รู้ไว้ใช่ว่า...โทษประหารชีวิตในไทยมีจริงหรือ?

พลันที่ศาลอาญา(ชั้นต้น)ได้มีคำตัดสินให้ประหารชีวิต 2 นักโทษในคดีฆ่าชิงไอโฟนหนุ่มบัณฑิต มศว. โดยให้เหตุผลว่าก่อเหตุหลายครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกในสิ่งที่ทำและสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐานดูเหมือนว่ากระแสเสียงแห่งความพอใจและสนับสนุนจะดังไม่น้อย

(อ่านข่าว ชั่วเกินเยียวยา ประหาร! “ไอ้ตั้ม” ฆ่าชิงไอโฟน ประวัติโชกโชนถือเป็นภัยร้ายแรงของสังคม)

แต่สุดท้ายแล้วจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือเรื่องนี้คือสิ่งที่หลายคนสนใจ

ทั้งนี้ในปัจจุบันได้มี 140 ประเทศทั่วโลกที่ได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตทั้งในทางกฎหมายหรือในทางปฏิบัติแล้ว

ขณะที่ประเทศในแถบอาเซียนเอง จากจำนวน 10 ประเทศนั้นพบว่ามี 2 ประเทศคือ กัมพูชาและฟิลิปปินส์ที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตในคดีอาญาแบบเด็ดขาด โดยมี ลาว, พม่า และบรูไน ที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตในทางปฏิบัติ (ยังมีโทษประหารชีวิตอยู่ แต่ได้ระงับการประหารชีวิตเป็นระยะเวลา 10 ปีติดต่อกัน)

ส่วนประเทศที่ยังคงไว้ซึ่งโทษประหารชีวิตอยู่ก็ประกอบไปด้วย อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม และประเทศไทยเรานั่นเอง

มีรายงานว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 ประเทศไทยมีนักโทษประหาร 420 คน แบ่งเป็นชาย 368 คน หญิง 52 คน เป็นคดียาเสพติด 195 ราย คดีทั่วไป 225 ราย

แต่ที่น่าสนใจก็คือนับตั้งแต่การประหารชีวิต 2 นักโทษในคดียาเสพติดคือนายบัณฑิต เจริญวานิช และ นายจิรวัฒน์ พุ่มพฤกษ์ ด้วยวิธีการฉีดยา (ไทยยกเลิกโทษประหารด้วยการยิงเป้าที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2477 ในปี 2546 และหันมาใช้วิธีการฉีดยาแทน) ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 นั้น จนถึงวันนี้ประเทศไทยเรายังไม่มีการประหารชีวิตการประหารชีวิตอีกเลย

นั่นก็หมายความว่าอีกสองปีนับจากนี้หากประเทศไทยไม่มีการประหารชีวิตอีกเลยทางองค์การสหประชาชาติก็จะถือว่าประเทศไทยเราได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตในทางปฏิบัติทันที ซึ่งเรื่องนี้ดูจะเป็นที่ต้องการของนักสิทธิมนุษยชนไม่น้อยทีเดียว

แต่จะถูกใจคนส่วนใหญ่หรือไม่คงเป็นคำถามที่หลายคนคาใจ...