจเหมือนกันทั้งหมดเลยครับ คือ ผมเป็นประชาชนธรรมดา ซึ่งไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติครับ ซึ่งการปฏิวัติแต่ละครั้งทำให้ประเทศชาติประสบกับความหายนะทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสิทธิและเสรีภาพของประชาชนก็ถูกลิดรอนออกไป

สื่อมวลชน : แต่มีคนเจ็บที่ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล

นายวัฒนา : ทุกครั้งผมพยายามหลีกเลี่ยงอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนคนธรรมดา ทุกครั้งที่ทำ ผมพยายามทำให้เป็นเพียงเชิงสัญลักษณ์การต่อต้านรัฐบาลที่มาจาการปฏิวัติรัฐประหาร

สื่อมวลชน : ไม่ได้มุ่งหวังเอาชีวิตใครใช่ไหม แค่ต้องการสร้างความปั่นป่วนเท่านั้น

นายวัฒนา : ผมไม่ต้องการสร้างความปั่นป่วน เพียงแต่ว่าส่งเสียงไปยังรัฐบาลที่มาจากการปฎิวัติรัฐประหารแค่นั้นว่าประชาชนรากหญ้ามิได้ชื่นชมรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ

สื่อมวลชน : ทำไมเลือกโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ทั้งที่สากลเค้าไม่ก่อเหตุกันในโรงพยาบาล

นายวัฒนา : อันนี้ขอไม่ตอบครับ เนื่องจากได้แถลงไปหมดแล้วกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สื่อมวลชน : ตอนนี้มีอะไรอยากจะพูดถึงบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บจากการก่อเหตุไหม

นายวัฒนา : ผมไม่มีเจตนาทำร้ายผู้ใด ผมขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการกระทำที่ก่อให้เกิดบาดเจ็บมากและน้อย ผมขออภัยจริงๆ ครับ

สื่อมวลชน : ยืนยันว่า ทำคนเดียวไม่มีฝ่ายการเมืองใดๆเข้ามาเกี่ยวข้องใช่ไหม

นายวัฒนา : ผมขอยืนยันว่า ทำเพียงคนเดียว ไม่มีฝ่ายการเมือง หรือว่าบุคคลใดชี้นำทั้งสิ้น

สื่อมวลชน : บ้านที่มีระเบิดเตรียมไว้ เตรียมไปก่อเหตุที่ไหนหรือเปล่า

นายวัฒนา : ที่บ้านไม่มีระเบิด เป็นเพียงแผงวงจร ซึ่งนำมาทดสอบทางเทคนิคเท่านั้น

สื่อมวลชน : ถ้าตำรวจไม่ทำการจับกุมครั้งนี้จะมีการก่อเหตุอีกไหม

นายวัฒนา : คิดว่าน่าจะไม่มีอีกแล้ว เนื่องจากว่าอุปกรณ์ที่ใช้ตลอดจนแผงวงจรที่ใช้ ต้องใช้บุคลากรที่ค่อนข้างจะแอดวานซ์ทางเทคนิค

สื่อมวลชน : แสดงว่ามีบุคคลอื่นช่วยในการออกแบบวัตถุระเบิดด้วยหรือเปล่า

นายวัฒนา : ไม่มีครับ

สื่อมวลชน : มีผู้สนับสนุนแผงวงจรแบบแอดวานซ์ด้วยหรือเปล่า

นายวัฒนา : ไม่มีครับ

สื่อมวลชน :จดหมายขู่ที่ส่งไปสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ สถาบันประสาทวิทยา เป็นคนเขียนหรือเปล่า

นายวัฒนา : จดหมายขู่ไม่ทราบด้วย ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย

สื่อมวลชน :ได้ใช้วิธีอื่นส่งเสียงไปยังรัฐบาลหรือไม่ ที่ไม่ใช่การวางระเบิด

นายวัฒนา : ยังครับ ขออนุญาตขยายคำว่าระเบิด เปลี่ยนเป็นประทัดยักษ์ครับ

สื่อมวลชน : ล่าสุด ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎมีการใส่สะเก็ดระเบิด แล้วระบิดจะมีอานุภาพรุนแรง ตอนนั้นคิดอะไรอยู่

นายวัฒนา : ขออนุญาตผ่านคำถามนี้ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ

สื่อมวลชน : หลังจากก่อเหตุทราบว่ามีคนเจ็บรู้สึกยังไง

นายวัฒนา : คำถามนี้อนุญาตผ่านไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ

สื่อมวลชน : ทำไมถึงเกลียดทหาร

นายวัฒนา : ขออนุญาตบอกว่าผมเองไม่เกลียดทหาร ผมรักทหาร แต่ผมไม่ชอบทหารบางท่านซึ่งใช้ประชาชนเป็นฐานก้าวขึ้นสู่อำนาจในการเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล

สื่อมวลชน : มีคนบาดเจ็บจำนวนมาก คิดว่าสิ่งที่ทำยังสมควรทำอยู่หรือเปล่า

นายวัฒนา : ขออนุญาตผ่านคำถามนี้ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ

สื่อมวลชน : เคยร่วมชุมนุมทางการเมืองไหม

นายวัฒนา : เป็นบางครั้งครับ

สื่อมวลชน : กลุ่มไหน

นายวัฒนา : ทั้ง กปปส. และ นปช.

สื่อมวลชน : ไปขึ้นอยู่กับอะไร

นายวัฒนา : ไปในฐานะประชาชนธรรมดาที่ต้องการฟังข้อมูลทั้งสองด้าน

สื่อมวลชน : มีการเสนอค่าตอบแทนไหม

นายวัฒนา : ไม่มี

สื่อมวลชน : อยากให้สื่อไปถึงคนที่กำลังคิดจะใช้ความรุนแรง มีวิธีส่งเสียงถึงรัฐบาลอย่างอื่นที่ไม่ใช่การวางประทัดยักษ์แบบนี้

นายวัฒนา : ขอให้ Case Study ของผมเป็น Case Study สุดท้าย ซึ่งผมต้องการสื่อไปยังทหารทั้งหลายที่มีอำนาจในขณะนี้ให้หันมาร่วมมือกับประชาชนในการแสวงหาความสงบสันติระหว่างกัน

สื่อมวลชน : มีการไปพบสัญลักษณ์ทางการเมืองที่บ้าน เป็นของที่มีอยู่จริงหรือเปล่า

นายวัฒนา : อันนี้เป็นความชื่นชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งไม่สามารถห้ามบุคคลใดได้ บางท่านก็อาจชอบกลุ่มการเมืองโน้น กลุ่มการเมืองนี้บ้าง ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนที่พึงได้รับ

สื่อมวลชน : นาฬิกา (รูปนายทักษิณ) ที่พบในบ้านเป็นของคุณวัฒนาจริงใช่ไหม

นายวัฒนา : เป็นจริงๆ ได้รับจากเพื่อนเมื่อตอนเกษียณอายุ มิได้มีนัยทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น

สื่อมวลชน : ทำไมต้องเลือกวางโรงพยาบาลรัฐ

นายวัฒนา : ขออนุญาตผ่านไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สื่อมวลชน : ระเบิดประกอบเองทุกครั้งใช่ไหม

นายวัฒนา : ใช่ครับ

สื่อมวลชน : แล้วที่บอกว่ามันต้องเป็นขั้นแอดวานซ์แล้วจะไม่ทำอีกหมายความว่าไง

นายวัฒนา : (นิ่งไปสักพัก) ผมเองรู้จักพอ

สื่อมวลชน : จะทำอีกหรือเปล่า

นายวัฒนา : ผมมั่นใจว่าหลังจากที่ผมทำไปแล้วครั้งนี้ ฝ่ายทหารและประชาชนจะหันหน้าเข้าร่วมมือกันเพื่อแสวงหาความสุข สงบ สันติ อย่างยั่งยืน

สื่อมวลชน : อะไรทำให้เชื่ออย่างนั้น

นายวัฒนา : ผมมั่นใจว่ามโนธรรมของผู้มีอำนาจ น่าจะคิดสิ่งนี้ได้

สื่อมวลชน : เอาเงินที่ไหนมาใช้ ในเมื่อเกษียณแล้ว

นายวัฒนา : งบที่ใช้ครั้งละ 50 บาท

นอกจากนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกล่าวปิดการแถลงข่าว นายวัฒนา ได้พูดแทรกขึ้นว่า ขออนุญาตชี้แจงพี่น้องชาวไทยและสื่อมวลชนทุกท่าน ในการที่ผมถูกควบคุมตัวอยู่ที่ฝ่ายทหาร ผมได้รับการปฏิบัติอย่างดี เทียบชั้นได้กับสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานอย่างดี ไม่ได้มีการละเมิดสิทธิมุนษยชนแต่อย่างใด ขอแจ้งให้ทราบว่าทหารเป็นมิตรกับประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น