พสกนิกรทุกหมู่เหล่าเดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อเนื่องเป็นวันที่ 222 ทุกคนต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ น้อมนำหลักคำสอนมาปรับใช้ในชีวิต
วันนี้ (12 มิ.ย.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 222 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ด้าน นางนุกูล เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 73 ปี พสกนิกรจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า มาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก และได้เดินทางออกจากบ้านพักพร้อมเพื่อนบ้านอีก 3 คน ตั้งแต่เช้าตรู่มาถึงท้องสนามหลวงตอน 8 โมงเช้า พอได้เข้าไปในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ความรู้สึกปลื้มปีติ และความภูมิใจ ก็เข้ามาแทนที่ พอมองพระบรมฉายาลักษณ์ทีไรน้ำตาก็จะไหล ไม่คิดว่าพระองค์จะจากพวกเราชาวไทยไปแล้วจริงๆ แต่พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านจะยังคงสถิตอยู่ในใจของชาวไทยทุกคนตราบนิรันด์ "ประทับใจในทุกพระราชกรณียกิจของพระองค์ โดยเฉพาะการที่พระองค์ทรงมีพระราชจริยวัตรอันเรียบง่าย แบบพอเพียงแต่งดงามดังจะเห็นได้จากยาสีพระทนต์ พระองค์ก็จะทรงใช้จนหมดหลอด หรือแม้แต่เครื่องใช้ส่วนพระองค์ก็ไม่ได้เป็นแบรนด์หรูอะไร ส่วนใหญ่ก็จะทรงใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์จะทรงใช้สินค้าหรูๆเพียงใดก็ได้ แต่พระองค์ก็มิได้ทรงใช้เลย ทรงดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนไทยเสมอมา และวันนี้ป้าก็ได้เดินตามรอยเท้าของพระองค์ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง อายุมากแล้วคงไม่ต้องใช้เงินมากมายเพื่อซื้อความสุข เพียงแค่มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ท่ามกลางคนที่เรารักก็มีความสุขในแบบที่พอเพียงแล้ว” นางนุกูล กล่าว
ด้าน นายไพรสันต์ ผดุงเวียง อายุ 38 ปี อาจารย์คณะคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เดินทางจากบ้านย่านบางมด พร้อม นางพนิดา ผดุงเวียง อายุ 38 ปี ภรรยา และลูกชาย ด.ช.ภกภูมิ ผดุงเวียง อายุ 1 ปี 7 เดือน และคุณแม่ของภรรยา นางวันเพ็ญ พุ่มจันทร์ อายุ 64 ปี ที่เดินทางมาจากมุกดาหารกับญาติอีกหนึ่งคน เปิดเผยหลังเข้ากราบสักการะพระศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทว่า ตนตั้งใจที่จะเดินทางมานานแล้ว แต่ด้วยหน้าที่การงานประกอบกับช่วงก่อนหน้านี้มีประชาชนเดินทางมาจำนวนมาก จึงรอเวลาที่เหมาะสมซึ่งช่วงนี้ต่อแถวรอไม่นาน และคุณแม่เดินทางมาจากต่างจังหวัดพอดี จึงได้เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรกพร้อมกับครอบครัว ความรู้สึกที่ได้มากราบสักการะพระบรมศพวันนี้ รู้สึกเศร้าเพราะเราได้สูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของชาวไทย และเมื่อได้เห็นพระบรมโกศก็น้ำตาไหล ในฐานะที่เป็นครูได้น้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มายึดปฏิบัติ ซึ่งมีตอนหนึ่งที่พระองค์ท่านดำรัสกับกลุ่มครูแต่ตนจำไม่ได้ว่าที่ใด ว่า “เป็นครูเหรอ ฝากเด็กๆ ด้วยนะ' คำพูดนี้อยู่ในใจตลอด สิ่งที่รู้สึกคือต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด สิ่งไหนที่คิดว่าดีก็ลงมือทำ นอกจากนี้ ยังทำตัวให้เป็นตัวอย่างกับนักเรียนนักศึกษาแทนที่จะบอกหรือสอนเขาอย่างเดียว” นายไพรสันต์ กล่าว